Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กระบี่รันทด.ภาค 2.............บทที่ 8 (Flowers ot evil) ติดต่อทีมงาน

============
กระบี่รันทด
บทที่  8
(Flowers ot evil)
============

บทที่แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10761082/W10761082.html


กระบี่รันทดมุ่งหน้าสู่เขาอิงฝา
เพื่อแลกเปลี่ยนกล่องปริศนา สินค้าสำคัญ แลกกับความปลอดภัยของคนของสำนักคุ้มกันภัย ของเฒ่าซกมก


*********

“กระบี่หรรษาล่ะ”

“ลงเขาไปแล้ว”

“อะไรกัน มันไม่ต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย ไม่คุ้มค่าจ้างจริงๆ”

ปากกล่าว วาจาต่อว่า หากใจของมันรู้สึกว่าคล้ายมีเรื่องไม่ถูกต้องบางชนิด กระบี่หรรษาก็คล้ายมีบางอย่างไม่ถูกต้อง คล้ายพ่ายแพ้ง่ายเกินไป รามือเร็วเกินไป แม้ว่าจะหักทำลายกระบี่อีกฝ่ายได้ก็ตาม

แต่มันไม่มีเวลาขบคิดมากนัก เพราะกระบี่รันทดใกล้เดินทางมาถึงยอดเขาแล้ว


*******

มือปีศาจสุรา ในมือมีจอกสุรา

มือคนทำครัว มือมีตะหลิว ด้ามกระทะ

มือกระบี่ ในมือมีกระบี่  

มือปีศาจรัก ในหัวใจมีคนรัก และในมือมีอุ้งมือของคนรัก

มือเมธี ในมือมีพู่กัน กระบี่ อยู่คนอยู่ กระบี่ ไปคนไป

จอกสุราอยู่ คนอยู่ จอกแตกคนเมา รักร้าวใจสลาย จอกหายคนเลอะเลือน

กระบี่หายคนยิ่งเลอะเลือน กระบี่หักคนเป็นเช่นไร?

ก่อนถึงยอดเขามีลานหินกว้างริมทางเดิน บุรุษหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่ามันยังไม่ได้รับประทานข้าวเช้า และเพิ่งนึกได้ว่าเฒ่าซกเล็กได้ฝากอาหารให้มาด้วย

ดังนั้นจึงเดินตรงไปทรุดกายนั่งลงในเงาโขดหินร่มรื่น สายลมเย็นสบาย ดึงห่อข้าวออกมาจากอกเสื้อ จัดการปูผ้าขาวหม่นลงบนพื้น แกะถุงส้มตำ ข้าวเหนียว ปลาย่าง ออกมาวางอย่างระมัดระวัง การต่อสู้กับกระบี่หรรษา ไม่ได้ทำให้อาหารเหล่านี้กระทบกระเทือนแต่อย่างไร

ปลา...เป็นปลาดุกย่าง ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจหนักหนาสาหัส ย่างได้ที่จนหนังกรอบเหลืองเนื้อในนุ่ม

ส้มตำ.. แม้ผ่านการเดินทางมาระยะหนึ่ง แต่พอแกะออกจากห่อ ยังสามารถส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลแทบคลุ้มคลั่งฟั่นเฟือน  กลิ่นของมะละก้าสดใหม่ลึกล้ำสุดคาดคะเน พริกสด น้ำมะนาว มะเขือเทศ ปูดอง ปลาร้าพันปี ผสมผสานบูรณาการกันออกมาเป็นรสชาติหอมหวนติดตรึงกายใจแทบล้มประดาตาย

ข้าวเหนียว....เม็ดข้าวราบลื่นเปล่งเปล่งเป็นประกายอบอุ่นราวหยกเนื้อดี เม็ดข้าวสมบูรณ์ผ่านการเลือกเฟ้นมาอย่างพิถีพิถัน เต็มไปด้วยกลิ่นไอธรรมชาติ  ยามสูดดมคราใดล้วนมองเห็นภาพท้องทุ่งนาสีเหลืองยาวไกลสุดตาใต้ฟ้าครามและปุยเมฆขาวในห้องคิดคำนึง เห็นผู้คนเดินเรียงรายไปกับฝูงควาย่า (สัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งมีความแข็งแรงทรหด รับใช้ผู้คนมาเนิ่นนานในการไถดำทำนา) อย่างมีชีวิตชีวา หอบทารกเล็กเด็กแดงท่ามกลางกลิ่นไอธรรมชาติแสงแดดและสายลมโชยจากฟากฟ้าไกลและฝูงนกโบยบิน

ยามนั้น กระบี่รันทดคล้ายมองเห็นผืนดินแตกระแหงแทรกกะทันหัน ตะวันบ่ายคล้อยและอากาศร้อน อยู่ในวัยเด็ก มือหนึ่งถือตะกร้า มือหนึ่งถือเสียม (อาวุธโบราณ) สอดส่ายสายตาหาพื้นที่เหมาะๆ มันรู้ว่าในพื้นดินท้องนาแตกระแหงกว้างใหญ่นี้มีอาหารรออยู่

หอย ปู ปลาบางชนิด  ซุกตัวลึกลงไป บางทีพวกมันกำลังจำศีลเพื่อความหลุดพ้น

แงะแผ่นดินแตกระแหงขึ้นมาที่ละแผ่น

นั่นไง

ปูตัวเขื่องซุกตัวใต้พื้นดินลึกลงไป ยังเหลือความชื้นอยู่ใต้แผ่นดินร้อนระอุ

มันค่อนลากขาปูขึ้นมา ความร้อนของอากาศทำให้เหงื่อหลั่งไหลแผ่นใบหน้า หากมันไม่แยแส ปูตัวนี้คืออาหารโอชะมื้อเย็น ทำอาหารได้มากมาย

“ใจร้าย.....”

เสียงต่อว่าใสๆ มันหันไปมอง

ดรุณีน้อยไม่เกินเจ็ดแปดขวบ ในชุดเสื้อผ้าเก่าๆ คร่ำคร่าตามประสาชาวบ้านแถวนั้น ในมือถือตะกร้าเช่นกัน เด็กน้อยคนนี้มันคุ้นหน้าตาดีเพราะบ้านไม่ห่างกันมากนัก

“เจ้าว่าใคร”

กระบี่รันทดวัยเด็กแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ กล่าวต่อไปว่า

“ปูมันอุตส่าห์หนีตาย หลบขุดรูลึกลงไปเพื่อจำศีลหาทางหลุดพ้น เจ้ายังลากมันขึ้นมา ”

“มันคืออาหาร”

กระบี่รันทดวัยทารกค้านเสียงแข็ง คู่สนทนาเอียงตะกร้าในมือให้ดู พลางบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“นี่ก็อาหาร”

“นั้นมันผักทั้งนั้น”

“ผักเป็นอาหารไม่ได้หรือเช่นไร ทำไมเบียดเบียนสัตว์อื่น”

ฟังแล้วตะลึงอึ้ง

สายลมโชยมา พัดความคิดจากความทรงจำในอดีตกลับมาปัจจุบัน แต่ทำไมเงาหลอนจากอดีตถึงติดตาม จะหลอกหลอนจนลมหายใจสุดท้ายหรืออย่างไร จึงจะลืมเลือนตัดใจ

กระบี่รันทดล้างมือด้วยน้ำจากถุงน้ำเล็กๆซึ่งนำติดตัวมาด้วย กินข้าวมื้อนั้นอย่างช้าๆไม่รีบร้อนท่ามกลางธรรมชาติของเขาอิงฝา

“ท่าทางน่าอร่อย”

ใครบางคนส่งเสียงขึ้นมาจากด้านข้าง

บุรุษหนุ่มไม่ได้หันไปมอง เนื่องเพราะการกินก็ต้องใช้สมาธิ สมาธิจะนำทางให้เกิดปัญญา  ความจริงไม่ว่ากระทำเรื่องราวใดก็ต้องใช้สมาธิทั้งนั้น

ผู้มาใหม่เห็นอีกฝ่ายทำท่าไม่สนใจจึงก้าวตรงมาอย่างช้า ๆ

คนผู้นี้ดูไปคล้ายเป็นคนหน้าตาธรรมดาสามัญ หากระหว่างคิ้วแฝงแววหมกมุ่นครุ่นคิดชนิดหนึ่ง ใส่ชุดสีเรียบง่ายรองเท้าหนังแบบราคาถูกๆ แต่ในความเรียบง่ายธรรมดานั้นคล้ายมีความไม่ธรรมดาอย่างน้อยสามชนิดปะปนกันอยู่ เป็นความไม่ธรรมดาประหลาดพิสดารอันน่าสะพรึงกลัวชนิดหนึ่ง

ก้าวเท้ามาหยุดอยู่ด้านข้าง ในรัศมีกระบี่ ขอเพียงชักกระบี่แทงออก กระบี่รันทดสามารถล้มลงไปในกระบี่เดียวทันที

หากมันไม่ดึงกระบี่ กลับดึงผ้าแพรไหมราบลื่นออกมาผืนหนึ่ง ปูลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง บรรจงนั่งลงอย่างสุขุมเยือกเย็น คราวนี้กระบี่รันทดมิอาจไม่สนใจมันแล้ว ต้องเงยหน้ามอง เอ่ยปากถาม

“กระบี่เรื่องมาก ท่านมาทำไม”

ผู้ที่มาถึงกับเป็นกระบี่เรื่องมาก

ในบรรดายอดฝีมือในยุคนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักฉายา กระบี่เรื่องมาก  ผู้มีพฤติกรรมกึ่งธรรมะ กึ่งอธรรม กึ่งดีกึ่งร้าย กึ่งหญิงกึ่งชาย กระทำเรื่องราวใดล้วนไม่ง่ายดายรวบรัด วิถีทางของมันเต็มไปด้วยความพิถีพิถันระมัดระวังจนน่าคลั่งใจ

มันมาปรากฏตัวบนยอดเขาอิงฝาย่อมมีที่มาที่ไป

จอมเรื่องมากยิ้มแบบคนคิดมาก สายตายังคงจับจ้องอาหารขณะตอบแบบคนคิดมากว่า

"เรามาฆ่าท่าน เพราะท่านมีสินค้าที่ผู้ว่าจ้างต้องการ"


“ท่านมาแล้วไยไม่ลงมือ”

“เราต้องการให้ท่านกินอิ่มก่อนไปยมโลก”

กระบี่รันทดพยักหน้ารับรู้ จอมกระบี่เรื่องมากกลับมีจิตใจใช้ได้ อย่างน้อยก็ไม่ลงมือกับเด็ก สตรีและมนุษย์ทานข้าว การลงมือกับเด็ก สตรีและมนุษย์ทานข้าว ไม่มีที่ใดน่าปิติยินดี ในสายตาของมัน คนใกล้ตายสมควรตกตายอย่างอิ่มหมีพีมัน จะได้ไม่เป็นวิญญาณซานซมทรมรมานหิวโหยในยมโลก เกิดใหม่จะได้รูปร่างหน้าตายิ้มย่องผ่องใส

มันมองอาหาร มองคนทานอาหารอย่างใคร่ครวญ

ฉับพลันมันมีสีหน้าแตกตื่น ชี้นิ้วสั่นระริกไปยังปลาย่าง ก่อนร้องเสียงดังๆ

“อะไรกัน ท่านไฉนโหดร้ายเช่นนี้”

บุรุษหนุ่มชะงักปากเคี้ยวค้าง จ้องมองปลาย่างอย่างสงสัย กระบี่เรื่องมากมองหน้าคู่สนทนาแล้วแผดร้องแตกตื่นแบบแตกตื่นต่อไปว่า

“ปลาตัวนั้นมีไข่”

“แล้วเช่นไร”

กระบี่รันทดเคี้ยวข้าวอย่างรวดเร็วพลางถามขึ้น ปลาดุกตัวนั้นมีไข่เต็มท้อง ไข่ปลาย่างย่อมอร่อยกลมกล่อมไม่ลืมหูลืมตา มีที่ใดผิดเพี้ยน

“มันมีไข่ ...ปลามีไข่ ย่อมเป็นปลาตัวเมีย เป็นปลาตัวเมียเมื่อมีไข่ย่อมสามารถตั้งครรภ์ ท่านถึงกับกล้ากินซากสตรีปลามีครรภ์ช่างน่าอนาถใจนัก”

กล่าวพลางน้ำตาพลันหลั่งไหลเป็นทาง คล้ายมองเห็นสายธารแห่งความสยดสยองไหลผ่านเบื้องหน้าอย่างแช่มช้า ราวกับว่าไม่เชื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆ

“นี่มันปลา ไม่ใช่มนุษย์”

กระบี่รันทดแย้งขึ้น หากอีกฝ่ายสวนคำทันควันด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความพลุ่งพล่านว่า

“ปลาหรือมนุษย์ก็มีชีวิต  มนุษย์มีคู่ครอง ปลาตัวนี้ก็ต้องมีคู่ครอง มนุษย์ตั้งครรภ์ปลาตัวนี้ก็สามารถตั้งครรภ์ไข่ของมันเต็มท้อง แตกต่างจากคนมีทารกในท้องอย่างไร...จะคนหนึ่งคนหรือปลาหนึ่งตัวก็คือหนึ่งชีวิต  แล้วคนเอาอะไรมาตัดสินเองว่าชีวิตคนมีค่ากว่าชีวิตปลา ปลาตัวนี้กลับมาถูกจับย่างก็ไม่ต่างจากสตรีมีครรภ์ถูกจับย่างไฟตายทั้งกลมเป็นภูตผีสยดสยอง อนาถนัก.ปลาน้อยเอ๋ย.... ลูกๆของเจ้าไม่สามารถแม้แต่กำเนิดเกิดมาลืมตาดูโลกเห็นหน้าพ่อแม่อีกต่อไปแล้ว กระทั่งตัวเจ้าก็หนีชะตากรรมโหดร้ายไม่พ้น”

ความจริงกระบี่รันทดยังไม่อิ่ม แต่คล้ายอิ่มขึ้นมาในทันใด

วาจาของกระบี่เรื่องมากคล้ายขุนเขาถล่มทลายลงมาทับจนหนักอึ้ง

มันรามือจากการกิน ยกถุงน้ำขึ้นดื่ม  ปลาย่างบนใบตองตอนนี้คล้ายกลับกลายเป็นสตรีมีครรภ์ถูกผ่าท้องทารกไหลทะลักย่างไฟสยดสยอง แบบนี้ยังสามารถกินลงคอ กระบี่เรื่องมากคล้ายกลับกลายเป็นจอมมารคอหอยไปแล้ว

มันหยิบหน้าเช็ดหน้าออกมา หยิบปลาย่างวางบนผ้าเช็ดหน้าลุกขึ้นช้าๆ ก่อนห่อปลาอย่างบรรจงเรียบร้อย เดินออกไปอย่างช้า ๆ จนเลือกพื้นที่เหมาะสมก็วางห่อปลาลง ขุดหลุมด้วยปลายกระบี่ฝังร่างของปลาน้อยลงไปและกลบฝังอย่างเงียบงันเศร้าหมอง

กระบี่รันทดอึ้งไปค่อนวัน

กระทั่งอ้าปากโต้ตอบก็ไม่อาจโต้ตอบ มันเองก็ไม่เคยครุ่นคิดในมุมมองนี้ วาจาของกระบี่เรื่องมากคล้ายผลักมันตกลงไปในหล่มลึกตะเกียกตะกายไร้หนทาง

ไฉนมักพานพบแต่จอมยุทธ์พิสดารหลุดโลก

ใช้ผ้าเช็ดหน้าบรรจงทำความสะอาดกระบี่อยู่ค่อนวันเช่นกัน น้ำตาของมันยังคงหลั่งไหล คล้ายกลับกลายเป็นกระบี่รันทดไปอีกคน

น้ำตากัดกร่อนกรีดกลางใจบาดลึกลงไปในส่วนบอบบางที่สุดของหัวใจ บันดาลให้พลังลมปราณของกระบี่รันทดปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง ผู้คนหากไม่สามารถหลั่งน้ำตาใช่จะอัดอั้นจนตายทั้งเป็นหรือไม่

“เจ้าเคยขี่ควาย่าหรือไม่......”

จู่ๆ กระบี่เรื่องมากพลันถามขึ้นมา

“ย่อมเคย “

กระบี่รันทดย่อมเคย มันมิอาจไม่เคย มันจดจำความรู้สึกบนหลังควาย่าได้ จำผิวหนังหยาบกร้าน จำความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อควายย่ากระโจนขึ้นไปบน “คาแทนัน” มันแทบหงายหลัง เมื่อควาย่าพุ่งลงจาก คาแทนัน มันก็ต้องเอาขาหนีบหลังควาย่าแนบแน่น เนื่องเพราะเกรงว่า จะหัวทิ่มลงไปเสียบเขาแหลมโค้ง

“มันมีชีวิต”  กระบี่เรื่องมากเกริ่นขึ้นอีก บุรุษหนุ่มผงกศีรษะรับคำ

“มันย่อมมีชีวิต”

“เหมือนปลาย่างตายทั้งกลมตัวนี้”

คราวนี้กระบี่รันทดไม่ต่อบอกต่อคำ เพราะมันมองเห็นความทรงจำของอีกฝ่ายเช่นกัน

ความทรงจำไม่ว่าดีหรือร้าย ใครสามารถลบเลือนหรือต้องทนถูกหลอกหลอนจนลมหายใจสุดท้าย?

กระบี่รันทดจำภาพควาย่าถูกนำตัวไปหลังบ้านเพื่อสังหารเป็นอาหารในงานบุญวิวาห์ มันจดจำน้ำตาหลั่งไหลออกมาจากควาย่าซึ่งผู้คนคิดว่ามันโง่งมไม่รู้เหนือรู้ใต้ แต่ทำไมสัตว์โง่งมถึงสามารถหลั่งน้ำตา...มันรู้อย่างไรว่ามันกำลังจะถูกสังหาร ในใจมันคิดอะไร.....

โพละ.....เสียงอาวุธหนักกระแทกศีรษะ ควาย่าคู่ใจมันทรุดลง และยังคงหลั่งน้ำตา

หลังจากนั้นกระบี่รันทดพลันพบว่ามันเดินอยู่กลางท้องทุ่งนาอย่างอ้างอ้างเดียวดาย สหายต่างเผ่าพันธุ์ของมันถูกวิชาแยกสังขารออกเป็นส่วนๆ มันอดสะทกสะท้อนจนหลั่งน้ำตาเมือนึกว่าพื้นที่แห่งนี้เคยจูงควาย่าและเล็มฟางข้าว หรือลงเกลือกกลิ้งในบ่อโคลนตม

กระบี่รันทดคล้ายตกอยู่ในความหม่นมัว มันก็หลั่งน้ำตา

เวลานั้นเป็นเวลาที่ขาด “โคม่า”  ผู้คนจึงหันมาบริโภคเนื้อควาย่าทดแทน

แต่คนเราย่อมสามารถรู้และจัดการกับความทรงจำนั้น มันไม่ต่างจากความฝัน การจมอยู่ในความทรงจำย่อมมีทั้งสิ่งดีๆ และเลวร้าย


ทั้งสองเผชิญหน้ากันระหว่างหลุมฝังศพปลาตัวน้อย กระบี่เรื่องมากยังไม่กรีดอากาศก็คล้ายมีรังสีอำมหิตไร้สภาพสายหนึ่งกรีดตวัดวาดออกไปไม่หยุดยั้ง สายตากลับกลายเป็นคมกระบี่สายหนึ่งพวยพุ่งออกมาทะลุทะลวงจิตใจผู้คน

เค้นเสียงถามว่า

“กระบี่ท่านเล่า”

กระบี่รันทดปราดออกมาจากฝักตามเสียงเรียกร้อง

เป็นกระบี่หักครึ่งท่อน

สรรพสิ่งเงียบงันทันที

กระบี่หรรษาและกระบี่รันทดต่างหักสะบั้นลงไปด้วยกันจากการปะทะกัน ดังนั้นตอนนี้บุรุษหนุ่มจึงมีเพียงกระบี่หัก แต่ไม่ว่ากระบี่จะอยู่ในสภาพใด มันย่อมต้องใช้งาน เนื่องเพราะเป็นกระบี่ของมัน

“กระบี่ท่านหัก”

“กระบี่หัก แต่ยังไม่ห่างหาย ข้ายังมีด้ามกระบี่”  กระบี่รันทดกล่าวทั้งน้ำตา

กระบี่ถึงหักร้าวรันทดเพียงใจยังอยู่คู่กระบี่ ต่อให้ไร้มือไร้เท้า มันยังจะเอาปากคาบด้ามกระบี่ เนื่องเพราะมันไม่คิดว่าการที่กระบี่หักคือความพ่ายแพ้

กระบี่เรื่องมาก แม้จะกุมด้ามกระบี่แน่น แต่กลับไม่จู่โจมออกไป

เสียงดังเช้งสดใส กระบี่เรื่องมากกลับเข้าฝัก เจ้าของกระบี่หมุนตัวกลับ รังสีอำมหิตสลายมลายวับ เอ่ยปากสั้นๆก่อนจาก

“กระบี่หักไม่คู่ควรให้เราลงมือ”

เพราะมันเป็นจอมคิดมาก อะไรไม่สมบูรณ์ ย่อมไม่ยินยอมตอแย

“ท่านจะไปที่ใด”  บุรุษหนุ่มโพล่งถามออกไป

“ข้าจะกลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์..สูงส่ง ข้าจากมานานแล้ว กระทั่งแทบลืมเลือนตัวเอง ข้าควรกลับไปพบพานลูกหลานควาย่า โคม่า สักครั้ง นานเกินไปแล้ว.....บางทีพื้นดินแตกระแหงและท้องทุ่งนาอาจรอข้าอยู่”

กล่าวจบพลันหมุนตัวก้าวเท้ายาวๆ จากไปแบบไม่สั่งลาอะไรอีก กระบี่รันทดอ้าปากค้างก่อนลอบถอนใจ ไม่อยากเชื่อว่าฝ่ายตรงกันข้ามจะถอนตัวไปในลักษณะนี้ โดยไม่ต้องออกแรง เพราะถ้าต่อสู้กันจริงๆ ประกันว่าตึงมืออย่างยิ่ง เพราะนั่นคือหนึ่งในสิบจอมยุทธ์พิสดาร ฝีมือย่อมพิสดารโดดเด่นเกินหน้าเกินตายอดฝีมือธรรมดา

นี่ไม่อาจนับว่าเป็นการชนะ ไม่อาจนับว่าเป็นการพ่ายแพ้ ยิ่งไม่อาจนับว่าเป็นการต่อสู้ แต่ความจริงเป็นการต่อสู้ไร้สภาพขั้นสูงอีกชนิดหนึ่ง ไม่ต้องถาโถมเข้าหากัน แต่อาศัยบรรยากาศและเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมรอบข้างมาประยุกต์ใช้ในระดับไร้เขาไร้เรา ไร้คำอธิบายไร้ความเข้าใจ

นี่ต้องขอบคุณกระบี่หรรษา ผู้ทำให้กระบี่รันทดหัก

เมื่อนึกถึงกระบี่หรรษาก็ต้องนึกภาพบุรุษชุดขาวสะอาดเป็นระเบียบใบหน้ามักมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอยู่เสมอ ไม่ว่าเรื่องอะไร ล้วนทำให้มันสามารถหัวเราะได้เสมอ  ฟังว่าเมื่อแรกคลอด มันแผดเสียงหัวร่อจนหมอตำแยตกใจแทบเสียสติปางตาย

ในที่สุดก็มาถึงบริเวณยอดเขาอิงฝาอันกว้างไกล

พอพ้นเนินหินกว้าง สายตาแทนที่จะสว่างกะจ่างขัดกลับหม่นมัวหนักอึ้ง

ยอดเขากลับเต็มไปด้วยดงกุหลาบ... กุหลาบสีดำมากมายรายเรียงแทบทุกตารางนิ้ว ยกเว้นบริเวณเนินหินซึ่งกระจายอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ หมอกควันเย็นยะเยือกสีขาวลอยเป็นกลุ่มก้อนบดบังแสงแดด ไกลออกไปเป็นหน้าผาสูงชันผนังราบเรียบไม่มีทางปีนป่าย สีขาวของหมอกเมฆกับสีดำของกุหลาบดำตัดกันอย่างรุนแรง

กลิ่นหอมแปลกๆ ของกุหลาบดำคล้ายมีมนตราอาถรรพ์พิเศษพิสดาร ยิ่งสูดดมยิ่งรู้สึกเคลิ้มเคลิ้มเลอะเลือนราวอยู่ในความฝัน สายลมเย็นกระโชกมาเป็นครั้งคราว พาละอองไอเย็นมาปะทะผิวกายเย็นชื้น เหล่ากุหลาบแกว่งไกวไหวเอนเชิญชวนเหมือนมีชีวิตเรียงรายรอบตัว

จอมมารคอหอยจะต้องซ่อนตัวอยู่ในแถบนี้ แต่ทำไมไม่ยอมปรากฏ

ขุนเขาเลือนราง หมอกควันรางเลือน  จิตใจยิ่งเลือนรางหนักหนาสาหัส ละอองไอเย็นกระจายมาตามสายลมเย็นชื้นและเสียงหวีดหวิวของสายลมคล้ายเสียงภูตผีคร่ำครวญหวนไห้


ทันใดนั้นเอง มันเห็นสตรีนางหนึ่งเดินผ่านหน้าไป พอมองกราดปราดไป หัวใจพลันเต้นระทึกขึ้นมาทันที

มันย่อมจดจำไม่มีวันลืมเลือน ต่อให้อยู่ในความเลือนรางเช่นไรก็ตาม ใครเล่าจะลืมหัวใจของตนเองได้

นั่นเป็นธิดาหมู่ตึกไร้รัก

แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 13:55:55

แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 05:51:25

แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 06:51:16

แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 06:49:58

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:39:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com