Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
(นิยายกำลังภายใน) วิหคดั้นเมฆา ผู้กล้าฝ่ายุทธจักร ตอนที่ 60-61 ติดต่อทีมงาน

60.

ตุ้บ! ตุ้บ!

ร่างของสือหย่งหลุนและฟ่านไป่หนิงถูกโยนลงกระแทกพื้นแล้วกลิ้งไปคนละทาง ก่อนโอวฉีกวนจะกระโดดตามลงมาเป็นคนสุดท้าย พลางยืนกอดอกมองเหยื่อตรงหน้าด้วยแววตาลุกวาว

สือหย่งหลุนพอตั้งหลักได้ก็รีบกระโดดมากั้นดรุณีน้อยกับนักฆ่าอันดับหนึ่ง ระหว่างสังเกตรอบกายไปด้วย แม้โอวฉีกวนจะแบกมันทั้งสองวิ่งฝ่าผืนป่ากว้าง แต่ชั่วเวลาไม่นานยังสามารถทิ้งห่างจากบริเวณกระโจมมายังชายป่าอีกฟาก พื้นที่แห่งนี้ก่อนฤดูหนาวน่าจะเป็นทุ่งหญ้ารอบนอกป่าใหญ่ ทว่าปัจจุบันกลับมีแต่หิมะสุมหนา สะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายขาวกระจ่าง
จากด้านหลังมัน เสียงฟ่านไป่หนิงได้ลอยข้ามมา

“นึกไม่ถึงว่าอันดับหนึ่งโอวฉีกวนซึ่งเคยทำงานคนเดียวมาตลอด กลับต้องขอความช่วยเหลือจากโจรป่า”

“นั่นเพราะข้าไม่คิดตกหลุมคนมากอุบายอย่างเจ้าอีก จึงออกข่าวว่ามีขบวนเศรษฐีขนสมบัติผ่านทางมา เท่านี้เหล่าโจรป่าก็จะช่วยถ่วงเวลาตัวเกะกะไว้” มันชี้หน้าสือหย่งหลุน “เพื่อให้ข้าจัดการเจ้าหนุ่มนี้ต่อหน้าเจ้าได้สะดวก”

เมื่อนั้นสือหย่งหลุนไม่คิดพูดพร่ำทำเพลง ทะยานเข้าใส่คู่ต่อสู้ฉับพลัน โอวฉีกวนเผยสีหน้าเอือมระอาแล้วใช้เพียงมือเดียวตั้งรับกระบวนท่า ฟ่านไป่หนิงเห็นเข้าก็ตัดสินใจกระโจนข้ามหัวไปดักทำร้ายทางด้านหลัง นักฆ่ายื่นมืออีกข้างต้านทานโดยไม่หันไปมองด้วยซ้ำ ดรุณีน้อยขบกรามกรอด รีบขยิบตาส่งสัญญาณให้คู่หู สือหย่งหลุนจึงชักแขนกลับแล้วจู่โจมใหม่ น่าแปลกที่กระบวนท่าของมันกลับเพิ่มความเร็วขึ้นหลายเท่าจนโอวฉีกวนเริ่มแบ่งสมาธิรับไม่ทัน จำต้องถอยห่างเพื่อรับมือทั้งสองจากด้านหน้า

ที่แท้เด็กหนุ่มเห็นว่าการใช้วิชาลมปราณกลับทิศตั้งแต่ต้นจะทำให้ท่าร่างเชื่องช้า จึงปรับเปลี่ยนด้วยการออกกระบวนท่าซึ่งมิได้แฝงลมปราณไว้ รอจนใกล้ถึงเป้าหมายค่อยเร่งลมปราณกลับทิศใส่หมัดเพื่อเพิ่มความว่องไว เพราะคำนวณแล้วว่าไม่มีทางใช้พลังวัตรต่อกรโอวฉีกวนได้ มีแต่เสริมความเร็วเพื่อรับมือกับมัน

ส่วนฟ่านไป่หนิงนั้นมีทั้งวิชาทะยานผ่านฟ้าและฝ่ามือกระเรียนล่าลม จึงใช้กลยุทธ์จู่โจมเสร็จก็หลบหลีกเป็นระยะ สองหนุ่มสาวจงใจต่อสู้กับโอวฉีกวนจากคนละฝั่งหวังแบ่งแยกสมาธิ ทว่าโอวฉีกวนมองปราดเดียวก็คาดเดาได้หมด ดังนั้นจังหวะที่ฟ่านไป่หนิงฟาดฝ่ามือใส่อีกครั้ง มันก็ประสานลมปราณคุ้มร่างไว้ที่หัวไหล่เพื่อรับฝ่ามือดังกล่าว ขณะใช้มือทั้งคู่เล่นงานเด็กหนุ่มจนผงะถอยหลังไปหลายก้าว

ดรุณีน้อยร้องเพ้ยดังลั่น อาศัยมือที่ยังแตะหัวไหล่โอวฉีกวนดันตัวตีลังกากลางอากาศ สือหย่งหลุนเห็นดังนั้นก็กางขาปรับสมดุลย์ร่างกาย เพื่อรับตัวคู่หูที่กระโดดมายืนคร่อมศีรษะตนไว้ จากนั้นพวกมันก็ประสานจากบนและล่างประมือกับนักฆ่าอีกคำรบ

วิธีต่อสู้แบบนี้ทั้งสองเคยฝึกปรือไว้เพื่อรับมือกับอาจารย์สามจางเค่อ ดังนั้นแม้เพิ่งเอามาใช้ในการปะทะครั้งแรกก็ยังสามารถร่วมมือกันอย่างลื่นไหล ทว่าโอวฉีกวนกลับเพิ่มความเร็วปัดป่ายการจู่โจมสี่แขนอย่างไม่เพลี่ยงพล้ำ พอสังเกตว่ามันเริ่มคุ้นชิน ฟ่านไป่หนิงก็แตะปลายเท้าสะกิดไหล่คนข้างล่าง เด็กหนุ่มรีบเอื้อมมือจับขานางให้กระชับ เปลี่ยนมาเตะใส่ศัตรูร่วมกับฝ่ามือของฟ่านไป่หนิงซึ่งกวัดแกว่งอยู่ด้านบน ครั้นนักฆ่ามีทีท่าคุ้นเคยกับการจู่โจมรูปแบบใหม่ ดรุณีน้อยก็ส่งสัญญาณให้ปรับกระบวนท่าอีกครั้ง โอวฉีกวนกลายเป็นฝ่ายตั้งรับวิธีต่อสู้ที่แปรผันไปมาจนไม่อาจใช้วิชารอยอเวจีได้ก็เริ่มอารมณ์เสีย จึงกระทืบเท้าส่งตัวลอยกลางอากาศ เอื้อมมือหมายเข้าที่ศีรษะดรุณีน้อย สือหย่งหลุนย่อมไม่อาจปล่อยให้นางถูกพลังวัตรทำร้ายเหมือนที่มันเคยโดน จึงปล่อยมือจนร่างดรุณีน้อยลื่นไถลลงจากบ่า รอดพ้นอันตรายอย่างหวุดหวิด

ทว่าในจังหวะนั้นเอง นักฆ่าที่ยังลอยตัวอยู่ก็ตวัดปลายเท้าเกี่ยวเข้าที่หลังคอเด็กหนุ่ม ส่งให้ร่างกำยำถลาล้มไปกับพื้น แล้วอาศัยเวลาชั่วพริบตากระแทกฝ่ามือใส่ฟ่านไป่หนิงจนนางล้มกลิ้ง ก่อนมันจะคำรามว่า

“ช่างคิดหาแต่อุบายน่ารำคาญ จงยืนดูคนรักตัวเองตายไปต่อหน้าเสียเถอะ!”

ฟ่านไป่หนิงเบิกตาโพลง แต่ทั้งร่างล้วนล้วนถูกพลังวัตรทำร้ายจนลุกไม่ไหว ได้แต่จ้องมองนักฆ่าตะปบร่างสือหย่งหลุนขึ้นมา เกร็งดรรชนีพุ่งใส่กลางหน้าผากมันทันที!

เมื่อนิ้วชี้สัมผัสเข้ากับสายคาดหน้าผากของสือหย่งหลุน นักฆ่าอันดับหนึ่งกลับกรีดร้องดังลั่น กระโดดหนีราวว่าตัวเด็กหนุ่มเป็นเปลวเพลิงกองใหญ่ที่แผดเผาใส่มัน หากถอยหลังได้ไม่กี่ก้าวมันก็ค้อมตัวด้วยความเจ็บปวดสุดพรรณนา มือกุมนิ้วชี้ที่หมายใช้ปลิดชีวิตสือหย่งหลุนไว้แน่น พลางเงยหน้ามองเด็กหนุ่มดุจไม่เชื่อสายตา พอเห็นฝ่ายนั้นตรงเข้าประคองฟ่านไป่หนิงอย่างไม่มีทีท่าแปลกใจ มันถึงเปล่งเสียงสะท้าน

“เจ้า...พวกเจ้าวางหลุมพรางเอาไว้”

ฟ่านไป่หนิงมองโลหิตซึ่งหลั่งไหลไม่หยุดยั้งจากนิ้วมือศัตรู จากกล่าวราบเรียบ

“ฤทธิ์ของเข็มเบญจกาฬเป็นอย่างไรบ้างเล่า”

“เข็มเบญจกาฬ...เจ้าหมายถึงเข็มที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งเหลือคณา ไม่ว่าลมปราณขั้นสูงแค่ไหนก็มิอาจต้านทานนั่นน่ะหรือ”

อีกฝ่ายพยักหน้า “ข้ายอมเสียสละเข็มหนึ่งเล่ม ทุบจนเหลือแค่ส่วนแหลมสั้น ๆ แล้วซ่อนไว้ระหว่างรูโซ่ของถุงมือต้านพสุธา กะตำแหน่งให้ตรงกับที่ท่านจะโจมตีแล้วใช้ด้ายรัดให้ปลายอีกด้านรองอยู่กับส่วนโลหะจะได้ไม่ทะลุหน้าผากพี่หย่งหลุน ที่เหลือก็แค่รอเวลาเท่านั้น”

ทุกอย่างนี้ฟ่านไป่หนิงเตรียมการล่วงหน้าไว้ทั้งหมด โดยนางได้ความคิดมาจากคุณสมบัติของเข็มเบญจกาฬที่แข็งแต่เปราะจนอาจารย์เคยใช้ฝังเข็มถาวรแบบเช่นนี้มาแล้ว ส่วนมีดสั้นซึ่งให้สือหย่งหลุนไว้เป็นเพียงแผนสำรองเผื่อมีการผิดพลาดเท่านั้น

โอวฉีกวนฟังคำเฉลยจบค่อยส่งรอยยิ้มบิดเบี้ยวออกมา

“พวกเจ้าแสร้งต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับข้าเพื่อหลอกให้ตายใจ เฮอะ...ในที่สุดเจ้าหนุ่มก็รอดตายไปได้อีกครั้ง”

“มิใช่แค่นั้นหรอก” ดรุณีน้อยเอ่ย “ท่านลองเดินลมปราณดูก็จะรู้”

แววตาโอวฉีกวนเผยอาการประหวั่นเป็นครั้งแรก ระหว่างรีบทำตามคำเตือน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องเป็นคำรบสอง

ฟ่านไป่หนิงพูดกับนักฆ่าที่บัดนี้คุกเข่างอตัวอย่างหมดท่า ดรรชนีนิ้วเดิมสั่นระริกไม่หยุดยั้ง

“อาจารย์เคยสอนว่าสำหรับจอมยุทธ์ที่เน้นฝึกให้อวัยวะของตนแข็งแกร่งกว่าปกติ จำเป็นต้องมีการหมุนวนลมปราณให้ผ่านอวัยวะส่วนนั้นไปด้วย แต่บัดนี้นิ้วมืออันแสนภูมิใจของท่านกลับมีสิ่งแปลกปลอมฝังแน่นจนขัดขวางชีพจรลมปราณ เข็มจมลึกจนถึงกระดูกเช่นนี้ไม่มีผู้ใดสามารถถอนออกแน่ หรืออีกนัยหนึ่ง...ท่านไม่มีวันใช้วรยุทธ์ได้อีกแล้ว”

โอวฉีกวนอ้าปากพะงาบ ๆ ทว่าไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะเปล่งคำโต้ตอบ จังหวะนั้นดรุณีน้อยก็ย่อเข่าลงประจันหน้ากับมัน กล่าวว่า

“ข้าว่า...คงได้เวลาที่เราจะเริ่มการเจรจารอบสองแล้วกระมัง”

ขณะจับจ้องสายตางุนงงของอดีตนักฆ่า สือหย่งหลุนก็ว่า

“พวกเราต้องการรู้เบาะแสของหมอเหวินผู้บงการของเจ้า”

คนถูกถามตอบกลับคล้ายละเมอ

“หมอเหวินไหน ข้าไม่รู้จัก” ฉับพลันแววตามันก็เปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง เป็นประกายซึ่งแฝงความอาฆาตไว้อย่างลึกล้ำ “และถึงข้ารู้ก็ไม่มีวันบอกพวกเจ้าหรอก แม้ถูกทรมานอย่างไรก็ไม่มีวัน”

ฟ่านไป่หนิงยังคงสีหน้าเฉื่อยชาคล้ายล่วงรู้คำตอบมันอยู่แล้ว

“ข้าไม่ทำร้ายท่านมากไปกว่านี้หรอก มิหนำซ้ำยังจะปล่อยท่านไปด้วย” พลางกล่าวประโยคถัดมาท่ามกลางความประหลาดใจของอีกฝ่าย “จากนั้นค่อยส่งข่าวแก่ครอบครัวของเหยื่อที่เคยถูกท่านสังหาร แจ้งว่านักฆ่าอันดับหนึ่งโอวฉีกวนบัดนี้ได้ไร้วรยุทธ์แล้ว ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่านจะกระเสือกกระสนหนีไปได้สักกี่น้ำ”

นางกอดอกเอ่ยต่อหน้าตาเฉย “หรือท่านจะฆ่าตัวตายก็ได้นะ ข้าจะได้ส่งข่าวเพิ่มว่าคนอย่างโอวฉีกวนขี้ขลาดหวาดกลัวการตามล่า จนชิงตัดช่องน้อยไปเสียก่อน”

“เจ้า...เจ้าช่างอำมหิตนัก”

ฟ่านไป่หนิงเลิกคิ้วกว้าง นัยย์ตาใต้คิ้วนั้นดั่งจะแทนคำพูดว่าคนอย่างท่านยังมีหน้าว่ากล่าวชาวบ้านได้อีกหรือ ทว่าประโยคที่ผ่านปากกลับเป็นว่า

“แต่ถ้าท่านนึกเปลี่ยนใจ ข้ารับปากว่าเรื่องในคืนนี้เป็นความลับไปตลอดกาล หรือท่านคิดจะให้ข้อมูลผิดพลาดก็เชิญ เพราะวันใดที่ล่วงรู้ความจริงเข้า รับรองว่าตัวข้านี่แหละจะขอเดินทางไปป่าวประกาศเรื่องของท่านด้วยตัวเอง!”

โอวฉีกวนคอตก สองไหล่ลู่ลงอย่างน่าเวทนา

“ข้าไม่รู้จักหมอเหวินที่ว่าจริง ๆ ส่วนผู้บงการนั้นก็ไม่รู้จักชื่อ เพราะเรียกขานกันแต่ฉายา”

“ฉายาอันใด”

“เศรษฐีไร้ยางอายแห่งสมาคมรัตติพิกล”

สองหนุ่มสาวสะบัดหน้ามามองกันด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ก่อนรีบซักไซ้ลักษณะของเศรษฐีไร้ยางอายจนมั่นใจในที่สุด

ที่แท้หมอเหวินกลับเป็นสมุนของสมาคมรัตติพิกล

ใครจะนึกว่า คำล้อเล่นของสือหย่งหลุนเมื่อครั้งก่อนจะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้!

“แล้วเศรษฐีไร้ยางอายจงใจสังหารอาจารย์สามจางเค่อ ใส่ร้ายไป่หนิงทั้งยังส่งนักฆ่ามาเพื่อจำกัดพวกเราในภายหลัง ทุกอย่างทำไปด้วยสาเหตุใด” สือหย่งหลุนตะคอก

คนโดนเค้นสอบส่ายหัว ครั้นเห็นสีหน้าเคลือบแคลงของเหล่าคู่หูเข้าก็รีบไขข้อข้องใจว่า

“ข้าไม่รู้เลย ตอนแรกนั้นมันมาว่าจ้างกลุ่มลมสังหารจัดการจางเค่อ โดยมันเป็นคนวางแผนให้แฝงตัวไปกับสำนักพยัคฆ์อมตะตั้งแต่ต้น เพราะหวังอาศัยฐานะจอมยุทธหนีและฮูหยินเข้าตีสนิทกับตระกูลสือเพื่อรอเวลาสังหารพวกเจ้าภายหลังฆ่าจางเค่อไปแล้ว ส่วนเรื่องใส่ร้ายแม่นางน้อยผู้นี้ก็เป็นความคิดของมัน หลังจากน้องสาวของข้าและน้องเขยไปรายงานให้ฟัง”

ฟ่านไป่หนิงใคร่ครวญตามไปด้วยก็เห็นว่าเข้าเค้า นักฆ่าหญิงผู้ปลอมตัวเป็นหนีฮูหยินคงเห็นหน้านางตั้งแต่ตอนปีนขึ้นหลังคาในครั้งแรก และยิ่งเห็นชัดเจนขึ้นช่วงนางกำลังจะพ่นยาใส่ห้องอาจารย์สามจนแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ถึงพากันไปแจ้งให้ผู้จ้างวานรู้ในคืนนั้นเอง กลิ่นกำยานจึงยังติดเสื้อผ้าพวกมันอยู่ในวันรุ่งขึ้น

“เศรษฐีไร้ยางอายวางแผนใส่ร้ายแม่นางน้อยด้วยหวังยืมมือเจ้าสำนักพยัคฆ์อมตะจัดการเป้าหมาย แล้วค่อยมาสังหารเจ้าหนุ่มอีกที หรือถ้าพวกเจ้ายังรอดไปได้ก็ค่อยลอบฆ่าภายหลังจัดฉากว่าพวกเจ้าพากันหนีไปเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ตระกูลสือเดือดร้อน เท่านี้ก็จะปลิดชีพสามคนได้โดยไม่มีใครระแคะระคายตามการว่าจ้างของมัน”

“หลังจากคนของข้าตายเศรษฐีไร้ยางอายก็ส่งข่าวให้รู้” โอวฉีกวนขยายความต่อ “ข้าโกรธมากตั้งใจจะไปชิงศพคืนจากสำนักพยัคฆ์อมตะแต่ถูกห้ามไว้ อ้างว่าถ้าอยากแก้แค้นพวกเจ้าก็ไม่ควรแหวกหญ้าให้งูตื่น แล้วมันก็นำศพชายหญิงคู่หนึ่งมา บอกว่าหลังทราบว่าน้องของข้าตายมันก็ไปฆ่าคนที่ลักษณะรูปร่างใกล้เคียงกันมาเตรียมไว้ แล้ววางแผนให้ข้านำทั้งสองร่างติดตามขบวนสำนักพยัคฆ์อมตะไปเพื่อหาจังหวะสลับศพ มันว่าระหว่างทางย่อมไม่มีใครคิดเปิดโลงออกดู และถ้าไปถึงที่หมายแล้วศพก็เน่าจนแยกหน้าตาไม่ออกแน่ พอข้านำร่างน้องสองคนมาทำพิธีศพเรียบร้อยค่อยได้รับการติดต่อจากมันให้มาหายังเมืองข้าง ๆ นี่เอง”

“เมืองข้าง ๆ” สือหย่งหลุนย่นหัวคิ้ว “นี่แสดงว่าเศรษฐีไร้ยางอายติดตามพวกข้ามาตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงใช่ไหม”

ครั้นนักฆ่าตอบรับ เด็กหนุ่มก็ซักไซ้อย่างร้อนรน

“แล้วมันยังอยู่หรือไม่”

“ไม่แล้ว พอข้ามาถึงมันก็ส่งภาพเหมือนของทุกคนในขบวนเจ้าให้ แจกแจงรายละเอียดและความสัมพันธ์จนครบ บอกให้ข้าจัดการตามสบาย ขอแค่ฆ่าพวกเจ้าให้ได้ ส่วนตัวมันต้องแยกทางไปเพราะมีธุระ คืนนั้นข้าจึงลงมือกับคนขับรถทั้งสอง แต่ประมาทจนถูกกระชากเศษเสื้อไปได้ นอกจากนี้ข้าก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว”

ฟ่านไปหนิงยกมือจรดริมฝีปากในทีท่าครุ่นคิดหนัก

คราแรกนางเดาว่าหมอเหวินคิดฆ่าอาจารย์สามด้วยเหตุทะเลาะกันเพราะฝ่ายหลังปลีกตัวไม่ยอมร่วมงานด้วย และคิดใส่ร้ายนางเพราะโกรธแค้นที่โดนเปิดโปงเรื่องต้นสามใบไร้ราก แต่เมื่อมีสมาคมรัตติพิกลอยู่เบื้องหลังก็จำต้องพิจารณาทุกอย่างใหม่หมด

อีกอย่างที่น่ากังขา หากเศรษฐีไร้ยางอายต้องการฆ่าด้วยความแค้นเท่านั้น ก็ไม่จำเป็นต้องลำบากวางแผนกลบเกลื่อนการตายให้ตัวพ้นจากข้อสงสัย ด้วยมันเองก็ลึกลับเสียจนไม่ต้องกลัวถูกสืบหาตัวเพื่อแก้แค้นอยู่แล้ว

เช่นนั้นจะทำทุกอย่างนี้เพื่อประโยชน์อันใด และที่มันอ้างว่ามีธุระจนไม่ยอมอยู่ดูพวกนางตายให้เห็นกับตาคือเรื่องเร่งร้อนใดกัน จะเกี่ยวข้องกับการนี้หรือไม่

จากคุณ : จันทร์พันฝัน
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 17:53:46




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com