Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
~~~~~~~~ หากันจนเจอ #2 ~~~~~~~~ ปกิณกะความรักสุดวุ่นวายของสาวไทยเจี๋ยมเจี้ยมในบริษัทเกาหลี ^^ ติดต่อทีมงาน

หากันจนเจอ 2

ความตอนที่แล้ว: ใจ๋ผู้คลั่งไคล้เกาหลี มีโอกาสได้ได้ทำงานในบริษัทเกาหลีอย่างที่ฝัน แต่แล้ว ก็เกิดเหตุพิสดารขึ้นในบริษัท

ตอนที่ 2 “ปมปริศนา”

หลังจากเมื่อคืนส่ง sms ให้กำลังใจเอ็มดีจนดึก
วันนี้เราก้าวเข้าบริษัท พร้อมด้วยสายตาพิศวงสงสัย...
ผนังขาว พื้นขาวโพลน...เข้ากันดีใช่เล่น กับบรรยากาศเหมือนภูเขาน้ำแข็งแบบนี้..

ไหนเอ่ย...ทุกคน...
ฉันเดินไปที่นั่ง พร้อมกับสอบถามผู้คนทั่วไป...ทุกคนก็ยังงุนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
รู้แต่ว่า ตอนนี้...พี่เอ๋ จีเอ็มของเรากำลังประชุมกับทีมขายและลูกน้องในสังกัดทุกคนอยู่ที่ห้องประชุมอีกฟากของตึก

แล้วเราไม่ใช่ลูกน้องพี่เขาเหรอเนี่ยะ...ทำไมเราไม่ได้เข้าประชุมด้วยหว่า...
ไม่รู้เรียกเป็นโชค หรือเรียกว่าอะไร...ที่ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวที่เป็นลูกน้องสายตรงของจีเอ็ม แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

วันนี้...ถือเป็นวันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในบริษัท
เมื่อจีเอ็ม ไม่ยอมคุยกับเอ็มดี
งอนกันไป ก็งอนกันมา
ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
รู้แต่...สำนึกว่า...บางที เราอาจเกิดมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทย-เกาหลี ก็เป็นได้
เอาวะ...ขอไปถามจีเอ็มอีกสักที ...ว่าแล้วก็เดินเข้าไปคุยกับจีเอ็มในห้อง...

สิ่งที่เห็น..คือผู้หญิงวัยราวห้าสิบ แต่ยังสวย และดูคล่องแคล่ว ด้วยทรงผมค่อนข้างมั่น เธอกำลังนั่งมองเอกสารอะไรสักอย่างบนโต๊ะ
“พี่เอ๋...เกิดอะไรขึ้นคะพี่”
“....”
“มีอะไรให้ใจ๋ช่วยไหม มันเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่คะ”
“ไม่มีอะไร...”
พี่เอ๋..เอาแต่ยิ้มๆ แล้วเบนหน้าจากกระดาษบนโต๊ะมามองเราด้วยสายตาเศร้าๆ แล้วก็ไม่พูดอะไร ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร...ไม่ได้ทำให้เราเข้าใจอะไรเพิ่มมากขึ้นเลย
“ใจ๋ไปเถอะ พี่ต้องเคลียร์เอกสารอะไรเพิ่มเติม เดี๋ยวเกาหลีหาว่าพี่หมกเม็ดอะไรอีก”
“อ๋า....เอ่อ....ค่ะ”
=_= เลยจำใจต้องเดินออกมา...
ที่จริง นึกๆ ดูแล้ว
พี่เอ๋เอง...ก็เกินไป...นินทาเอ็มดีซะจนเสียหาย ตั้งแต่ไม่กี่ครั้งที่เราเจอกัน
เราคิดจริงๆ ว่าไม่เคยเห็นที่ไหน นินทาว่าร้ายผู้บริหารระดับสูงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันอย่างที่นี่เลย
กิจวัตรที่เห็นเป็นประจำ ก็คือ แก็งค์พี่เอ๋ จะประชุมงานกัน เสร็จก็เมาท์ถึงเกาหลีแบบเสียหายหลายแสน...เราได้ยิน..ก็พลอยทำให้รู้สึกประหลาดใจ...ว่าเอ็มดีเป็นได้ขนาดนั้นเชียวหรือ...แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ...เราจะต้องมุ่งงานเป็นหลัก เรื่องอื่นไม่ใช่ประเด็น ซึ่งก็เห็นจะมีแต่ฉัน..ที่เป็นแบบนั้น...ใครๆ ต่างพากันเฮโลไปเห็นดีเห็นงามตามพี่เอ๋กันหมด ก็ทำยังไงได้ เราเชื่อนี่นา...ว่าที่นี่มันบริษัทในฝันของฉันเอง...

สิ่งที่คาใจ..คือ...การนินทาเจ้านายระดับบนซะรุนแรงแบบนี้. (ไม่ได้นินทาเบาๆ หรือเฉพาะแค่เรื่องงาน นี่เอามาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องนู้น นี้ นั้น มากมาย) มันสร้างความร้าวฉานในบริษัทนะพี่ มันจะดีเหรอ...

ตอนนั้นเราก็ได้แต่คิดแบบนั้น....ไม่ได้ล่วงรู้ตื้นลึกหนาบางอะไรในชีวิตใครเขาเลย...
ว่าแท้ที่จริง...พฤติกรรมการนินทาที่แรงเช่นนี้...มันมีที่มา....


เราเดินมาที่โต๊ะ แล้วตัดสินใจโทรไปถามบั๊ดดี้คู่รักคู่แค้น ฮิว ที่หน้าตาดูมีออร่า เหมือนหลิวเต๋อหัวที่อวบหน่อยๆ เราคิดว่าเขาดูดีมากๆ ที่เจอกันในครั้งแรกๆ แ่ต่ไม่เข้าใจ ทำไมเหมือนเขาจะเกลียดเราซะเต็มประดา..
เอาเถอะ ถึงจะอย่างนั้น เราก็ยังพอคุยกันได้ เราไม่เห็นเขาที่โต๊ะ จึงโทรเข้ามือถือ
“ฮิว ...สรุปพวกเรายกเลิกการอบรมทั้งหมดใช่ไหม....เกิดอะไรขึ้นกันแน่เหรอ”
“หือ...ก็...ไม่มีอะไรหรอก...พี่เอ๋บอกอะไรบ้างล่ะ”
“ก็..ไม่บอกอะไรอ่ะ งง”
“เหรอ...ก็เดี๋ยวดูๆ กันไปละกันนะ”
“หา...หมายความว่าไง”
“เราก็บอกอะไรไม่ได้มาก”
“แล้วได้ยินว่าจะไม่ไปงานเปิดศูนย์บริการเหรอ”
“อืม”
“ทำไมอ่ะ”
“เรื่องมันยาว ไว้พวกเราก็ต้องรอดูๆ กันไปน่ะ”
“อะไรเนี่ยะ”
“ไว้ถ้ามีอะไรยังไง พี่เอ๋คงจะบอกเองล่ะ”
“เอางั้นเหรอ”
“อืม...แค่นี้นะ”
ไม่เห็นจะรู้อะไรเพิ่มเติมเลย แล้วทำไมน้ำเสียงที่พูด ฟังดูเหมือนแบ่งแยกยังไงไม่รู้...ว่าเธอนั้นไม่มีสิทธิ์มาล่วงรู้อะไรที่พวกเขารู้กันหรอก -_-;;

เราชักนั่งไม่ติดที่แล้ว...เราคิดว่าเราน่าจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ก็มันเชื่อเต็มที่ ว่าเรานี้คือสะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทยเกาหลีกลับชาติมาเกิด ;D
เราว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ ระหว่างเอ็มดี กะจีเอ็ม
เราเริ่มเขียนร่างคำที่อยากจะบอกเอ็มดี...(เพราะจะได้สื่อภาษาอังกฤษกันเข้าใจชัดเจนที่สุด...คือ ภาษาก็เจ๋งพอกันอ่ะค่ะ อังกฤษสไตล์ไทย กับอังกฤษสไตล์เกาหลีคุยกัน)

ทำใจสามสิบวินาที...แล้วตัดสินใจเดินออกไปที่ห้องเอ็มดีเลย
เรากลั้นใจ ทำใจกล้า แล้วพุ่งตัวเข้าหาเก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะเอ็มดี...
“สวัสดีค่ะเอ็มดีคิม...คือ...ใจ๋ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่เอ๋ เป็นคนที่ตั้งใจ และพยายามทำเพื่อบริษัทมาตลอดเลยนะคะ ตลอดเวลาเธอพยายามที่สุดที่จะทำให้บริษัทก้าวหน้า ใจ๋เชื่อว่าต้องมีการเข้าใจอะไรกันผิดสักอย่าง...” ร่ายยาวทันที ตามโพยที่เมื่อกี๊ท่องเอาไว้
“....”
“ใจ๋คิดว่า เอ็มดีลองหาเหตุผลดูก่อนไหมคะว่า ทำไมเธอถึงอยากจะลาออก มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง”
ฉันคิดว่าฉันต้องการไกล่เกลี่ย และยับยั้บไม่ให้พี่เอ๋ต้องลาออก เธอเป็นคนสำคัญของบริษัท และจำเป็นต้องอยู่ อีกทั้งเธอยังทำงานเก่งมากๆ ด้วย
“...ผมได้ให้โอกาสเธอไปหลายครั้งแล้ว...ถ้าผมไม่คิดว่าเธอตั้งใจทำงาน...ผมคงไม่เดินไปหาเธอด้วยตัวผมเองอยู่หลายครั้ง แต่เธอเคยพูดต่อหน้าผม ว่า บริษัทอยู่ได้แม้ไม่มีเอ็มดีอย่างผม”
“....” เราถึงกับอึ้ง พี่เอ๋พูดแรงขนาดนี้ต่อหน้าเอ็มดีเลยเหรอเนี่ยะ...
“คุณใจ๋คิดว่าตอนนี้ ในบริษัทเรามีกี่ฝ่าย”
“คะ? ....เอ่อ...” โดนถามย้อนแบบนี้ ก็ถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน มันก็จริงนะว่า มันแบ่งพรรคแบ่งพวกกันน่าดู...และพี่เอ๋เอง ก็เคยวาดชาร์ทกลุ่มแก็งค์ในบริษัทให้ดูมาก่อน
“คุณว่ามีกี่ฝ่าย”
“อ่า...น่าจะฝ่ายคนเกาหลี กะฝ่ายคนไทยป่ะคะ”
ว่าแล้วเอ็มดีคิมก็วาดวงกลมขึ้นมาสามวงบนกระดาษรีไซเคิล...เห็นกระดาษนี้แล้วก็นึกถึงเวลาที่พี่เอ๋เล่าชาร์ทความสัมพันธ์ภายในองค์กรแห่งนี้เหมือนกัน...แปลกประหลาด แปลกประหลาด...
ว่าแล้วเอ็มดีก็เล่าเรื่องราวคาใจ...แปลความได้ว่า เราได้พยายามหลอมรวมแต่ละฝ่ายเข้าด้วยกัน แต่ก็มีการจัดแยก สร้างความแตกแยกภายในบริษัทเพราะพี่เอ๋...เอ็มดีเองอดทนมาตลอด
“ผมคิดว่าคราวนี้เขาทำเกินไป” ปฏิเสธไม่ออก เพราะมันเหมือนปฏิวัติมากๆ รวบรวมไพร่พลทีมขายทั้งหมด และทีมงานภายใต้สังกัดเขาทั้งหมด ลาออกยกแผง แทบจะครึ่งบริษัท...เรื่องมันใหญ่จริง
พอได้ฟังความสองฝ่าย...เราก็หมดคำพูดจะโมติเวทต่อ...
“....” ได้แต่อึ้ง...แล้วก็ออกมาจากห้องเอ็มดีแบบมึนๆ...

กลับมาถึง ก็มานั่งที่โต๊ะทำงาน...ไม่รู้จะยังไงต่อไปดี
ตอนนี้จีเอ็มไม่อยู่ที่ห้องแล้ว แต่ไปนั่งอยู่อีกฝั่งของตึกที่เป็นบริเวณที่ตั้งของทีมส่งเสริมการขาย
เราได้แต่เดินวนไปดู แล้วก็ถามคนโน้นคนนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ซึ่งก็ไม่ช่วยให้ได้คำตอบที่ชัดเจนเลย
จนเย็นย่ำ...เราตัดสินใจเดินไปหาจีเอ็มอีกครั้ง
“พี่เอ๋คะ...พี่มีอะไรลองไปปรึกษาเอ็มดีดูดีไหมคะ”
พี่เอ๋แหงนหน้ามามองหน้าเราครู่หนึ่ง..
“ใจ๋ไปหาเอ็มดีมาเหรอ”
“...อ่า...ค่ะ”
“ไปหาเขาทำไม”
“เอ่อ...ใจ๋คิดว่า มันน่าจะมีสาเหตุความเข้าใจผิดอะไรกันบางอย่าง เราน่าจะพูดจากัน หาทางออกร่วมกันนะคะ”
“ใจ๋ไปหาเขาทำไม” จีเอ็มเอ๋ย้ำคำถามอีกครั้ง...ด้วยน้ำเสียงที่ยากจะคาดเดาว่าเธอรู้สึกยังไง
“อ่า...” ดูเหมือนมันมีก้อนอะไรบางอย่างขวางกั้นระหว่างจีเอ็มและเอ็มดี มันคือก้อนอะไรกันนะ แล้วเรามาเป็นทูตสันทวไมตรีที่ไม่ได้รับเชิญใช่รึเปล่าเนี่ยะ
“ก็ไปปรึกษาเอ็มดีว่า น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่เอ๋สักอย่าง ทำให้พี่เอ๋ตัดสินใจแบบนี้ เอ็มดีลองหาทาง...” ฉันยังพูดไม่ทันจบ
“ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก มันคงเป็นแบบนี้ล่ะ... ใจ๋ไม่ต้องไปคุยอะไรทั้งนั้น”
เรารับรู้ความรู้สึกเหมือนพี่เอ๋จะถามในทีว่า ใจ๋...เธอเป็นพวกใครกันแน่...
มีไหม...พวกของบริษัท?

เราเห็นว่าอะไรดีต่อบริษัท เราก็ควรทำไม่ใช่หรือ...
แต่ก็จำต้องเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ...รอว่าจะให้ทำงานอะไรยังไงต่อไป แล้วใครจะสั่งงานฉัน...-_-;;

สักพัก แอบเห็นจีเอ็มเอ๋...เดินเข้าไปในห้องเอ็มดีคิม....ใช้เวลาไม่เกินสามนาที
แล้วก็เดินกลับออกมาที่ห้องตัวเอง...
แล้วจากวันนั้น จนถึงวันนี้ ก็ไม่ได้เจอหน้าจีเอ็มเอ๋อีกเลย

เพียงแต่...ถึงตัวแม่จะไม่อยู่แล้ว ...แต่ไข่เอเลี่ยน...ยังอยู่เกือบครบ
หรือปมปริศนานี้ ยังแงะปากใครออกมาได้!

และเราก็ไม่ได้ล่วงรู้เลย...ว่านับจากนั้น...ชีวิตที่สงบราบเรียบของเรา...ก็มีช่วงเวลาหฤหรรษ์ กับสุขเศร้าเคล้าน้ำตาสไตล์ซีรีส์เกาหลี กะเขาได้เหมือนกัน และประสบการณ์การตามฝันครั้งนี้..ได้เปลี่ยนมุมมองและความรู้สึกเดิมๆ ที่เรามีต่อประเทศชาติบ้านเมืองไทย...ไปอย่างมากเลยทีเดียว

...........................................................................................................

ขอบคุณที่ติดตามคะ
ทุกการแสดงตัวของนักอ่าน มีค่ามหาศาลต่อกำลังใจผู้เขียนคะ ^^
ตอนต่อไป "ไข่เอเลี่ยน"

จากคุณ : ล ม ห า ย ใ จ ...อุ่ น อุ่ น
เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 21:02:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com