Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+++++++++จ้างเธอให้รัก ตอนที่7++++++++++ ติดต่อทีมงาน

ลิงค์ของตอนที่ผ่านมานะคะ

บทนำและตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10613052/W10613052.html
ตอนที่2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10644126/W10644126.html
ตอนที่3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10661938/W10661938.html
ตอนที่4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10682612/W10682612.html
ตอนที่5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10712662/W10712662.html
ตอนที่6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10756171/W10756171.html

++++++++++++++++++++

ตอนที่เจ็ด
ความแตกต่างระหว่างคนสองคน


ปรุฬห์กำลังวางแผนหลังจากที่เขาขอคำปรึกษาจากเจ้าของร้านบาร์ในย่านสถานเริงรมย์ซึ่งเคยไปนั่งดื่มกับผองเพื่อนสมัยเรียนปริญญาตรีด้วยกัน

เขาไม่เคยคิดหรอกว่าตัวเองจะต้องไปที่นั่นอีก ... ทว่าเจ้าของร้านบาร์เป็นคนรู้จักของเขาและเป็นผู้ที่ช่วยเสนอแนะความเห็นว่าปรุฬห์ควรจะหาใครสักคนเป็นแฟนนับตั้งแต่วันนี้เพื่อทำให้พ่อแม่เห็นว่าเขาต้องการยกเลิกการหมั้นหมายกับเปมิกา

“คุณปรุฬห์เคยคบหากับใครดูบ้างหรือเปล่า”

“ถ้าหากแบบจริงจังจนเรียกว่าแฟนล่ะก็คงไม่มีมาตั้งแต่จบมัธยมปลาย”ปรุฬห์กล่าวแล้วก็ต้องนั่งเหงาหงอย ถอนหายใจ นึกถึงการนัดพบของครอบครัวธนากิจและคฤษฐานนท์ระหว่างช่วงที่เปมิกาปิดภาคเรียน

“ถ้าอย่างนั้นลุงแนะนำให้รีบหา”

“มันไม่ง่ายนักหรอกนะครับ”ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ ... แต่หาใครจริงใจด้วยกันสักคนก็ยากเต็มทีและเขาก็ไม่ชอบความผิดหวังในด้านความรักเสียด้วย

“ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องยื่นเงื่อนไขเรื่องเงิน ... ขอโทษนะ ลุงไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย”

... แต่แน่นอนว่ามันได้จุดประกายบางอย่างแกปรุฬห์ เขามองไปรอบๆสถานที่ดังกล่าวซึ่งเต็มไปด้วยผู้หญิงขายบริการไม่ว่าจะซอกถนนมุมไหนเขาก็ไม่เจอผู้หญิงซึ่งมีฐานะเท่าเทียมกับเขาได้ “ลุงหมายถึงให้ผมจ้างใครสักคนน่ะหรือ?”

เจ้าของร้านบาร์พยักหน้า “คุณชวรินทร์ต้องการให้คุณปรุฬห์หมั้นหมายกับคุณเปมิกาหลังจากคุณปรุฬห์ได้รับทรัพย์สินส่วนหนึ่งตามข้อตกลงใช่ไหมครับ? มันก็เหลือเวลาเพียงแค่อีกหนึ่งหรือสองปีในระหว่างที่คุณเปมิกาเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีกแล้วงานในบริษัทของพ่อก็มอบให้แก่ของเธอแล้ว”

ปรุฬห์ตอบรับ

“ลุงคิดว่ามีผู้หญิงมากมายยอมคบหากับคุณปรุฬห์ในระหว่างนี้ เพียงแต่คุณปรุฬห์ต้องเลือกดีๆ”

ชายหนุ่มฟังพลางนึกตาม ...

จ้างหรือ?

จ้างผู้หญิงสักคนมาเป็นแฟนของเขาอย่างนั้นหรือ?

อันที่จริงมันคงไม่ยากอะไรนักหรอกเพราะว่าค่าใช้จ่ายที่เขาเจียดให้เป็นค่าตอบแทนเป็นแค่เศษเงินของเขาเท่านั้น แต่ว่าเขาจะจ้างใคร? ถ้าหากเขาจ้างคนที่รู้จักกัน เพื่อนของเขาคงมองดูเขาไม่ดีแน่ๆบางทีคงได้รับคำประนามกลับมาอีกจนเสียภาพพจน์ด้วยซ้ำ

เขาควรจะจ้างคนที่ไม่รู้จัก ... เพราะคนเหล่านี้เต็มใจจะทำงานเพื่อเงิน



ใช่แล้ว .. ต้องหาคนที่ทำงานเพื่อเห็นแก่เงินอย่างเดียว ไม่สนใจอะไรอื่นนอกจากการเอาชีวิตรอดด้วยตัวเลขของเงินในกระเป๋า พวกเธอจะต้องเห็นเงินจำนวนมากๆตรงหน้าตัวเองแล้วตาลุกวาวเพราะคนกลุ่มนี้จะไม่ปันใจแก่เขาง่ายๆ หากคบหากันด้วยเงื่อนไขปรุฬห์จะสามารถระมัดระวังตัวได้ดี ไม่ปล่อยให้ผู้หญิงหลอกลวงเขาได้ง่ายๆแน่ๆ แต่เขาก็กลัวมารยาหญิง ... เขาต้องยื่นข้อตกลงดีๆและหญิงสาวคนนั้นจะต้องวางใจได้ในระดับหนึ่ง

ขณะมองไปรอบกาย

บรรดาหญิงขายบริการ โดยเฉพาะเขตชุมชนชั้นกลางแถวนี้ ... ชายหนุ่มก็พบว่าเข้าข่ายเงื่อนไขของเขาแทบทุกประการยกเว้นความไว้วางใจ ... เขาจะทำอย่างไรดี

“เอาอย่างนี้ดีไหม? ลุงจะเสนอหามาให้ระหว่างที่คุณปรุฬห์ต้องการคนจ้างงานนี้”นั่นคือคำแนะนำที่น่าสนใจของเจ้าของร้านบาร์และปรุฬห์ก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง



\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\



หลังจากช่วงเวลาของการสอบผ่านพ้นไปแล้ว นีรนาก็ไม่มีเวลาเดินทางกลับบ้านเหมือนที่คาดเอาไว้ เธอยังคงแวะเวียนมหาวิทยาลัยเพื่อช่วยเหลืองานอาจารย์

ทีคเองก็เช่นกัน เขาต้องเดินทางมาหาบอลเพื่อคุยเรื่องธุรกิจของตัวเอง เขามีเงินทุนมากพอที่จะประกอบกิจการใหญ่ๆได้ด้วยความร่วมมือของผู้เป็นพ่อและแม่

ทุกครั้งที่ทีคว่าง เขาจะชวนนีรนาไปนั่งใต้ต้นไม้ด้วยกันในสวนหย่อม เริ่มด้วยการเล่าเรื่องราวชีวิตในแต่ละวันโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย บรรดาผองเพื่อนของทีคซึ่งเห็นเขาอยู่กับหญิงสาวต่างคณะก็เริ่มมีเสียงนินทาลับหลังเมื่อพบว่านีรนาไม่ใช่บุคคลที่มีฐานะเดียวกันกับทีคอย่างที่เคยเข้าใจมาก่อน

“ผมไม่ชอบคำพูดของเพื่อนในภาคตัวเอง”ทีคบ่นถึงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งซึ่งพยายามถามเรื่องประวัติแฟนของเขาซึ่งมีพื้นเพมาจากชนชั้นกลางภายในเมืองที่ไม่น่าพิสมัย

นีรนาอาจจะรู้สึกไม่ดีบ้าง ทว่าเธอกับทีคไม่ได้หวั่นไหวต่อคำกล่าวนินทาหนาหูของบรรดาเพื่อนๆ

“พวกเขาไม่เคยคุยกับนีรเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเขาดูถูกนีร”

“ช่างมันเถอะค่ะ”เธอพยายามทำให้ทีคคลายความหงุดหงิดใจ “ทุกคนเกิดมาก็ต้องโดนนินทาไม่ใช่หรือ?”

“ผมไม่อยากรู้ว่าโดนนินทาลับหลังนี่นา”ทีคบอกพลางโอบไหล่ของเธอเอาไว้ หันไปมองแก้มหญิงสาวใกล้ๆ “ยิ่งเป็นเรื่องของนีรด้วยแล้วผมคงให้อภัยไม่ได้”

“ขอบคุณค่ะ คุณบอดี้การ์ด”นีรนาบอกขณะที่ทีคต้องหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ

ชายหนุ่มหอมแก้มของเธอเบาๆแล้วจึงเลื่อนศีรษะวางบนไหล่แนบชิดกับตัวของนีรนาให้มากขึ้นกว่าเดิม เธอเป็นแฟนของเขา เธอเป็นคนที่ทำให้เขาหลงรักเหลือเกิน



ทว่าดูเหมือนคำนินทาจะแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วราวกับเชื้อโรคร้ายเมื่อเพื่อนๆในภาคต่างบ่นให้นีรนาฟังว่านักศึกษารุ่นน้องของทีค เอ่ยถึงนีรนาในทางเสียๆหายๆ พวกเขาอาจจะพูดความจริงปนสิ่งที่เจือมลทินให้ด่างพร้อยเข้าไปด้วยกลายเป็นว่าทุกคนต่างรีบลงความเห็นแทบจะฟันธงให้นีรนาเป็นผู้ที่ทีคคงคบหาได้ด้วยไม่นานหรืออีกนัยหนึ่งก็คือแอบนินทาขับไล่ไสส่งให้หญิงสาวต่างคณะคนนี้รีบๆออกไปจากชีวิตของทีคเสียที

“พวกเขาพูดเรื่องอะไรน่ะ”นีรนาสงสัย

“มีกลุ่มเด็ก ป.ตรีปีสองบอกว่าเธอคบหาเขาเพราะเรื่องเงินและทีคก็หลงเธอจนหัวปักหัวปำ”

“บ้า”นีรนาบ่นแล้วเพื่อนต้องกล่าวเห็นด้วย “ฉันยังไม่เคยขอยืมเงินเขาสักบาทเดียว ... ปัญหาเล็กๆกลายเป็นปัญหาใหญ่ไปได้อย่างไรกัน”

ถึงแม้ว่าข่าวลือจะเชื่อถือไม่ได้แต่นีรนาก็ถูกมองดูและนินทาทุกครั้งที่เธอเดินผ่านนักศึกษาซึ่งรู้จักเธอจากทีค นีรนาต้องถามโต้ซึ่งเป็นเพื่อนของทีคด้วยความสงสัยอีก

“มันก็แค่คำนินทาน่ะ”โต้บอก “ภาควิชาของเรามีแต่กลุ่มสาวๆที่ชอบเสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดใครก่อเสมอๆล่ะ อย่าคิดมากนะ”

นีรนาพยักเพยิดหน้าให้

“ว่าแต่น้องนีรเคยเจอพ่อแม่ของทีคไหม?”

นีรนาต้องนิ่งอึ้ง ... เธอเพิ่งจะคบหาดูใจกับทีคมาได้เพียงสองสามเดือน เธอต้องไปพบพ่อแม่ของเขาแล้วอย่างนั้นหรือ?

“พี่ไม่อยากจะพูด”โต้มีท่าทีกระสับกระส่าย “พ่อแม่ของทีคค่อนข้างจะหวงลูกชายอยู่พอสมควรน่ะ ทีคมันเป็นลูกคนเดียวและอนาคตบ้านหลังใหญ่ที่พ่อมันซื้อเก็บไว้ก็ต้องเป็นของมัน”

“นีรพอจะรู้มาบ้างน่ะค่ะ”หญิงสาวกล่าว เธอเข้าใจว่าโต้หมายถึงอะไร ... “ทีคเคยบอก”

“แล้วน้องนีรเคยได้ยินเรื่องที่แม่ของมันเคยทะเลาะกับน้องปันปันหรือเปล่า? ... เอ่อ น้องคนนี้มันเคยเป็นกิ๊กไอ้ทีคตอน ป.ตรีน่ะ”

นีรเคยได้ยินชื่อนี้จากทีคแต่เธอไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย

“น้องปันปันเรียนคณะวิทยาการจัดการของมหาลัยแห่งนี้แหละ แต่ว่าเธอเป็นผู้หญิงขี้แงขี้โมโหขี้งอน สารพัดขี้ที่ไอ้ทีคมันบ่นให้ฟัง ... พอไปเจอแม่ของมันซึ่งค่อนข้างจะเจ้าระเบียบอยู่เป็นทุนเดิมแล้วก็กลายเป็นการวางระเบิดลูกใหญ่ๆใส่ครอบครัวของมันนั่นล่ะ ... แม้แต่พวกเราเวลาไปย่างกรายบ้านของทีค ทุกคนต้องสงบปากสงบคำราวกับกลายเป็นลูกคนดีของคุณลุงกับคุณป้าอรุณาเดชด้วย”

“ต้องตามใจพ่อแม่เพื่อลูกชายของเขา?”

“ประมาณนั้นเลยล่ะ”

คำเตือนบางครั้งก็ช่วยได้แต่มันทำให้เธอตงิดใจว่าสำหรับเธอแล้วในสายตาคนอื่นมันเลวร้ายมากหรือเปล่า?

หรือว่าทีคกับเธอจะไม่เหมาะสมที่จะลองดูใจกันให้นานกว่านี้จริงๆ?

ไม่หรอกนะ ... เธอไม่ได้ทำอะไรผิด

ทว่าคำพูดหลอนประสาทของปรุฬห์ซึ่งกว่าวหาว่าเธอขายบริการทำให้เธอคิดว่าเพื่อนๆของทีคหลายคนอาจจะมองเธอในแง่ร้ายเหมือนที่ปรุฬห์แสดงออกให้เธอเห็นก็เป็นได้ ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่ของทีคล่ะ? พวกเขาจะคิดอย่างไรกับเธอ?

นีรนาเริ่มรู้สึกไม่ดี เธอสลัดความคิดของคนรอบกายตามคำแนะนำของทีคภายในทันทีนั้น



ไม่นานนักทีคก็ชวนนีรไปเที่ยวที่บ้านของเขาร่วมกับบอลซึ่งแวะเวียนไปบ่อยๆตามปกติ หลังจากพบว่านีรนาว่างหนึ่งอาทิตย์เต็มๆในช่วงวันหยุดของเธอ หญิงสาวฟังคำคะยั้นคะยอของอีกฝ่ายจนในที่สุดเธอก็ตกลงใจ แม้ว่าการไปเยี่ยมบ้านของทีคครั้งนี้เธอจะมีเหตุผลนิดหน่อยเนื่องมาจากต้องการให้บอลช่วยงานของเธอด้วยก็ตาม

บ้านของทีคก็สมฐานะกับคำร่ำลือ เธอย่างขาก้าวผ่านประตูไปข้างหนึ่งก่อนจะเอี้ยวตัวหันไปมองชื่อบ้านบนแผ่นหินอ่อนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บ้านอรุณาเดช

ทีคสังเกตหญิงสาวก่อนจะหัวเราะร่า เขาบอกให้เธอนั่งในสวนหลังบ้านกับไอ้บอลเพื่อปรึกษากันเรื่องงานขณะที่ตนเองเดินเข้าไปรายงานการมาเยือนของแขกแก่ผู้เป็นพ่อและแม่

นีรนาต้องหันไปมองรูปปั้นสิงโตสองฟากพ่นน้ำลงไปในสระน้ำ เธอนั่งประเมินราคาของมันจนแทบจะไม่ได้ฟังสิ่งที่บอลพูดอยู่เลย

บอลรีบเขียนสมการยาวเหยียดก่อนจะพิสูจน์ให้เธอดู จากนั้นแล้วก็สร้างโจทย์ใหม่ให้เธอนั่งคิดเพียงลำพังนับสองชั่วโมงขณะที่ตนเองทานกาแฟดำกับทีคสนทนากันเรื่อยเปื่อยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ไม่นานนักแม่บ้านก็นำอาหารหวานมาเสิร์ฟแก่พวกเขา นีรนารับพร้อมกล่าวขอบคุณ ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้ทานอาหารต่อ สายตาก็สะดุดพ่อของทีคซึ่งเดินออกมารับแขกพร้อมหนังสือพิมพ์หนึ่งเล่มในมือ

นีรนาและบอลต่างกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

ดูเหมือนคุณอรุณาเดชจะรู้จักชื่อของเธอจากทีค “หนูเพิ่งจะมาเรียนต่อที่นี่ใช่ไหม”

“ค่ะ”

พ่อของทีคพยักพเยิดหน้าทำท่านึกนานก่อนจะเดินไปนอนบนเตียงอาบแดดเริ่มอ่านหนังสือพิมพ์เพียงลำพัง

นีรนานั่งทำการบ้านจากบอลคนเดียวอีกสักพักใหญ่ปล่อยให้สองหนุ่มสนทนากันเรื่องธุรกิจตนเอง เมื่อบอลขอตัวไปว่ายน้ำทีคจึงเดินมาดูกระดาษนับกว่าสิบแผ่นซึ่งเต็มไปด้วยตัวเลขร้อยพันของนีรนาพร้อมอุทานเบาๆ

“พักก่อนไหม?”ทีคถาม

นีรนาเงยหน้ามองเขาก่อนจะยิ้มบางๆทานขนมหวาน “จะชวนว่ายน้ำหรือคะ?”

“เปล่าๆ ผมคิดว่านีรกำลังเครียด”ชายหนุ่มเลื่อนมือลูบศีรษะของเธอ

นีรนาหัวเราะออกมา สายตาเธอเหลือบไปเห็นผ้าม่านบริเวณหน้าต่างในบ้านแง้มนิดหนึ่ง ทีคหันไปมองตามแนวระดับสายตาของเธอ

“แม่นั่งดูโทรทัศน์อยู่น่ะครับ แม่บอกให้ชวนนีรกับบอลทานอาหารเย็นด้วยกัน” เขาคงอยากจะบอกเป็นนัยอยู่กลายๆว่าเย็นนี้จะต้องสนทนากับครอบครัวของเขาที่โต๊ะอาหารสินะ “ค่ะ” นีรนาตอบรับตามมารยาทพร้อมยกถาดขนมหวานให้

“แม่ค่อนข้างขี้บ่นแต่ก็คงจะเพราะแกแก่แล้วล่ะมั้งครับ”พูดจบก็หัวเราะร่า

ไม่หรอก ... นีรนาขำไม่ออก พี่โต้คงจะพูดไม่ผิดเกี่ยวกับครอบครัวนี้

“ใกล้เสร็จแล้ว”หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เธอก้มหน้ามองกระดาษเขียนขยุกขยิกๆโดยที่ทีคไม่ได้รบกวนเธออีก ชายหนุ่มหยิบแก้วไวน์พร้อมกับนั่งริมขอบสระจุ่มขาลงในน้ำก่อนจะหันไปหาพ่อซึ่งกำลังออกคำถามแก่ตนเอง

นีรนาอยากจะอยู่คนเดียวสักพัก ในสมองของเธอมีคำถามตีกันพัลวัน

เธอเห็นภาพของพี่สาวสี่คนวางแผนไว้อย่างดิบดี คอยเตือนไม่ให้เธอลุ่มหลงทีคมากจนเกินไป พวกเธอบอกว่ามันเป็นแค่ความรักจอมปลอม บอกว่าเธอยังคงอ่อนต่อโลกและที่สำคัญคือคนเราต้องมีชีวิตอยู่ด้วยการเอาตัวรอด ผู้ชายที่ดีนั้นหายากและใช่ว่าทีคจะมีระยะโปรโมชั่นยาวนานกว่าคนอื่นเขา หลังจากนี้เขาอาจจะต้องทะเลาะกับเธอเมื่อตกลงกันเป็นแฟน

นีรนาคอยแย้งภายในใจ ... เธอไม่ได้หลอกเขาและเชื่อว่าทีคเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย เขาไม่มีทางทำให้เธอเสียใจหรอก ... แต่เดี๋ยวก่อนสิ ... เธอพูดออกมาจากใจจริงหรือเพราะความลุ่มหลง?

แล้วปัญหาของฐานะและการศึกษาของครอบครัวทั้งสองแตกต่างกันมาก มีเพียงเสียงนินทาว่ากล่าวทำให้คนที่ต้องทนทุกข์คงจะไม่พ้นเธอ แล้วคราวนี้พ่อแม่ของทีคจะมองดูเธอเป็นอย่างไร นีรนาเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย เธอหันไปยิ้มให้กับพ่อของทีคครั้งหนึ่งก่อนจะรีบก้มหน้าเขียนคำตอบบรรทัดสุดท้ายแล้วจึงรวบกระดาษทุกแผ่นรวมกันไว้ให้บอลตรวจหลังจากเขาพักผ่อนในสระว่ายน้ำเรียบร้อยช่วงเย็น

แม่บ้านเรียกให้ทุกคนเข้าไปร่วมรับประทานอาหารในเวลาหนึ่งทุ่มตรง

ทีคเดินไปจูงมือนีรนานำทางเธอเข้าไปสู่ห้องอาหาร สายตาของผู้เป็นแม่พุ่งตรงมายังนีรนาทันทีที่เธอเดินข้ามกรอบประตูสู่ห้องอาหารแห่งนี้

แม่บ้านตักอาหารให้แก่พวกเขาจนครบแล้วทุกคนจึงลงมือรับประทาน ไม่มีเสียงสนทนากันอีกบนโต๊ะ นีรนาเหลือบมองบอลผู้ที่นิ่งเงียบผิดวิสัยจากเดิมซึ่งพูดจาโผงผางภายในกลุ่มเพื่อนฝูง คุณนายอรุณาเดชตักอาหารให้แก่ลูกชายคนดีของเธอ ทีคตอบรับกล่าวขอบคุณ

ทีคไม่วาย เขาไม่สนใจสายตาของผู้เป็นแม่เมื่อชายหนุ่มตักอาหารให้แก่แฟนสาวของตนเองด้วย

“หนูนีรเรียนบริหารเหมือนทีคหรือเปล่าจ๊ะ”คุณนายอรุณาเดชเอ่ยถาม

หญิงสาวส่ายหน้า “เปล่าค่ะ เรียนคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาคณิตศาสตร์ค่ะ”

“รุ่นน้องของผมน่ะครับ”บอลบอก พ่อกับแม่ของทีคสบตากันเองแล้วจึงพยักหน้ารับ

“แล้วก่อนหน้านี้หนูนีรเรียนที่ไหนล่ะจ๊ะ”

“เรียนใกล้ๆบ้านของครอบครัวค่ะ เป็นมหาวิทยาลัยวิทยาเขตหนึ่งของรัฐบาลเหมือนกัน”ความสงสัยของพ่อแม่เริ่มกระจ่างลงเมื่อถามคำถามเจาะลึกราวกับต้องการรู้ลึกรู้จริงชีวิตของเธอ นีรนาเริ่มไม่สะดวกใจตอบเมื่อแม่ของทีคเอ่ยถามเรื่องอาชีพบุคคลในครอบครัว

หญิงสาวกล่าวแค่เพียงว่าพ่อเป็นอัมพาตและแม่กับพี่สาวทำงานบริการ

“พี่สาวอยู่ในเมืองหลวงสินะจ๊ะ”ดูเหมือนทีคคงบอกแม่ของเขาเช่นนั้น “มาทำงานอะไรที่นี่หรือจ๊ะ”สีหน้าสงสัยของคุณนายอรุณาเดชดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด

นีรนาอ้ำอึ้ง เธอจะบอกได้อย่างไรกันว่าพี่สาวทำงานในร้านคาราโอเกะในย่านสถานเริงรมย์ เธอเริ่มรู้สึกจุกจนกล่าวอะไรไม่ได้อีก ทั้งๆที่ทีคก็เคยเอ่ยถามและเธอก็เลี่ยงจะตอบไปแล้วโดยที่ทีคก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเธอไม่สะดวกใจจึงเลิกถามเพราะอย่างไรเสียมันก็ไม่เกี่ยวกับความรักของคนสองคน

ทว่านีรนาไม่คิดเลยว่าพ่อแม่ของทีคแสดงความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเสียอีก

“ตอนนี้พี่สาวกำลังหางานใหม่น่ะค่ะ”นีรนาโกหก “เธอไม่มีงานแล้ว หนูก็เลยรับสอนพิเศษ”

กลายเป็นว่าพ่อแม่ของทีคพอจะนึกรูปร่างความลำบากของนีรนาได้อย่างชัดเจนขึ้นมากเลยทีเดียว ผู้เป็นพ่อได้แต่เพียงพยักหน้ารับขณะที่แม่ของทีคต้องนิ่งอึ้งเธอหันไปมองดูลูกชายอีกครั้งก่อนจะทานอาหารหวานไม่สอบถามแฟนของลูกชายให้มากความอีก

เมื่อทีคพบว่านีรนาดูมีสีหน้าไม่สบายใจ เขาจึงชวนเธอไปนั่งบริเวณสระว่ายน้ำเพียงลำพัง

“เป็นอะไรหรือเปล่า”ทีคถามพลางดึงข้อมือให้หญิงสาวนั่งใกล้ๆตนเอง เมื่อเห็นแววตาเคร่งเครียดจากนีรนาเขาก็ทนดูอยู่เฉยๆไม่ได้ “ช่างมันเถอะนะ แม่ไม่น่าจะถามนีรมากเลย ผมรู้ว่านีรไม่อยากตอบ”

“ไม่ใช่ไม่อยากตอบ ...” แต่ตอบไม่ได้ต่างหาก ... เธอจะบอกทีคได้อย่างไร

ทีคไม่ต้องการให้เธอรู้สึกว่าเขาซ้ำเติม ชายหนุ่มไม่กล่าวต่อ เขาโน้มใบหน้าจูบมุมปากของเธอเบาๆ “ช่างมันเถอะครับ”ทีคต้องเอ่ยซ้ำพูดเสียงแผ่วๆจับจ้องมองริมฝีปากของนีรนานิ่ง

หญิงสาวมองดูรอยยิ้มหวานของเขาในระยะใกล้ รู้สึกปลายจมูกของทั้งสองชนกันเธอก็หลับตาพริ้มปล่อยให้เขาจุมพิตเบาๆ ทีคค่อยๆเลื่อนสัมผัสขยับริมฝีปาก มือทั้งสองข้างโอบกายของเธอให้อยู่ใต้วงแขนก่อนจะพรมจูบหญิงสาวตามใบหน้า ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งอยากจะชิดใกล้ให้มากขึ้นกว่านี้อีก

นีรนาซบหน้าลงบนแผ่นอกของเขา ทีคหัวเราะเบาๆและจูบหน้าผากของเธออีกครั้ง ลมหายใจร้อนๆอยู่เหนือศีรษะของหญิงสาว

ทีครู้สึกดีที่ได้อยู่กับเธอเพียงแค่สองคนภายในบ้านของเขา ไม่มีใครห้ามความรู้สึกของเขาได้หรอก ไม่มีเลย ... แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ว่าแม่ของตนเองขัดใจกับฐานะทางบ้านของนีรนาอยู่บ้างก็ตาม แต่ความรักระหว่างหนุ่มสาวไม่มีทางห้ามกันได้ ต่อให้ใครที่ไหนก็คงฉุดลากความรู้สึกนี้ไปจากเขาไม่ได้

นีร ... ผมรักคุณจัง



\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\



นีรนาได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของทีคอีกสองสามครั้ง เธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนยกเว้นแม่ของทีค อันที่จริงคุณนายอรุณาเดชก็ปฏิบัติดีต่อเธอเหมือนแขกคนหนึ่งแต่คำพูดซักไซ้ทุกครั้งที่เธออยู่เพียงลำพังกับคุณนายอรุณาเดช เธอมักจะต้องตอบคำถามชีวิตภูมิหลังอย่างเช่นเวลาที่เธอต้องช่วยแม่บ้านล้างจานหลังอาหารเที่ยงและทีคกับพ่อจะสนทนากันเกี่ยวกับงานธุรกิจหรือไม่ก็ข่าวกีฬาในห้องนั่งเล่น

“ต้องจบมาเป็นอาจารย์หรือจ๊ะ”

“ค่ะ”นีรนากล่าว “ไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์แต่ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับงานราชการค่ะ”เธอเห็นสีหน้าไม่พึงพอใจของคุณนายอรุณาเดชก็ทราบได้ว่าเธอไม่ชอบอาชีพประเภทเงินเดือนประจำรายได้แค่พอมีกินมีใช้ ความนึกคิดของคุณนายอาจจะหล่อหลอมให้เธอชอบงานธุรกิจมากกว่าและเธอก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกสะใภ้ของเธอจะสามารถช่วยงานกิจการลูกชายตัวเองได้ดีไม่ใช่อาชีพงานประจำ เงินเดือนตายตัว ถึงแม้ว่าคุณนายอรุณาเดชไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับช่องทางในการหาเงินเสริมจากอาชีพในงานราชการบ้างก็ตามที



“ลูกคิดดีแล้วหรือว่าลูกควรคบผู้หญิงคนนี้”ในที่สุดผู้เป็นแม่ก็ต้องเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ

ทีครู้สึกตกตะลึง ... “ทำไมแม่ถึงพูดแบบนั้น”

“ขอโทษนะจ๊ะลูก”เธอบอก “แต่ลูกต้องนึกถึงอนาคตตัวเองด้วยนะ ตอนนี้ลูกกำลังจะเรียนจบ ป.โท อีกไม่นานก็ต้องต่อเอกในอังกฤษอยู่วันยังค่ำแล้ว ลูกควรจะคิดถึงภรรยามากกว่าแค่แฟนนะลูก”

จู่ๆปัญหาของปรุฬห์ก็ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา ความกดดันทำให้เขารับรู้ได้ถึงการตกอยู่ในสถานการณ์ซึ่งไม่แตกต่างกันมากนักกับพี่ชายตนเอง “ผมไม่เคยคบกับใครเล่นๆหรอกครับแม่ ผมจริงจังกับนีร เธอก็รู้เรื่องนี้”

คุณนายอรุณาเดชนิ่งเงียบเมื่อเห็นคำยืนยันของลูกชาย เธอหันไปมองนอกหน้าต่าง พบหญิงสาวซึ่งได้ชื่อว่าแฟนของลูกชายกำลังสนทนากับสาวใช้และพ่อบ้านอย่างถูกคอ

“แต่แม่ไม่เห็นด้วย”การยื่นคำขาดของแม่ราวกับทำให้หัวใจของทีคสลาย

อาการชาวูบเกิดขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง

“ทำไมครับ”

คุณนายอรุณาเดชครุ่นคิด “เพราะเธอไม่เหมาะสมกับลูก”

“อะไรของแม่ แม่เอาอะไรมาตัดสิน”ทีคเริ่มไม่พอใจ “แม่เอาเงินในบัญชีของผมมาตัดสินกับบัญชีของเธอหรือยังไง”

“เธอไม่เหมาะสมกับลูก”คุณแม่ยืนยันจ้องมองลูกอย่างจริงจัง “แม่กำลังบอกให้ลูกหาภรรยา ไม่ใช่แฟน”

“ผมไม่ได้หวังว่าเราจะชอบกันและหยุดอยู่ที่คำว่าแฟน”ทีคบอก

เมื่อลูกชายไม่หยุดเถียง เธอจึงต้องออกคำสั่ง “แม่ไม่อนุญาตให้ลูกคบกับเธอ ลูกได้ยินไหม”

“แม่ครับ!”

เสียงสนทนาของทั้งสองดังออกไปจนถึงข้างนอก พ่อบ้านและนีรนาหันไปมองดูพวกเขาพูดคุยราวกับกำลังทะเลาะกันอยู่

“อย่าไปสนใจเลยครับ คุณทีคกับคุณไพรินมีความเห็นไม่ตรงกันบ่อยๆแต่อีกประเดี๋ยวเดียวคุณไพรินก็จะกลับมาโอ๋ลูกชายโทนคนเดียวเหมือนอย่างเคย”

นีรนาไม่คิดเช่นนั้น ... เธอเองก็รู้สึกได้ว่าคุณนายอรุณาเดชไม่ชอบการมาเยือนของเธอเท่าใดนัก การทะเลาะกันครั้งนี้อาจจะเกี่ยวกับเธอก็ได้ ความประหวั่นในใจลึกๆทำให้หญิงสาวหาโอกาสเดินปลีกตัวออกมาและเดินหลบเข้าไปในบ้านบริเวณปลอดจากคนใช้เพื่อรับฟังสิ่งที่ทั้งสองสนทนากันให้ถนัดชัดขึ้น

“ชีวิตครอบครัวมันต่างจากความรักวัยหนุ่มสาว ลูกอาจจะคิดว่าเธอเหมาะสมกับลูกก็แค่ตอนนี้เท่านั้น”

“ผมไม่รู้ว่าเราจะเหมาะสมกันยาวไกลแค่ไหน แต่นีรเป็นแฟนผม ... คนเราจะตกลงปลงใจกันได้ก็ต้องคบหากันก่อนไม่ใช่หรือครับแม่ แม่เจอเธอแค่ไม่กี่ครั้งทำไมถึงตัดโอกาสที่จะทำให้ผมรู้จักเธอมากกว่านี้”

“พอได้แล้วนะ ทีค”แม่ส่งเสียงห้าม “แม่ไม่คิดว่าลูกจะคบกับเธอได้นานนักหรอก แม่ไม่อยากให้ลูกเสียใจภายหลัง แม่หวังดีกับลูกไม่เข้าใจหรืออย่างไร”

“แม่!”ทีคไม่มีสิทธิ์ที่จะเถียงหรอก เขาฟังเพียงคำสั่งของแม่ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจลูกชายซึ่งตะโกนยืนยันกล่าวว่าแม่ไม่มีสิทธิ์บังคับเขาในเรื่องนี้ได้

นีรนาได้ฟังเช่นนั้นเธอก็แทบจะตัวชาก้าวขาไม่ออก หญิงสาวได้ยินเสียงเปิดประตูห้องจึงเดินสับขาถี่ๆออกไปทบทวนคำพูดของคุณนายเมื่อครู่บริเวณสระน้ำเพียงลำพัง จู่ๆเธอก็หายใจไม่ทั่วท้อง ... แรงกดดันที่เธอได้รับจากบ้านหลังนี้ก็คงมาจากแม่ของทีค เธอรู้สึกแย่ รู้สึกแย่มากๆ หน้าของเธอแดงก่ำเหงื่อแตกพลั่กโดยไร้สาเหตุ ทำไมเธอจึงรู้สึกผิดเช่นนี้ ... ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

... นั่นสินะ เธอควรรับฟังความเห็นจากพี่สาวทั้งสี่ตั้งแต่เริ่มแรก เธอไม่ควรจริงจังกับทีคเพราะสุดท้ายแล้วอุปสรรคบางอย่างก็ต้องทำให้เธอกับเขาลงรอยกันไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องของครอบครัว ...

เธอผิดหวังและรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในบัดดล

“นีรครับ”หญิงสาวได้ยินเสียงเรียกของทีคจากบริเวณที่ไกลออกไป “นีร”

นีรนาต้องหลบเข้าไปในพุ่มไม้กอดอกแน่นๆถอนหายใจยาวๆพยายามปรับสีหน้าไม่ให้ทีครู้ว่าเธอกำลังปวดใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งจะได้ยินจากคุณแม่ของเขา

“นีร”ทีคหันไปยิ้มให้แก่เธอก่อนจะเดินเข้าไปจูงมือราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่ผ่านมา “แม่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวแม่จะออกไปธุระข้างนอก นีรไปทานอาหารกับผมสองคนเถอะนะ”นีรนายืนนิ่ง “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ร้อนน่ะค่ะ”หญิงสาวรีบพูดแทรกแสร้งยิ้มตอบ

ทำไมทีคยังคงมีสีหน้าระรื่นได้อีก? เขาคงไม่อยากให้เธอรู้หรอกว่าเขาพูดอะไรกับคุณนายอรุณาเดชก่อนที่แม่ของเขาจะออกไปทำธุระข้างนอก

“พรุ่งนี้นีรว่างใช่ไหม? ไปดูหนังด้วยกันดีไหมครับ?”

“ก็ได้ค่ะ”เธอบอกพลางมองเครื่องแกงตรงหน้าตนเอง

มื้อนี้เป็นฝีมือของคุณนายอรุณาเดช หญิงสาวรู้ดีว่าแม่ของทีคมีฝีมือในการทำอาหารระดับดีทีเดียวแต่ไม่ใช่มื้อนี้อีกแล้วเพราะเธอมองเห็นแววตาขยะแขยงของคุณนายหลอกหลอนจับจ้องมองเธออยู่บนผิวแกงสีขุ่น

“นีรไม่หิวหรือ? ไม่สบายใช่ไหม?”

“ปะ เปล่าค่ะ”เธอรีบปฏิเสธทานอาหารร่วมกันกับเขาโดยที่ในใจลึกๆของเธอกำลังส่งเสียงร้องด้วยความทุกข์ทรมาน

“ทานให้เต็มที่นะครับ”รอยยิ้มของทีคนั้นบริสุทธิ์

นีรนาจะได้ชื่นชมรอยยิ้มของเขาด้วยความอบอุ่นใจไปจนถึงเมื่อไหร่กัน

วันนี้ พรุ่งนี้ ... หรือจะไม่มีอีกแล้ว ...

จากคุณ : davidmccartney
เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 54 17:11:16 A:202.12.74.1 X: TicketID:318829




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com