เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้าย...แอชลีนน์ภาวนาให้ตนจำไม่ผิด
หญิงสาวต้องคุมสติเป็นอย่างหนักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาควบตะบึงตามมาข้างหลังอีกหลายตัว แม้จะไม่กล้าหันหลังกลับไป ได้แต่มองทางข้างหน้าซึ่งจัดได้ว่ามืด แม้จะมีแสงจันทร์เกือบเต็มดวงส่องมาจากหลังม่านเมฆที่ลอยผ่านไปเป็นระยะๆ ก็ตาม
แนวป่ามืดที่อยู่เลยทุ่งออกไปช่างดูน่ากลัว และยั่วยวนไปในเวลาเดียวกัน ใจหนึ่งของเจ้าหญิงแวบขึ้นมาว่าเธอไม่ควรจะไปที่จวน แต่ตรงไปทางป่านั้นเสียดีไหม หากเข้าป่าก็คงมีโอกาสสลัดหลุดจากผู้ไล่ล่ามากขึ้น อย่างน้อยก็มากกว่าวิ่งบนถนนกลางทุ่งโล่งที่มองเห็นได้ชัดเจนอย่างนี้
แต่หากเข้าป่ายามค่ำมืด โอกาสเกิดอุบัติเหตุจะสูงขึ้น แอชลีนน์เคยแต่ขี่ม้าในที่โล่ง อาเมียร์บอกว่าเธอต้องบังคับม้าในลานหรือทุ่งหญ้าให้ได้ดีเสียก่อน จึงจะลองหัดกับภูมิประเทศแบบอื่น ในป่ามีสิ่งที่ต้องระวังมากมาย ทั้งกิ่งไม้ระเกะระกะและพุ่มไม้หนาม จะควบไม่ดูตาม้าตาเรือไม่ได้เป็นอันขาด คาดหวังให้ม้าของตนรู้หน้าที่และนำทางไปอย่างเดียวก็ไม่ได้
ที่หมายที่ดีที่สุด และเป็นไปได้ที่สุดยังคงเป็นจวน เพียงแค่ตรงไปตามถนนสายนี้ ตรงไปเรื่อยๆ ...
จู่ๆ เอ็มบาร์ก็หันหัวไปทางขวา ทำท่าจะวิ่งออกนอกถนนเสียดื้อๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจพรืด
“เอ็มบาร์! อย่าดื้อสิ” เจ้าหญิงพยายามเอ่ยเสียงแข็งโดยไม่โวยวาย พร้อมกับดึงบังเหียนข้างซ้าย และใช้น่องข้างเดียวกันกระทุ้งเบาๆ ให้มันหันกลับมาทางเดิม แสดงให้ม้าใหญ่เห็นว่าเธอคือจ่าฝูงที่มันต้องเชื่อฟัง “เราต้องไปตามทางนี้ อีกนิดเดียว...”
เจ้าม้ายังพยายามขืนเอาไว้ ความเร็วของมันตกลงโดยเร็ว จนสุดท้ายก็เรียกได้ว่านิ่งสนิท (หากไม่นับอาการก้าวถอยทั้งๆ ที่แอชลีนน์กระทุ้งโกลนแรงขึ้นเรื่อยๆ) รบรากับเจ้านายที่ยิ่งร้อนรน ตั้งคำถามว่าตนตัดสินใจผิดหรือไม่ ที่ฝากชะตากรรมไว้กับม้าที่ยังไม่คุ้นเคย
แต่เมื่อนั้นเอง สายลมก็พัดกระทบหน้าของแอชลีนน์
เพราะม้าหยุดวิ่งแล้ว หญิงสาวจึงรู้สึกได้ว่าแม้นั่นจะไม่ใช่ลมแรง แต่ก็ไม่ได้เบาเสียจนเธอจับที่มาไม่ถูก ทั้งจากขนแผงคอของเอ็มบาร์ ระลอกใบหญ้าในทุ่ง และเส้นผมของตนเอง
เวลานี้ทั้งสองอยู่ใต้ลม และบริเวณเหนือลมก็คือถนนที่นำไปสู่จวน
...หมายความว่า...เอ็มบาร์ได้กลิ่นอะไรบางอย่างจากเหนือลมงั้นหรือ...
เจ้าหญิงไม่แน่ใจว่าม้านั้นฉลาดขนาดบอกได้ว่ากลิ่นคนและม้าที่มันจับได้นั้นเป็นมิตรหรือศัตรู แต่ที่เหนือลมอาจเป็นภัยอย่างอื่นได้ใช่ไหม เช่นสัตว์จำพวกหมาป่า...แต่พวกนี้ก็ไม่น่าจะเข้ามาในทุ่งโล่งอย่างนี้
อย่างไรก็ดี เสียงฝีเท้าม้าอื่นๆ ที่ดังใกล้เข้ามา กับเสียงร้องของเอ็มบาร์ล้วนแต่บอกแอชลีนน์ว่านี่ไม่ใช่เวลาครุ่นคิด หญิงสาวพยายามกระตุ้นมันให้วิ่งต่อไปทางจวน แต่ม้าใหญ่กลับไม่ยอมทำตาม
มันเริ่มวิ่ง...แต่ไม่ใช่ในทิศทางนั้น
เอ็มบาร์ลงจากถนนดินอัดแน่นไปตามไหล่ทาง ตัดเข้าไปในท้องทุ่งก่อนจะเร่งความเร็วโดยที่นายไม่ต้องสั่ง นั่นเป็นชั่วครู่เดียวกับที่เจ้าหญิงเห็นแวบๆ ทางหางตา...ว่าเบื้องหน้าถนนซึ่งลาดลงไปเป็นเนินนั้นมีม้าสามตัววิ่งตรงเข้ามา
หากว่าเอ็มบาร์ยังวิ่งตรงไปตามถนน ก็จะปะกับม้าทั้งสามเข้าพอดีอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอประมาทเกินไป คนอย่างดูลัสไหนเลยจะเพียงแต่วิ่งไล่ตามหลังมาอย่างทื่อๆ จนทัน เขาเดาที่หมายของเธอได้ไม่ยาก จึงได้แบ่งกำลังคนมาดักหน้ารอล้อมจับเช่นนี้
แล้วเธอควรจะหนีไปที่ไหนกันเล่า จะเข้าเมืองเคนมาราก็ยังต้องใช้ถนนสายเดียวกับที่ไปทางจวน หญิงสาวไม่รู้เส้นทางอ้อมทางอื่น และไม่อยากเสี่ยงขี่ตัดทุ่งไปโดยไม่รู้ทิศทาง
ทุ่งหญ้าบางแห่งของยาร์ลาธอาจไม่ปลอดภัยไปกว่าป่า ทุ่งร้างเวิ้งว้างเหล่านี้ไม่เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์หรือเพาะปลูก ทั้งเพราะสภาพดิน และสภาพพื้นที่ซึ่งอาจมีบึงน้ำลึกหรือบ่อโคลนซ่อนอยู่ใต้พงหญ้าสูงที่ใดก็ได้
ไปที่บ้านของอาเมียร์...ไม่ได้ ที่นั่นมีอาเมียร์เป็นผู้ชายอยู่คนเดียว เพราะช่วงนี้ท่านซิอ์บุลพาสมาชิกหน่วยรบใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาไปเข้าค่ายฝึกฝนตลอดจนทดสอบ นอกนั้นเป็นผู้หญิงกับเด็ก เธอมีแต่จะทำให้พวกเขาเป็นอันตรายไปด้วย...
ท่านซิอ์บุล!
แอชลีนน์เพิ่งนึกได้ ค่ายของท่านซิอ์บุลเองก็อยู่ไม่ไกลไม่ใช่หรือ...ถึงอาเมียร์จะไม่เคยพาเธอไป แต่เขาก็ชี้บอกที่ตั้งให้ในแผนที่ ดูเหมือนค่ายนั้นจะอยู่เลียบแม่น้ำอีกสายที่ไหลแยกออกมาจากแม่น้ำลากัน แม่น้ำสำคัญของมณฑล
หมายความว่าถ้าเธอขี่ม้าเลียบแม้น้ำลากันที่อยู่ไม่ห่างไป จนกระทั่งพบแม่น้ำแยกแล้วเลี้ยวตาม ก็จะไปถึงค่ายทหารนั้นได้
น่าจะได้...ใช่ไหม หญิงสาวรู้สึกเหมือนจุดหมายนั้นต้องย้อนกลับไปเป็นระยะทางพอสมควร กระทั่งม้าเดสทริเยร์ก็ไม่ควรควบเต็มฝีเท้าติดต่อกันนานเพียงนั้น แต่ม้าของพวกดูลัสเป็นม้าที่เล็กกว่า ต่อให้ในระยะสั้นอาจจะวิ่งเร็วกว่าเอ็มบาร์ แต่ความอดทนย่อมต่างกัน
“เอ็มบาร์ ทนหน่อยนะ” เจ้าหญิงอดพูดไม่ได้ ก่อนจะชักม้าของตนให้มุ่งหน้าไปทางประกายสีเงินของแม่น้ำที่เห็นอยู่ลิบๆ เบื้องหน้า
* * * * *
จากคุณ |
:
Anithin
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.ค. 54 23:59:08
|
|
|
|