ตอนที่ 10
กิตติและกรวิทเดินทางกลับบ้านขณะที่กำลังไขประตูมือเรียวงามมาเข้ามามาจับเข้าหมับถึงกลับทำให้กิตติตกใจไม่น้อยกรวิทขมวดคิวตีหน้าเข้มเมื่อจู่ๆ พิมพาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองหลังจากที่หายไปหน้าไปหลายอาทิตย์ กิตติยังคงนิ่งขณะที่เจ้าหล่อนก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าเศร้า
“กิตติ พิมขอคุยด้วยได้ไหมคะ”
“พี่กิตติไม่ว่าง”กรวิทพูดแทรกขึ้น กิตติจับไหล่น้องชายก่อนจะพูด
“ไม่เป็นไรพี่ขอคุยกับเธอ กรไปรอพี่ในบ้านเถอะ”พี่ชายบอก กรวิทถอนใจเฮือกใหญ่นึกโกรธตัวเองที่ห้ามไม่ได้แต่ก็ต้องตัดใจที่จะเดินจากไปแต่โดยดีหลังจากที่กรวิทเข้าบ้านไปแล้วกิตติจึงพาพิมพาออกมาทานน้ำชาร้านเล็กๆในระแวงนั้น เจ้าหล่อนสบตากับเขาอยู่แวบพร้อมเริ่มบทสนทนา
“กิตติมีอะไรหรือเปล่าทำไมพักนี้ดูห่างเหินกับพิมจัง”
“ผมต้องถามพิมมากกว่านะว่าพิมมีอะไรหรือเปล่า นับตั้งแต่วันที่ผมชวนคุณมาทานอาหารที่บ้าน พิมก็หายไปเลยจนมาถึงวันนี้ จู่ๆ ก็โผล่มาแล้วก็มารื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ”เจ้าหล่อนยึกยักกรอกตาคิดคำแก้ตัว
“พิมไม่ค่อยว่างเลยค่ะพักนี้ งานยุ่งมากเลยไม่ได้ติดต่อกับกิตติเลย”
“จนผมคิดว่าพิมอยากจะเลิกกับผมแล้ว”กิตติค่อนขอดด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ พิมพาตีหน้าเศร้าสร้อยวางมือประกบแฟนหนุ่ม
“พิมไม่มีทางคิดแบบนั้นเด็ดขาดนะคะกิตติ กิตติก็รู้ว่าพิมรักคุณขนาดไหน”
“คุณจะหายหน้าไปแบบนี้อีกไหมพิม”ชายหนุ่มทอดมองคนรักผ่านแว่นกรอบบางด้วยแววตาพินิจ พิมพาหลบตาเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสบตาด้วยความเสแสร้งแกล้งทำเพื่อปัดความผิดที่ปกปิดไว้
“พิมไม่ทำอีกแล้วค่ะต่อไปนี้พิมจะหาเวลามาหากิตติบ่อยๆ นะคะ” “ถ้าพิมยืนยันอย่างงี้ผมก็จะเชื่อใจ”สีหน้าของกิตติเริ่มคลายกังวลมาบ้างแล้ว แต่พิมพายังคงมีเรื่องค้างคาที่ต้องถามให้รู้ “เมื่อกลางวันพิมผ่านไปแถวร้านกาแฟไร่ชาญทิพย์มาค่ะ เห็นกิตติไปทำอะไรที่นั่นหรือคะ”
“อ้อ ผมไปช่วยงานอิงแก้วน่ะครับ เธอแขนหักแล้ววันนี้คนก็เยอะผมเลยไปช่วยเธอ”
“ไปช่วยยัยแก่นแก้วทำไมคะ”หล่อนเน้นย้ำคำว่าแก่นแก้วให้ดังกว่าปกติในเมื่อหล่อนก็เคยเจอฤทธิ์เดทของอิงแก้วมาพอควร
“พิมรู้จักอิงด้วยหรือครับ”กิตติถามขึ้นทันที ไฮโซสาวพราวเสน่ห์สะดุ้งเฮือกเล็กน้อยแต่ยังวางสีหน้าให้ปกติ
“ก็...ก็ยัยเด็กคนนี้เป็นเพื่อนน้องชายตัวแสบของกิตติไม่ใช่หรือคะปากคอเลาะร้าย กิตติอย่าไปคบค้าสมาคมมากเลยนะคะเดี๋ยวจะเสียนิสัย”
“อิงแก้วเป็นผู้หญิงที่น่ารักเลยคนหนึ่งนะเท่าที่ผมรู้จักมาคุณอย่าคิดมากไปเลย”
“คิดมากงั้นหรือ กิตติกำลังคิดว่ายัยนั่นดีกว่าพิมหรือคะหรือว่ากิตติชอบมันถึงได้ออกตัวไปช่วยงานมันขนาดนั้น”คำพูดของพิมพาถึงกลับทำกิตติชาวูบไปทั้งใบหน้า หัวใจเขาเต้นรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าใสๆ แล้วความน่ารักของอิงแก้วปรากฏขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานเปลี่ยนให้โลกใบนี้สดใสขึ้นมาทันตา
“ไม่หรอกไม่มีใครที่จะสำคัญเท่าคุณอีกแล้ว”เขาปฏิเสธถึงแม้ในหัวใจจะมีเสียงเรียกร้องว่าเขากำลังทำผิดกับมัน
“ถ้าไม่ก็ดีจะได้ไม่ต้องมีปัญหา กิตติคะพิมไม่ชอบยัยนั่นเลยวันหลังกิตติอย่าไปที่ร้านนั่นอีกนะคะ”
“ทำไมล่ะครับผมว่าคนของร้านกาแฟไร่ชาญทิพย์ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร อิงแก้วก็เป็นเด็กน่ารักดีแล้วยังมีคุณภูธนาเจ้าของไร่ชาญทิพย์อีกผมว่าเค้าเข้าท่าดี”
“นี่กิตติเคยพูดคุยกับคุณภูแล้วหรือคะ”พิมพาร้อนตัวเมื่อชื่อของภูธนาผุดขึ้นในวงสนทนา
“ไม่ค่อยหรอกครับก็รู้จักแค่ผิวเผิน”คำตอบของเขาทำให้หล่อนเบาใจไม่น้อย ยิ่งเขาทั้งสองรู้จักกันน้อยเท่าไร หล่อนก็ปลอดภัยเท่านั้น
“ก็นั่นแหละค่ะ...ไม่รู้พวกเขาเป็นคนยังไง แต่พิมไม่อยากให้กิตติไปร้านนั้นบ่อย พิมไม่สบายใจ”
“พิมมีอะไรกับที่นั่นหรือเปล่าครับ”กิตติถามกลับเมื่อเห็นถึงความผิดปกติของเธอแต่พิมพายังแถไปเรื่อยเพื่อไม่ให้เขาจับผิดพฤติกรรมหล่อนได้
“เออ...เปล่าค่ะช่างเถอะค่ะพิมแค่ไม่ค่อยถูกชะตากับที่นั่นรวมทั้งยัยอิงแก้วหรือคุณภู”
“อย่าคิดมากไปสิพิมมันไม่มีอะไรหรอก”
“กิตติรับปากสิคะว่าจะไม่ไปยุ่งย่ามกับพวกนั้น”พิมพาเริ่มโวยวายไม่ฟังเสียงข้างใด กิตตินิ่งทอดถอนใจในความเอาแต่ใจของแฟนสาว
“ครับ”เขารับปากถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกขัดแย้งกับคำพูด พิมพาถอนใจเมียงมองไปนอกหน้าต่าง
“พิมขอตัวก่อนแล้วกันเดี๋ยวพิมมีนัดอีกต้องรีบไป”
“ไม่ทานข้าวด้วยกันก่อนหรือครับ”เขาถามแววตาอาลัยอาวรณ์ แต่พิมพากลับส่ายหน้าไม่ใยดีเท่าไร
“ไม่ล่ะค่ะ พิมต้องรีบไปขอโทษด้วยนะคะแล้วพิมจะมาหาคุณใหม่”หล่อนกล่าวนับเป็นครั้งที่เท่าไรที่เขาต้องได้รับคำปฏิเสธจากผู้หญิงที่เขาคิดว่ารัก ซึ่งหล่อนไม่เคยอยู่เคียงข้างเขาเลยในยามที่เขาอาลัยถึงนับเป็นเวลาที่เนินนานและดำเนินไปช้าๆ ที่กิตติเหงาหงอยในหัวใจ คำบอกรักที่พร่ำออกจากปากพิมพาช่างสวนทางกับการกระทำไม่มีสิ่งไหนเลยที่สื่อว่าเธออาลัยหาและอยู่กับเขาทุกโมงยามคำว่าคิดถึงที่ออกจากปากเธอมันช่างเป็นเพียงแค่ลมปากเสียจริง กิตติกลับมาถึงบ้านด้วยแววตาเศร้าสร้อ แอบแคลงใจในพฤติกรรมของพิมพาอยู่ไม่น้อยเธอพยายามให้เขาออกห่างจากร้านกาแฟไร่ชาญทิพย์ทั้งสถานที่และรวมทั้งเจ้าของร้านทั้งสองในเมื่อคนที่นั่นก็ไม่ได้มีพิษสงอะไรหรือเพราะพิมพามีเรื่องมีราวที่นั่นมาก่อนจึงพยายามปกปิดความลับที่ซ่อนนั้นไว้ไม่ให้เขารู้
“หล่อนมาอ่อดอ้อนอะไรอีกล่ะ”กรวิทยื่นหน้าออกจากห้อง เมื่อกิตติเดินขึ้นบันไดมาหยุดหน้าห้องนอนน้องชาย
“เปล่า”
“แล้วมาเพราะเรื่องอะไรล่ะ”
“หล่อนบอกว่าไม่อยากให้พี่ไปสุงสิงกับพวกร้านกาแฟน่ะ พิมเค้าบอกให้พี่อย่าไปที่นั่นอีกพี่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร”กิตติตอบ กรวิทหัวเราะลั่นถึงกลับทำให้กิติติต้องหันมามองทันควัน
“มีอะไรหรือกร”
“ผมรู้ว่าเพราะอะไร”
“ยิ่งกว่ารู้ซะอีกซักวันผมจะพาพี่ไปที่นั่นแบบเงียบๆ แล้วพี่กิตติจะรู้ทุกอย่างเอง”กรวิทบอกยิ่งทำให้กิตติอยากรู้ความจริงที่น้องชายก็ได้รู้
“บอกตอนนี้ได้หรือเปล่า”
“ไม่ได้ เดี๋ยวไม่สนุกพูดไปก็ไม่ดีเดี๋ยวพี่กิตติไม่เชื่อ สู้ไปจับให้ได้คาหนังคาเขาดีกว่าชัดเจนดี”กรวิทยักคิ้วเจ้าเล่ห์ กิตติเริ่มจะแปลความหมายออกบ้างได้แล้วแต่ไม่อยากด่วนสรุปในสิ่งที่เขารู้นั้นเป็นจริงหรือไม่
จากคุณ |
:
คุณหนูแจ่มใส
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ค. 54 22:36:20
|
|
|
|