เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงวันงาน ซึ่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ขณะที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวกำลังตักบาตร..ธนภัทรยืนมองด้วยความกังขา ว่าเมธิกาคบหาดูใจกับชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่จนถึงขั้นยอมตกล่องปล่องชิ้นด้วยทั้งๆที่ชายหนุ่มคนนี้ต่างกับสเป็คที่เพื่อนสาวตั้งไว้ลิบลับ แล้วก็หันไปถามเพื่อนสาวอีกคนที่ยืนข้างกาย
น้ำหวาน เมย์เคยแนะนำผู้ชายคนนี้ให้แกรู้จักมั้ย ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยล่ะ
พิมพ์กมลยิ้มเจื่อน เอ่อ ก็เคยหนนึงน่ะ แต่ก็นานแล้วล่ะ รู้สึกว่าจะเป็นพวกเพื่อนๆนักธุรกิจอะไรของพ่อเมย์นี่ล่ะ ฉันก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
เพื่อนนักธุรกิจของพ่อเหรอ..มิน่า ฉันถึงไม่รู้เรื่องเลย ชายหนุ่มทำสีหน้าครุ่นคิด งั้นแบบนี้ก็หมายความว่า ยัยเมย์ถูกคลุมถุงชนน่ะสิ
ก็คงงั้นมั้ง หญิงสาวรีบเออออไปด้วย
ว้า น่าสงสารเพื่อนเราจังเลยเนอะ ธนภัทรมองเพื่อนสาวในชุดไทยสีงาช้างที่ภายนอกดูสวยสดงดงาม แต่ภายในใจคงกำลังร่ำไห้ด้วยความทุกข์ตรมเป็นแน่
โถ ๆ..ยัยเมย์
และอารมณ์คร่ำครวญพลันสะดุดกึก เมื่อเหลือบเห็นร่างสูงใหญ่ของศราเดินเข้ามากระซิบกระซาบอะไรสักอย่างกับเจ้าบ่าว ธนภัทรถึงกับหันไปสะกิดเพื่อนสาวยิกๆ
น้ำหวาน ๆ นั่นใครน่ะ
หญิงสาวหันมองแล้วก็เบ้หน้านิดๆก่อนตอบอย่างเสียไม่ได้ อ๋อ รู้สึกจะเป็นญาติๆกันนั่นล่ะ ทำไม..สนใจอีกล่ะสิ
และผู้ถูกถามก็ยิ้มหวานทันตา แหม ก็หล่อล่ำเสียขนาดนั้นน่ะ
ชิ! ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน หน้าตายังกะโจรหนีคดีมาอย่างนั้น แล้วก็สะบัดหน้าเดินไปหาอะไรรองท้อง
ธนภัทรมองค้อนก่อนเดินตาม พลางคิดว่า ทำไมเพื่อนฉันช่างตาต่ำได้ถึงเพียงนี้ !
หลังจากผ่านพ้นพิธีการแบบไทยที่บ้านของฝ่ายหญิง ขบวนขันหมากก็กลับมาต่อพิธีการตามประเพณีจีนที่บ้านของฝ่ายชาย ซึ่งในตอนนี้ เมธิการู้สึกขัดเคืองใจพิมพ์กมลเป็นอย่างมาก เมื่อเพื่อนรักดูจะสนอกสนใจและชื่นชอบพิธีการในครั้งนี้เป็นพิเศษ คอยชักชวนให้ธนภัทรตามเก็บภาพมุมนั้น มุมนี้ไม่หยุด คงลืมไปแล้วมั้งว่า สาเหตุที่เธอต้องแต่งงานครั้งนี้มันมาจากอะไร
ฮึ! แม่เพื่อนทรยศ
หญิงสาวได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ และเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งเคียงข้าง ซึ่งพอเขาหันสายตามาสบด้วย เธอก็รีบหันใบหน้ากลับมาทันที
ยิ้มหน่อยสิ สาวน้อย
เสียงเขากระซิบอยู่ข้างหู เธอหันขวับหมายจะจิกกัดเขาสักยก แต่ก็ต้องแทบกลั้นหายใจ เมื่อใบหน้าคมเข้มนั้นอยู่ห่างไม่ถึงคืบ และสายตาที่ทอดมองมานั้นก็ให้ความรู้สึกแปลกๆวูบวาบชอบกล
..มันเรื่องของฉัน..
เธอแค่นเสียงออกไปก่อนรีบเบือนหน้าหนีและไม่คิดจะหันกลับไปอีก แต่ไม่นานเท่าไหร่ สายตาก็เผลอชำเลืองมองเขาอีกเรื่อยๆ จนเธอเองก็รู้สึกหงุดหงิดตัวเองเช่นกัน
ตลอดทั้งวันจนถึงงานเลี้ยงกลางคืน..เมธิการู้สึกมึนๆกับขั้นตอนพิธีการที่ยุ่งวุ่นวาย และบางครั้งก็รู้สึกปวดหัวกับบรรดาญาติๆของ อชิระที่เดินทางมาจากเมืองจีนและส่งภาษากันล้งเล้งล้งฉ่า ซึ่งเธอไม่เข้าใจสักคำ และรู้สึกอึดอัดกับชุดเจ้าสาวนี่เหลือเกินแล้ว เวลาจะลุกจะนั่งทีก็แสนลำบาก แถมยังต้องคอยระวังเจ้าก๊วนเด็กแสบที่เป็นลูกๆหลานๆของบรรดาญาติเจ้าบ่าว เพราะดูเหมือนว่า ขนนกที่ประดับบนชายกระโปรงยาวฟูฟ่องของเธอจะเป็นที่ถูกอกถูกใจกันเหลือเกิน จนต้องคอยป้วนเปี้ยนวนเวียนมาจับมาดึงจนเกือบจะทำให้เธอหน้าคะมำอยู่หลายรอบ ดีที่มีเจ้าบ่าวคอยประคับประคองไม่ห่าง บางครั้งก็หันไปช่วยดุ ไม่อย่างนั้น งานนี้คงได้เห็นเจ้าสาวล้มเลือดสาดเป็นแน่
จนกระทั่งถึงพิธีส่งตัว คราวนี้หัวใจของหญิงสาวเต้นตุ้มๆต่อมๆขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และนึกถึงคำสัญญาที่ขอไว้ โดยหวังว่าเขาจะยึดมั่นตามที่รับปาก
เสียงหัวเราะเฮฮาจากบรรดาญาติๆของอชิระดังขึ้นขณะมาส่งคู่บ่าวสาวถึงหน้าประตู และพากันพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้เจ้าบ่าวอมยิ้มแปลกๆ ก่อนจะเฮโลพากันจากไป เหลือไว้แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่หันมองสบกันเพียงครู่ เมธิการีบเดินหนีให้ห่างจากเตียงกว้างที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ดั่งว่ามันเป็นจุดเสี่ยงอันตราย และเธอก็เลือกที่จะมายืนตัวลีบเขม็งมองเขาอย่างระแวงอยู่อีกมุมห้อง
อชิระอมยิ้มอย่างรู้ทันความคิดของเธอ วันนี้คุณคงเหนื่อยมากแล้ว อาบน้ำนอนเถอะ เดี๋ยวผมจะไปนอนอีกห้อง เขาบอกพร้อมเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ ซึ่งบัดนี้พื้นที่ครึ่งหนึ่งได้ถูกแบ่งปันด้วยเสื้อผ้าของหญิงสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยจัดการแยกเสื้อผ้าของเธอย้ายไปอีกตู้
เขาเลือกหยิบเสื้อยืดกับกางเกงแพรที่ใส่นอนประจำออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัว และบอกกับเธอ เจอกันพรุ่งนี้เช้า
ก่อนเปิดประตูห้องก้าวออกไปให้เมธิกาหายใจทั่วท้องได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างของเขาก็ถูกผลักกลับเข้ามาอีกครั้งจากบรรดาญาติๆที่ปักหลักเฝ้าหน้าห้อง พร้อมต่อว่าเป็นการใหญ่ ก่อนจะปิดประตูห้องให้เสร็จสรรพ
ชายหนุ่มหันมายิ้มเจื่อนให้หญิงสาวที่มองตาปริบๆ ..ผมขอพูดใหม่ว่า..พรุ่งนี้เราค่อยออกไปจากห้องกัน
เมธิกายิ้มที่เรียกว่าแยกเขี้ยวเสียมากกว่า แล้วก็ยืนหน้ามุ่ยมองเขาเดินเข้าห้องน้ำ จนกระทั่งเดินกลับออกมาอีกครั้งในชุดนอนของเขาเรียบร้อยแล้ว
คุณจะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืนเรอะ
เรื่องของฉัน เธอตอบกลับเสียงห้วน
งั้นก็ตามใจ
อชิระปิดไฟกลางห้องโดยไม่ต้องเปิดโคมข้างหัวเตียงเช่นทุกครั้ง เพราะตะเกียงที่ใช้ในพิธีให้แสงสว่างเพียงพอแล้ว และเดินมาล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมตวัดผ้าห่มมาคลุมตัวโดยไม่สนใจใครอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เขาง่วงเหลือเกิน ประสมกับอาการมึนๆจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่บรรดาญาติๆคะยั้นคะยอให้ดื่มไปหลายแก้ว
เมธิกาเองก็ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง แต่ก็ยังทนยืนอยู่เช่นนั้นอีกร่วมชั่วโมงจนทนไม่ไหว จึงแอบย่องมาชะเง้อคอมองคนที่นอนส่งเสียงกรนเบาๆอยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่เธอต้องทนยืนขาแข็งจนปวดจะแย่อยู่แล้ว
ฮึ !
เธอย่นจมูกใส่ ก่อนจะเดินไปเลื่อนเปิดประตูเสื้อผ้าอย่างเบามือ เลือกหาชุดที่คิดว่ามิดชิดและถอดยากที่สุดออกมาสวมใส่สำหรับค่ำคืนนี้
แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องน้ำแล้ว เธอก็มายืนกอดอกหน้ามุ่ยมองไปบนเตียงกว้างที่เหลือพื้นที่ให้เธอสามารถนอนได้อย่างสบาย..แต่ฝันไปเถอะว่าคนอย่างเธอจะยอมนอนร่วมเตียงเดียวกับเขา
หญิงสาวเดินไปคว้าหมอนลงมานอนกับพื้น แต่ด้วยความหวาดระแวง เธอนำปิ่นมุกที่ได้มาจากอารดาซุกไว้ใต้หมอนด้วยก่อนจะหลับตา..แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ เพราะพื้นมันทั้งแข็งและเย็นแถมยังอึดอัดกับชุดที่สวมใส่อีก
ร่างบางกระสับกระส่ายไปมาก่อนผุดลุกขึ้นนั่ง หันมองคนที่ยังหลับอุตุบนเตียงตาขวาง เรื่องอะไรฉันจะยอมให้สบายคนเดียวเล่า
พึมพำอย่างหงุดหงิดแล้วก็คว้าหมอนพร้อมปิ่นคลานขึ้นเตียง หยิบหมอนข้างมาวางกั้นเขตพื้นที่ก่อนดึงผ้าห่มจากร่างของอีกฝ่ายมาคลุมร่างตนอย่างสบายใจเฉิบ โดยลืมปณิธานที่ตั้งใจไว้แต่แรกเสียสนิท
อชิระหยีตาหันมามองอย่างงัวเงีย และเห็นอีกฝ่ายมองตาเป๋ง ก่อนส่งเสียงขู่ฟ่อ ห้ามข้ามเขตมานะ
ชายหนุ่มครางขัดใจในลำคอ กระชากชายผ้าห่มกลับมาคลุมร่างของตนแล้วก็พลิกร่างหันหลังให้ ในขณะที่ เมธิกาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามดึงชายผ้าอีกข้างหวังยึดผ้าห่มกลับมาทั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถดึงกลับมาได้ เพราะอชิระใช้ตัวทับอีกชายไว้ ก่อนจะเอ่ยอย่างรำคาญปนหงุดหงิด
ฮื่อ ถ้ายังไม่หยุดดึงอีก ผมจะจับมัดนะ
ก็ลองสิ เมธิกาท้าอย่างถือดี พร้อมออกแรงกระชากผ้าห่มอีกครั้ง และคราวนี้ก็สำเร็จ แต่นั่นเป็นเพราะอชิระผุดลุกขึ้นกระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายพร้อมตวัดผ้าห่มพันรอบร่างบาง ซึ่งทำได้แค่ส่งเสียงกรี๊ดๆเท่านั้นเพราะไม่สามารถสู้แรงและความไวของเขาได้..และเพียงไม่กี่นาที ร่างของเธอก็ไม่ต่างอะไรไปจากดักแด้ที่โผล่ให้เห็นเพียงแค่ตากับจมูกเท่านั้น
ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ
เมธิกาส่งเสียงอู้อี้กับผืนผ้าพร้อมพยายามจะกลิ้งหนี แต่ถูกอีกฝ่ายลากเข้ามากอดก่ายเหมือนหมอนข้าง
ก็เห็นว่าอยากได้ผ้าห่มนักนี่ ก็จัดให้แล้วไงล่ะ
แต่ไม่ใช่อย่างนี้นะ ปล่อย
หนวกหูน่ะ คนจะนอน ว่าแล้วก็คลายแขนขาออก แต่เพียงเพื่อจะกลิ้งร่างของเธอให้หันหลังเท่านั้น จากนั้นเขาก็กอดก่ายเช่นเดิม โดยไม่สนใจร่างที่ดิ้นกระแด่วๆในม้วนผ้าผืนใหญ่ ยิ่งเธอออกแรงดิ้นเท่าไหร่ เขาก็เพิ่มแรงกอดเท่านั้น จนเธอเริ่มหมดแรงจึงหยุดหอบหายใจฟืดฟาด นึกเจ็บใจที่ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
แต่เมื่อไม่สามารถขยับไปไหนได้ ก็นอนมันทั้งอย่างนี้ล่ะ..ก็มันง่วงจะตายอยู่แล้ว ฮึ่ม! ฝากไว้ก่อนเถอะตาแก่โรคจิต
และไม่นาน..เมธิกาก็หลับไปจริงๆ
อชิระคลายวงแขนชะโงกหน้าไปดูอีกฝ่ายให้แน่ใจและลองเขย่าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จึงค่อยๆกลิ้งร่างของเธอให้พ้นจากผืนผ้าห่ม เมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการ ร่างบางกลมกลึงก็ขยับในท่วงท่าสบายโดยอัตโนมัติพร้อมเสียงครางในลำคออย่างพึงใจ โดยสติยังไม่หลุดจากห้วงนิทรา
ผู้ที่มองส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย
เด็กหนอเด็ก'
แล้วก็ล้มตัวลงนอนเคียงข้าง พร้อมแบ่งปันผืนผ้าห่มให้อีกฝ่ายได้ครอบครอง
..............................................................................
จบตอนค่ะ โปรติดตามตอนต่อไปนะคะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ค. 54 12:57:26
|
|
|
|