ตอนที่ 3
ฉายะชาติกลับมาถึงบ้านประมาณเกิอบๆ 3 ทุ่ม ตั้งแต่เริ่มทำงานเพลงเมื่อหลายปีก่อนมาจนถึงทุกวันนี้เขาก็มักจะกลับมาบ้านไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่นัก เพราะการทำงานที่ไม่เป็นเวลาแบบคนอื่นๆ หรือบางครั้งก็หายหน้าหายตาไปหลายวันกว่าจะกลับมาบ้านที และเพราะการทำงานกับเสียงเพลงเป็นหลัก ชายหนุ่มจึงขออนุญาตผู้มีพระคุณทั้งสองสร้างบ้านชั้นเดียวหลักเล็กๆ ที่เป็นทั้งบ้านและห้องซ้อมดนตรีแบบเก็บเสียงอยู่บริเวณสวนด้านหลังบ้านหลังใหญ่ด้วยทุนทรัพย์ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเขาเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นอิสระในการทำงานซึ่งทำให้เขาไม่ต้องกังวลว่าเสียงเครื่องดนตรีจะคอยรบกวนคนในบ้านหลังใหญ่อีกด้วย
กลับมาแล้วเหรอฉาย ทานข้าวมารึยังล่ะเรา
เสียงคุ้นหูของน้าน้อยเอ่ยถามขณะเดินเข้ามาหาชายหนุ่มที่เพิ่งลงมาจากรถยนต์ด้วยท่าทางเหนื่อยล้าเหมือนเช่นทุกวัน
เรียบร้อยแล้วครับ ทำไมบ้านใหญ่ดูเงียบๆจัง เข้านอนกันหมดแล้วเหรอครับ
ยังหรอกจ้ะ แต่ว่าทุกคนไปทานอาหารค่ำบ้านคุณปิติกันหมดเลย พอดีวันนี้คุณใบปอเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ อ้อ คุณตุลสั่งไว้ว่าถ้าฉายมาแล้ว ก็ให้ตามไปด้วยนะ
คิ้วเข้าขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะชะเง้อมองข้ามรั้วเข้าไปในบ้านข้างๆ แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถยนต์คันคุ้นตา ที่จำได้ดีว่าเป็นของนิดา เพื่อนของปุณณมี ซึ่งทำงานอยู่บริษัทเดียวกับเขาจอดอยู่ และแทนที่ชายหนุ่มจะเข้าไปบ้านหลังนั้นตามคำบอกของน้าน้อยเขากลับเดินก้มหน้าก้มตากลับไปที่บ้านหลังเล็กของตัวเองโดยไม่สนใจอะไรอีก ทว่า เมื่อกลับมาอยู่กับตัวเองในความเงียบ ความทรงจำในช่วงหนึ่งของชีวิตก็ย้อนกลับเข้ามาในความรู้สึก ที่ไม่เคยลบเลือนไปตามกาลเวลา
ฉายะชาติยังจำวันแรกที่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ดี ตอนนั้นเขาอายุราว 14 ปี และเพิ่งสูญเสียพ่อ ผู้เป็นบุรุษพยาบาลประจำโรงพยาบาลเล็กๆในต่างจังหวัดไป จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหตุการณ์อันน่าเศร้าสะเทือนใจคราวนั้น ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กชายตัวคนเดียวแทบไม่เหลือใครแล้ว แล้วนายแพทย์วิรัช ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาที่พ่อทั้งรักและนับถือก็มาชวนเขาไปอยู่ด้วยกันในวันที่มาร่วมงานศพวันสุดท้าย
ไปอยู่ด้วยกันนะฉาย ฉันคุยกับปู่ ย่าของเธอแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีอนาคต ย่าบอกว่าเธอเรียนหนังสือเก่ง ไปอยู่กับฉัน แล้วฉันจะให้เธอเรียนหนังสือสูงๆ ตามที่เธอต้องการ
เด็กชายยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด วันที่จากบ้านเกิดเมืองนอนและญาติพี่น้องมาอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตในเมืองกรุงฯ นายแพทย์วิรัชพาเขามารู้จักกับภรรยาและลูกชายคนเดียว ที่แสดงท่าทีว่าต้อนรับเขาอย่างเต็มใจ ซึ่งก็ทำให้เด็กชายรู้สึกดีไม่น้อย
ยังเสียใจเรื่องพ่ออยู่เหรอลูก ร้องไห้ไม่หยุดเลย เดี๋ยวให้ตุลพาไปดูห้องนอนดีกว่านะ เอ๊ะ ฉายกับตุลนี่ใครเป็นพี่เป็นน้องคะคุณ
นางรัชนีพูดกับเด็กชายอย่างเอ็นดูก่อนจะหันไปถามผู้เป็นสามี
ฉายอ่อนกว่าตุล 1 ปี นะ
ดีจังเลยค่ะ ตุล ชอบบ่นว่าอยากมีน้อง คราวนี้ได้มีน้องชายสมใจแล้ว ไปลูก พาน้องไปดูห้องนอนแล้วก็พาไปเดินเที่ยวรอบๆบ้านนะลูกจะได้หายเศร้าเร็วๆ
ครับ คุณแม่
เด็กชายท่าทางซุกซน ลุกขึ้นเดินมาใกล้ฉายะชาติและมองเขาอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยชวนไปดูห้องนอนที่เตรียมไว้ให้ แล้วถึงพาไปเดินเล่นรอบๆบ้าน ตามคำบอกของมารดา สร้างความประทับใจให้กับเด็กชายผู้เข้ามาอยู่ใหม่มากมายเหลือเกิน ในความอาทรของเด็กชายเจ้าของบ้าน ที่ไม่ได้มองว่าเขาเข้ามาเป็นเพียงผู้อาศัย ทว่า กลับปฏิบัติด้วยเหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันจริงๆ
บ้านข้างๆเนี่ย เป็นบ้านของเพื่อนคุณแม่ คุณป้าเอมกับคุณแม่สนิทกันมาก บ้านนั้นกับบ้านเราก็เลยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน เจ้าของบ้านน่ะชื่อคุณลุงปิติ แล้วก็มีลูกสาวคนนึงชื่อใบปอ
ตุลยวัตพูดให้ฉายะชาติฟังไปเรื่อยๆ ระหว่างกำลังพาเดินสำรวจรอบๆบ้าน
เมื่อกี้เราได้ยินนะ ตุล พูดอะไรถึงเรา แอบนินทาเราอยู่เหรอ
เด็กชายทั้งสอง ต่างก็สะดุ้งตกใจ เพราะไม่คิดว่าอยู่ดีๆ จะมีเสียงใครดังขึ้นมาเฉยๆ แถมยังมองไม่เห็นเจ้าของเสียงอีกด้วย
เสียงใครครับคุณตุล
ตุลยวัตทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะมองขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ติดริมรั้วของบ้านข้างๆ
โน่นไงฉาย มองขึ้นไปสิ เสียงคงมาจากลิงซนๆ ชอบปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้นั่นแหละ
เด็กชายพูดปนหัวเราะ ฉายะชาติมองตามแล้วก็เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังปีนลงมาจากต้นไม้อย่างรีบร้อน จนน่ากลัวว่าจะพลาดพลั้งตกลงมา
ระวังครับ
เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนบอก พอเด็กหญิงลงมาถึงพื้นเขาจึงได้มองเห็นหน้าชัดๆ ว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่หน้าตาสวยน่ารักมากทีเดียว
ไม่ต้องกลัวหรอกฉาย ใบปอน่ะ แทบจะหลับตาปีนขึ้นลงต้นไม้ต้นนี้ได้แล้วมั้ง
เด็กหญิงหันไปมองค้อนคนพูดแล้วจึงหันมาสบตาเด็กชายผู้มาใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
เพื่อนที่โรงเรียนตุลเหรอ ทำไมหน้าไม่คุ้นเลย
ไม่ใช่หรอก เป็นน้องชายของเราที่คุณพ่อเพิ่งไปรับมาอยู่ด้วยน่ะ ชื่อฉาย ฉาย นี่ใบปอนะ ใบปออายุเท่าฉายแหละ น่าจะเป็นเพื่อนกันได้
ตุลยวัตบอกแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน ฉายะชาติเห็นรอยยิ้มและสายตาเป็นมิตรของเด็กหญิงแล้วก็ยิ้มตอบอย่างรู้สึกดี และกำลังคิดว่า ชีวิตใหม่ที่นี่ของเขา คงไม่เลวร้ายอย่างที่นึกกลัวอีกต่อไปแล้ว
เสียงเคาะประตูด้านนอกที่ดังขึ้นถี่ๆ ทำเอาคนที่นอนหลับตานิ่งอย่างเหนื่อยๆอยู่บนเก้าอี้โยกต้องรีบลุกขึ้นออกไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
ทำอะไรอยู่มืดๆ ไฟก็ไม่เปิด ออกมาคุยกันข้างนอกหน่อยสิฉาย
ตุลยวัตบอกเป็นเชิงออกคำสั่ง ฉายะชาติเอื้อมมือไปเปิดไฟทั้งในบ้านและหน้าบ้านก่อนจะเดินตามร่างสูงใหญ่มาที่สนามหญ้าด้านนอก
คุณตุลมีเรื่องอะไรกับผมเหรอครับ
ใบปอกลับมาแล้วนะ ฉายเคยบอกว่า ถ้าใบปอกลับมาเมื่อไหร่จะพูดความจริงทุกอย่างด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ
ตุลยวัตเข้าประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม
คุณใบปอเห็นการ์ดแต่งงานแล้ว แล้วเธอก็ไปหาผมถึงที่คอนเสิร์ตตั้งแต่ตอนเย็นแล้วครับ
ฉายะชาติมองตาผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นพี่ชายแท้ๆของเขาด้วยสายตาบ่งบอกถึงความเคลือบแคลงใจอะไรบางอย่าง
คงไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนเอาการ์ดแต่งงานให้ใบปอดูหรอกนะ
เขาบอกอย่างเข้าใจในความสงสัยของคนที่มองมา และอดคิดถึงช่วงเวลาอาหารค่ำที่เพิ่งผ่านไปไม่ได้ ถ้าปุณณมีได้ไปพบและพูดคุยเรื่องนี้กับฉายะชาติแล้ว ก็ถือว่าหญิงสาวเก็บอาการได้เก่งมาก เพราะเธอพูดคุยกับทุกคนเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จะว่าไป ระหว่างฉายะชาติกับปุณณมี เวลาอยู่บ้าน ทั้งสองก็เคยแสดงอาการให้พวกผู้ใหญ่สงสัยหรือผิดสังเกตอยู่แล้ว ในสายตาของทุกคน เด็กทั้งสามที่เติบโตเคียงข้างกันมา ก็เป็นเหมือนเพื่อน พี่ น้อง ที่สนิทกัน เท่านั้นเอง เรื่องแต่งงานสายฟ้าแลบของฉายะชาติ จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจหรือผิดคาดมากนัก เพราะในสายตาของทุกคน เขาเป็นหนุ่มนักดนตรีผู้มีชื่อเสียง ที่ได้พบปะกับผู้คนมากมาย การที่จะมีผู้หญิงสาวสวยเข้ามาในชีวิต มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ
ฉายะชาติตอบแล้วก็นึกไปถึงตอนที่เห็นรถยนต์ของนิดาจอดอยู่ หรือว่าจะเป็นนิดาที่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนรัก แต่เขาก็เคยขอร้องไปแล้วครั้งหนึ่งว่าเขาอยากเป็นคนพูดเรื่องนี้เอง นิดา ไม่น่าจะเป็นคนไม่รักษาคำพูด
เรามาบอกแค่นี้แหละ คิดว่าฉายยังไม่รู้ว่าใบปอกลับมาแล้ว ยังไง ถ้ามีอะไรที่เราพอจะช่วยได้ก็บอกนะ
ตุลยวัตพูดตัดบทแล้วหันหลังเดินกลับไปที่บ้านใหญ่ของตัวเอง ในขณะที่ฉายะชาติก็ทิ้งตัวนั่งลงกอดเข่าอยู่ตรงเชิงบันได้บ้านเล็กของเขาอย่างคิดไม่ตกกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้
จากคุณ |
:
Travel to the moon
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ก.ค. 54 12:49:35
|
|
|
|