เวรันนที ตอนที่14 # พราวฝัน (2) #
|
 |
ชานตตีขยับออกห่างจากการเกาะกุมของรัชชตะ เมื่อรู้ตัวว่าอาการอัมพาตชั่วขณะได้คลายลงแล้ว โดยไม่ยอมหันมาสบตาทั้งที่รู้ว่าในตอนนี้จิตใจของใครคนหนึ่งด้านหลังนั้นปั่นป่วนโกลาหล ด้วยคำพูดของเธอที่เผลอไผลออกไปเมื่อครู่
แม้รัชชตะจะเป็นคนทะเล้นขาดความสุขุมตามแบบนิสัยในครั้งที่เป็นมนุษย์ แต่ครั้งนี้กลับจับความคำพูดและเข้าใจในความหมายของมันโดยไม่ผ่านเลยไปอย่างที่ควรจะเป็น มันยิ่งทำให้หญิงสาวอึดอัดที่รู้ว่ากำลังถูกจับจ้องและเผชิญกับคำถาม มากมายที่ส่งผ่านระลอกความคิดของรัชชตะมาถึงเธอ
ชานตตีตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่างศิลาแม้ร่างกายยังไม่แข็งแรงนัก เพียงหวังให้รอดพ้นจากแรงกดดันที่อยากจะพูดโต้ตอบความคิดของชายหนุ่ม และต้องหักห้ามใจไม่ให้เผลอไผลเรื่อยเปื่อยอีก เธอควรทำให้ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตของมันมากกว่าปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นสร้างความลำบากใจแก่จอมนาคา ชานตตี เอ่อ คุณคือคู่หมั้นของผมใช่มั้ย
รัชชตะนึกโทษตัวเองในความซื่อบื้อของคำถามนี้
เขาลุกเดินตามหญิงสาวมาที่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ที่เปิดต้อนรับแสงจันทร์สดใส ให้ส่องอาบร่างขาวนวลของหญิงสาวจนดูกระจ่างตากว่าปกติ
แต่ก่อนท่านวาสุกรีเคยสั่งให้ผมดูแลคุณ ผมรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่อยู่ใต้สระมรกต
ชายหนุ่มพูดพลางเหม่อมองออกไปยังแสงระยิบของเวรันนที ที่กระเพื่อมไปตามแรงลมเอื่อย ในสมองยังคงนึกไปถึงคำสัญญาเดิมที่เคยให้ไว้แก่ท้าววาสุกรีทั้งสองข้อ
ถ้าเช่นนั้นข้าก็เป็นเพียงเหยื่อการรักษาสัจจะของท่าน ข้าไม่ต้องการเป็นเช่นนั้น
ถ้าคุณเป็นเหยื่อของสัจจะ ตอนนี้ผมก็เป็นเหยื่อของโชคชะตา ที่ทำให้ผม...พบคุณ!
รัชชตะดึงสายตากลับจากเวรันนที แล้วใช้สายตาคมเข้มนั้นจ้องมองที่ใบหน้าหญิงสาว ด้วยความอึดอัดใจในเหตุผลและสิ่งที่เกิดขึ้น
อย่าพูดเช่นนั้น ขอเพียงช่วยบริวารแห่งภุชนาคินให้ปลอดภัย เรื่องอื่นท่านไม่ต้องรักษาคำมั่น หญิงสาวพูดพลางหันมาสบตารัชชตะเพื่อยืนยันคำพูด
ชานตตี! รัชชตะยึดร่างหญิงสาวให้ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
ทั้งสองยืนประสานสายตาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความนึกคิดเหมือน ต้องการให้มันได้ถูกถ่ายทอดออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้ และเข้าใจแทนคำพูดที่ไม่อาจหาคำใดมาบรรยายได้ดีพอ
จากคุณ |
:
Kiwi_brown
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเข้าพรรษา 54 21:34:53
|
|
|
|