Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่ห์รักโนราห์ [นิยายจากมือใหม่หัดเขียน ตอนหนึ่ง] ติดต่อทีมงาน

...

เสียงดนตรีดังทั่วบริเวณบ้านทรงไทยที่ร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ มองผ่านกรงนกกรงหัวจุกที่แขวนอยู่
ใกล้เสาเรือนทิศเหนือ เห็นผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งนั่งคุยกันอยู่ริมระเบียง ลึกเข้าไปในใต้ถุนเรือนไทยแฝดซึ่งปูพื้น
กระเบื้องสีขาวสะอาดเป็นเงาวับโล่งเป็นทางยาว

เด็กสาววัยสิบเก้าปีหกคน แต่งกายด้วยเสื้อสีขาว นุ่งโจงกระเบนสีแดงเข้มเหมือนเเปลือกมังคุด กำลังร่ายรำ
ตามจังหวะดนตรีจากเครื่องเล่นเทป เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ เครื่องเล่นเทปมองพวกเธอตั้งวงจีบจาก
หน้าอกไปปล่อยจีบเมื่อสุดปลายแขน ลีลาการสะบัดแขนไปมารวดเร็ว พร้อมเพรียงกันและเป็นไปอย่าง
อ่อนช้อย เข้ากับจังหวะดนตรี

ในกลุ่มชาวบ้านที่นั่งตรงระเบียง มองดูเด็กๆ ฝึกซ้อมการรำมโนราห์อย่างตั้งใจ นอกจากตาเทพ ซึ่งเป็นเจ้า
ของบ้าน กับแม่ดวงดาว หรือโนราห์ดวงดาว ครูฝึกของเด็กกลุ่มนี้ ยังมียายมาคนข้างบ้าน ยายแช่ม ตาชาติ
ซึ่งล้วนแล้วแต่สูงอายุกันทั้งนั้น ยายมากับยายแช่มเอียงเข้าหากันจนหน้าผากแนบชิด ซุบซิบๆ  ส่วนตาชาติ
นั่งยิ้มฟันหลอ ดูหลานสาวตัวเองซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กที่รำอยู่

รอจนกระทั่งบทรำของเด็กสาวจบลงด้วยจีบมือไว้ระดับเอว แขนอีกข้างเหยียดตรงออกไปข้างลำตัวกระดก
ปลายนิ้วมือขึ้น ซอยเท้าถี่ๆ ตีวงโค้งหายไปทางเสาเรือนตรงกลางบ้านสองมุมเสา ทำเหมือนกับหายลับไป
หลังม่าน แม่ครูจึงหันไปทางเด็กหนุ่มที่นั่งเฝ้าเทปอยู่ ส่งสัญญาณให้พักก่อน

คนนั่งเฝ้าเทปซึ่งกำลังมองมาพอดี ปิดเครื่องทันที ก่อนจะลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย บิดลำตัวไปทางซ้ายที ทาง
ขวาที แล้วเดินมาสมทบกลุ่มผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ โดยการนั่งจุมปุกลงขัดสมาธิกับพื้นข้างตาเทพ ยิ้มแป้นแร้น
ก่อนจะนวดเบาๆ ที่ขาอย่างเอาใจ

เด็กสาวทั้งหกคนตามมานั่ง ห้าคนตีวงนั่งพับเพียบเรียงกันเป็นระเบียบต่อหน้าผู้ใหญ่ จะมีก็หนูลี หรือดารา
วลี  ชลาศัย เป็นลูกแม่ครู เป็นหลานตาเทพ ยอบกายไปนั่งอีกฝั่งเก้าอี้ของเด็กหนุ่มข้างๆ หันหน้ามายิ้มกับ
เพื่อนๆ

“พอแข้นได้ไหมตา ยาย”     เธอเงยหน้าจนคอตั้ง ‘แข้น’ เป็นภาษาถิ่นใต้ หมายถึงพอใช้ได้ไหม ดาราวลีถาม
ถึงผลงานตัวเองและเพื่อนๆ ที่รำจบไปพอใช้ได้หรือเปล่า

“แข้นๆ แระ ซ้อมหล้ายวันแล้วนิ ครูน่าอียอมจบโรงเรียนแหละ”     ตาเทพตอบแบบไม่ให้ท้ายใคร แล้วบอก
ต่ออีกว่า ก็เห็นซ้อมรำกันมาตั้งหลายวันแล้ว พูดเป็นเชิงประชดประชันเล็กๆ ว่ายังไงครูก็ให้เรียนจบแหละ
ไม่ใจร้ายให้สอบตกหรอก

“ตา...”    ผู้เป็นหลายโอดอุทรณ์ อยากได้คำวิจารณ์ที่ดีกว่านี้ ค้อนขวับให้ตา แล้วขยับไปประจบแม่แทน

“แม่หละว่าพันผรือหม้างวันนี้”

“ได้แล้..ไปตะ พากันไปกินข้าวกินปลา แม่เตรียมไว้ให้แล้ว”     แม่ครูเองพอใจผลงานของลูกๆ หลานๆ ที่
ซ้อมกันมาหลายวัน จึงไม่พูดอะไรมาก ใช้ให้หนูลีพาเพื่อนไปหาของกิน ดาราวลีจึงพยักหน้าพากันเฮโล
เข้าครัว ไม่เว้นแม้เด็กหนุ่มที่ทำท่าประจบตาเทพอยู่แหม็บๆ ก็ลุกไปกับเขาด้วย

"ไปโหมเรา ไปกินข้าวกัน"     อดิศักดิ์เด็กหนุ่มคนเดียวในกลุ่มเด็กหญิง พยักหน้า เด็กที่นั่งพับเพียบกันอยู่
ยันตัวลุกขึ้น

"ขอบคุณค่ะ แม่ครู"      เด็กๆ ยกมือไหว้ก่อนแยกย้ายกันเดินไปที่ห้องครัว ซึ่งอยู่มุมสุดของเรือน



“ปีนี้เขามีโทรทัศน์มาถ่ายทอดสดแน่เห้อ ตาเทพ”     ยายแช่มเช็ดน้ำหมากที่มุมปากหลังจากพูดจบ

“พรรค์นั้นแล้ เห็นครูที่โรงเรียนมาบอกฉันให้เตรียมตัว เขาจะสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์”

“ช่องไหนนะ ฉันลืมแหล้ว”     ตาชาติถาม

“ช่องสิบหก ปีนี้ครบรอบปีที่หกสิบของวิทยาลัย เขาจัดงานใหญ่ รัฐบาลสนับสนุนให้จัดเวลาทีวีให้
เพื่อเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยการถ่ายทอดสด ให้เวลาแต่ละวิทยาลัยประมาณสิบห้านาที
ทางวิทยาลัยของเราเลือกช่วงรำโนราห์”

“แล้วเขาก็จะถ่ายคนดูกันหม้าย ฉั้นจะแต่งตัวสวยๆ ไปนั่งแถวหน้า”    ยายมาว่า

“ดีๆ คนบ้านนอกอย่างเราจะได้ออกทีวี”  ลูกคู่คอยรับ อีกทั้งคอยยกผ้าเช็ดหน้าซับมุมปากกลัวน้ำหมากหก

“พรรค์นั้นแหละ”     ตาเทพพูดจบ จู่ๆ ยายมาก็ค้อนควับ ลุกขึ้นยืน

“ฮ้าย..ตาเทพเขาออกมานับครั้งไม่ถ้วนคงไม่ตื่นเต้นแล้วหละ ฉั้นไปตลาดดีกว่า ว่าอีหาผ้าใหม่มาให้นาง
อร เย็บเสื้อให้ใส่ อีได้มีเสื้อใหม่ใส่ไปงานโรงเรียน”

“เขาเรียกวิทยาลัย..”    ยายแช่มพูดไม่ทันจบ ยายมาออกเดินสะบัดชายผ้าถุงดังพรั่บๆ เสียแล้ว ยายแช่มเลย
ต้องออกเดินตาม

“ไปกั๊น ยายมา”    ตาชาติขยับผ้าขาวม้าคาดพุง คลายออกมาพาดบ่า ลุกตามไปด้วยอีกคน

“ฉั้นก็อยากได้มั่ง ซื้อผ้ามาแล้ว นางอร สะใภ้ใหม่แก คิดหลายบาทไหมยายมา”

“ฉันไม่รู้ราคาหรอก แต่คงไม่แพง ฉันเห็นลูกค้ามันแน่นทุกวัน พวกมาทำแล้วนั่งรอเลยก็มี ฝีมือมันดีนา
เด็กคนนี้..”  

เสียงสนทนาเงียบไป เหลือแต่เจ้าบ้านนั่งมองหน้ากัน แล้วหันไปดูเด็กๆ ซึ่งกำลังเดินสวนกันไปมาเสียงชาม
ช้อนกระทบกันดังก้องแก้งอยู่ในครัว บ้างก็เดินถือจานกับข้าวออกมาวางบนโต๊ะ หน้าห้องครัว

ทั้งแม่ครูดวงดาวกับตาเทพ มองไปยังเด็กๆ ที่สาละวนกับอาหาร แล้วถอนสายตากลับมามองสบตากันยิ้มๆ
รอยยิ้มของแม่ครูเปี่ยมไปด้วยความหวัง ส่วนรอยยิ้มของตามั่นคง เด็ดเดี่ยว ตามลักษณะของผู้รู้จริง

อย่างไรเด็กพวกนี้ก็คืออนาคตของโนราห์ และอย่างน้อยหนูลีก็จะเป็นผู้นำและนำทีมเพื่อนๆ ให้ยังคง
อนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้านนี้สืบไปจากตาและแม่ต่อไปแน่นอน

<center>*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~</center>

แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 54 22:15:44

จากคุณ : สีน้ำฟ้า
เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 54 21:56:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com