Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#17 (4/?) ติดต่อทีมงาน

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9480037/W9480037.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9697712/W9697712.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9915681/W9915681.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W9989714/W9989714.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10043028/W10043028.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10055712/W10055712.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/02/W10261447/W10261447.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/03/W10312099/W10312099.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/05/W10536663/W10536663.html

###

คนเขียนก็ยังคงพยายามปีนข้ามไรเตอร์บล็อคต่อไปขอรับ TwT

###

โซลโทฟื้นอีกครั้งแล้ว

เขาลุกพรวดพราดขึ้นมานั่ง  งุนงงว่าเกิดอะไรกับตน  ก่อนจะได้สติว่าอยู่บนเรือแจวลำใหญ่   ในแม่น้ำสายใหญ่  หรืออาจจะเป็นทะเลสาบก็ได้กระมัง

น้ำสีประหลาดอยู่สักหน่อย   ออกขุ่น ๆ ดำ ๆ   ท้องฟ้าข้างบนก็เป็นสีประหลาดพอกัน  ทำให้รับทราบว่าคงยังไม่ได้จากโลกแห่งความตายไปไหน   ท่านเจ้าของร้านนั่งขัดสมาธิงุนงงอยู่ตรงท้องเรือ   มองอะไรไม่ทราบลอยผ่านไปมาในน้ำ  มีหมอกบาง ๆ ตกรอบตัว   แม้ไม่มากมายจนมองไม่เห็นอะไร  แต่ทัศนวิสัยก็ไม่ค่อยไกล  มองไม่เห็นว่าฝั่งน้ำอยู่ที่ใดเลย

"ว่าไง" เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง

โซลโทที่กำลังงง ๆ หันกลับไป   เห็นท่านลุงที่ถือพายทรุดนั่งยอง ๆ ลงตรงกราบเรือด้านหลังพอดี  มือข้างหนึ่งของเขายังคงวางบนด้ามพาย ซึ่งสอดไว้กับที่ยึดตรงท้ายเรือ

"ว่าไงเล่า  อะไรหายไปบ้างหรือเปล่า" ท่านลุงเลิกคิ้วถาม

เจ้าของร้านเอชานมองเขาชั่วขณะ  ก่อนจะก้มลงสำรวจร่างกาย  ...ดูเหมือนไม่มีอะไรหายไป   เขาก็ยังคงสวมชุดที่ใส่ตอนก่อน "ตาย"   ใส่มากี่วันแล้วไม่ทราบ  เพราะแถวนี้ดูเหมือนจะไม่มีวันหรือคืนแต่อย่างใด  พอนึกอย่างนั้นชายหนุ่มก็รู้สึกพิลึกหน่อย ๆ เหมือนกัน   เขามีเสื้อผ้าไม่กี่ชุด  แต่ไม่ได้ติดนิสัยใส่มันติดต่อกันหลายวันเหมือนเทย์

"ไม่มี...กระมังขอรับ" ชายหนุ่มรายงาน "ว่าแต่ท่านลุง  เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ"

"ท่านจ้าวบอกว่ารับคำท้าเจ้า  ข้าก็เลยจะพาไปส่งอย่างไรเล่า"

"ไปส่งที่ไหนหรือขอรับ" โซลโทชักไม่แน่ใจ

คนแจวเรือเงยหน้ามองท้องฟ้า

"ก็แล้วแต่ใจเจ้าจะไป"

...

โซลโทรับทราบว่าเขาต้องผ่านการทดสอบ   แต่การทดสอบจะเป็นอย่างไรนั้นไม่มีใครบอกได้   ปรกติแล้วพอมีคนมาให้ทดสอบทีหนึ่ง   จ้าวแห่งความตายก็จะเอาเขาใส่เรือ   ให้คนแจวเรือแจวไป   แม่น้ำสายใหญ่นี้เป็นพรหมแดนที่ติดต่อระหว่างโลกต่าง ๆ มากมาย   การทดสอบอยู่ที่ใจของคนถูกทดสอบ  เรือไปถึงที่ไหน  แดนทดสอบก็คือที่นั่นเอง

"แล้วทำไมต้องผลักลงมาด้วยล่ะขอรับ" เจ้าของร้านเอชานฟังจนจบก็ยังไม่เข้าใจ

"ท่านจ้าวชอบอะไรจริงจังเป็นหลักเป็นฐาน" คนแจวเรือเกาหลังคอแกรก ๆ "เจ้าจะหวังอะไร   ฤดูหนาวหรือความตายก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง"

โซลโทก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี   แต่พออีกฝ่ายพูดอย่างนี้เลยอดคิดไม่ได้   ก็จริง ทั้งฤดูหนาวทั้งความตายค่อนข้างเป็นสิ่งจริงจัง   เรียบง่าย   แต่ถึงอย่างไรเขาก็กลัวความตายอยู่ดี   เขาไม่อยากตาย

"อีกอย่างหนึ่ง" คนแจวเรือเอ่ยขึ้นมา "ข้าต้องบอกเจ้า...เจ้าควรตายนานแล้ว   รู้ไหม  เพราะอย่างนั้นแม้ไถ่วิญญาณกลับขึ้นไปได้   ท่านจ้าวก็จะให้เวลาเจ้าไม่นาน"

โซลโทที่นั่งมองแม่น้ำตัวแข็งนิ่งไป

"ชะตาเจ้าควรตายนานแล้ว   แม้ถูกเปลี่ยนชะตาจนอะไรรวนไปหมดสิ้น   แต่ถึงอย่างไรก็ควรเปลี่ยนกลับให้เข้าที่ให้ได้...ทั้งท่านจ้าวทั้งนายทะเบียนเป็นพวกคิดอะไรแบบนั้น" คนแจวเรือบอก "เจ้าคงกลับขึ้นไป...มีอายุขัยถึงเท่าที่จะแก้เรื่องต่าง ๆ ให้กลับเป็นปรกติได้   จากนั้นก็คงตาย...กลับมาที่นี่ตามเดิม"

"นี่..."

"หรือเจ้าจะไม่แก้ไขอะไรก็ได้" อีกฝ่ายบอกต่อไป "แต่ถ้าหากไม่แก้ไข  แม่หนูคนนั้นก็คงฝันตลอดไป   และไซธีน เอชานก็คงอาละวาดตามใจชอบจนกว่าจะมีคนปราบได้   แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าใครจะปราบเขาได้  นอกจากเจ้าที่เป็นเจ้าของร่างเดิม"

"ม...มีวิธีปราบเขาหรือขอรับ" เจ้าของร้านเอชานอุทาน

"ก็มี  แต่ไม่บอกหรอก" คนแจวเรือทำเมินหน้าไม่สนใจ "เรื่องบนโลกข้าไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยไม่ได้   ถ้าเจ้ารอดจากทดสอบก็ไปแก้ไขเอาเอง"

โซลโทฟังถึงตรงนั้นแล้วก็เงียบไป

เขากลัว   เขาไม่เคยกลัวเท่านี้มาก่อน   ยิ่งกว่าความกลัวยามเจอหมีตอนเด็ก ๆ  หรือความกลัวตอนที่รู้ว่าพ่อแม่ตาย   แต่ตอนเจอหมี เขาวิ่งหนีได้  ตอนที่พ่อแม่ตาย เขามีคนอื่น ๆ  มีพี่สาว   ตอนนี้ไม่มีใคร   มีแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า   เขาก็ได้แต่กอดไหล่ของตัวเอง

..................................................................................................................................................................

เอลาซชอบเรื่องผู้กล้า

แน่นอนว่าเรื่องผู้กล้ามีหลายแบบ   มีแบบที่่ท่านตาของเขาชอบนำมายัดเยียดให้  ซึ่งมีตัวร้ายเป็นทรราชที่ชอบปกครองบ้านเมืองอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต   และมีแบบที่พอเปิดเรื่องมาก็มีฟ้าร้องฟ้าผ่า   มีผู้ชายแปลก ๆ จะหนึ่งคนหรือหลายคนก็ตามทียืนอยู่รอบวงสัญลักษณ์ใหญ่   หลังจากส่งเสียงทำคาถามากมายให้ฟ้าร้องฟ้าผ่าหนักกว่าเดิมแล้ว   กลางวงดังกล่าวก็จะปรากฏปีศาจโผล่ขึ้นมา   จากนั้นปีศาจก็อาจจะเป็นตัวร้ายประเภทหิวโหยเลยจับคนทั้งฝูงกินลงท้องไป   หรือประเภทบ้าอำนาจเลยให้ทุกคนเป็นทาสรับใช้   หรือจะเป็นประเภทอื่น ๆ อะไรสุดแท้แต่จินตนาการ   ซึ่งเอลาซไม่ค่อยสนใจ   เขารู้แต่ว่าสุดท้ายไม่ว่าพวกนี้จะโผล่มาด้วยความคิดสร้างสรรค์แบบไหน  ผู้กล้าก็ปราบได้อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม...พอถึงตอนนี้ชายหนุ่มกลับชักไม่แน่ใจ

"เทย์ เฮเบล" เขาเอ่ยหลังจากทนนิ่งอยู่เป็นเวลานาน "เจ้าจะทำอะไร"

เมื่อครู่พ่อมดลากเขาเข้าร้านเฮเบล   หลังจากนั้นทั้งสองก็ขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา   เนื่องจากมันเป็นห้องของพ่อมดมาก่อน   เทย์จึงคุ้นเคยดี   เขาเอาม่านลงอย่างรวดเร็ว   ก่อนจะหยิบของหลายอย่างออกมา   ชิ้นแรก ๆ ยังไม่เท่าไร   แต่พอชิ้นที่สามที่สี่ผ่านไป   ท่านชายก็ชักไม่แน่ใจชีวิตเหมือนกัน

ตอนนี้พ่อมดกำลังมองเขาตาใส   พร้อมกับวงสัญลักษณ์ที่ดูก็รู้ว่าชั่วร้ายบนพื้น   หัวกะโหลกสองหัวปักเทียนดำถึงไส้จุดไว้เรียบร้อยแล้ว   ในมือข้างหนึ่งถือหนังสือหน้าปกไม่น่าไว้ใจ  ส่วนอีกข้างถือไม้เท้าหัวเรือง ๆ  ของทั้งสองอย่างล้วนมีไอเขียว ๆ ระเหยออกมา

"นี่หรือ..." พ่อมดยกหนังสือกับไม้เท้าขึ้น "ไหน ๆ ไปวิทยาลัย  เลยหยิบติดมือมาด้วย"

เอลาซเห็นว่านั่นไม่ใช่ประเด็นแต่อย่างใด

"ข้าจะเปิดมิติ" เทย์บอก  สีหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย

"หือ"

"ถ้าหากไม่ทำวิธีนี้  ก็จะส่งเจ้าไปแดนรูเซลคาไม่ได้"

เอลาซเบิกตา  หลังจากนั้นเขาจึงได้รับคำอธิบายจากพ่อมด  ...ไซธีนเป็นลูกครึ่งรูเซลคา   ใกล้ความเป็นรูเซลคามากกว่า   มีแต่รูเซลคาด้วยกันถึงจะรู้ว่าจะจัดการรูเซลคาด้วยกันอย่างไร   ในเมื่อตอนนี้เชลาไม่อยู่  ใครคนอื่นก็ยังคิดวิธีอะไรไม่ได้   จึงมีแต่ต้องให้ใครสักคนไปถาม   แต่รูเซลคาคงไม่ตอบคนทั่วไปง่าย ๆ

"บางทีส่งตาลุงไปอาจจะได้คำตอบ   แต่ตาลุงมีพลังมาก...มากกว่าข้า   มากกว่าทุกคน   เขาก็เพียงแต่กดไว้" เทย์บอก "เขาเป็นคนเดียวที่จะทำอะไรได้จริง ๆ ถ้าหากไซธีนโจมตี  ถ้าหากพระราชาหรือมัตยา ซาวาลไม่มา  ดังนั้นควรให้เขาอยู่ที่นี่   อีกอย่างหนึ่งรูเซลคาก็ชอบคนรูปงาม   ดูทั้งเมืองไม่เห็นมีใครหล่อทองคำเหลืองอร่ามเหมือนเจ้า  คงพอเอาไปง้างปากแม่พวกนั้นได้"

ท่านชายอ้าปาก   ก่อนจะหุบปากลง   เขาอยากบอกเป็นกำลังว่าการรูปงามไม่ใช่ความผิดของตนตรงไหน  ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังรู้ตัวว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรพูดตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน   จึงถามต่อไป

"ดูเหมือนมนตร์ต้องห้ามไม่ใช่หรือ"

"ก็ใช่" เทย์แยกเขี้ยว

"แล้ว...ไม่เป็นอะไร"

"เป็นแน่อยู่แล้ว" พ่อมดตอบทันที "ใช้มนตร์บ้าบอขนาดนี้   ต้องจ่ายค่าตอบแทนแพงแน่ ๆ   ข้าคงถึงตาย"

ยามเห็นท่านชายเบิกตา  เทย์ก็เร่งเอ่ยต่อไปราวกับรำคาญ

"ไม่เป็นไร" เขาว่า "เพียงวิญญาณออกจากร่าง...ไม่ใช่ตายจริง  จะตายก็ต่อเมื่อไม่สามารถปิดประตูมิติตามเวลาที่กำหนดได้   และสายเชื่อมระหว่างร่างกับวิญญาณของข้าขาด  ทำให้กลับร่างไม่ได้   ทำอย่างนี้ดีกว่ารอให้คุณหนูวิดาตาย   ไม่ต้องห่วง  ข้าไม่ยอมเจ็บตัวเปล่าแน่  จะเป็นอะไรต้องให้คุ้มกัน"

เอลาซมองอีกฝ่ายขึ้น ๆ ลง ๆ   ทั้งสองประสานสายตากัน   ท่านชายเครียดเกร็ง   เทย์เองแม้แยกเขี้ยวยิ้มราวไม่ยี่หระ  ก็เห็นได้ว่าเครียดเหมือนกัน   หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน  เอลาซจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

"ถ้าอย่างนั้นอธิบายมาว่าควรทำอย่างไร"

...

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 01:27:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com