บรรพที่ 19
วิหารศิลาสีกุหลาบบนภูผาสูงนั้น สถานที่แห่งความสงบมาตลอดจนกระทั่งเสียงแปร๋นๆ
ของเด็กสาว กรีดร้องขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ แม้กระทั่งนกที่เกาะกิ่งไม้อยู่ในบริเวณนั้น
ยังสะดุ้ง
อะไรกันคะ? หมายความว่ายังไงไม่ให้พบ ฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ศิตาภานะคะ
ถ้าไม่เชื่อคุณจะดูบัตรประชาชนด้วยไหม? ฉันชื่อสิดารี ไคริกา เด็กสาวยืนกราน
ว่าจะพบให้ได้ แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธอีกครั้ง
ชามีที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ช่วยลดเสียงลงด้วย พี่สาวของเธอสบายดี เขากำลังถือศีล
อย่านำโลกภายนอกมารบกวนเลย โดยเฉพาะ..อย่าพาผู้ชายมาพบที่นี่มันไม่งาม ญาณัน
นางที่สนทนากับสิดารี กล่าวพลางกวาดตาไปยังชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ด้วยสายตาตำหนิติเตียนอย่างเปิดเผย
เดี๋ยว! เชวาท่านนี้แค่มาเป็นเพื่อนฉันเท่านั้นนะคะ ไม่ใช่อย่างที่ญาณันเข้าใจ
แต่สถานที่นี้ ไม่สะดวกให้ผู้ชายเข้าไปด้านใน หวังว่าเชวากับชามี คงเข้าใจนะคะ
นักบวชหญิงเสียงอ่อนลงบ้าง แต่ยังไม่ยอมให้เข้าพบอยู่ดี
ผมเข้าใจครับญาณัน จะรออยู่ข้างนอก ให้สิดารีเข้าไปพบพี่สาวคนเดียวก็พอ
อคิลคลี่ยิ้มสุภาพส่งให้
ใช่ค่ะ ฉันไปพบคนเดียวก็ได้ เด็กสาวค่อยยิ้มออกมาบ้าง
เสียใจด้วยนะคะ ชามีนี่ก็เย็นแล้ว เราไม่สะดวกที่จะรับแขก
แต่ว่า...ฉันไม่รบกวนนานหรอกค่ะ ขอพบพี่ศิตาภาแป๊บเดียวเท่านั้น จะเอาของ
มาให้เธอน่ะค่ะ
ถ้าอย่างนั้นฝากมาก็แล้วกัน ฉันจะเอาไปให้พี่สาวของชามีเองค่ะ คำปฏิเสธนั้น
ทำเอาสิดารีอ้าปากค้าง คิดหาคำโต้แย้งไม่ออกกระทัน
เป็นของส่วนตัว อาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพรุ่งนี้กันดีกว่าไหมสิดารี
เด็กสาวยังคงแง่งอนอยู่แม้จะยอมโอนอ่อนตามคำของอคิล
พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะรีบมาแต่เช้าเลย
เห็นจะไม่สะดวกค่ะชามี พรุ่งนี้ตลอดไปถึงอีกสามวัน จะมีพิธีภายใน ที่นักบวชทุกคน
รวมถึงผู้มาถือศีล ต้องเก็บตัว ไม่สะดวกจะต้อนรับใคร สิดารีคงไม่รู้ตัวว่าตอนที่หล่อน
ได้รับคำปฏิเสธนั้นตนเองทำหน้าตลกขนาดไหน อคิลเห็นเข้าถึงกับลอบยิ้มออกมาทีเดียว
พรุ่งนี้ก็ไม่ได้? แล้วเมื่อไรล่ะคะ
ก็หลังจากนี้...สัปดาห์หน้าค่อยมาพบ
ตายแล้วทำไมนานอย่างนั้นล่ะคะ แล้วถ้าเกิดพี่ศิตาจำเป็นต้องใช้ของที่ลืมไว้จะทำยังไง?
สาวน้อยแกล้งร้องโวยวายออกมา
เดี๋ยวจะแจ้งชามีศิตาภาให้ ถ้าเธอมีความจำเป็นต้องใช้ของอะไรนั่น ก็จะให้ติดต่อ
กลับไปที่บ้าน แล้วตอนนั้นค่อยเอามาให้เธอน่าจะดีกว่า สีหน้าเคร่งขรึมของญาณันนั้น
นิ่งได้เสมอต้นเสมอปลาย จนสิดารีนึกขัดใจ
เอาอย่างนั้นก็ได้ครับญาณัน ชามีสิดารีเธอไม่เคยห่างพี่สาวเลยคิดถึงกันมาก
นอนไม่ค่อยจะหลับมาหลายคืน ถ้าได้เห็นหน้าพูดคุยสักนิดคงจะสบายใจขึ้น
ขอความกรุณาตามชามีศิตาภาออกมาสักนิดไม่ได้หรือครับ? ถ้าวันนี้ไม่สะดวก
เป็นวันอื่นก็ได้ครับ เสียงอคิลอ่อนโยนนัก ใบหน้าก็ยิ้มแย้ม ผิดกับยามปกติที่
มักจะมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาขึงตรงอย่างที่ภามินมักจะล้อว่าหน้าตาหาเรื่อง
ผมรับรองว่า เราจะไม่รบกวนญาณันมากไปกว่านี้ ขอแค่พบหน้ากันสักครู่เท่านั้นเอง
ซึ่งก็ยังผลให้ท่าทีของญาณันอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
เข้าใจค่ะเชวา เพียงแต่ว่า...ชามีศิตาภาเพิ่งจะมาที่นี่สองสามวันเท่านั้น ญาตาปัณฑารีย์
อยากให้เธอมีสมาธิสงบนิ่ง ถ้าหากมีคนมาเยี่ยมเธอบ่อยๆ เธออาจจะวอกแวกคิดถึง
โลกภายนอก แล้วการถือศีลภาวนาจะไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น แต่ยังไงเดี๋ยวจะแจ้ง
ชามีศิตาภาให้นะคะ ว่าชามีสิดารีกับเชวาภามินขอพบ นักบวชวัยปลายสามสิบยิ้มให้เขา
ด้วยแววตาอ่อนโยนกว่าที่มองสิดารีมากนัก
ขอบคุณมากครับ ขอโทษด้วยที่ทำให้ญาณันลำบาก ไปสิดารีเรากลับกันเถอะ
เด็กสาวยังอ้อยอิ่งอยู่เล็กน้อย แต่ก็จำใจเดินตามชายหนุ่มกลับมาที่รถ
อะไรกัน ญาณันพวกนี้ ทำยังกับสาวทึมทึกไม่เคยเจอผู้ชายไปได้ ทีกับพี่อคิลล่ะก็
ยิ้มหวานเชียว...เชวาภามินนะคะ.. หล่อนเบ้ปากยามที่ทำเสียงล้อเลียน
แต่ท่าทางจะเข้าใจผิด ว่าพี่อคิลเป็นพี่ภามินเนอะ
หึ! นั่นสิ...ทั้งๆ ที่พี่ยังไม่แนะนำตัวสักนิดว่าชื่ออะไร!! รอยยิ้มเอาเรื่องผุดขึ้นมาบนใบหน้า
ในขณะที่สิดารีเริ่มตระหนักในความไม่ปกติทั้งหลายแล้ว
พี่อคิล...มันชอบกลแล้วนะคะ เราจะทำยังไงกันดี?
ก็ทำอย่างที่ควรจะทำ...ถ้ามีอะไรแปลกๆ ที่บ้านดารีก็มาบอกพี่แล้วกัน
ได้ค่ะ... เด็กสาวรับปาก พลางหันไปเขม่นมองยังวิหารอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถกลับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 54 02:02:40