Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โรงเรียนกลางฤดูฝน ตอนที่ 8-9 ติดต่อทีมงาน

ตอน 1-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10837764/W10837764.html
ตอน 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10843483/W10843483.html
ตอน 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846285/W10846285.html
ตอน 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846567/W10846567.html
ตอน 6-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850334/W10850334.html

๘. เข้าค่าย

ฝ่ายกิจกรรมประกาศให้คณะกรรมการนักเรียนระดับประถมต้นเข้าค่ายพัฒนาตนเองในวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เดิมทีสถานที่จัดงานเข้าค่ายพัฒนาตนเองคือสนามหลังตึกไหมไทย  แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาศรีราชาโดนพิษพายุฝนถล่มไม่หยุดไม่หย่อน หัวหน้าฝ่ายปกครองจึงเสนอให้เลื่อนวันงานออกไปก่อนเพราะอาจอาจเกิดอันตรายที่คาดไม่ถึงกับเด็กนักเรียนโดยเฉพาะจากสัตว์มีพิษ แต่ฝ่ายกิจกรรมนักเรียนยังยืนยันกำหนดการเดิมแต่เปลี่ยนสถานที่เป็น ศูนย์ประมงประจำจังหวัด แทน

รถบัสสองคันติดตราประจำโรงเรียนแล่นออกจากตึกไหมไทยตามกำหนดการ สารภาพตรงว่าผมไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่เลย กิจกรรมเดียวที่คงพอทำให้สนุกได้บ้างคือ การแสดงละครรอบกองไฟตอนกลางคืนของพวกเด็กๆ

ประมาณยี่สิบนาทีให้หลังพวกเราก็ถึงที่หมาย

ผมตื่นตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นบรรยากาศสวยกว่าที่คิดเอาไว้ ศูนย์ประมงสร้างติดทะเลลักษณะคล้ายๆสำนักงานราชการต่างจังหวัดในละครทีวี  มีสถานีตำรวจน้ำอยู่ข้างๆและมีโรงพยาบาลเอกชนตั้งอยู่ไม่ไกล ห้องพักของเราอยู่ด้านหลังสำนักงาน หน้าตาเหมือนกับห้องเช่าราคาถูกในหนังมาเฟียฮ่องกงเรียงแถวหน้ากระดานประมาณสิบห้อง เด็กนักเรียนจะพักอยู่ห้องละสามถึงสี่คน ส่วนคณะครูจะนอนที่บ้านพักพนักงานแทน

หลังมื้อเที่ยง พี่สมเกียรติเรียกแถวให้ทุกคนไปรวมกันที่ลานกว้างริมทะเล สิ่งแรกที่พวกเราต้องทำตามกำหนดการคือ ช่วยกันทำความสะอาดชายหาดสีทึมๆนี่ให้ดูดีขึ้นมาหน่อย

ศรีราชาไม่มีชายหาดกว้างๆให้นักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำเหมือนกับพัทยาและบางแสน ทิวทัศน์เบื้องหน้าผมตอนนี้จึงเป็นทะเลสีน้ำเงินอมเขียวกับพื้นทรายสีเทาขี้เหร่ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำเลยสักคน

กิจกรรมยามบ่ายเป็นการให้เด็กนักเรียนเข้าร่วมฐานปฏิบัติการรวมหกฐาน แต่ล่ะฐานมีชื่อตามทักษะที่ต้องใช้ในการเข้าร่วมอย่างเช่น ฐานเสียสละ ฐานอดทน เวลาเข้าร่วมแต่ละฐานประมาณครึ่งชั่วโมง และจะปล่อยให้เด็กๆพักครึ่งชั่วโมงหลังจากจบการเข้าฐานที่สาม

ผมกับครูแก้วจับคู่ได้เป็นครูประจำ ฐานน้ำใจ ซึ่งผมไม่มีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ผิดกับสาวแว่นที่ดูสนุกสนานเหมือนพวกเด็กๆ วันนี้เธอมาในมาดสาวคล่องตัวใส่เสื้อยืดคอปกสีม่วง กางเกงยีนส์สีดำกระเป๋าหลังเป็นรูปผีเสื้อ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว รวบผมขึ้นเป็นทรงหางม้า ซึ่งเธอก็ยังใจดีและขี้เล่นกับผมเหมือนเดิม

กติกาของฐานเรามีอยู่ว่า

1. ให้นักเรียนจับคู่กันถ้าหากเหลือเศษ ให้กลุ่มสุดท้ายมีสามคน

2. แต่ล่ะกลุ่มสวมชุดพลาสติกคลุมเอาไว้ทั้งตัวยกเว้นส่วนแขน

3. นักเรียนคนหนึ่งจะต้องปิดตาถือถังพลาสติกเจาะก้นที่ใส่น้ำผสมสีไว้จนเต็มเดินบนผ้าสีขาวผืนใหญ่จากจุดเริ่มต้นไปถึงจุดสิ้นสุด โดยก่อนจะเริ่มเดินต้องหมุนตัวห้ารอบ

4. เพื่อนนักเรียนอีกคนหนึ่งจะต้องคอยช่วยเหลือเพื่อนที่ถือถังน้ำ ทำน้ำสีหกลงบนผ้าให้น้อยที่สุด และต้องคอยบอกทางให้เพื่อนเดินไปถึงจุดหมายอีกฝั่งหนึ่งให้ได้

**สิ่งที่จะวัดน้ำใจจริงๆแล้วคือเพื่อนคนที่ถือถังน้ำควรจะช่วยเพื่อนอีกคนล้างสีที่เลอะเทอะบนตัวออก หากเด็กนักเรียนคนไหนที่ทำสิ่งนี้ ให้ครูประจำฐานมอบรางวัลและกล่าวชมเชย**

“ไม่เข้าท่าเลย !” ผมคิดเคืองในใจ ผมไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องทำนองนี้สักครั้ง ผมเกลียดการลองใจทุกชนิด เพราะถือว่าคือการดูถูกน้ำใจซึ่งกันและกัน มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะตัดสินใครว่าคนเป็นคนแบบไหนด้วยการกระทำแค่ครั้งเดียว

“มันฉาบฉวยเกินไป” ผมบ่นคนเดียวต่อ

ผมพยายามทำใจว่านี่เป็นแค่เกมส์ เท่าที่อ่านดูกฎกติกาคร่าวๆก็พอยอมรับได้ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีการต่อว่าหรือตำหนิคนที่ไม่ได้ช่วยเพื่อนล้างสีออก และผมคิดว่าครูแก้วคงจะไม่ทำอย่างนั้นเช่นกัน

“มาซ้อมเต้นกันก่อนนะคะ ษา” สาวแว่นชมพูเรียกพลางเขย่า แทมบูรีน* ดัง กรุ๊งกริ๊งๆ

ผมอ้าปากค้าง ครูแก้วเอียงหัวเล็กน้อยและส่งยิ้มให้ ผมมองเห็นเสียงที่เปล่งออกมาจากปากเธอเป็นสีเหลือง ส่วนเสียง กริ๊งๆ ของแทมบูรีน ลอยฟุ้งเป็นสีชมพูรูปตัวโน้ตอยู่รอบๆตัวเธอ ผมขยี้ตาแล้วพยายามมองรอบๆตัวใหม่อีกครั้ง

เฮ้ย ! ไอ้สีสันแจ๋นๆพวกนี้มันมาจากไหน ผมเป็นโรค ซินเนสทีเซีย* รึไงกันเนี่ย !

“เต้น ? … หมายความว่าไงครับ พี่แก้ว” ผมรีบถามเพื่อความแน่ใจ พลางมองเห็นเสียงพูดตัวเองพุ่งออกมาจากปากเป็นรูปคล้ายตัววิญญาณในการ์ตูน

“เราก็ต้องให้เด็กๆผ่อนคลายก่อนซิคะ แล้วถึงจะเริ่มเล่นเกมส์ ษา ไม่ได้อ่านคู่มือล่ะซิ” สาวแว่นอธิบาย ลีลาน้ำเสียงเธอเหมือนคุณนายอลิสา บ่นเวลาผมทำงานพลาดไม่มีผิด  “เอ้านี่ … เนื้อเพลง”

ผมรับกระดาษขนาดA4 สีออกเหลืองทุเรศๆซึ่งครั้งหนึ่งมันคงเคยเป็นสีขาวมาอ่าน

เพลงแรก กิ่งก้านใบ ชะๆ นี่มันเพลงเด็กผู้หญิงไม่ใช่เหรอโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนชายล้วนนะเจ๊ ! ผมรีบลนลานพลิกกระดาษดูเนื้อเพลงที่สอง ถ้าหากฉัน มีเวทย์มนต์ เป็นแม่มดมีฤทธิ์เหมือนในนิยายจะเสกเธอ... เวรกรรม ! เพลง แม่มด

จะบ้ารึไง ! นี่มันอะไรกันเนี่ย ! ผมหันขวับไปหาเธอทันทีเมื่อเห็นเนื้อเพลงทั้งหมด ครูแก้วยิ้มให้ผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มาเริ่มกันเถอะค่ะ เหลือเวลาไม่มากแล้ว” น้ำเสียงเธอก็ยังเรียบๆอยู่เหมือนเดิม

“เราเต้นกันสองคนเหรอครับ” ผมเริ่มเซ้าซี้
เธอแจกยิ้ม “ผิดค่ะ พี่ข้อเท้าเคล็ดน่ะ ดูซิ … ” ครูแก้วบอก พลางดึงปลายขา
กางเกงให้เห็นผ้าที่พันอยู่รอบข้อเท้าของเธอ

“ษา ต้องเต้นคนเดียวนะ พี่จะเป็นคนช่วยร้องเพลงเอง” เธอเขย่าแทมบูรีนอีกครั้งแล้วหัวเราะเบาๆ ซึ่งผมมองเห็นสีของเสียงหัวเราะเธออีกแล้ว “เอาล่ะ ษา ทำท่าตามพี่ให้ดีนะ ...”

เหนื่อยใช่เล่นเลยกว่าจะจบการเข้าฐานของเด็กๆทั้งหกกลุ่ม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเด็กเกือบทุกคนได้รับรางวัลจากฐานน้ำใจของเรา บางทีผมอาจต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ก็ได้ ผมนึกชื่นชมสาวแว่นชมพูที่กำลังนั่งพักอยู่ไม่ห่างกัน ผมคงคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้มากไป ส่วนเธอไม่ได้คิดอะไรให้รกสมองเลย แค่มีความสุขกับสิ่งที่ต้องทำเท่านั้นเอง

หลังเลิกฐานก็ถึงเวลามื้อเย็น โดยคุณครูสาวๆของพวกเราแสดงฝีมือเข้าครัวกันเอง ซึ่งรสชาติอร่อยเหลือเชื่อจนอาหารทุกอย่างหมดเกลี้ยง ฝ่ายปกครองปล่อยให้เด็กๆพักผ่อนตามอัธยาศัยและจะเรียกมารวมกันอีกครั้งตอนหนึ่งทุ่ม กำหนดการตอนกลางคืนจะคล้ายๆกับการเข้าค่ายพักแรมวิชาลูกเสือ แต่ไม่มีพิธีการอะไรมากมายขนาดนั้น

ผมขอตัวมาแอบหลับสักงีบหนึ่งเพื่อเก็บแรงไว้ใช้ตอนกลางคืน บ้านพักสำหรับคณะครูเป็นบ้านสองชั้นหลังเล็กๆ ซึ่งทีแรกผมคิดว่าเป็นบ้านไม้เสียอีก เมื่อเปิดประตูเข้ามาฝูงหนูเจ้าถิ่นซึ่งกำลังวิ่งเล่นใต้ฝ้าเพดานก็ส่งเสียงร้องจี๊ดๆทักทายแขกผู้มาเยือน ต่อด้วยเสียงตุ๊กแกจากหลังบ้าน

ถึงแม้บ้านจะมองดูเล็กจากภายนอกแต่ชั้นบนกลับมีห้องนอนถึงสามห้อง ผมหลับไปเกือบชั่วโมง จนกระทั่งเสียงกีตาร์อะคูสติกดังผ่านเข้ามาในห้องปลุกให้ตื่นขึ้น ฝีมือคนเล่นจัดว่าเก่งฉกาจทีเดียว ผมฟังไม่ออกว่าเป็นทำนองเพลงอะไร เทคนิคที่เจ้าตัวเล่นเป็นเทคนิคที่ต่อให้ไปดูมืออาชีพตามร้านอาหารใหญ่ๆก็ยังหาดูไม่ได้ง่ายๆ เสียงฮาร์มอนิค* ทั้งแท้และเทียมดังคมชัดไม่ติดเสียงสายบอดหลุดออกมาเลยสักครั้ง เสียงทำเลกาโต้* ที่ลื่นไหลไร้รอยสะดุด การทำว๊อยซิ่งคอร์ด* เพื่อสร้างสีสันให้กับทำนองเดิม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเล่นกีตาร์อะคูสติกให้ได้เสียงออกมาแบบนี้

หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้นอนอีกเลยเพราะเอาแต่เงี่ยหูฟังเสียงเพลงจากบ้านข้างๆ จนในที่สุดเสียงนกหวีดเรียกทุคนรวมตัวกันของหัวหน้าฝ่ายปกครองก็ดังขึ้น

สถานที่จัดงานรอบกองไฟอยู่ติดริมทะเลใกล้ๆกับสถานีตำรวจน้ำ ครูสันทนาการเริ่มทำหน้าที่เรียกความกระตือรือร้นของทุกคนกลับมา ผมยังขวัญผวาจากเมื่อช่วงบ่ายไม่หายที่ต้องเต้นท่าประหลาดๆ มีเด็กหลายคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปผมเก็บด้วย หวังว่าผมคงไม่ได้เป็นดาราจำเป็นในรายการอะไรซักอย่างในอนาคตหรอกนะ

พวกเราแจกไอศกรีมแจกให้เด็กๆหลังการร้องรำทำเพลงจบลง เป็นไอศกรีมรสวานิลลาที่ครูแม่ครัวของเราทำเองกับมือซึ่งรสชาติยังอร่อยหายห่วงไม่ต่างกับมื้อเย็น ผมคิดว่าครูผู้หญิงตึกไหมไทยน่าจะไปเปิดร้านอาหารขายในโรงอาหารโรงเรียนมากกว่า รับรองว่าครูโรงเรียนตรีชฎานุสรณ์ทุกคนจะไม่ออกไปทานข้าวเที่ยงข้างนอกกันอีกเลย

หลังทานของหวานกันเรียบร้อย พี่สมเกียรติเดินไปจุดกองไฟแล้วกล่าวเปิดงาน พวกเด็กๆฝึกซ้อมละครกันมาทั้งหมดสี่เรื่อง โดยเนื้อหาจะต้องเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดดีๆ และแน่นอนว่าเรื่องไหนที่ประทับใจกรรมการที่สุดก็จะได้รางวัลไปครอง

ผมเริ่มหาวตั้งแต่เรื่องแรก คงหวังมากไปหน่อย “ละครของเด็ก ป.4 มันจะไปสนุกสู้ ละครของชมรมการแสดงในมหาวิทยาลัยได้ยังไงกันเล่า”

หัวหน้าฝ่ายปกครองปล่อยให้เด็กๆพักสิบห้านาทีหลังละครเรื่องที่สองจบลง เด็กคนไหนจะลุกไปเข้าห้องน้ำต้องขออนุญาตก่อนทุกคน ห้ามไปไหนมาไหนเองตามอำเภอใจเด็ดขาด การรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับสูงมาก มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบสี่นายคอยดูแลกลุ่มคณะของพวกเราอยู่ห่างๆ ถ้ามีเด็กคนไหนเป็นอะไรไปจะกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเราทันทีอีกทั้งเวลากลางคืนก็ยิ่งเป็นเวลาที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

อีกสักพักจะมีการแสดงเล็กๆของครูสันทนาการคั่นเวลาก่อนเริ่มละครเรื่องที่สาม หลังเรียกแถวเช็คชื่อนักเรียนเสร็จ ครูอุษาก็เดินถือกีตาร์อะคูสติกออกมา เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงผิวปากของครูผู้ชายขี้หลีที่เก็บอาการไม่อยู่หลายคน

เจ้าของเสียงกีตาร์เมื่อเย็นคือเธอนี่เอง นั่นคือเสียงฝีมือผู้หญิงเล่นหรอกเหรอเนี่ย !

นิ้วมือที่เรียวยาวสวยของเธอกำลังเต้นรำบนเฟรทบอร์ด*1สีน้ำตาล ครูอุษาดีดกีตาร์ร้องเพลงกล่อมเด็กๆสี่เพลง เป็นเพลงร่วมสมัยฟังง่ายที่เด็กๆร้องคลอตามได้ สีหน้าและแววตาทุกคนล้วนแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมความสามารถของเธอ พี่แคท กับ พี่สมเกียรติ ชอบเข้าไปแหกปากร้องเพี้ยนๆเป็นพักๆ เรียกเสียงฮาให้กับพวกเราได้เป็นอย่างดี

ก่อนจะเริ่มเพลงสุดท้าย ครูอุษา ขอเสียงปรบมือให้กับนักร้องรับเชิญพิเศษของเธอในค่ำคืนนี้ สาวแว่นชมพูค่อยๆเดินออกมาด้วยท่าทางเขินอายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมนึกขำเหลือเกินเพราะไม่น่าเชื่อเลยว่าบุคลิกอย่างเธอก็เขินเป็นเหมือนกัน

สาวแว่นบังเอิญหันมาสบตาผมพอดี ผมรีบส่งยิ้มพลางโบกมือให้ และเธอก็ฉีกยิ้มกว้างมาก เผยให้เห็นฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบตอบรับกลับมา เธอรีบกล่าวออกตัวเรื่องร้องเพลง ถือไมโครโฟนด้วยสองมือ สีผิวเธอสวยมากเมื่อกระทบแสงไฟสีเหลือง หน้าเธอแดงเหมือนลูกสตอเบอร์รี่ด้วยความเขิน ครูอุษาจงใจไม่เริ่มเล่นดนตรีเพื่อแกล้งพี่สาวที่น่ารักของเธอให้ทำตัวไม่ถูกอยู่สักพัก จนสาวแว่นต้องลงมือตีน้องสาวคนสวยต่อหน้าเด็กๆหลายสิบคน

ทำนองเพลงเดียวกันกับที่ผมได้ยินเมื่อตอนเย็นดังขึ้นอีกครั้ง ผมพยายามนึกว่าเป็นเพลงเป็นอะไร และทันทีที่โน้ตตัวแรกเปล่งเสียงออกมาจากครูแก้ว ผมก็เหมือนโดนมนต์สะกดดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้สนใจกับสิ่งรอบข้าง

“จะมีสักคำไหม บอกแทนหัวใจฉัน แทนวันซึ้งๆเรามีให้กัน ที่ไม่มีวัน จะลบเลือน …”

เสียงกีตาร์เพราะๆซึ่งเต็มไปด้วยลีลาและสีสันจากลูกเล่นอันแพรวพราวของครูอุษาตอนนี้ไม่ได้ดึงดูดผมเลยแม้แต่น้อย หากแต่เป็นเสียงแหลมหนาๆของสาวแว่นชมพูที่กำลังบรรเลงเครื่องดนตรีอันสุดแสนจะไพเราะของเธออย่างไม่มีที่ติต่างหากที่สะกดผมเอาไว้ ถ้าเสียงครูอุษาเหมือนกับเสียงโน้ตของเปียโน เสียงครูแก้วก็เหมือนกับเสียงหวานๆของฟลูต* ชั้นเลิศ หนำซ้ำเธอยังเปล่งเสียงออกมาได้อย่างไร้ที่ติอีกด้วย

ผมพยายามนึกว่าเธอกำลังร้องเพลงอะไร และก็ต้องร้อง อ๋อ ในใจเมื่อมาถึงประโยคที่คุ้นเคย

“บอกซิ … บอกว่ารัก บอกซิบอกว่ารัก มันพูดไม่ยากสักหน่อย”

เพลง วันนี้เธอบอกรักหรือยัง* เลือกเพลงได้เหมาะกับอายุมากเลยครับ เจ๊แว่น
เสียงปรบมือดังกึกก้องทั้งศูนย์ประมง แม้แต่นายตำรวจที่นั่งอยู่ไกลๆก็ยังลุกขึ้นมาปรบมือยกนิ้วส่งมาให้สองสาวสวยประจำตึกไหมไทยของพวกเรา ครูแก้วหน้าแดงมากขึ้นอีกหลังร้องเพลงจบ

ให้ตายเถอะ ! ผมชอบท่าทางป้ำๆเป๋อๆของเธอคืนนี้จริงๆ

**ข้อมูลเพิ่มเติม**
แทมบูรีน (tambourine) กลองมือติดกระพรวน เป็นเครื่องดนตรีเขย่าให้จังหวะ รูปร่างทรงกลม มักจะใช้ในงานกิจกรรมทั่วไป

โรค Synesthesia  (ซินเนสทีเซีย) อาการประสาทสัมผัสผิดปกติ เช่น รับรู้กลิ่นเป็นสัมผัส เห็นกลิ่นเป็นรูป เห็นเสียงมีสี เห็นตัวเลขเป็นสี

ฮาร์มอนิค เทคนิคการเล่นกีตาร์ โดยอาศัยคุณสมบัติทางกายภาพของสายกีตาร์ที่ถูกขึงด้วยแรงดึงสูง เสียงที่ได้จะสดใสกังวาลต่างจากเสียงดีดกีตาร์ปกติ

เลกาโต้ เทคนิคการเล่น ให้โน้ตดนตรี ต่อเนื่องกันโดยไม่รู้สึกสะดุด หรือเสียงขาดจากกัน

วอยซิ่งคอร์ด การเล่นคอร์ด (โน้ต 3 ตัวขึ้นไปพร้อมกัน) โดยอาศัยการพลิกกลับของตัวโน้ตทำให้ได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแม้จะเป็นคอร์ดเดียวกัน

วันนี้เธอบอกรักหรือยัง ... ศิลปิน เทเรซ่า อากีเรล่า

แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 22:49:30

แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 22:42:01

แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 22:41:36

จากคุณ : FlowerSong
เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 22:39:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com