เวรันนที # ตอนที่16 ราชันย์แห่งภูต (2) #
|
 |
ตอนที่ 16 ราชันย์แห่งภูต (2)
ในที่สุดร่างอวบอ้วนของเบิ้มก็ถูกส่งลอยคว้างมากลางอากาศจนเข้ามาสู่วงล้อมของราชันย์แห่งภูต ในเวลานี้เจ้าของร่างได้แต่ยื่นแขนขาออกไปตีอากาศรอบตัวเหมือนกับจะทำให้ตัวเองนั้นลอยขึ้นก่อนที่จะตกลงสู่พื้นด้านล่าง
การต่อสู้ระหว่างพยัพยนต์และฝูงแร้งกลับหยุดชะงักพวกมันเบนความสนใจมาตามเสียงคำรามของนาคาเกล็ดเงินที่กำลังทะยานติดตามร่างกลมๆ ที่ปลิวเข้ามาในวงล้อมก่อนแล้วล่วงหน้า
รัชชตะงั้นรึ พยัพยนต์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างยาวเกล็ดเงินที่เป็นเอกลักษณ์ของรัชชตะ
เย้ยยยยยยยยย.......
เบิ้มร้องตะโกนออกมาสุดเสียงแทบสิ้นสติ เมื่อกำลังจะตกสู่พื้นด้านล่าง หนำซ้ำยังเป็นพื้นที่สกปรกเต็มไปด้วยเลือดและชิ้นส่วนของเหยื่อทั้งหลายที่โดนฉีกเละเทะ อบอวลไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้ง
มนุษย์
เสียงพร่าๆที่ฟังแทบไม่เป็นภาษาของพญาแร้งตนหนึ่งพูดขึ้น
ทันใดกลิ่นเลือดหอมหวานก็โชยมาตามลมกรรโชก แม้ว่าแร้งจะชอบเหยื่อที่เป็นซากแล้ว ทว่าสำหรับราชันย์แห่งภูตนั้น เลือดมนุษย์กลับเป็นอาหารเสริมชั้นเยี่ยมที่จะช่วยเพิ่มระดับพละกำลังได้เป็นอย่างดี ดังนั้นบริวารทั้งหลายกลับรับหน้าที่รั้งการรุกรานของพยัพยนต์แล้วปล่อยให้หัวหน้าของมันเข้าจัดการกับอาหารมื้อพิเศษนี้เอง
นี่ก็ใกล้เวลาที่ร่างของเบิ้มจะหม่งพสุธาด้านล่างอย่างที่คาดคิด เขาเริ่มเข้าใจได้ดีถึงวินาทีสุดท้ายของคนที่กระโดดตึกตายนั้นน่าสยดสยองเพียงใด ภาพพื้นโสโครกด้านล่างแม้จะอยู่ในความมืดแต่กลับชัดเจนเหมือนกล้องที่กำลังซูมเข้าสู่ห้วงอเวจี
ตายแน่ เบิ้มบอกกับตัวเองได้แค่นี้เอง
ท้ายที่สุดเจ้าตัวหลับตาสนิทกับภาพตรงหน้าเพราะไม่อยากรับรู้ถึงภาพใดๆอีกต่อไป
แต่แล้วสัมผัสสุดท้ายกลับกลายเป็นบางสิ่งที่นุ่มยืดหยุ่น และมั่นคงอย่างประหลาด เมื่อรู้สึกตัวเบิ้มค่อย ๆลืมตาขึ้น ปรากฏว่าตนเองตอนนี้ถูกรองรับด้วยส่วนปลายสุดของร่างเกล็ดเงินที่ดูท่าเกือบเข้ามารับแทบไม่ทัน
โอย หวิดตายไปแล้วตรู
เบิ้มนึกขึ้นพลางรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่โชกชุ่มไหลย้อยลงมาถึงข้างแก้ม
งือๆ ไอ้รัช ไอ้เพื่อนรัก อย่า อย่า ปล่อยข้านะเว้ย ข้ายังไม่อยากตาย เบิ้มได้แต่คร่ำครวญกอดปลายหางเพื่อนแน่นเช่นกอดเสา
ขณะนี้รัชชตะสามารถทรงกายเป็นแนวตั้งได้อย่างแปลกประหลาดนัก ท่วงท่านาคะลีลาและการทรงตัวของเขาช่างแตกต่างจากตอนแรกที่มาราวกับคนละคน
ทว่ายังไม่ทันได้ม้วนกายลงไปรับร่างของเพื่อนขึ้นมาอย่างที่ตั้งใจ พญาแร้งตนหนึ่งกลับโฉบเข้ามาประชิด แล้วใช้กงเล็บที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของซากนั้น ขูดเข้าที่บริเวณหน้าท้องของรัชชตะเรื่อยมาจนเกือบถึงใบหน้า
แซ่ก
...
จอมนาคาแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
ครู่เดียวเท่านั้นเลือดก็ไหลซึมออกมาตามร่องรอยกรีดนั้นโชกชุ่ม นับว่าคราวนี้คือความโชคร้ายของจอมนาคาที่แร้งตนนี้ลงเล็บกรีดทำร้าย บริเวณหน้าท้องที่มีเกล็ดเงินปกคลุมอยู่เบาบาง เพราะถ้าหากเป็นบริเวณอื่นคงยากที่จะเฉือนทำร้ายได้
พญาแร้งยังคงบินโฉบวนหมายเข้าทำร้ายอีกครั้งเพื่อให้รัชชตะหมดแรงและยอมคลายการปกป้องมนุษย์ร่างอ้วนผู้ที่เป็นเป้าหมาย
เฮ้ย รัชเป็นไงมั่ง แกปล่อยชั้นก่อนก็ได้
เบิ้มตะโกนบอกเพื่อนที่ตอนนี้กำลังส่ายตัวหลบไปมาเพื่อให้พ้นจากคมปากแร้ง
ฮึ แกอยู่เฉยๆ ชั้นพอมีทางออก
รัชชตะพูดพลางเล็งไปที่ลักษณะการโฉบเฉี่ยวของพญาแร้งนั้น นับว่ามันมีจุดอ่อนในขณะร่อนปีกมากกว่าพญาครุฑมากนัก แม้ปากจะแหลมคมและช่วงขาที่ยาวกว่า แต่ในยามที่ร่อนมันกลับเก็บปีกช้า ดังนั้นท่วงท่าที่ควรใช้จัดการกับมัน เห็นทีจะหนีไม่พ้น หักปีกปักษา
ว่าแล้วรัชชตะตวัดปลายหางของตนโยนร่างเบิ้มลอยขึ้นไปเกือบชิดทะเลเพลิงที่บริวารนาคาได้พ่นไว้ เมื่อพญาแร้งเห็นว่ารัชชตะยอมคลายร่างเบิ้มจึงกระโจนตามร่างเหยื่อไปทันที
ทว่าเมื่อเข้าใกล้ชิดทะเลเพลิง ด้วยร่างกายอันเทอะทะจึงทำให้ไม่สามารถเข้าใกล้ได้มากนักได้แต่กระพือปีกรอให้ร่างของเบิ้มตกกลับมาอีกครั้ง
โอ้ย รัช แกทำอะไรวะ แกจะให้ชั้นตายใช่มั้ย ไอ้เพื่อนบ้า........
ทันทีที่รัชชตะเห็นพญาแร้งกางปีกทรงกายเป็นเวลานานเช่นนั้น เขาจึงใช้ความปราดเปรียวทะยานขึ้นสูง
แล้วเพ่งพลังจิตไปที่ลำตัวของตนเพื่อบีบร่างให้เล็กดังเส้นเชือก จากนั้นโยนเชือกนั้นส่วนหนึ่งรวบร่างของเบิ้มไว้ไม่ให้ตก ส่วนที่เหลือกลับรวบปีกทั้งสองข้างของแร้งไว้ทางด้านหลัง
เขาปล่อยร่างส่วนบนของตนให้พองโตอ้อมไปยังบริเวณหน้าอกมีขนแล้วใช้หงอนยาวที่ในตอนนี้แข็งและแหลมคมจากการพองตัวเมื่อครู่ เหลือเพียงตั้งท่ารอจะใช้หงอนนั้นเจาะทะลุห้องหัวใจพญาแร้งตนนั้นแล้ว
นี่คือท่าสังหารสุดท้าย!
ที่รัชชตะจอมนาคาต้องตัดสินใจว่าพญาแร้งตนนี้จะเป็นศพแรกในชีวิตของเขาหรือไม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งแก้วตาภูตไว้ในครอบครอง
จากคุณ |
:
Kiwi_brown
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ก.ค. 54 18:52:31
|
|
|
|