ชายหนุ่มนั่งบนตั่งไม้สักใหญ่ มีเบาะรองนุ่มๆ ให้ความอบอุ่น ประกอบกับลมที่เริ่มเย็นขึ้นมาเรื่อยๆ จากหุบเขาพัดผ่านเข้ามาตามมุ้งลวดกั้นยุง ทำให้เขาเผลองีบไป
ตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดสนิท ป้าแสงถึงกลับเข้ามาอีกครั้ง เขาเกาท้ายทอยอย่างกระดาก... ผู้สูงวัยกว่าคงเดินมาดูหลายครั้งแต่ไม่กล้าปลุก
คุณรินยังไม่กลับมาเลย คุณอาร์คทานข้าวก่อนไหมคะ? เดี๋ยวหิวแย่
ยังดีกว่าครับ แล้วนี่น้ารินกลับมาแล้วหรือยัง?
ยังเลยค่ะ นี่ลุงเศกก็เป็นห่วงแล้ว เมื่อครู่โทรศัพท์ไปเจอตัวเจ้าลูกน้อง มันว่าเมื่อตอนบ่ายไปวิดน้ำบ่อปลากัน คุณรินทำโทรศัพท์ตกน้ำไปเสียแล้ว มิน่าถึงติดต่อไม่ได้ ลูกน้องกับลูกพี่ พอได้ปลาก็แยกย้ายกันกลับ เลยไม่มีใครทราบว่าคุณรินยังไม่ถึงบ้าน
แต่นี่ก็มืดแล้วนะครับ
อาคเนย์ลุกขึ้น ชักเป็นห่วงเจ้าของไร่อิงฟ้าเสียแล้ว คิดแบบคนเมืองกรุงเทพฯ... รอบข้างที่มีแต่พิษภัยและผู้คนที่หาความไว้ใจได้ยากยิ่ง หล่อนเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว!
ไปตามดูดีไหมครับ?
ตาเศกสั่งให้ลูกน้องไปดูตามเส้นทางแล้วค่ะ ถ้าอีกสักพักไม่ได้เรื่องก็จะออกไปตาม
แต่ผมว่า...ผมไปตามอีกคนดีกว่า นั่งรอแบบนี้ ไม่สบายใจ
เขาคว้ากุญแจรถ ตัดสินใจจะขับรถออกไปตามหล่อน แต่พอดีได้ยินเสียงรถเข้ามาพอดี
ถ้าจะมาแล้วนะคะ...เอ๊ะ! รถไปไหน? ทำไมมากับรถในไร่?
อาคเนย์มองไปยังรถที่จอดเทียบบันไดด้านล่างที่สามารถเดินขึ้นมาบนระเบียงได้ ร่างเพรียวบางท้าวเอวสั่งการลูกน้องที่ขับรถอยู่สองสามคำก่อนอีกฝ่ายจะถอยรถไป ตามด้วยลุงเศกที่รีบลงไปรอรับอยู่ไม่ห่าง
ขอโทษด้วย รินทำโทรศัพท์ตกน้ำ พรุ่งนี้ขอยืมเครื่องสำรองก่อนนะคะลุง
หญิงสาวคุยเจื้อยแจ้ว ยื่นโทรศัพท์ที่ใช้งานไม่ได้แล้วให้ลุงเศก
ไปไหนมาคะ โอ๊ย! คนเขาเป็นห่วงจะแย่ อยู่แล้ว นี่คุณอาร์คก็กำลังไปตาม ป้าแสงถามหล่อนราวกับเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ
นิดหน่อยค่ะป้า ไม่มีอะไร
หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยี ยกมือทักทาย
ไง...รอนานไหม? ทำเสียงเหมือนกำลังทักเด็ก
ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ
หล่อนคงพอเดาออกว่า การกลับมาในเวลาเช่นนี้มันก้ำกึ่งระหว่างแกล้ง กับของจริง!
เกิดอะไรขึ้น ตาเศก คราวนี้คนเป็นเมียถามลุงเศก
มธรินจึงเป็นฝ่ายเล่าเรื่อง
เดี๋ยวรินอธิบายเอง รินแว๊บไปตลาดมา กะซื้อของไปฝากกองถ่าย แต่...รถมันยางแบนเสียก่อน ล้อรถมันก็ใหญ่ รินไม่มีแรงเปลี่ยน ไม่มีโทรศัพท์เพราะมือถือตกน้ำ ก็เลยนั่งรอ... เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนไปตาม แต่บังเอิญรินขับรถออกนอกเส้นทาง ไม่ได้อยู่ในเขตไร่ กว่าเจ้าโจ๊กจะไปเจอก็มืดแล้ว ตอนนี้ก็...กลับมามือเปล่า...
พูดจบ คนเล่าก็ทำท่าแบมือยักไหล่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คุณรินน๊าคุณริน ทำให้เป็นห่วงกันหมด ป้าแสงบ่นพึมพำ
พูดเหมือนใจเลยครับป้าแสง
อาคเนย์เองก็อดเสริมไม่ได้ ทั้งๆ ที่จริงเขาอายุน้อยกว่า ทำอย่างไรได้ในสายตาของชายหนุ่ม น้าสาวของปริญยังมีความเป็นเด็กช่างเล่นเหลืออยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะตาระยิบรื่นรมย์เป็นนิจคู่นั้น
แต่คนต้นเรื่องยิ้มแห้งๆ ก็ขอโทษแล้วไง!
เขาเพิ่งสังเกตเห็นหน้ามอมๆ ชุดที่สวมก็เปื้อนโคลนเกือบทั้งชุด
คุณทานข้าวแล้วหรือยัง? มธรินยังอุตส่าห์เป็นห่วงแขก
ผมทานของว่างไปแล้ว
ไม่ได้บอกว่าหลับสบายไปแล้วอีกงีบ เก้าอี้นั่ง...หรือจะเรียกว่าตั่งไม้สักนี่นอนสบายดีเหมือนกัน ทำเอาเผลอไปพักใหญ่
วันนี้จับปลาได้ตั้งเยอะ เปื้อนไปหมด ขอไปอาบน้ำก่อนนะ หนาว...
หล่อนทำท่าหนาวจริงๆ แล้วผิวปากหวือ ก่อนจะเดินโหย่งเท้าขึ้นไปชั้นบน
ป้าจ๋า ช่วยจัดโต๊ะได้เลยนะคะ วันนี้รินจะเลี้ยงข้าวเย็น...เพื่อนของหลานชาย
เสียงตะโกนดังมาจากข้างบนทำเอาป้าแสงกับลุงเศกโคลงศีรษะ
นี่คงไม่ได้ไปกับลูกน้องอย่างเดียวหรอกครับ คงไปกับลูกของลูกน้องด้วยแน่ๆ พี่เลี้ยงคนสนิทพยักหน้าให้กัน
เขาเองก็เห็นด้วยกับพี่เลี้ยงของมธริน หล่อนเข้ากับเด็กได้ดี ดูอย่างหลานๆ ที่กรุงเทพฯ สิ ไม่ว่าเล็กหรือโตก็เรียกหาน้ารินทั้งนั้น
***************
ป้าแสงกับลุงเศกมาจัดอาหารให้แล้วให้เด็กสาวคนหนึ่งมาคอยดูแล
คุณรินมีเพื่อนแล้วนี่คะ เดี๋ยวป้าค่อยขึ้นมาดูอีกทีก็แล้วกัน
ป้าแสงอธิบายเมื่อถูกเซ้าซี้ให้ร่วมโต๊ะ
เพื่อนที่ไหนกัน! เพื่อนของหลาน ก็เรียกว่า...หลาน!
หล่อนกัดอาคเนย์ซึ่งๆ หน้า ไม่เห็นเหมือนตอนทำมาดหงิมๆ ยามอยู่กับกองถ่าย หรือเรียบร้อยเป็นผ้าพับเหมือนกับอยู่คุณยาย หรือแม้แต่...ตอนอยู่กับธนัตถ์
ไม่เป็นไรครับ อย่างไรผมก็ไม่กระดากปากที่จะเรียกคุณว่าน้าอยู่แล้ว ชายหนุ่มเองก็ไม่ยอมลดราวาศอก
เชิญทะเลาะกันไปก่อนเลยนะคะ คุณอาร์ค...ยังไงก็ยกให้สักคนนะคะ นานๆ จะเจอคนมาให้กวน ยิ่งพอคุณอาร์คบอกว่าจะมาเอาค่าปิดปากก็เลยพาลอย่างนี้แหล่ะ
คราวนี้ คนที่ขึ้นชื่อว่าชอบกวนคนหนึ่งกลับใจเย็นกว่า
ผมไม่ถือน้ารินอยู่แล้วครับ มีคนผมสอนไว้ว่าไม่ให้เถียงผู้หญิง เพราะจะมีแต่แพ้ลูกเดียว ผู้หญิง...ไม่ค่อยมีเหตุผล
คราวนี้คนที่กำลังตักข้าวเข้าปากตาโต ชี้นิ้วข้ามฝั่งมาที่จานของชายหนุ่ม
นี่นี่...ข้าว!...จะทานหรือไม่ทาน...ข้าว!
มธรินเสียงเขียว เขาเลยยิ้มแล้วเก็บปากเก็บคำ อย่างน้อยก็มาอาศัยข้าวบ้านคนอื่น นั่นแหล่ะศึกน้ำลายจึงได้หยุดชั่วคราว ฝีมือทำกับข้าวของป้าแสงต้องเรียกว่าอร่อยสุดยอดทีเดียว
***************
เจ้าของบ้านมองอย่างพอใจ เมื่ออาคเนย์รวบช้อน กับข้าวคงถูกปากหรือไม่ก็คงหิว พ่อหนุ่มลูกครึ่งตัวโตรับประทานไปตั้งสองจาน
ดูๆ ไปดาราก็เหมือนคนธรรมดานะ ทานข้าวเหมือนๆ กัน
หล่อนวิจารณ์ เว้นไว้นิดหน่อยตรงที่ดาราจะหน้าตาดีกว่าคนอื่นๆ
ก็ไม่เห็นต่างจากพี่ปรัช หรือปริญเลย
อาคเนย์เลิกคิ้ว อ้าว!...ผมก็คนธรรมดานะครับ จริงอยู่...คนอาชีพนักแสดงบางคนเค้าก็ทำตัวไม่ธรรมดา แต่ผมว่าส่วนใหญ่ปกตินะ ข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ผมก็ใช้บริการประจำ
อย่างนั้นหรือ... แต่ คนอื่นเขาเห็นแล้วไม่ปกตินะสิ
หญิงสาวมีสีหน้าไม่เชื่อ พยักพเยิดไปยังสาวน้อยที่นั่งยิ้มไปยิ้มมาไม่ไกลจากที่ทั้งสองอยู่ ป้าแสงให้มาคอยดูแลนายหญิง ซึ่งเด็กสาวก็เต็มใจที่สุด นั่งพับเพียบบิดไปบิดมาตั้งนาน
ดาราเอ๊ย!...เจ้ามองคุณอาร์คเสียจนเปิ้นจะละลายแล้วนะ มาเก็บจานข้าวได้แล้ว
คนเป็นนายสั่งด้วยน้ำเสียงระคนหยอกเย้า มีแววเอ็นดูเด็กสาวไม่น้อย
แหม...ก็เปิ้นหล่อนี่เจ้า เวลากิ๋นข้าวก็ยังหล่อ
ถึงไม่สันทัดกับภาษา หากน้ำเสียงและท่าทางของคนพูด ทำให้เข้าใจได้โดยง่าย เป็นคำพูดที่ซื่อตรง จริงใจ
มา...มาเก็บจาน จะได้ผ่อเปิ้นใกล้ๆ นี่ มาเร็ว! หญิงสาวพอพูดเหนือได้บ้างแต่ฟังดูก็ทราบว่าเพี้ยนหลายส่วน
ผู้เป็นนายหญิงส่ายหน้า เมื่อสาวน้อยชื่อดารา ยิ้มหวานเอียงอาย ค่อยๆ เก็บจานอาหารที่รับประทานเสร็จแล้วออกไป
อาคเนย์ยิ้มให้ จำได้ว่าสาวน้อยแอบมามองดูเขารวมทั้งดาราอื่นๆ อยู่บ่อยๆ ทำเอาอ้ายม้วนไปอีกรอบ ก่อนจะหันกลับมาหาเจ้าของไร่อิงฟ้าที่มองมาทางเขา
'น้าริน' ไม่ได้หลบตา
ตรงกันข้าม... ตาสีเข้มของหล่อนเพ่งมองเขาอย่างพินิจ...พิจารณา...
แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 15:01:29