ความคิดเห็นที่ 1 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง จากคุณ : เรียวรุ้ง เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 11:40:54

ความคิดเห็นที่ 2 สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 11:48:35

ความคิดเห็นที่ 3 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 12:07:52

ความคิดเห็นที่ 4 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟั ง ค ลั บ ค ล้ า ย   ค ร่ำ ค ร ว ญ   โ ห ย ห ว น ยิ่ ง ส ร ร พ สิ่ ง   ผ ส า น    ทั้ ง ม่ า น แ ส ง ฟ้ า ส า ด แ ส้   ส อ ด เ ส ริ ม   เ ติ ม เ รี่ ย ว แ ร ง ดุ จ เ ติ ม แ ต่ ง   แ ต้ ม ต า ม   ย า ม ฟ้ า พ า ล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ   ฟ้าคล้ายๆจะกำลังพาลนะขอรับ..... จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 13:34:37

ความคิดเห็นที่ 5 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 14:25:48

ความคิดเห็นที่ 6 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 15:07:07

ความคิดเห็นที่ 7 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา . จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 18:00:34

ความคิดเห็นที่ 8 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 54 20:36:41 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 20:35:49

ความคิดเห็นที่ 9 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัน ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 13:59:45

ความคิดเห็นที่ 10 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัด ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม เมื่อฝนหยุด ฝันซา  อุราฟื้น ทนกล้ำกลืน สะอื้นครวญ  วัยล้วนหวาน ความทรงจำ ย้ำคราเดียว เชิงเชี่ยวชาญ เริงสราญ  แรกยิ้ม  อิ่มวังวน..............แพร (แฟนนายแบบ) แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 14:37:42 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:35:29

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 10     ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัด ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม เมื่อฝนหยุด ฝันซา  อุราฟื้น ทนกล้ำกลืน สะอื้นครวญ  วัยล้วนหวาน ความทรงจำ ย้ำคราเดียว เชิงเชี่ยวชาญ เริงสราญ  แรกยิ้ม  อิ่มวังวน..............แพร (แฟนนายแบบ) สมานฉันท์ กันก่อน ย้อนอดีต ความปราณีต ขาดซึ้ง จึงสับสน เพิ่มชูรส  เติมบท  ลดกังวล ระเริงชล  ท่องคลื่น  ให้ครื้นเครง จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:48:15

ความคิดเห็นที่ 12 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัด ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม เมื่อฝนหยุด ฝันซา  อุราฟื้น ทนกล้ำกลืน สะอื้นครวญ  วัยล้วนหวาน ความทรงจำ ย้ำคราเดียว เชิงเชี่ยวชาญ เริงสราญ  แรกยิ้ม  อิ่มวังวน..............แพร (แฟนนายแบบ) สมานฉันท์ กันก่อน ย้อนอดีต ความปราณีต ขาดซึ้ง จึงสับสน เพิ่มชูรส  เติมบท  ลดกังวล ระเริงชล  ท่องคลื่น  ให้ครื้นเครง....... ลุงชิกง ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 15:09:32 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 15:08:23 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 15:07:33 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 15:04:55

ความคิดเห็นที่ 13 ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัด ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม เมื่อฝนหยุด ฝันซา  อุราฟื้น ทนกล้ำกลืน สะอื้นครวญ  วัยล้วนหวาน ความทรงจำ ย้ำคราเดียว เชิงเชี่ยวชาญ เริงสราญ  แรกยิ้ม  อิ่มวังวน..............แพร (แฟนนายแบบ) สมานฉันท์ กันก่อน ย้อนอดีต ความปราณีต ขาดซึ้ง จึงสับสน เพิ่มชูรส  เติมบท  ลดกังวล ระเริงชล  ท่องคลื่น  ให้ครื้นเครง....... ลุงชิกง ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 15:38:59

ความคิดเห็นที่ 14 ....... ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม ฝ่าสายฝน ฝ่าลมเย็น ให้เหน็บหนาว ใจปวดร้าว โดนเยียบย่ำ โดนข่มเหง รักษาใจ แหลกละเอียด ด้วยบทเพลง ผ่านดนตรี ที่บรรเลง อยู่รอบกาย..................................ปอ จากคุณ : pormare เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 16:15:15

ความคิดเห็นที่ 15 ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม ฝ่าสายฝน ฝ่าลมเย็น ให้เหน็บหนาว ใจปวดร้าว โดนเยียบย่ำ โดนข่มเหง รักษาใจ แหลกละเอียด ด้วยบทเพลง ผ่านดนตรี ที่บรรเลง อยู่รอบกาย..................................ปอ ฟ้ายังครวญ ครื้นๆ สะอื้นจิต พาลให้คิด เตลิดไป ไร้จุดหมาย วกจนวน ไปถึงคน ทำร้ายใจ บทสุดท้าย ก็ร่ำไห้ กับเสียงเพลง................................บ้านสายไหม จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 16:27:33

ความคิดเห็นที่ 16 มาแอบอ่านค่ะ (เพราะจังเลย) เพิ่งมาห้องนี้ครั้งแรกค่ะ จากคุณ : เหล้าใหม่ในขวดเก่า (noobiap) เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 16:50:40

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ เหล้าใหม่ในขวดเก่า  แวะมาบ่อยๆนะคะ ร่วมสนุกต่อกลอนด้วยกันน้า จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 16:59:49

ความคิดเห็นที่ 18 ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม ฝ่าสายฝน ฝ่าลมเย็น ให้เหน็บหนาว ใจปวดร้าว โดนเยียบย่ำ โดนข่มเหง รักษาใจ แหลกละเอียด ด้วยบทเพลง ผ่านดนตรี ที่บรรเลง อยู่รอบกาย..................................ปอ ฟ้ายังครวญ ครื้นๆ สะอื้นจิต พาลให้คิด เตลิดไป ไร้จุดหมาย วกจนวน ไปถึงคน ทำร้ายใจ บทสุดท้าย ก็ร่ำไห้ กับเสียงเพลง................................บ้านสายไหม เพราะดนตรี        ประกอบสร้าง        อย่างเราคิด เพราะลิขิต          จังหวะ                 ตรงใจเผง เพราะคำร้อง       จิตประหวัด           ผูกไปเอง เพราะครื้นเครง    หรือเหงาเศร้า        เคล้าทำนอง..............แฟนนายแบบ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 17:20:26 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 17:17:52

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะดนตรี        ประกอบสร้าง        อย่างเราคิด เพราะลิขิต          จังหวะ                 ตรงใจเผง เพราะคำร้อง       จิตประหวัด           ผูกไปเอง เพราะครื้นเครง    หรือเหงาเศร้า        เคล้าทำนอง..............แฟนนายแบบ แว่วสังคีต  รีตทำนองเสนาะ ช่างไพเราะ  ตอกย้ำ  ฟังซ้ำสอง บทเพลงชี้  ดีมาก  ยากไตร่ตรอง ไม่สอดคล้อง  ตรงใจ  ไฉนนวล..............อั้งชิ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 17:48:55

ความคิดเห็นที่ 20 ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม ฝ่าสายฝน ฝ่าลมเย็น ให้เหน็บหนาว ใจปวดร้าว โดนเยียบย่ำ โดนข่มเหง รักษาใจ แหลกละเอียด ด้วยบทเพลง ผ่านดนตรี ที่บรรเลง อยู่รอบกาย..................................ปอ ฟ้ายังครวญ ครื้นๆ สะอื้นจิต พาลให้คิด เตลิดไป ไร้จุดหมาย วกจนวน ไปถึงคน ทำร้ายใจ บทสุดท้าย ก็ร่ำไห้ กับเสียงเพลง................................บ้านสายไหม เพราะดนตรี        ประกอบสร้าง        อย่างเราคิด เพราะลิขิต          จังหวะ                 ตรงใจเผง เพราะคำร้อง       จิตประหวัด           ผูกไปเอง เพราะครื้นเครง    หรือเหงาเศร้า        เคล้าทำนอง..............แฟนนายแบบ แว่วสังคีต  รีตทำนองเสนาะ ช่างไพเราะ  ตอกย้ำ  ฟังซ้ำสอง บทเพลงชี้  ดีมาก  ยากไตร่ตรอง ไม่สอดคล้อง  ตรงใจ  ไฉนนวล..............อั้งชิ เพราะแว่วเสียง   ขัดขวาง   การหลุดพ้น เพราะกมล      นิมิต          คิดหอมหวล เพราะถ้อยคำ  เรียกน้ำตา   แทบทั้งมวล เพราะคร่ำครวญ  จึงปิดกั้น   ทางนิพพาน...........แฟนนายแบบ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 18:31:30 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 18:21:20 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 18:17:40

ความคิดเห็นที่ 21 ดูท่ากิ๊ฟจะหมดก็ครานี้แล ขอบคุณพี่ๆทุกท่านจากหัวใจเลยค่ะ ห้องนี้อบอุ๊นอบอุ่น จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 18:34:09

ความคิดเห็นที่ 22 เดี๋ยวขอเวลาไปคิดก่อน จะต่ออะไรอีกดีน้า อิอิ ระหว่างนี้ใครคิดได้ มาต่อให้หน่อยนะคร้า จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 18:47:24

ความคิดเห็นที่ 23 1.ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม 2.เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง 3.สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี 4.ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ 5.จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม 6.วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ 7.หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา 8.แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) 9.อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัด ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม 10.เมื่อฝนหยุด ฝันซา  อุราฟื้น ทนกล้ำกลืน สะอื้นครวญ  วัยล้วนหวาน ความทรงจำ ย้ำคราเดียว เชิงเชี่ยวชาญ เริงสราญ  แรกยิ้ม  อิ่มวังวน..............แพร (แฟนนายแบบ) 11.สมานฉันท์ กันก่อน ย้อนอดีต ความปราณีต ขาดซึ้ง จึงสับสน เพิ่มชูรส  เติมบท  ลดกังวล ระเริงชล  ท่องคลื่น  ให้ครื้นเครง....... ลุงชิกง 12.ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) 13.นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม 14.ฝ่าสายฝน ฝ่าลมเย็น ให้เหน็บหนาว ใจปวดร้าว โดนเยียบย่ำ โดนข่มเหง รักษาใจ แหลกละเอียด ด้วยบทเพลง ผ่านดนตรี ที่บรรเลง อยู่รอบกาย..................................ปอ 15.ฟ้ายังครวญ ครื้นๆ สะอื้นจิต พาลให้คิด เตลิดไป ไร้จุดหมาย วกจนวน ไปถึงคน ทำร้ายใจ บทสุดท้าย ก็ร่ำไห้ กับเสียงเพลง................................บ้านสายไหม 16.เพราะดนตรี        ประกอบสร้าง        อย่างเราคิด เพราะลิขิต          จังหวะ                 ตรงใจเผง เพราะคำร้อง       จิตประหวัด           ผูกไปเอง เพราะครื้นเครง    หรือเหงาเศร้า        เคล้าทำนอง..............แฟนนายแบบ 17.แว่วสังคีต  รีตทำนองเสนาะ ช่างไพเราะ  ตอกย้ำ  ฟังซ้ำสอง บทเพลงชี้  ดีมาก  ยากไตร่ตรอง ไม่สอดคล้อง  ตรงใจ  ไฉนนวล..............อั้งชิ 18.เพราะแว่วเสียง   ขัดขวาง   การหลุดพ้น เพราะกมล      นิมิต          คิดหอมหวล เพราะถ้อยคำ  เรียกน้ำตา   แทบทั้งมวล เพราะคร่ำครวญ  จึงปิดกั้น   ทางนิพพาน...........แฟนนายแบบ 19.แต่สัตว์โลก  จริตล้วน        มากมาย แล้วจะตัด   กิเลสคลาย              หายหักหาญ โพธิสัตว์     เวียนแวะ                 พรประทาน ข้ามสงสาร    หยุดภพชาติ           ด้วยปัญญา...........แฟนนายแบบ 20.หญิงสาวเอง  หยิบอ้าง         หมื่นคัมภีร์ หากจิตนาง    นั้นมากมี            แสนปัญหา พยายาม      ข่มไว้                 ซึ่งอัตตา กรุณา         จงแผ่คุ้ม              จักรวาล...........แฟนนายแบบ 21. เมื่อฝนไหล  เอื่อยริน         ดินเซาะไหล น้ำตาพร่าง        ก้อนกลางใจ   ไม่สนาน วัฏจักร             ยังหมุน          ชั่วกัปป์กาล เมื่อเกิดขึ้น       ก็เจ็บนาน         ร้าวรานกาย .......................แฟนนายแบบ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 21:34:51 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 21:22:18 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 21:15:18 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 20:41:09

ความคิดเห็นที่ 24 21. เมื่อฝนไหล  เอื่อยริน         ดินเซาะไหล น้ำตาพร่าง        ก้อนกลางใจ   ไม่สนาน วัฏจักร             ยังหมุน          ชั่วกัปป์กาล เมื่อเกิดขึ้น       ก็เจ็บนาน         ร้าวรานกาย .......................แฟนนายแบบ 22. อยากจะดับ ดวงใจ ที่แดดิ้น แม้ม้วยสิ้น หมดฝัน  พลันสลาย เจ็บก็เจ็บ แต่เท่านี้ ไม่ถึงตาย เลือกทางเดิน เส้นสุดท้าย ก่อนวายชนม์.....................บ้านสายไหม จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 08:23:56

ความคิดเห็นที่ 25 22. อยากจะดับ ดวงใจ ที่แดดิ้น แม้ม้วยสิ้น หมดฝัน  พลันสลาย เจ็บก็เจ็บ แต่เท่านี้ ไม่ถึงตาย เลือกทางเดิน เส้นสุดท้าย ก่อนวายชนม์.....................บ้านสายไหม 23. เมื่อฝนแล้ง   เราเรียก   เพรียกสายน้ำ เมื่อเราช้ำ    เราร่ำ    กับสายฝน เมื่อเราป่วย   เราถ่วง    กับชีพตน เมื่อรักคน    เราทน     กับอะไร จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 12:52:40

ความคิดเห็นที่ 26 22. อยากจะดับ ดวงใจ ที่แดดิ้น แม้ม้วยสิ้น หมดฝัน  พลันสลาย เจ็บก็เจ็บ แต่เท่านี้ ไม่ถึงตาย เลือกทางเดิน เส้นสุดท้าย ก่อนวายชนม์.....................บ้านสายไหม 23. เมื่อฝนแล้ง   เราเรียก   เพรียกสายน้ำ เมื่อเราช้ำ    เราร่ำ    กับสายฝน เมื่อเราป่วย   เราถ่วง    กับชีพตน เมื่อรักคน    เราทน     กับอะไร ...........................แฟนนายแบบ 24.  ทนเพราะรัก  ปักใจ  ใคร่ถวิล ทนเพราะชิน  ความดี  เขามีให้ ไม่ทนเพราะ  เขานั้น  คิดปันใจ ไม่ทนเพราะ  ปันให้  ใครไม่เป็น ..............อั้งชิ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 14:42:30

ความคิดเห็นที่ 27 22. อยากจะดับ ดวงใจ ที่แดดิ้น แม้ม้วยสิ้น หมดฝัน  พลันสลาย เจ็บก็เจ็บ แต่เท่านี้ ไม่ถึงตาย เลือกทางเดิน เส้นสุดท้าย ก่อนวายชนม์.....................บ้านสายไหม 23. เมื่อฝนแล้ง   เราเรียก   เพรียกสายน้ำ เมื่อเราช้ำ    เราร่ำ    กับสายฝน เมื่อเราป่วย   เราถ่วง    กับชีพตน เมื่อรักคน    เราทน     กับอะไร ...........................แฟนนายแบบ 24.  ทนเพราะรัก  ปักใจ  ใคร่ถวิล ทนเพราะชิน  ความดี  เขามีให้ ไม่ทนเพราะ  เขานั้น  คิดปันใจ ไม่ทนเพราะ  ปันให้  ใครไม่เป็น ..............อั้งชิ 25.  เมฆคลายครึ้ม  ฝนสร่างซา   ฟ้าสว่าง หยดพราวพร่าง   ฝนประกาย   คล้ายเคยเห็น เร่งซ่อมแซม    ห้องหัวใจ      อย่างลำเค็ญ จัดวางเป็น  แลอย่างเช่น        ก่อนฝนมา.................ชิโอริ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 16:41:35 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 16:31:50 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 16:01:37 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 16:00:49

ความคิดเห็นที่ 28 25.  เมฆคลายครึ้ม  ฝนสร่างซา   ฟ้าสว่าง หยดพราวพร่าง   ฝนประกาย   คล้ายเคยเห็น เร่งซ่อมแซม    ห้องหัวใจ      อย่างลำเค็ญ จัดวางเป็น  แลอย่างเช่น        ก่อนฝนมา.................ชิโอริ 26.  เงาอดีต หลีกผ่าน เลิกขานขับ ฝนลาลับ     นับหนึ่ง    คนึงหา ฟ้าหลังฝน    สวยงาม   ถามกานดา ปรารถนา     ฤาไม่   ไขความจริง..............อั้งชิ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 17:50:11

ความคิดเห็นที่ 29 22. อยากจะดับ ดวงใจ ที่แดดิ้น แม้ม้วยสิ้น หมดฝัน  พลันสลาย เจ็บก็เจ็บ แต่เท่านี้ ไม่ถึงตาย เลือกทางเดิน เส้นสุดท้าย ก่อนวายชนม์.....................บ้านสายไหม 23. เมื่อฝนแล้ง   เราเรียก   เพรียกสายน้ำ เมื่อเราช้ำ    เราร่ำ    กับสายฝน เมื่อเราป่วย   เราถ่วง    กับชีพตน เมื่อรักคน    เราทน     กับอะไร ...........................แฟนนายแบบ 24.  ทนเพราะรัก  ปักใจ  ใคร่ถวิล ทนเพราะชิน  ความดี  เขามีให้ ไม่ทนเพราะ  เขานั้น  คิดปันใจ ไม่ทนเพราะ  ปันให้  ใครไม่เป็น ..............อั้งชิ 25.  เมฆคลายครึ้ม  ฝนสร่างซา   ฟ้าสว่าง หยดพราวพร่าง   ฝนประกาย   คล้ายเคยเห็น เร่งซ่อมแซม    ห้องหัวใจ      อย่างลำเค็ญ จัดวางเป็น  แลอย่างเช่น        ก่อนฝนมา.................ชิโอริ 26.  เงาอดีต หลีกผ่าน เลิกขานขับ ฝนลาลับ     นับหนึ่ง    คนึงหา ฟ้าหลังฝน    สวยงาม   ถามกานดา ปรารถนา     ฤาไม่   ไขความจริง..............อั้งชิ 27. ฟ้ามีฝน  ตลอดกาล  ผ่านมานี้ ไต้ฝุ่นมี     มรสุม   ร่วมรุมสิง อยู่กับบ้าน   มองเมฆฝน  ปนประวิง หนาวเหน็บยิ่ง  ย่างฤดู   หดหู่พลัน.............ชิโอริ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 19:29:19

ความคิดเห็นที่ 30 27. ฟ้ามีฝน  ตลอดกาล  ผ่านมานี้ ไต้ฝุ่นมี     มรสุม   ร่วมรุมสิง อยู่กับบ้าน   มองเมฆฝน  ปนประวิง หนาวเหน็บยิ่ง  ย่างฤดู   หดหู่พลัน.............ชิโอริ 28. เสมือนฟ้า     กระหน่ำซ้ำ   โชคชะตา ลิขิตขีด   เขียนมา   ราวภาพฝัน ล่อหลอก   ลวงตา   อยู่ทุกวัน ชีวิตต้อง    ฝ่าฟัน    กันต่อไป .............บ้านสายไหม จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 17:49:43

ความคิดเห็นที่ 31 27. ฟ้ามีฝน  ตลอดกาล  ผ่านมานี้ ไต้ฝุ่นมี     มรสุม   ร่วมรุมสิง อยู่กับบ้าน   มองเมฆฝน  ปนประวิง หนาวเหน็บยิ่ง  ย่างฤดู   หดหู่พลัน.............ชิโอริ 28. เสมือนฟ้า     กระหน่ำซ้ำ   โชคชะตา ลิขิตขีด   เขียนมา   ราวภาพฝัน ล่อหลอก   ลวงตา   อยู่ทุกวัน ชีวิตต้อง    ฝ่าฟัน    กันต่อไป .............บ้านสายไหม 29.  ลิขิตฟ้า  ไม่สู้  มานะเจ้า ทุกเรื่องเรา  กรรมลิขิต  มาแต่ไหน การกระทำ มุบากบั่น   ฝันไม่ไกล ทำดีไว้  ฟ้าส่งให้  ชายแสนซน.........แฟนนายแบบ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 54 18:26:02 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 18:16:32

ความคิดเห็นที่ 32 29.  ลิขิตฟ้า  ไม่สู้  มานะเจ้า ทุกเรื่องเรา  กรรมลิขิต  มาแต่ไหน การกระทำ มุบากบั่น   ฝันไม่ไกล ทำดีไว้  ฟ้าส่งให้  ชายแสนซน.........แฟนนายแบบ 30. ฟ้าส่งให้  ชายหนึ่ง  พึงรับรู้ เขาแสนซน  เหลืออยู่  ดูสับสน ฝันไม่ไกล  จึ่งได้..  หายกังวล ฤาตกหล่น  ตกสำรวจ  ตรวจดีดี ..............อั้งชิ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 14:01:53

ความคิดเห็นที่ 33 1.ฝนริน ร่ำไห้ ให้ใจหนาว น้ำตาพราว เปื้อนเปรอะ เลอะแก้มใส ยังนั่งมอง แผ่นฟ้าครึ้ม ยังอาลัย ด้วยดวงใจ ถูกย่ำ ให้ช้ำตรม .......................บ้านสายไหม 2.เสียงลมครวญ หวิวหวีด กรีดใจช้ำ ราวตอกย้ำ ซ้ำให้ ใจขื่นขม ใจหนาวเหน็บ เจ็บร้าว ใจระบม ใต้ฟ้าตรม ทุกข์ระทม เหลือข่มใจ....................เรียวรุ้ง 3.สายฝนสาด กระเซ็น เย็นในอก น้ำตาตก คล้ายฝน ที่หลั่งไหล สายฟ้าฟาด กราดเกรี้ยว ลงกลางใจ โทมนัส หวั่นฤทัย ให้อ่อนแรง ........................รอยยิ้มของคนดี 4.ฟังคลับคล้าย  คร่ำครวญ  โหยหวนยิ่ง สรรพสิ่ง  ผสาน  ทั้งม่านแสง ฟ้าสาดแส้  สอดเสริม เติมเรี่ยวแรง ดุจเติมแต่ง แต้มตาม  ยามฟ้าพาล . . . . . . . . . . . . . .เปลวกวีฯ 5.จะเหลียวขวา แลซ้าย กายยังหนาว หัวใจร้าว อ่อนไหว ให้สงสาร นั่งอยู่บน เข็มเวลา ของวันวาน ให้สายฟ้า ฟาดผ่าน ดวงฤดี..........................บ้านสายไหม 6.วิปโยค  โศกศัลย์  ทัณฑ์สวาท สายฟ้าฟาด ฝนสาด มิอาจหนี แม้หนาวกาย  สั่นใจ  ไม่หลีกลี้ ดวงฤดี  พร้อมพลี  ด้วยปมใด.............อั้งชิ 7.หนาวเหน็บใน ใจเจ้า สุดร้าวเจ็บ ไม่อาจเก็บ ลึกข่ม รอยตรมไหว ระบายวาง เจือฝน ที่หล่นไกล ชะล้างใจ มืดมน ด้วยฝนโปรย..............สุนันยา 8.แค่ฝนหนาว  บังดาว  คืนคราวนี้ ตรองให้ดี    ถี่ถ้วน  ล้วนแรงโหย แค่ผู้ชาย   คล้ายผ่าน  ก่อนกาลโรย แค่ลมโชย  พัดพลิ้ว  ให้หวิวไป..............แพร (แฟนนายแบบ) 9.อยากจะแกร่ง อยากจะกล้า แล้วยืนหยัด ตัดเชือกมัด ดวงฤดี ที่คลอนไหว หั่นให้ขาด สะบั้นแหลก ไม่เหลือใย เพื่อหลุดพ้น วังวนใจ ที่ร้าวราน.....................บ้านสายไหม 10.เมื่อฝนหยุด ฝันซา  อุราฟื้น ทนกล้ำกลืน สะอื้นครวญ  วัยล้วนหวาน ความทรงจำ ย้ำคราเดียว เชิงเชี่ยวชาญ เริงสราญ  แรกยิ้ม  อิ่มวังวน..............แพร (แฟนนายแบบ) 11.สมานฉันท์ กันก่อน ย้อนอดีต ความปราณีต ขาดซึ้ง จึงสับสน เพิ่มชูรส  เติมบท  ลดกังวล ระเริงชล  ท่องคลื่น  ให้ครื้นเครง....... ลุงชิกง 12.ยามฝนโปรย  เกาะหนาว     รวดร้าวกอด มวลปรอท      ดำดิ่ง          ยิ่งโหวงเหวง คลื่นความเงียบ มวลเฉียบ   เย็นกายเกรง มีเพียงเพลง   บรรเลง        แล้วหายกลัว............แพร (แฟนนายแบบ) 13.นึกหวนไป      แต่ฉไน       ใจแอบเหงา ฟังเพลงเก่า   ท่ามกลางฝน  ปนฟ้าหลัว เอื้อมมือคว้า  ความว่างเปล่า  รายรอบตัว สั่งหัวใจ       ไม่ให้กลัว        แต่วังเวง .........................บ้านสายไหม 14.ฝ่าสายฝน ฝ่าลมเย็น ให้เหน็บหนาว ใจปวดร้าว โดนเยียบย่ำ โดนข่มเหง รักษาใจ แหลกละเอียด ด้วยบทเพลง ผ่านดนตรี ที่บรรเลง อยู่รอบกาย..................................ปอ 15.ฟ้ายังครวญ ครื้นๆ สะอื้นจิต พาลให้คิด เตลิดไป ไร้จุดหมาย วกจนวน ไปถึงคน ทำร้ายใจ บทสุดท้าย ก็ร่ำไห้ กับเสียงเพลง................................บ้านสายไหม 16.เพราะดนตรี        ประกอบสร้าง        อย่างเราคิด เพราะลิขิต          จังหวะ                 ตรงใจเผง เพราะคำร้อง       จิตประหวัด           ผูกไปเอง เพราะครื้นเครง    หรือเหงาเศร้า        เคล้าทำนอง..............แฟนนายแบบ 17.แว่วสังคีต  รีตทำนองเสนาะ ช่างไพเราะ  ตอกย้ำ  ฟังซ้ำสอง บทเพลงชี้  ดีมาก  ยากไตร่ตรอง ไม่สอดคล้อง  ตรงใจ  ไฉนนวล..............อั้งชิ 18.เพราะแว่วเสียง   ขัดขวาง   การหลุดพ้น เพราะกมล      นิมิต          คิดหอมหวล เพราะถ้อยคำ  เรียกน้ำตา   แทบทั้งมวล เพราะคร่ำครวญ  จึงปิดกั้น   ทางนิพพาน...........แฟนนายแบบ 19.แต่สัตว์โลก  จริตล้วน        มากมาย แล้วจะตัด   กิเลสคลาย              หายหักหาญ โพธิสัตว์     เวียนแวะ                 พรประทาน ข้ามสงสาร    หยุดภพชาติ           ด้วยปัญญา...........แฟนนายแบบ 20.หญิงสาวเอง  หยิบอ้าง         หมื่นคัมภีร์ หากจิตนาง    นั้นมากมี            แสนปัญหา พยายาม      ข่มไว้                 ซึ่งอัตตา กรุณา         จงแผ่คุ้ม              จักรวาล...........แฟนนายแบบ 21. เมื่อฝนไหล  เอื่อยริน         ดินเซาะไหล น้ำตาพร่าง        ก้อนกลางใจ   ไม่สนาน วัฏจักร             ยังหมุน          ชั่วกัปป์กาล เมื่อเกิดขึ้น       ก็เจ็บนาน         ร้าวรานกาย .......................แฟนนายแบบ 22. อยากจะดับ ดวงใจ ที่แดดิ้น แม้ม้วยสิ้น หมดฝัน  พลันสลาย เจ็บก็เจ็บ แต่เท่านี้ ไม่ถึงตาย เลือกทางเดิน เส้นสุดท้าย ก่อนวายชนม์.....................บ้านสายไหม 23. เมื่อฝนแล้ง   เราเรียก   เพรียกสายน้ำ เมื่อเราช้ำ    เราร่ำ    กับสายฝน เมื่อเราป่วย   เราถ่วง    กับชีพตน เมื่อรักคน    เราทน     กับอะไร ...........................แฟนนายแบบ 24.  ทนเพราะรัก  ปักใจ  ใคร่ถวิล ทนเพราะชิน  ความดี  เขามีให้ ไม่ทนเพราะ  เขานั้น  คิดปันใจ ไม่ทนเพราะ  ปันให้  ใครไม่เป็น ..............อั้งชิ 25.  เมฆคลายครึ้ม  ฝนสร่างซา   ฟ้าสว่าง หยดพราวพร่าง   ฝนประกาย   คล้ายเคยเห็น เร่งซ่อมแซม    ห้องหัวใจ      อย่างลำเค็ญ จัดวางเป็น  แลอย่างเช่น        ก่อนฝนมา.................ชิโอริ 26.  เงาอดีต หลีกผ่าน เลิกขานขับ ฝนลาลับ     นับหนึ่ง    คนึงหา ฟ้าหลังฝน    สวยงาม   ถามกานดา ปรารถนา     ฤาไม่   ไขความจริง..............อั้งชิ 27. ฟ้ามีฝน  ตลอดกาล  ผ่านมานี้ ไต้ฝุ่นมี     มรสุม   ร่วมรุมสิง อยู่กับบ้าน   มองเมฆฝน  ปนประวิง หนาวเหน็บยิ่ง  ย่างฤดู   หดหู่พลัน.............ชิโอริ 28. เสมือนฟ้า     กระหน่ำซ้ำ   โชคชะตา ลิขิตขีด   เขียนมา   ราวภาพฝัน ล่อหลอก   ลวงตา   อยู่ทุกวัน ชีวิตต้อง    ฝ่าฟัน    กันต่อไป .............บ้านสายไหม 29.  ลิขิตฟ้า  ไม่สู้  มานะเจ้า ทุกเรื่องเรา  กรรมลิขิต  มาแต่ไหน การกระทำ มุบากบั่น   ฝันไม่ไกล ทำดีไว้  ฟ้าส่งให้  ชายแสนซน.........แฟนนายแบบ 30. ฟ้าส่งให้  ชายหนึ่ง  พึงรับรู้ เขาแสนซน  เหลืออยู่  ดูสับสน ฝันไม่ไกล  จึ่งได้..  หายกังวล ฤาตกหล่น  ตกสำรวจ  ตรวจดีดี ..............อั้งชิ 31.  พยายาม  จะเป็น  เช่นใจเขา แต่ตัวเรา    ทิฐิ  ในศักดิ์ศรี ขอฟันฝ่า  สายฝน  อย่างมีดี กางร่มน้อย ที่เรามี  แล้วย่างเดิน จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 16:53:50

ความคิดเห็นที่ 34 31.  พยายาม  จะเป็น  เช่นใจเขา แต่ตัวเรา    ทิฐิ  ในศักดิ์ศรี ขอฟันฝ่า  สายฝน  อย่างมีดี กางร่มน้อย ที่เรามี  แล้วย่างเดิน 32.  สายสวาท  ไม่สิ้น  คิดดิ้นหลุด หัวใจฉุด  ดึงรั้ง   ระวังเปิ่น อิงทิฐิ  มากมาย  หมายหมางเมิน ขณะเดิน   ใจร้าว   ก้าวไม่ไป ใจร่มร่ม   อีกครา  ดีกว่านวล ลองทบทวน  หวนคิด  พิศผ่องใส ลิ้นกับฟัน  ระบบ  กระทบได้ แล้วจะไป  คิดมาก  ให้ยากทำไม จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 17:54:03

ความคิดเห็นที่ 35 31.  พยายาม  จะเป็น  เช่นใจเขา แต่ตัวเรา    ทิฐิ  ในศักดิ์ศรี ขอฟันฝ่า  สายฝน  อย่างมีดี กางร่มน้อย ที่เรามี  แล้วย่างเดิน ............แฟนนายแบบ 32.  สายสวาท  ไม่สิ้น  คิดดิ้นหลุด หัวใจฉุด  ดึงรั้ง   ระวังเปิ่น อิงทิฐิ  มากมาย  หมายหมางเมิน ขณะเดิน   ใจร้าว   ก้าวไม่ไป...................ลุง 33.ใจร่มร่ม   อีกครา  ดีกว่านวล ลองทบทวน  หวนคิด  พิศผ่องใส ลิ้นกับฟัน  ระบบ  กระทบได้ แล้วจะไป  คิดมาก  ให้ยากทำไม ..................ลุง 34. เมื่อติดฝน  หน้าเซเว่น   จึงได้คิด ร่มเล็กนิด  เปิดกาง      อย่างหวั่นไหว ลมพัดแรง  กว่าเคย   ยากฝ่าไป เข้าร้านเน็ต   ตกใจ   กับบทกลอน...............แฟนนายแบบ 35.ชั่วชีวิต   เกลียดฝน   มาตลอด บ่นกระปอด  แฉะชื้น  พื้นสลอน สาดกระเซ็น  รถผ่าน    กระเด็นดอน แล้วผ้าผ่อน   เราตากไว้   ทำไงกัน...................แฟนนายแบบ 36.ถ้ามีเขา  อยู่ห้อง  คงหายห่วง เสื้อที่ร่วง     ราวที่หัก  จักช่วยฉัน แต่คืนนี้   เย็นนี้  ช่างเงียบงัน มีเพียงฉัน  สู้ฝน     ทนต่อกร จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 18:56:08