เวรันนที #ตอนที่12 พราวฝัน #
|
 |
น้ำสีมรกตกระเพื่อมสั่นไหวไม่นิ่งราบเรียบเหมือนอย่างที่รัชชตะเคยเห็นในครั้งที่ลงแช่เพื่อเปลี่ยนสถานภาพของตนกลับสู่นาคราช เส้นสายมรกตต้องกระทบแสงจันทร์นวลที่ส่องผ่านช่องศิลาบานหนาเข้ามาจนเกิดเป็นเงาพัดพริ้วไปบนผนังฝั่งตรงข้าม
รัชชตะค่อยๆก้าวเดินเข้าไปในห้องนั้นอย่างระมัดระวัง เขาเห็นชายผู้หนึ่งที่ประกอบด้วยเรือนผมสีขาวเหยียดตรงอย่างเป็นระเบียบจนเสมอกลางหลัง
ร่างสูงใหญ่นั้นกำลังยืนหันหลังให้รัชชตะที่เดินเข้ามาและไม่ต้องใช้การสังเกตก็สามารถมองเห็นได้ว่า ชายผู้นี้มีลำแสงส่องประกายเรืองรองแผ่ออกรอบข้าง ร่างนั้นยืนนิ่งไม่หวั่นไหวแม้รู้ดีว่ามีใครบางคนได้ก้าวล่วงเข้ามาภายในห้องนั้นแล้ว
คุณ เอ่อ คุณคืออินทนาคราชใช่มั้ยครับ ชายหนุ่มพูดไม่ปะติดปะต่อเพราะความยำเกรงที่จู่ๆก็เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ทายาทวาสุกรี เจ้ามาแล้วรึคำพูดนั้นดูเหมือนจะทักทายมากกว่าถามจริง ๆ
เอ่อ ครับ แล้วชานตตีเป็นยังไงบ้างครับ
นางกำลังรอการช่วยเหลือจากเจ้าเสียงนั้นแหบพร่า
แต่ผมยังช่วยเหลือตัวเองแทบไม่รอด แล้วจะช่วยชานตตีได้ยังไงกัน
เจ้าจงมองที่นั่น
.
อินทนาคราชหันกลับมาทางชายหนุ่ม พลางชี้มือไปยังผิวน้ำสีมรกต เพียงสักครู่เดียวบนแผ่นน้ำก็เกิดเป็นภาพนาคราชสองตนที่เหยียดกายแนบชิดกัน ร่างที่อยู่ด้านหลังนั้นค่อยๆดันลูกแก้วสุกใสผ่านผิวหนังมีเกล็ดของตนเองออกจากกึ่งกลางหน้าท้องแล้วส่งผ่านไปยังร่างที่อยู่ด้านหน้า
ลูกแก้วค่อยๆแทรกเข้าสู่ร่างใหม่อย่างยากเย็นและในที่สุดมันก็หยุดลงเมื่อผ่านเข้าไปเพียงแค่ครึ่งวงเท่านั้น ทำให้ตอนนี้มันเป็นดั่งสะพานที่เชื่อมร่างสองร่างนั้นโดยการแบ่งปันแก้วใสไว้ในกายคนละครึ่งวง
สักพักใหญ่แก้วที่เคยสุกใสก็เริ่มมีสีขุ่นแดงเข้มและดูเหมือนว่าจะมีไอร้อนเกิดมากขึ้นเป็นลำดับ ไอร้อนนั้นทนอยู่ได้ไม่นานก็กลั่นตัวกลับเป็นหยดน้ำเมื่อต้องกระทบความเย็นของอากาศภายนอก มันค่อยๆซึมและไหลย้อยลงมามากขึ้นๆ
นี่คือการถ่ายพิษ ของนาคราชที่เกิดอาการพิษไหลย้อน เจ้าต้องใช้วิธีนี้เพื่อช่วยเหลือชานตตี
แต่ผมไม่มีลูกแก้วในตัว เจ้าจำไม่ได้หรือว่า วาสุกรีได้สืบบารมีไว้แก่เจ้าแล้ว
คำพูดของชายชราทำให้รัชชตะย้อนคิดไปถึงภวังค์ภายใต้วารีมรกต ตอนนั้นเขากลายร่างเป็นนาคาก่อนกลืนแก้วใสดวงหนึ่งที่ท้าววาสุกรีมอบให้ ลงสู่ร่างของตน ในถ้ำที่ภุชนาคินก่อนที่จะหลบหนีออกมากับบริวาร
อืม ครับ ผมพอจำได้แล้ว แต่ทำไมคุณไม่ช่วยชานตตี ผมว่าคุณควรจะทำมันได้ดีกว่าผม
ไม่ใช่แต่มนุษย์ที่มีกรรมของตน นาคราชก็มีกรรมเป็นเครื่องกำหนดเช่นกัน เวลานี้คือกรรมหนึ่งของชานตตีที่มีสืบเนื่องกับภุชนาคิน มิใช่ข้า จึงควรเป็นเจ้า รัชชตะนาคราช ที่จะช่วยเหลือนาง หากเป็นข้าอาจไม่สามารถช่วยได้
แต่มันนานมั้ยครับ ท่านอินทนาคราช ตอนนี้คนรักของผมถูกวิรุฬพัชระจับตัวไป ผมต้องการช่วยเค้าให้เร็วที่สุด
นานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับบารมีของเจ้า ส่วนเรื่องคนรักการช่วยเหลือมิใช่เรื่องง่าย หากเจ้าไร้ซึ่งวิธีในการใช้บารมีให้เกิดประโยชน์
ยังไงครับ ผมไม่เข้าใจ
เจ้าไม่ได้รู้ตัวเองเลยว่าบารมีของวาสุกรีที่ถ่ายทอดให้นั้นมากเพียงใด ไม่เช่นนั้นเจ้าไม่อาจสร้างนาคานิรมิต และยิ่งไม่อาจรับมือกับกรงเล็บและปีกปักษาจนเอาชีวิตรอดมาได้ เจ้ารู้หรือไม่บัดนี้ช่อนาคีบริวารกลับได้รับบาดเจ็บหนักหนาจากปีกปักษา แต่เจ้ากลับไม่เป็นอะไร ทั้งหมดนี้ก็เพราะบารมีที่ได้รับสืบมา เพียงแต่เจ้ายังไม่สามารถใช้มันเอาชนะศัตรูได้ ก็เพราะจิตที่ขาดพลังและขาดวิธีการที่ถูกต้อง จงดูที่นั่น
.
อินทนาคราชชี้ให้เขามองดูไปที่ผิวน้ำมรกตอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ภาพนาคาสองตนอีกแล้ว แต่กลับเป็นลายเส้นสีทองคล้ายการวาดภาพลงบนแผ่นน้ำ ลายเส้นพวกนั้นไม่ต้องใช้การสังเกตก็พอรู้ว่าเป็นรูปของพญาครุฑและพญานาคที่กำลังต่อสู้กันอยู่ด้วยกระบวนท่าต่างๆนาๆ ที่รัชชตะไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ละท่วงท่านั้นช่างร้ายกาจรุนแรงนัก รัชชตะได้แต่ยืนตะลึงงันกับความรู้ใหม่ที่ประจักษ์แก่สายตาในตอนนี้
นี่คือ นาคานิรมิต พิชิตเมฆา หักปีกปักษา สยบปักษี พิษร้ายวารี นทีสีเพลิง และนาคะลีลาอีกมากมาย ที่เจ้าจะได้เรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้บารมีของเจ้าก้าวถึงขีดสุด และเมื่อนั้นบริวารแห่งภุชนาคินรวมถึงคนรักจะได้รับการช่วยเหลือ แต่นั่นคือหลังจากที่เจ้าช่วยเหลือชานตตีผู้เป็นอาจารย์
ครับ ผมจะช่วยเธอให้สุดความสามารถ รัชชตะเริ่มเห็นหนทางที่จะเอาชนะเหล่าครุฑได้ก็ค่อยมีกำลังใจมากขึ้น
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 18:52:52
จากคุณ |
:
Kiwi_brown
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ค. 54 14:06:37
|
|
|
|