อนัลยานีห่อปากมองด้วยความตื่นเต้น
ฮู้วว์...
ฝาแฝดน่ะ เกิดเวลาติดๆกันเลย แต่ฟ้าเขาออกมาก่อนก็เลยเป็นน้อง ส่วนพี่ออกมาทีหลังก็เลยเป็นพี่
ทำไมคนเกิดก่อนเป็นน้อง คนเกิดทีหลังเป็นพี่ล่ะคะ
คนเกิดทีหลังเป็นพี่ เพราะเสียสละให้น้องออกมาก่อนยังไงล่ะ
ฮู้วว์...
อนัลยานีอุทานซ้ำ ยังสงสัยไม่เลิก
แต่หน้าตาไม่ค่อยเหมือนกันเลยนะคะ
แฝดคนละฝา แถมนิสัยก็ต่างกันคนละขั้วเลยล่ะ ขานั้นน่ะ ฉลาด แก่น เซี้ยว แต่ก็เจ้าอารมณ์เป็นที่หนึ่ง
แล้วตอนนี้พี่ฟ้าไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะคะ
หญิงสาวถอนใจทิ้งศีรษะลงบนหมอน เงยหน้ามองทะลุเพดานห้อง
บนฟ้านู่นล่ะมั้ง
เอ๋...
เขาเสียไปเมื่อหลายปีก่อนน่ะ พี่กับฟ้าสอบติดคนละมหาวิทยาลัย ต่างคนต่างเรียนหนัก ไม่ค่อยได้กลับบ้านทั้งคู่ เลยไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง วันนึงแม่จับได้ว่าพ่อมีชู้ แถมมีมานานจนภรรยาเก็บก็มีลูกและแอบส่งเสียเลี้ยงดูกันมานานแล้ว พ่อกับแม่เลยตกลงปลงใจจะไปเซ็นต์ใบหย่า พี่ทำใจได้ แต่ฟ้าเขาไม่ยอม บึ่งรถกลับมาที่บ้านเพื่อห้ามปราม แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ รถชน อาการสาหัส แล้วก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
โห... อ้าว แล้วที่คุณแม่ของพี่สาพูดถึงพี่ฟ้ากับพี่สาเมื่อกี้นี้ก็...
อัลไซเมอร์น่ะ แม่เสียใจเรื่องพ่อ และก็ช็อคเรื่องฟ้าอย่างรุนแรง อาการทางจิตเกิดการต่อต้าน ยอมรับความจริงแค่บางส่วน อีกหลายส่วนปะติดปะต่อเอาเองตามแต่วันไหนจะนึกเรื่องไหนขึ้นมาได้ ส่วนปฏิกิริยาทางร่างกายคือเซลล์สมองถูกทำลาย ยากจะฟื้นคืน ต้องคอยกินยาประคับประคองอาการตลอด
น่าสงสารจังเลย อย่างนี้พี่สาก็ลำบากแย่สิคะ ไหนจะทำงานหนัก ไหนจะคอยดูแลแม่
เรื่องเล็กจ้ะ มันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้วนี่
อย่างนี้นี่เอง พี่สาผ่านเรื่องพวกนี้มาได้ ก็เลยกลายเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ค่อยกลัวปัญหา ถ้าพี่ฟ้ารู้ว่าคนที่ยังอยู่ ช่วยดูแลแม่ได้อย่างนี้ ก็คงภูมิใจเนอะ
รสาจำได้ว่าประโยคหลังนั้นตนบอกเด็กหนุ่มที่ชื่อก้องออกไป
นี่ อย่ามาเลียนแบบเค้านะ
อิอิ ไม่แน่นา พี่ฟ้าอาจจะยังวนเวียนอยู่แถวนี้ก็ได้ ฮา.. ฮา.. ฮา.. รสา..า..า ฟ้าอยู่ที่นี่แล้..ว..ว
เด็กสาวทำเสียงยานคาง
ฮึ้ยย อย่ามาแกล้งกันอย่างนี้
หญิงสาวเอ็ดเสียงสูง
พี่รสากลัวเหรอ
อนัลยานีตาโต ตื่นเต้นกับท่าทางของหญิงสาว
พี่ไม่ได้อยากให้ฟ้าอยู่ที่นี่...ไม่ใช่เพราะไม่คิดถึงเขาหรอก
รสาพึมพำ
แต่อยากให้เขาไปสู่สุคติต่างหาก อย่ามาจมปลักกับโลกวุ่นวายใบนี้เลย
วูบหนึ่งรสาเห็นสีหน้าของอนัลยานีเจื่อนเจือเศร้า จะว่าไปเด็กน้อยเองก็ไม่ต่างจากวิญญาณเร่ร่อนที่จมปลักอยู่ในโลกนี้สักเท่าไรนัก
เอาล่ะ มะรืนวันเสาร์ พี่ไม่ขึ้นเวร เราไปเยี่ยมพ่อของก้อง แล้วก็ไปเที่ยวสวนสนุกกันนะ
ทันใดที่พูดถึงสวนสนุก ดวงตาของเด็กน้อยก็เป็นประกายสว่างจ้า อนัลยานีกลับมาร่าเริงในทันใด
ค่ะ
งั้นตอนนี้ แอนี่ก็กลับไปเฝ้าร่างเถอะ พี่จะนอนละ
รสาจัดหมอนให้เข้าที่ พนมมือจรดหว่างคิ้ว
สวดมนต์ด้วยเหรอคะ
อนัลยานีร้องถามด้วยอากัปกิริยาที่รสาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อื้ม ทำไม กลัวเหรอ
ฮึ คนใจร้าย
พี่ไม่ได้สวดไล่ใครนะ พี่สวดเพื่อให้ใจสงบสบาย และนอนหลับง่ายขึ้นเท่านั้นแหละ มาสวดด้วยกันสิ เผื่อแอนี่จะได้สบายใจขึ้น
ไม่เอาล่ะ พี่รสาสวดเถอะ แอนี่ไปดีกว่า
ร่างเล็กกระจ้อยร่อยวูบหายไปในทันทีที่ขาดคำ รสายกมือขึ้นพนมใหม่แล้วสวดมนต์ต่อ จบบทที่สวดเป็นประจำค่อยดึงผ้าห่มมาคลุมตัว นอนตะแคงข้างหันมองหน้าต่างที่พระจันทร์ยังปรากฏสลัวในคืนเดือนแรม
`.,¸,.*¯`.,¸,.*
(มีต่อค่ะ)