xxx บ่วงพันธการ..บทที่ ๙ xxx
|
 |
ในเช้าวันหยุดอากาศแสนแจ่มใส..เมธิกาลืมตาตื่นขึ้นมาเพียงลำพังบนเตียงกว้างและเหลียวมองหาอชิระทันที แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของเขา
หลังจากสนุกสุดเหวี่ยงกับการล่องเรือสำราญร่วมสิบวัน เธอจำต้องกลับมานอนร่วมเตียงเดียวกับเขาอีกครั้ง จนเริ่มคุ้นชินกับการมีเขานอนเคียงข้างไปเสียแล้ว ซึ่งเธอไม่ชอบใจสักนิดกับความรู้สึกนี้เลย
หญิงสาวถอนใจเฮือก เหลือบมองถุงของฝากที่ตั้งใจซื้อมาฝากเพื่อนรักทั้งสอง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เอาไปให้เสียที เพราะยังรู้สึกยอกแสลงใจกับชุดนักศึกษาที่เพื่อนสวมใส่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ขวนขวายมุ่งมั่นในการศึกษาสักเท่าไหร่ แต่ก็พอใจที่จะได้สวมเครื่องแต่งกายนั้นไปจนสำเร็จการศึกษาพร้อมเพื่อนๆ แต่ตอนนี้ความฝันเล็กๆของเธอมันพังทลายไปแล้ว และยังคิดว่า เมื่อถึงวันที่ต้องแยกทางจากอชิระไปแล้ว เธอยังจะมีกะจิตกะใจกลับไปเรียนต่อหรือเปล่ากับในสถานะ ม่าย เช่นนั้น..คิดๆ แล้วก็ให้รู้สึกห่อเหี่ยวไปกับอนาคตเหลือเกิน
เมธิกาพยายามตัดใจไม่คิดในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และหยิบโทรศัพท์มือถือโทรฯนัดเจอกับเพื่อนรักทั้งสองที่ร้านอาหารเจ้าประจำ ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวเติมสีสันสดใสให้ชีวิต คว้าถุงของฝากเดินลงมายังชั้นล่าง เหลียวมองหาอารดาหมายจะบอกนางก่อนออกจากบ้าน
และแม้ว่าเธอจะถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องมาอยู่ภายในบ้านหลังนี้ แต่รอยยิ้มอ่อนโยนทั้งท่าทางที่ไม่ถือตัวของอารดา บางครั้งคำพูดที่แสดงความห่วงใยเล็กๆน้อยๆ มันสามารถสร้างความอบอุ่นให้หัวใจเธอเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก ต่างจากบิดาของเธอลิบลับที่ผูกพันกันมาทั้งชีวิตแต่ไม่เคยให้ความรู้สึกเช่นนี้เลย และเมื่อคิดว่า ถึงวันที่ต้องจากบ้านหลังนี้ไป เธอคงรู้สึกโหวงเหวงห่วงหาในตัวอารดาไม่น้อยเชียวล่ะ
อาม่าอยู่ไหนจ๊ะ เธอเอ่ยหาอารดาตามอย่างอชิระกับเด็กรับใช้
อยู่ที่ศาลาค่ะ กำลังดูคุณเล่ยซ้อมมวยกับคุณก้อง
หือ! ซ้อมมวยเหรอ
เรียวคิ้วโก่งเลิกขึ้นด้วยความสนใจ ก่อนหันเดินเรียบสายน้ำไปยังจุดมุ่งหมายที่อยู่ไม่ไกล อารดาอยู่กับพยาบาลสาวภายในศาลาแปดเหลี่ยม สายตาจับจ้องไปยังลานหญ้าซึ่งมีบรรดาลูกน้องของอชิระยืนกระจัดกระจายตามจุดต่างๆ แต่สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังสองร่างที่สวมเพียงกางเกงขายาวสีขาวกำลังกระหน่ำทั้งหมัดทั้งเท้าใส่กันอย่างไม่บันยะบันยัง
เมธิกาเดินไปยืนเคียงข้างอารดาแล้วก็หน้าเหยเก กับเสียงที่อชิระหมุนตัวพร้อมตวัดขาฟาดเข้าบริเวณกกหูของศราอย่างจังจนร่างใหญ่ล้มกลิ้งกับพื้น
หูย ทำไมเขาเล่นกันแรงจังเลยล่ะค่ะ
อารดาหันมาตอบ เล่ยเขาก็เป็นอย่างนี้ล่ะ จริงจังไปทุกเรื่องไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นน้องเป็นนุ่งหรือเปล่า แต่อาก้องก็เก่งขึ้นเยอะนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนสู้กับเล่ยได้ไม่เท่าไหร่ก็ลงไปนอนบ้อท่าแล้ว
เมธิกามองอชิระแล้วก็ค่อนว่าอยู่ในใจ ฮึ! ตาเฒ่าจอมซาดิสซ์
และสายตายังมองการฝึกซ้อมชนิดที่เรียกว่าเอาเป็นเอาตายต่อไป แล้วให้เริ่มสงสารศราขึ้นมาจับใจ กับการที่เขาถูกซัดร่วงลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังฮึดลุกขึ้นมาสู้อีก
อชิระจ้องเขม็งไปยังร่างใหญ่ที่ทรุดลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น เหนื่อยหอบจนตัวโยน เหงื่อเม็ดโป้งผุดพราวขึ้นเกาะบนผิวสีแทนก่อนจะกลิ้งไหลไปตามกล้ามเนื้อแกร่งกำยำราวกับสายน้ำ
ลุกขึ้นมาก้อง อย่าทำตัวอ่อนปวกเปียกเป็นผู้หญิงน่า
แม้ผิวกายจะเต้นเร่าด้วยความเจ็บปวดจนร้าวไปถึงแก่นกระดูกแต่สายตาที่มองลอดผ่านปอยผมรุ่ยร่ายเปียกชุ่มส่องประกายกร้าวอย่างไม่ยอมแพ้ และใช้หลังมือปาดเช็ดเลือดที่ซึมออกมาจากปากก่อนหยัดกายลุกขึ้นหาจังหวะซัดอาวุธใส่ร่างของผู้เป็นพี่ชายให้จงได้
และขณะที่กำลังฟาดฟันใส่กัน ภาพของเมธิกาที่ยืนลุ้นอยู่ข้างมารดาผ่านเข้ามาในสายตาของอชิระส่งปฏิกิริยาตอบสนองให้ร่างกายชะงักงันไปเสี้ยววินาที แต่ก็เพียงพอให้ศราฮุกหมัดกระแทกเข้าสีข้างเต็มเหนี่ยวจนเสียอาการไปเหมือนกัน
อุ๊ย! เมธิกาอุทานพร้อมใจตกฮวบ ด้วยเป็นห่วงว่าอชิระจะเจ็บมากน้อยแค่ไหน ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเธอยังรู้สึกสงสารศราอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับโกรธเคืองเขาเหลือกำลัง
ศราเหลือบมองตามสายตา จนรู้ถึงต้นเหตุที่ทำให้พี่ชายเสียสมาธิแล้วก็หันมาถากถาง สงสัยจะแก่ขึ้นแล้วนะเฮีย ถึงได้เชื่องช้าเป็นเต่าแบบนี้น่ะ
อชิระยืดตัวขึ้นพลางกดคลึงกล้ามเนื้อที่ถูกกระแทกเมื่อครู่ ก่อนแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมพร้อมย่างเข้าหาให้ศราหนาวๆร้อนๆ..การประลองกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งด้วยท่วงท่าหนักหน่วง และใช้เวลาไม่นาน ผู้อ่อนเยาว์กว่าถูกซัดลงไปนอนแผ่กับพื้น และไม่มีทีท่าว่าจะหยัดกายลุกขึ้นอีกแล้ว
ไม่ไหวแล้วเรอะ อชิระก้มหน้าลงพูด มองร่องรอยฟกช้ำทั่วเนื้อตัวของน้องชาย แต่ใบหน้าที่โทรมด้วยหยาดเหงื่อกลับเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม ประหนึ่งว่าได้รับชัยชนะในครั้งนี้
วันนี้ผมพอใจแล้ว เพราะตั้งแต่ฝึกวิชาการต่อสู้จากพี่ชายนับสิบปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถกระแทกหมัดใส่พี่ชายได้สำเร็จ งานนี้คงต้องขอบใจอาซ้อซะแล้ว
แล้วก็ได้การตอบรับเป็นปลายเท้าที่สะกิดเข้าต้นขาดัง ป้าบ พร้อมสายตาขุ่นเคือง เนื่องจากคำพูดที่แฝงการเยาะเย้ยของเขา ก่อนพี่ชายจะหมุนร่างเดินไปหาผู้ให้กำเนิด เขาจึงค่อยขยับร่างกายที่เต็มไปด้วยอาการเจ็บยอกลุกขึ้นปัดเศษดินเศษหญ้าออกจากเนื้อตัวและก้าวตามพี่ชายในเวลาต่อมา
เมธิการีบหันไปคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวที่วางบนเก้าอี้ไม้มายื่นให้อชิระ พร้อมกวาดสายตาดูร่องรอยบุบสลายทั่วเนื้อตัวเขาด้วยความห่วงใยที่เผยชัดออกมาทางสีหน้า ก่อนจะสะดุดกึก เมื่อเงยใบหน้าขึ้นมาเห็นรอยยิ้มกริ่มกับสายตาเรียวคมกริบสีน้ำตาลเข้มที่ส่องประกายประหลาดให้ร้อนวูบวาบไปทั้งเนื้อทั้งตัว จนเธอต้องส่งสายตาค้อนขวักเป็นการแก้เขิน และเห็นเขาเหมือนจะหัวเราะในลำคอ ก่อนเอ่ยถาม
จะออกไปไหนล่ะ
จะเอาของฝากไปให้เพื่อนค่ะ แล้วก็หันมาพูดยิ้มแย้มกับอารดา เดี๋ยวหนูกลับมาทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนม่านะคะ
อารดายิ้มรับ แล้วก็หันมาทางศราที่เดินมายอบตัวลงนั่งแทบเท้า แล้วก็แลบลิ้นทำท่าเหนื่อยอ่อนให้นางหัวเราะ กระดูกยังอยู่ครบนะอาก้อง
ยังอยู่ครบครับคุณนายแม่ แต่พวกเครื่องในคงไหลมากองรวมกันเรียบร้อยแล้วล่ะ อารดาหัวเราะอีกครั้งก่อนจะหันไปเอื้อมหยิบผ้าขนหนูอีกผืน ซึ่งพยาบาลสาวก็รีบหยิบยื่นให้ นางจึงนำมาเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและไหล่ให้ศราอย่างนึกเอ็นดู
เมธิกาอมยิ้มกับภาพของผู้ชายตัวโตที่ออดอ้อนหญิงชราราวกับเด็กชายตัวเล็กๆ ซึ่งเธอมักจะเห็นได้บ่อยครั้งยามที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน และบ่อยครั้งเช่นกันที่ศราจะหันมาพูดคุยกับเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและออกจะขี้เล่นตามวิสัยเธอจึงรู้สึกเหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคน ก่อนจะหันกลับมาอีกคนที่บุคลิกต่างกันราวกับหน้ามือเป็นหลังมือพลางคิดว่า ถ้าเขาพูดเก่งและยิ้มง่ายแบบศรา คงสลัดคราบเจ้าพ่อมาเฟียออกไปได้มากทีเดียว และเขาคงจะน่าคบหามากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นได้
ฉันไปล่ะ
ให้ใครขับรถให้ไหม
ไม่ล่ะค่ะ เธอบอกก่อนจะหันมาทางอารดาอีกครั้ง หนูไปแล้วนะคะ ม่า
ขับรถดีๆนะ
ค่ะ เธอยิ้มรับ ก่อนจะหันเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี
เมื่อคล้อยหลังเมธิกาไปแล้ว อชิระก็หันมาทางน้องชาย เลิกอ้อนได้แล้ว ไปอาบน้ำไป
สั่งจบก็ก้าวเดิน แต่ก่อนจะผ่านร่างของน้องที่ยังนั่งคลอเคลียมารดา เขาก็สะกิดเข้าที่แผ่นหลังกว้างเป็นการส่งท้ายอีกหนึ่งป้าบ ด้วยความหมั่นไส้
ศราหันมาฟ้องกับอีกคนที่ยังอมยิ้มไม่เลิก โห คุณนายแม่ดูสิครับ พอเมียไม่อยู่หน่อยเดียว ง่านเลยอะ
อชิระที่ยังไปได้ไม่ไกลหันขวับ เอ่ยเสียงเข้ม เร็วๆเลยไอ้ก้อง
ครับ ชายหนุ่มยิ้มทะเล้น ก่อนรีบผุดลุกขึ้นไปทำตามคำสั่ง
หลังจากทำความสะอาดเนื้อตัวแล้ว ศราหยิบซองใส่เอกสารที่ได้รับเมื่อวานจากลูกน้องคนสนิทติดมือออกมาจากห้องนอนด้วยและเดินไปหาอชิระที่ห้องทำงาน ซึ่งผู้เป็นเจ้าของห้องเพิ่งจะวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทำงาน หลังจากโทรฯไปสั่งงานบางอย่างกับลูกน้องที่ทำงานอยู่ในคาสิโน
ศราเดินเข้าไปวางซองใส่เอกสารลงบนโต๊ะ ก่อนเลื่อนเก้าอี้มานั่ง เรื่องที่ให้ตามนายบุริมทร์ ได้ความคืบหน้ามาอีกหน่อยแล้วครับ
อชิระหยิบซองตรงหน้ามาเปิดดูพร้อมยอบตัวลงนั่งเก้าอี้ ซึ่งเป็นภาพถ่ายจากกล้องอินฟาเรดหลายใบ หูก็ฟังน้องชายพูดในรายละเอียด
เท่าที่สืบได้ตอนนี้ นายบุริมทร์มีบริษัทที่ผลัดกันใช้เป็นจุดพักยาแยกย่อยอยู่สี่บริษัท แต่ไม่มีชื่อของนายบุริมทร์เป็นผู้ถือหุ้นสักบริษัท มีโกดังที่วนเวียนเข้าออกอยู่เจ็ดแห่งรอบชานเมือง
ใช้สำหรับกระจายของสินะ อชิระเปรยออกมา ในขณะที่สายตามองรูปรถบรรทุกที่แล่นเข้าไปในโกดังแต่ละแห่ง
ครับ และพวกมันก็กระจายของได้ทันทีเลย บอกพร้อมหยิบรูปอีกใบ ซึ่งมีทั้งรถยนต์ชนิดต่างๆ รวมทั้งมอเตอร์ไซด์หลายสิบคันออกมาจากโกดังและแยกย้ายกันไป ซึ่งกว่าจะได้ภาพนี้มา เขาต้องใช้คนกระจายไปซุ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวทุกโกดังนานเป็นเดือนเลยทีเดียว
อชิระมองตัวเลขบอกเวลาที่ต่างกันไม่กี่นาทีในแต่ละภาพแล้วก็นิ่วหน้า แบบนี้ ถ้าไม่ได้ข้อมูลที่แน่นอน ก็เดาไม่ถูกเลยว่ามันจะใช้บริษัทไหนพักยา กระจายยากันที่โกดังไหน..แล้วถึงจะถูกจับได้ แต่ก็สาวไม่ถึงนายบุริมทร์อยู่ดี
ครับ แล้วดูเหมือนว่าทางฝั่งผู้กองนั่นก็พอรู้เหมือนกัน เพราะเคยเรียกตรวจรถพ่วงของนายบุริมทร์แล้ว แต่ค้นหาของกลางไม่เจอ ไม่รู้ว่ามันซ่อนมายังไง..ผมว่า จะสั่งให้คนลอบเข้าไปติดกล้องในโกดัง จะได้รู้ว่าพวกมันซ่อนยาไว้ตรงไหน
อชิระครุ่นคิดเพียงครู่ งั้นส่งเจ้าตงไป เผื่อมีอะไรผิดพลาด
ครับ
ศรารับคำพร้อมนึกถึง ตง ชายหนุ่มที่จมอยู่ในวังวนอเวจีตั้งแต่เล็ก และกลายเป็นฆาตกรเต็มตัวเมื่ออายุสิบสาม โดยเหยื่อรายแรกคือพ่อเลี้ยงที่ทั้งขี้เหล้าและเป็นผีพนันตัวยง จากนั้นชีวิตของเด็กหนุ่มวนเวียนเข้า-ออกคุกราวกับเป็นบ้านอยู่หลายสิบปี จนมาเจอกับพี่ชายและถูกฉุดดึงให้ได้พบกับอีกโลกที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง และให้รู้จักกับการดำรงชีวิตอย่างคนปกติ ถึงแม้ว่าจิตใจหยาบกร้านของตงจะแก่กล้าจนไม่สามารถขัดเกลาได้แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตงตอบแทนมา คือความภักดีที่สามารถให้ได้แม้กระทั่งชีวิต
ต่อค่ะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.ค. 54 14:21:49
|
|
|
|