เสียงปลดเข็มขัดนิรภัยดังกริ๊ก รสาก็ลืมตาขึ้น ความพร่าเลือนของเวลากลางคืนและสายตาที่ยังไม่คุ้นชินทำให้เห็นภาพของชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ยังพร่ามัว
ตื่นแล้วเหรอครับ
นายแพทย์หนุ่มเอื้อมมือไปแตะบนเพดาน หลอดไฟเล็กในรถติดสว่างทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
ขะ ขอโทษค่ะ ดิฉันบอกทางได้นิดเดียวก็เผลอหลับไป
อย่างนี้น่ากลัวนะครับ ถ้าผมเป็นผู้ร้าย คงขับเลยไปมาเลย์แล้วล่ะ
ประโยคข่มขู่แต่ผู้พูดกลับมีน้ำเสียงกลั้วยิ้ม รสากระพริบตาถี่ๆ หันไปมองผ่านหน้าต่างรถก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังอยู่ในรถที่จอดตรงร้านข้าวต้มหน้าหมู่บ้าน
คุณยังไม่ได้บอกว่าบ้านอยู่ซอยไหน ผมเลยกะว่าจะลงไปทานข้าวต้มก่อน ไหนๆก็ไหนๆ ลงไปทานด้วยกันมั้ยครับ
หญิงสาวนึกได้ว่าตนเองก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเหมือนกัน
ดีเหมือนกันค่ะ แต่เพื่อนจะไม่รอแย่เหรอคะ
เดี๋ยวค่อยโทรไปเลื่อนนัดก็ได้ครับ วันนี้เจอเคสหนักไปหลายเคส ผมเปลี่ยนใจไปพักเอาแรงดีกว่า
ขอบคุณมากค่ะ เจอกันวันแรกก็รบกวนคุณหมอเสียค่ำมืด
ไม่เป็นไรครับ ไปหาข้าวต้มร้อนๆทานกันดีกว่า
ชายหนุ่มพูดแล้วรีบลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้ เมื่อเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แม่ค้าเอ่ยปากทักทายอย่างเป็นกันเอง
หวัดดีค่า คุณหมอคุณพยาบาลเลิกงานเสียค่ำเลย
ขอข้าวต้มปลาที่นึงครับ อีกที่นึง เอ่อ...
ข้าวต้มปลาเหมือนกันค่ะ
ได้ค่า
คุณป้าเจ้าของร้านบริการอย่างกระฉับกระเฉง เมื่อยกข้าวต้มมาวางยังเอ่ยทัก
เห็นคุณหมอขับรถวนผ่านร้านป้าอยู่หลายรอบ ป้านึกว่าหลงทางเสียอีก แต่ไม่เห็นไขประตูลงมาถามทาง ก็ยังรอลุ้นว่าจะแวะมาทานข้าวต้มรึเปล่า
รสาสะดุดใจกับคำว่า ขับวน ของคุณป้าเจ้าของร้าน หันไปมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาตั้งคำถาม
ขับรถชมวิวน่ะครับ
นายแพทย์หนุ่มพูดเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เสลงมือซดข้าวต้มทั้งที่ควันยังโขมง รสาฉุกคิดได้ว่าชายหนุ่มคงไม่กล้าปลุกจึงขับรถวนจนหิว หญิงสาวยิ้มอย่างเกรงใจ
ขอบคุณนะคะ
เอาเป็นว่า ตอบแทนคำขอบคุณด้วยการให้ผมเลี้ยงนะครับ ห้ามปฏิเสธ
ว่าแล้วก็จัดแจงตักน้ำแข็งและรินน้ำให้ รสารับแก้วน้ำมาจิบแล้วรู้สึกแสบที่ปลายนิ้วจนเผลอร้องเบาๆ
อุ๊ย...
พอวางแก้วลงแล้วบีบนิ้วมือ ทำให้เลือดซึมออกมา
นิ้วมีแผลเหรอครับ อย่าบีบสิครับ โธ่ เดี๋ยวปากแผลเปิดหมด
ชายหนุ่มคว้ามือหญิงสาวไปกุมและดึงผ้ามาซับ รสาไม่กล้าชักมือกลับ ได้แต่นั่งนิ่ง
สงสัยคงโดนอะไรบาดโดยไม่ทันรู้สึกตัวน่ะค่ะ
ตอนไหนกันนะ... รสาพยายามทบทวนแต่ก็นึกไม่ออก ก้มดูปลายนิ้วของตัวเองอีกทีก็พบว่าชายหนุ่มจัดการแปะพลาสเตอร์ยาให้เรียบร้อยด้วยความคล่องแคล่ว
อย่างนี้น่าเป็นห่วงนะครับ สงสัยผอ.จะใช้งานคุณพยาบาลหนักเกินไปแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องไปเอาความเสียหน่อย
ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลยนี่คะ
รสาตาโต นายแพทย์หนุ่มหัวเราะเบาๆ
ล้อเล่นหรอกครับ ผมก็ไม่ได้จริงจังอะไรเหมือนกัน
จริงสิคะ คุณหมอน่ะ เพิ่งเข้ามาทำงาน คงจะยังไม่รู้ว่าโรงพยาบาลของเราไม่ได้ถูกบริหารโดยทีมแพทย์นะคะ เจ้าของโรงพยาบาลจริงๆน่ะ เป็นนักธุรกิจ ที่เห็นว่าการรักษาพยาบาลเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งของเขา เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเอาเรื่องกับผู้อำนวยการ ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ต้องออกไปตามหาตัวท่านประธาน ที่นานทีปีหน จะเข้ามาในโรงพยาบาล นี่เห็นว่าปีนี้จะมีทายาทมารับช่วงต่อ ไม่รู้ว่าจะมาลงนโยบายใหม่ ปรับเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่า
ว่าที่ประธานที่ถูกกล่าวอ้าง กำลังทานอาหารค่ำกับมารดา เกิดอาการสำลักน้ำดื่มที่เพิ่งยกขึ้นจิบ
คงต้องเอาใจช่วยให้เขาบริหารดีๆแหละครับ ถึงยังไง ก็ต้องถือว่าพวกเราเป็นลูกจ้างของเขา พวกเกิดมาบนกองเงินกองทองนี่สบายนะครับ ปากก็บอกว่าทำธุรกิจโรงพยาบาลได้บุญ แต่มือก็โกยเอาผลกำไรโดยไม่ต้องแตะต้องตัวคนไข้เลยด้วยซ้ำ
ไตรรัตน์ร่วมวิพากษ์อย่างออกรส
เอ้า เบาๆตาวินทร์ ทั้งไอทั้งจาม สงสัยจะมีคนกำลังนินทาอยู่นะ
คุณนายกรรณิการ์ทัก เมื่อเห็นลูกชายทั้งจามทั้งสำลักติดกันสองหน
บนโต๊ะอาหารในช่วงเวลาเดียวกัน มุมหนึ่งในคฤหาสน์ใต้แสงเทียนสลัว อีกมุมหนึ่งซุกตัวอยู่ในร้านอาหารข้างทางใต้แสงไฟนีออน ไตรรัตน์ออกปากชวนล่วงหน้าสำหรับมื้อถัดไป แต่รสาปฏิเสธอย่างนิ่มนวล เธอยังมีเรื่องชวนให้ตั้งข้อกังขาอีกมากมายนัก หากสานต่อความสัมพันธ์กับนายแพทย์หนุ่ม ที่ต้องเป็นที่หมายปองของเพื่อนอีกหลายคนในเวลาอันใกล้ คงนำมาซึ่งความยุ่งยากใจที่รสาอยากถอยหนีให้ห่าง
ตรงข้ามกับวินทร์ พลวานิช นักธุรกิจหนุ่มที่นั่งสนทนากับบิดาและมารดาด้วยแววตาฉาดฉาย แผนงานผุดขึ้นในสมองอีกหลายโครงการ การปฏิรูปโครงสร้าง บุคลากร รวมทั้งพยาบาลสาวใจกล้าที่สร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างเกินความคาดหมาย
นับเป็นความท้าทายที่ชายหนุ่มต้องการรุกประชิด!
- โปรดติดตามตอนต่อไป -