ความคิดเห็นที่ 1 “ชั้นอยากรู้เรื่องหนิงมากที่สุดเว้ย ยากตรงไหน” จอมนาคาแสดงสีหน้าท่าทางเกินจริง เพื่อให้เพื่อนเชื่อในคำพูด แต่กลับกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้อีกฝ่ายจับได้ว่านั่นไม่ใช่ความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ”ตอนนี้ชัยยันต์กับวิรุฬรัศมี ปลอมตัวเข้าไปจนถึงวิรุฬพิมานแล้ว สืบมาได้ว่าหนิงเหมือนถูกล้างสมองเป็นคนละคน ขนาดลอบเข้าไปหาแบบใกล้ชิดเรียกชื่อ มันยังจำชื่อตัวเองไม่ได้เลย เห็นชัยยันต์บอกว่าตอนนี้บรรดาเหล่าครุฑที่นั่นเรียกหนิงว่า อัญชลินทร์” “อะไรนะ! นี่มันคงทำร้ายหนิงด้วยวิธีการอะไรซักอย่างแน่ ๆ ปัทโธ่โว้ย แล้วทำไงดีวะเนี่ย” รัชชตะร้อนรนนั่งไม่ติดแท่นศิลา “เออๆ ใจเย็นเว้ย ยังไงตอนนี้หนิงก็ปลอดภัย เพราะเท่าที่ส่งข่าว หนิงยังมีกลิ่นอายของมนุษย์ แสดงว่ายังไม่ตาย” รัชชตะยืนนิ่งอึ้งกับข่าวที่ได้รับรู้ นี่เขาเป็นผู้ชายประเภทไหนกันที่ปล่อยให้คนรักไปเผชิญชะตากรรม กับสิ่งร้ายๆเพียงคนเดียวแล้วยังรีรอที่จะเข้าไปช่วยเหลือ จะบอกว่ารอฝึกวิชาสำเร็จก่อน เมื่อไรเล่าจะฝึกสำเร็จ ป่านนั้นหนิงไม่โดนพรากทั้งกายและวิญญาณไปจากเขาแล้วหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนรนเหลือเกิน “ส่วนคุณชานมเย็นตอนนี้ ” “เบิ้ม ไม่เป็นไรว่ะ ชั้นยังไม่สนใจใครทั้งนั้น ชั้นอยากไปช่วยหนิงเดี๋ยวนี้เลย” “อ๊าว ไอ้นี่ ตอนนี้คุณชานมแกก็คิดจะช่วยแกอยู่ ไม่ฟังไง๊” เบิ้มเน้นเสียงสูง “ช่วยเหรอ ช่วยไงล่ะ บอกมา” “ตอนนี้มีแขกคนสำคัญมาที่วิมานมรกต พวกเค้าเป็นกลุ่มคนธรรพ์ เห็นว่าเป็นนักโอเปร่าชื่อดังที่วิรุฬพิมานชอบเชิญไปงานอีเว้นท์ คุณชานมแกเคยช่วยชีวิตใครในกลุ่มนี้เลยสนิทกันเค้าว่าจะวางแผนให้แกลอบเข้าไปหาหนิงโดยแฝงกายไปกับกลุ่มโอเปร่านี่แหละ เพราะยังไงชัยยันต์และวิรุฬรัศมีก็คอยอยู่แล้ว” รัชชตะถึงกับชะงักในแผนการณ์อันแยบยลของชานตตี จริงสิถ้าเป็นวิธีนี้ทุกอย่างน่าจะแนบเนียนที่สุด “กลุ่มนี้เนี่ยทั้งเล่นทั้งร้องเพลงเพราะยังกะเสียงสวรรค์ ชั้นยังไม่เคยได้ยินเพลงที่ไหนเพราะเท่านี้เลยนะเว้ยให้ตาย เอ้ยลืมเล่าหัวหน้าเผ่ามันหน้าตาดียังกับเทพบุตรดูท่าทางคุณชานมแกให้ความสนิทสนมด้วยนะเว้ย...” “จะร่ายยาวทำไม ใครจะปิ๊งใครก็เรื่องของเขา ข้าไม่สน”     ‘สวยเลือกได้รึไง ป่านนี้คงจะชี้ชวนกันดูดวงจันทราอยู่ล่ะมั้ง! ’ “ฮ่าๆ ไอ้รัช นั่นไงม่านน้ำสะท้อนความคิดแกดังลั่น ชอบคุณชานมก็บอกมาเหอะวะ ไม่งั้นแกจะไม่พอใจทำไม” ป๊าก! คราวนี้รัชชตะไม่รอช้าตวัดท่อนขายาวเสยบั้นท้ายเพื่อนร่างใหญ่เข้าเต็มเปา อย่างที่เคยทำเป็นประจำเมื่ออีกฝ่ายพูดจาไม่เข้าหู “อย่าพูดมาก รีบกลับวิมานมรกตเถอะ” รัชชตะร้อนใจอยากพบคณะคนธรรพ์เร็วที่สุด แต่แล้วกลับได้ยินเสียงประหลาดภายนอกแผดก้องแสบหู! เสียงนั้นดังมาจากทางหุบเขาห่างจากนี้ไปไม่ไกลนัก รัชชตะและเบิ้มวิ่งฝ่าม่านน้ำออกมายังปากถ้ำ ภาพตรงหน้าเกือบทำให้รัชชตะต้องร้องอุทานออกมาดัง ๆ แต่แล้วกลับยืนตะลึงเงียบงันกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 21:51:57 จากคุณ : Kiwi_brown เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:21:39

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อมองจากอินทนิลซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกนี้ แม้ในความมืดกลับเห็นฝูงนกยักษ์ชนิดหนึ่งกำลังสุมรุมกันฉีกร่างไร้วิญญาณของเหยื่อ ที่ตอนนี้ยังคงมองเห็นไม่ชัดนักว่าเหยื่อของพวกมันคือสิ่งใดกันแน่ ภาพที่เห็นนั้นช่างน่าพรึงนัก จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาทำให้รัชชตะรู้ว่าพวกมันคือกลุ่มแร้ง ไม่ใช่ครุฑเป็นแน่ รูปร่างหน้าตานั้นดูน่ากลัว ยิ่งเวลามันฉีกเหยื่อเป็นชิ้นๆ เหมือนกับการกระชากวิญญาณออกจากร่างนั้นอย่างไร้ปราณี แต่ที่ทำให้รัชชตะตกตะลึงกว่านั้นก็คือ การมาของพยัพยนต์! และร่างนาคาที่ทะยานตามกันมาเป็นขบวน และเพียงไม่กี่วินาที พยัพยนต์ก็พาพวกเข้าตะลุมบอนกับฝูงแร้งนั้นอย่างบ้าคลั่ง ‘แซ่ด แซ่ด’ ‘แคว้ก แคว้ก’ “เฮ้ย นั่นพยัพยนต์มันจะทำอะไรวะ” รัชชตะพูดขึ้นอย่างเลื่อนลอย ด้วยสายตายังจับจ้องไปที่การต่อสู้นั้นอย่างจดจ่อ “ฮึ นี่เป็นแผนการของเจ้าพยัพยนต์ที่จะล่อให้ราชันต์แห่งภูตเข้ามาติดกับ เพื่อมันจะได้ฆ่าแล้วแย่งชิงแก้วตาภูต” อินทนาคราชที่เพิ่งเดินเข้า ช่วยไขข้อข้องใจให้รัชชตะ “แก้วตาภูต คืออะไรครับ” “ปกตินาคาไม่อาจเทียบความสามารถและความไวในการมองเห็นได้กับพวกราชันต์แห่งภูต และปักษีทั้งหลาย ทำให้เมื่อถึงเวลาต่อสู้จะตกเป็นรองได้ง่าย แต่หากนาคาตนใด มีแก้วตาภูตนี้ไว้ในครอบครองเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกครุฑเราจะไม่เสียเปรียบ” “ท่านเองก็มีแก้วตาภูตแล้วหรือครับ” “แก้วตาภูต อาจไม่จำเป็นสำหรับข้า” ‘เหมือนจะกระจ่างแต่ไม่เข้าใจ อินทนาคราชกะชานตตีนี่ชอบพูดจาดูมีลับลมคมในเหมือนกันเด๊ะ’ รัชชตะนึกนินทาในใจอย่างไม่สำรวมความคิดตามเคย “แล้วพยัพยนต์ใช้อะไรเป็นเหยื่อครับ” “นี่คือสิ่งน่าอดสูนัก มันเอาร่างของบริวารนาคาที่ไม่ได้ถือกำเนิดอย่างเทวะ และหมดบุญแล้วมาเป็นเหยื่อล่อ” ชายชราหลุบเสียงทุ้มต่ำอย่างสะท้อนใจ “แล้วทำไมท่านไม่ห้ามล่ะครับ เพราะถึงเป็นบริวารที่หมดบุญแล้วก็ตาม แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าอนาถอย่างที่เห็น” “นั่นคือ บริวารของมันข้าไม่อยากข้องเกี่ยว”เสียงนั้นเฉยเมยนัก “ครับ” ชายทั้งสามยังคงมองการต่อสู้ตรงหน้าต่อไป ถึงแม้อินทนาคราชจะดูวางเฉยกับฉากการต่อสู้แบบนี้เพราะเห็นมานับไม่ถ้วน ทว่าสำหรับรัชชตะและเบิ้มนี่คือภาพที่ตื่นตาที่สุด เหมือนดูหนังต่อสู้ที่สมจริงเสียยิ่งกว่าจริง รัชชตะเริ่มประมวลความคิดกับเหตุการณ์ตรงหน้า นี่นับว่าพยัพยนต์ฉลาดพอตัวที่ล่อพวกราชันต์แห่งภูตลงไปในหุบ แล้วใช้กำลังพลที่มีบางส่วนสาดเพลิงลงไปจากปากเหว เขาจำได้แม่นยำว่าการทำเช่นนี้เรียกว่า นทีสีเพลิง นั่นคือ การที่นาคาสะบัดร่างตั้งแต่หางขึ้นมาอย่างแรงแล้วพ้นอะไรอย่างหนึ่งที่เป็นของเหลวออกจากปากสักพักมันจะกลายเป็นทะเลเพลิงเข้าหาสิ่งที่ต้องการทำลายล้าง นทีสีเพลิงนี้ได้ผลชะงัดนัก พวกราชันต์แห่งภูตไม่สามารถบินหนีออกไปได้ง่าย ส่วนด้านล่างพยัพยนต์พร้อมพวกอีกสองตนได้สังหารราชันต์แห่งภูตบางส่วนไป เหลือแต่จ่าฝูงฝีมือดี เมื่อมองไปที่ท่วงท่าการต่อสู้ของพยัพยนต์แล้วนั้นนับว่าไม่เลวทีเดียว เขากำลังใช้สูตรตำรับการต่อสู้ของเทวะนาคาอย่างแม่นยำเหมือนได้รับการศึกษามาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธีเหินด้วยนาคะลีลาเป็นเกลียวแนวตั้งเพื่อหลอกล่อให้พญาแร้งตะปบเข้าจิกและเล็งเป้าได้ยากแล้ว ทันใดพยัพยนต์กลับฉวยจังหวะนี้ตวัดปลายหางทรงพลังขึ้นสูงโอบรัดรอบคอเหยื่อ แล้วกระชากออกจากกันอย่างแรงเช่นลักษณะการดึงเชือกทำให้พญาแร้งตนหนึ่งขาดใจตายในทันที รัชชตะจำได้ในครั้งที่อินทนาคราชอธิบายกระบวนท่าต่างๆให้เขานั้น ท่านี้น่าจะเรียกว่า พิชิตเมฆา แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:01:05 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 21:59:16 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 21:57:01 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 21:54:52 จากคุณ : Kiwi_brown เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:27:34

ความคิดเห็นที่ 3 รัชชตะยืนมองการต่อสู้นั้นเพลินจนไม่สังเกตว่าขณะนี้ อินทนาคราชได้มองจ้องมาที่ประกายตาที่ส่อแววกระหายการต่อสู้ของเขาอย่างไม่รู้ตัว “แล้วเจ้าล่ะ รัชชตะ ไม่คิดร่วมวงแย่งชิงแก้วตาภูตมาเป็นสมบัติติดตัวไว้สักคู่หรอกรึ นั่นมันอาจช่วยเจ้าเมื่อจะไปต่อกรวิรุฬหัตถีที่อาจมีขึ้นในไม่ช้านี้” อินทนาคราชถามขึ้นจนชายหนุ่มตั้งตัวไม่ติดที่จะตอบคำถาม “เอ่อ” รัชชตะว้าวุ่นใจขึ้นมาบ้างเพราะไม่อยากสังหารใคร หรืออีกทีก็ไม่แน่ใจว่าจะโดนใครสังหารหรือไม่ แต่มันอาจจะช่วยให้เขาเก่งขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว และนั่นก็หมายถึงเขาจะสามารถไปช่วยบริวารที่ถูกขังและนพมาศได้เร็วขึ้นเช่นกัน ในขณะที่รัชชตะกำลังคิดลังเลอยู่นั้น สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่ออินทนาคราชกระชากร่างเบิ้มขึ้นสูงจากพื้น “เฮ้อ เย้อ ทะ ทะ ท่าน จะทำไรผมอ่ะ” เบิ้มถามพลางพนมมือเหมือนขอชีวิตเมื่อเท้านั้นลอยไม่แตะพื้นเสียแล้ว “รัชชตะเจ้าจงลงไปช่วยเพื่อนรักกลางวงพญาแร้ง ก่อนที่พวกมันจะเห็นเจ้าหนุ่มผู้นี้เป็นอาหารอันโอชะ ฮ่ะๆๆ” พูดยังไม่ทันขาดคำอินทนาคราชก็โยนร่างเบิ้มลอยฝ่าอากาศเพื่อให้ไปตกในวงล้อมของราชันต์แห่งภูต “นี่ท่านทำอะไรน่ะ โอ้ยแย่แล้ว” ฉับพลันนั้นเองเหมือนพลังที่ซ้อนเร้นอยู่ได้ถูกจุดชนวน ขณะนี้รัชชตะได้กลายร่างเป็นนาคราชเกล็ดเงินระยิบวับวาว “แซ่ด แซ่ด!”จอมนาคาแผดเสียงร้องกึกก้องสะเทือนเลื่อนลั่นเช่นฟ้าคำรน พุ่งทะยานตามร่างของเพื่อนรักสู่กลางลงล้อมของราชันต์แห่งภูตและศัตรูตัวฉกาจเช่นพยัพยนต์ "คงไม่มีบทเรียนใดดีเทียบเท่ากับการเข้าสู่สนามต่อสู้จริงอีกแล้ว ทายาทวาสุกรี" ชายชราพูดเสียงแผ่วเบาตามหลังร่างของรัชชตะนาคราชที่เพิ่งทะยานจากไป --- โปรดติดตามตอนต่อไป --- แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:06:27 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:03:00 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:02:28 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:01:45 จากคุณ : Kiwi_brown เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:35:27

ความคิดเห็นที่ 4 เพลงประกอบตอนที่15 จากคุณ : Kiwi_brown เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:40:24

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนที่แล้ว แล้ว มา :) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10819817/W10819817.html จากคุณ : Kiwi_brown เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:41:37

ความคิดเห็นที่ 6 อืมม แก้วตาภูต ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย รู้จักแต่แก้วตาโบ๋^^ จากคุณ : GTW เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 06:53:19

ความคิดเห็นที่ 7 แก้วตาภูตถ้ามีมานาน ควรมีการถ่ายโอนลิขสิทธิ์เป็นทอดๆ  ไม่น่าต้องมาแย่งชิงกันอย่างนี้เลยเนอะ  จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 07:45:20

ความคิดเห็นที่ 8 แหะ แหะ :) แก้วตาภูตมีประโยชน์ไว้ใช้เล็งได้ในระยะไกล...เชียวนา คุณGTWสนใจมีไว้ซักคู่นึงมั้ยคะ ไว้เล็งสาวๆไง 555+ ของมันดีอย่างที่บอก ก็ต้องมีช่วงชิงกันเล็กๆค่ะ คุณรุริกะ เกิ๊บ เกิ๊บ ขอบคุณทั้งสองท่านที่ติดตามเสมอ:) จากคุณ : Kiwi_brown เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 10:03:07

ความคิดเห็นที่ 9 ราชันย์  ย์ การันต์ค่ะ จากคุณ : แก้วกังไส เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 12:43:10

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ิอันนี้บอกไปทางหลังไมค์เจ้าตัวทีนึงแล้วค่ะ (ผิดตั้งแต่ชื่อตอนเลย) ดูซิ ว่าจะมาแก้เมื่อไร ตั้งใจไม่ทักในกระทู้ รอดูว่าจะมีคนสนใจไหม ขอบคุณคุณแก้วกังไสค่ะ ^____^ จากคุณ : รุริกะ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 14:33:25