ความภาคภูมิใจของเด็กถนน คนหนึ่ง
|
 |
จากที่ไม่เคยไม่ได้เข้าทักทายในที่แห่งนี้ มาเกือบ 4 ปี วันนี้ขอเข้ามาอัฟเดตสิ่งที่ ตัวเองได้ไปมีส่วนร่วมในการทำให้เพื่อน ๆ ทราบกันหน่อย
จากอดีตเลขา ปากร้าย ที่นินทานายให้เพื่อน ๆ ฟังทุกวัน เมื่อ 7 ปีก่อน ได้เดินทางผ่านวันและเวลา จนกลายเป็นป้า ที่มีโอกาสได้เข้าไปทำกิจกรรมเล็ก ๆ ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ต่อตัวเองมาก คือ การส่งเมืองไทยเข้าร่วมคัดเลือกการเป็นเมืองหนังสือโลก ในปี 2013
โครงการนี้ เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปลายปี 2553 โดยกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่รักการอ่าน ชอบการเขียน แถมพร้อมที่จะเรียนรู้ ที่สำคัญคือ สู้งานหนัก !!!!!
การที่จะทำให้ยูเนสโกยอมรับและคัดเลือกให้เมืองไทยเป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2013 ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายมากสำหรับมดงาน แต่ก็มีงานที่หนักและทดสอบความสามารถมากกว่า ก็คือ
การสร้างความเข้าใจและเปลี่ยนทัศนคติทางด้านความคิดของคนไทยที่มีต่อการอ่าน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมากกว่าการได้รับการคัดเลือกและการได้รับการยอมรับจากยูเนสโก
การทำงานเริ่มขึ้นด้วยพูดคุย บอกเล่าเรื่องราว วางแผน และเชื่อชวน กลุ่มเพื่อน ๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ที่มีมุมมองเหมือนกัน จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 3 และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น 500 กว่าหน่วยงาน เมื่อมีแรงสนับสนุนมากขึ้น ความบ้าของกลุ่มคนทำงานก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มมดงานตัวเล็ก ๆ หาญกล้าที่จะเอาโครงการนี้ เข้าไปขอการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ ด้วยใจตุ๋ม ๆต่อม ๆ ว่าจะได้รับการช่วยเหลือ หรือโดนจับโยนออกมา สุดท้าย ผู้ใหญ่ยอมรับและจัดหางบประมาณมาสนับสนุนโครงการให้เดินหน้าต่อไป
เมื่อเพื่อนสนับสนุน ผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือ ทีมงานพร้อมเดินหน้าเต็มที่ โดยการจัดร่วมกลุ่มสมัชชา ส่งเสริมการอ่าน โดยการเชิญเพื่อนพ้องน้องพี่ กว่า 1000 คน จากหลายบทบาทหน้าที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดและประสบการณ์ เพื่อวางแผนการทำงานที่จะเกิดขึ้นต่อไป
เมื่อแผนพร้อม ผู้ใหญ่ใจดี ก็ประกาศความร่วมมือ กำหนดเป็นนโยบาย พร้อมค้นหาตัวแทนโครงการในนาม ทูตรักการอ่าน
เหินฟ้า สู่ปารีส........ เมื่อทุกอย่างลงตัว เพื่อน แผน กิจกรรม คนทำงาน และทูตรักการอ่าน ผู้ใหญ่ใจดี เดินทางไปกรุงปารีสด้วยตนเอง เพื่อส่งชื่อ เมืองไทย ที่มีสถิติว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัด เข้าขอรับการคัดเลือก การเป็น เมืองหนังสือโลกในปี 2013
การรอคอยการตัดสินจากยูเนสโก เหมือนการรอฟังผลการประกาศ เอ็นทรานซ์ ของผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งเครียด ตื่นเต้น และหวั่นไหว แต่ทุกอย่างยังต้องดำเนินต่อไป เพราะผลการตัดสินของยูเนสโก ยังไม่ใช่บรรทัดสุดท้าย ของการทำโครงการ แต่ การสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ต่างหากที่สำคัญที่สุด
ด้วยความมุ่งมั่น และร่วมมือ ของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน วันที่ 29.6.2011 ยูเนสโก ประกาศรับรองให้ เมืองไทย เป็นเมืองหนังสือโลก ในปี 2013 ด้วยเหตุผลที่ว่า เมืองไทย มีแผนงานและมีความร่วมมือที่ชัดเจนในทุกภาคส่วน
ความภาคภูมิใจนี้ ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มคนทำงาน แต่ มันเป็นความภาคภูมิใจ ที่อยากแบ่งปัน ให้คนที่ ได้ชื่อ ว่าคนไทยทุกคน เพราะรางวัลนี้ เรา ได้รับในนาม เมืองไทย ซึ่งเป็นเมือง เป็นบ้าน ของเราทุกคน
ขอบคุณพี่ติ่ง ที่ไม่เคยหันหลังให้กลับโครงการไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ขอบคุณพี่แจ๊ส ที่หาญกล้าเข้ามารับหน้า เวลาที่โครงการเกิดวิกฤต ขอบคุณพี่กัล น้องจัน นิตา และทีมงานทุกคน ที่ทำให้โครงการนี้ ผ่านบททดสอบครั้งสำคัญนี้มาได้ (พวกนายแน่มาก) สุดท้าย ขอบคุณ ทุกผู้ ทุกนาม ที่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้หมด พวกคุณเป็นส่วนผลักดันให้เกิดความภาคภูมิใจนี้จริง ๆ
ติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวของโครงการพร้อมให้กำลังใจ และพิสูจน์ว่า เราจะรักษาตำแหน่งที่ได้มาด้วยความยากลำบากนี้ ได้หรือไม่ ได้ที่ www.bangkokreadforlife.com และ และแฟนเพจ Bangkokreadforlife ค่ะ
จากคุณ |
:
ดอกงิ้ว
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ก.ค. 54 18:15:50
|
|
|
|