Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใต้เงาพระจันทร์ บทที่ 8 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 8

ถ้ามีสิ่งปลูกสร้างใดที่สามารถใช้เปรียบเปรยกับความงดงามของคฤหาสน์บาโทรี่ได้ใกล้เคียง ในความคิดของป๊อปปี้มีเพียงพระราชวังบักกิ้งแฮมเท่านั้น แน่นอนว่าหล่อนไม่เคยไปเยือนสถานที่แห่งนั้นจริงๆ หรอก แต่หล่อนจินตนาการว่าต้องเป็นอาคารสามชั้นแบบยุโรปทำจากหินสีน้ำตาลทั้งหลังเหมือนกับอาคารที่ปรากฏตรงหน้าหล่อน หน้าต่างมากมายซึ่งสวยงามเป็นพิเศษในยามย่ำค่ำด้วยแสงสว่างสีเหลืองนวลดุจแสงจันทร์นับร้อยดวงที่ลอดผ่านหน้าต่างแต่ละบาน นั่นยังไม่รวมถึงสวนด้านหน้าที่เต็มไปด้วยรูปปั้นสีขาวแทรกกลางระหว่างแปลงดอกไม้นับพันชนิดและน้ำพุขนาดใหญ่ตรงกลาง ดูเหมือนน้ำพุนั้นจะเป็นศูนย์รวมของปิศาจหน้าตางดงามรูปร่างเจริญหูเจริญตา ทั้งนางเงือก นางไซเรน กากอย มังกร ม้ามีปีกและอีกสองสามชนิดที่ป๊อปปี้ไม่รู้จัก ทั้งหมดนั้นนั่งคุกเข่าโน้มตัว พินอบพิเทาชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ราวกับเป็นพระราชา

ป๊อปปี้อยากหยุดพินิจน้ำพุเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ซาดิสท์ลากหล่อนให้เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว กระนั้น หล่อนยังได้ยินเสียงถอนหายใจของสุภาพสตรีสาวรุ่นสองสามคน พวกเธอจ้องใบหน้าชายหนุ่มบนบัลลังก์ด้วยสายตาเหม่อลอยเพ้อฝัน บางคนถึงกับยืนยันว่าจะต้องสร้างรูปปั้นแบบนี้ในห้องนอนทันทีหลังจากกลับคฤหาสน์ของพวกเธอแล้ว

“เธอต้องยอมให้ฉันดูมันนะ ฉันคิดว่าจะทำรูปปั้นเลียนแบบแล้วขายให้กับพวกสาวๆ รับประกันได้เลยว่าฉันจะรวยเทียบเท่าท่านดยุคบาโทรี่ในอีกไม่ช้า” ป๊อปปี้บอกซีซึ่งเดินอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง มือที่สอดอยู่ตรงข้อพับบริเวณศอกของเขาอย่างหลวมๆ ทำท่าจะหลุดเลื่อนตลอดเวลา ซีต้องตะปบมือหล่อนแล้วยึดไว้แน่น

“อย่าไปยุ่งกับเขา” ซีเตือนด้วยเสียงคำราม

“เธอรู้จักเขารึ”

“ปิศาจทุกตัวรู้จักเขา แม่มดเกือบทุกคนรู้จักเขา ผมขอบอกไว้เลยคุณผู้หญิง เขาเป็นผู้ชายประเภทที่คุณควรจะหนีไปให้ไกลและเร็วที่สุดเมื่อได้เจอ”

ป๊อปปี้ใช้เวลาคิดครู่หนึ่งก็ได้คำตอบ ราชาปิศาจฟีนเดสเลย์ แม้หล่อนเคยได้ยินชื่อของเขาแต่ก็ไม่เคยเจอและไม่นึกอยากเจอด้วย มีเพียงพวกชอบความเจ็บปวดทรมานกับอยากตายอย่างทุกข์ทรมานชนิดหฤโหดที่สุดเท่านั้นที่ต้องการเห็นหน้าของเขา อย่างไรก็ตาม หล่อนเคยได้ยินคำร่ำลือว่าเขารูปงามพอๆ กับที่โหดร้ายอำมหิต ซึ่งถ้าสรุปจากสีหน้าและคำรำพึงของพวกสาวๆ ที่แค่ได้เห็นรูปปั้นก็เพ้อเสียขนาดนั้น แสดงว่าเรื่องเล่าลือไม่ผิดจากความจริงเท่าใดนักหรอก

แต่พอไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ก็ยังมีความจริงอีกประการหนึ่ง นั่นคือเรื่องที่ดยุคบาโทรี่นำภาพลักษณ์ของราชาปิศาจมาทำรูปปั้นประดับน้ำพุแล้วยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ แสดงว่าความโหดเหี้ยมอันลือลั่นดุจนามของเขาถูกเสริมแต่งจนเกินจริง ใช่หรือไม่ ป๊อปปี้นิ่วหน้ากับความคิดนั้น “ฉันสงสัยจังว่าทำไมผู้ชายที่น่ากลัวขนาดนั้นถึงยอมมาเป็นแบบให้รูปปั้นประดับน้ำพุ”

“เขาไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ที่ตระกูลบาโทรี่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้เพราะพวกเขาต้องใช้ค่าจ้างที่ได้จากการเฝ้าประตูเกือบทั้งหมดในการรักษารูปปั้นนี้ให้อยู่ในสภาพใหม่เอี่ยมตลอดเวลา”

ป๊อปปี้เหลียวหลังกลับไปมองและสังเกตเห็นความสะอาดสะอ้านของน้ำพุในทันที หินสีขาวนั้นราวกับส่องประกายเรืองรองได้ในความสลัวจากแสงไฟของคฤหาสน์ ไม่มีตะไคร่น้ำหรือคราบสีเหลืองเกาะที่ฐานเลยสักนิดเดียว เหมือนกับว่ามันเพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเมื่อวานนี้เอง “ทำไมพวกเขาไม่เปลี่ยนรูปปั้นใหม่เสียล่ะ”  

“ยากที่จะเปลี่ยนอะไรได้ถ้าชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นรับรู้แล้ว” คำตอบของซีทำให้หล่อนตัวสั่น คิดในใจว่าหล่อนต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับราชาปิศาจให้นานที่สุด หรือถ้าเป็นไปได้ก็อย่าพบกันเลยจะดีกว่า

อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูทางเข้าสู่ห้องโถงของคฤหาสน์บาโทรี่ มีผู้คนจำนวนหนึ่งยืนอออยู่ข้างประตู ทำเป็นค้นหาบัตรเชิญในกระเป๋าวุ่นวายโดยมีพนักงานในเครื่องแบบสองคนคอยกำกับ ป๊อปปี้รู้ในทันทีว่าส่วนใหญ่เป็นแม่มดกับปิศาจเพราะหล่อนเห็นพลังงานในรูปของหมอกควันรายล้อมรอบตัวพวกเขา แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นคนธรรมดา อย่างเช่นเด็กสาวสองคนที่ยืนหันรีหันขวางอย่างเงอะงะขณะรอผู้ติดตามของพวกหล่อนเจรจากับพนักงาน

“ท่านดยุคกับภรรยาใจกว้างจริงๆ ดูเหมือนพวกเขาจะต้อนรับคนทุกชนชั้น” ป๊อปปี้กระซิบกับซีระหว่างสำรวจเด็กสาวทั้งสองซึ่งมีลักษณะของพวกคนมีเงินมากกว่าลูกขุนนาง

“นั่นคือเหยื่อ” ซีบอก

ป๊อปปี้ขมวดคิ้ว “พวกเขาปล่อยให้เหยื่อออกมาเพ่นพ่านรึ แล้วถ้าเกิดว่าคนนอกกลุ่มสนใจเด็กสาวสองคนนี้ขึ้นมาล่ะ พวกเขาจะไม่สงสัยรึว่าพวกหล่อนหายไปไหน”

“ไม่หรอกครับ ผู้ติดตามของพวกหล่อนเป็นคนของตระกูลบาโทรี่ ผมขอรับรองว่าจะไม่มีผู้ชายคนใดสนใจเด็กสาวสองคนนี้แน่” แล้วเขาก็เอนศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อกระซิบกับหญิงสาว “ผมคิดว่าอาจมีการซื้อขายเกิดขึ้น”

“ซื้อขายอะไร” ทันทีที่ป๊อปปี้ถาม หนึ่งในสองเด็กสาวก็หันมาสบตากับซี หล่อนหน้าแดงก่ำแล้วก้มลงกระซิบกระซาบกับเพื่อน ลอบชี้นิ้วเป็นเชิงบอกให้เพื่อนดูปิศาจหนุ่มแล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะคิกคัก ป๊อปปี้หรี่ตาก่อนเบือนหน้าไปทางอื่น พยายามห้ามความรู้สึกที่อยากพุ่งเข้าไปควักลูกตาของพวกหล่อนออกมาขว้างทิ้งด้วยการสูดลมหายใจลึกๆ และกำมือแน่น ซีส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว

“ผมคิดว่าตอนนี้คุณคงไม่สนใจพวกหล่อนแล้วกระมัง”

หล่อนถลึงตาใส่เขา ตอนนั้นเองที่พนักงานคนหนึ่งเงยหน้าจากการเก็บบัตรเชิญและสบตากับเขาพอดี ป๊อปปี้เห็นว่าชายคนนั้นสะดุ้งก่อนกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงานแล้วผละจากไปทันที ไม่นานนัก ชายหญิงวัยกลางคนหน้าตาดีและแต่งกายหรูหราคู่หนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบออกมาโดยมีพนักงานคนนั้นรั้งท้าย

“ยินดีต้อนรับค่ะ มายลอร์ด” ผู้หญิงถอนสายบัวลงต่ำอย่างนอบน้อมผิดสังเกต ขณะที่ผู้ชายค้อมศีรษะลงจนหน้าผากแทบจะชิดกับหัวเข่า ละล่ำละลักพูด

“ขะ... ขออภัยที่เราไม่ได้เตรียมการต้อนรับท่านให้สมเกียรติครับ”

ซีเพียงผงกศีรษะรับด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่ผู้หญิงรีบกุลีกุจอผายมือไปด้านหน้า ป๊อปปี้มองตามนิ้วเรียวยาวที่เต็มไปด้วยแหวนประดับอัญมณีของหล่อนซึ่งชี้เข้าสู่ห้องโถงใหญ่ “ให้ดิฉันนำท่านไปยังห้องรับรองพิเศษนะคะ ส่วนเรื่องประตู เรากำลังดำเนินการ...” หล่อนหยุดพูดเมื่อซีชูนิ้วชี้ตรงหน้าหล่อน

“อย่างแรก รีบจัดหาห้องพักให้ฉันก่อน” จากนั้นซีก็พาป๊อปปี้เดินคล้องแขนผ่านพวกเขาเข้าประตูสู่ห้องโถงด้วยมาดสง่างาม จากหางตา ป๊อปปี้เห็นเด็กสาวทั้งสองคนอ้าปากค้าง และชายหญิงคู่นั้นโค้งศีรษะลงต่ำพร้อมกับรีบรับรองว่าห้องพักที่ดีที่สุดในคฤหาสน์จะเป็นของเขาทันที เมื่อซีพาหล่อนฝ่าผู้คนจำนวนมหาศาลผิดปกติมายังโต๊ะเครื่องดื่ม หญิงสาวก็ปล่อยมือที่เกาะแขนของเขาออกด้วยอาการที่คล้ายสะบัด ปิศาจหนุ่มยิ้มอย่างเอาใจพลางส่งแก้วบรรจุน้ำพั้นซ์สีชมพูสวยให้แต่ป๊อปปี้ไม่รับ ดวงตาของหล่อนหรี่ลงเล็กน้อยขณะจ้องมองเขาฉายแววขมขู่คุกคาม

“ทำไมท่านดยุคและดัชเชสจึงดูกลัวเธอนัก”

ซียิ้มกว้างขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณรู้ได้อย่างไร คุณผู้หญิง”

“อย่าเลี่ยงประเด็น ซี” เสียงของป๊อปปี้เบาดุจเสียงกระซิบ “ตอบฉันมา”

“เพราะผมเป็นปิศาจ”

“พวกเขาก็เป็นเหมือนกัน หรืออย่างน้อยพวกเขาก็เป็นพ่อมดแม่มด และเท่าที่ฉันรู้ พ่อมดแม่มดไม่กลัวปิศาจที่ไม่ใช่เจ้าของสัญญาของพวกเขา”

ปิศาจหนุ่มวางแก้วพั้นซ์ไว้บนโต๊ะแล้วกอดอก เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยทำท่าทางอวดดีอย่างน่าขัน “ผิดแล้วครับคุณผู้หญิง พ่อมดแม่มดส่วนใหญ่กลัวผมเพราะผมเก่งมาก และด้วยเหตุผลเดียวกันนั้นทำให้ปิศาจส่วนใหญ่กลัวผมด้วย”

ใช่ หล่อนรู้ว่าซีเก่งมาก เก่งจนผิดปกติ อีกทั้งยังมีอะไรบางอย่างในท่วงท่าของเขา คำพูดของเขา หรือกระทั่งแววตาที่ชวนให้รู้สึกถึงความน่ายำเกรง อย่างไรก็ตาม ถ้าซีไม่ต้องการพูด ต่อให้ข่มขู่อย่างไรเขาก็ไม่มีวันเปิดปากแน่นอน หล่อนคิดถูกแล้วที่จะสอบถามเรื่องราวของเขาจากแม่มดคนอื่น กระนั้น หล่อนต้องตอบแทนความอวดดีจนน่าหมั่นไส้ของเขาเสียก่อน

“ปิศาจดื้อ” หล่อนพึมพำแล้วหยิบแก้วพั้นซ์ที่ซีวางไว้บนโต๊ะมาจิบ “หลงตัวเอง”

“ผมเจ็บนะคุณผู้หญิง” ซียกมือนวดอกด้านซ้ายของตัวเอง ป๊อปปี้ยิ้มกว้างแล้วจิบน้ำพั้นซ์อีก ทันใดนั้นหล่อนก็เห็นแม่มดรูปร่างหน้าตางดงามคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้กับประตูที่ออกสู่สวนด้านหลัง ท่าทางของหล่อนดูลุกลี้ลุกลนบอกพิรุธพลางขยับมือจับลูกบิด ป๊อปปี้แตะข้อศอกซีเบาๆ พร้อมกับสบตาเขาอย่างมีนัย แต่เขากลับส่ายศีรษะ

“อย่าตามหล่อนไปเลยครับ” เมื่อเห็นป๊อปปี้เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เขาก็พูดต่อ “หล่อนเป็นพวกนักฉวยโอกาส”

“นักฉวยโอกาสคืออะไร” ป๊อปปี้ระวังคำพูดมากขึ้นเมื่อมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินมายังโต๊ะเครื่องดื่ม หล่อนสังเกตเห็นว่าฝ่ายหญิงชำเลืองมองซีแล้วกระพือขนตายั่วยวน หล่อนจึงดึงแขนปิศาจหนุ่มเดินห่างออกมา

“ไปคุยในสวนก็แล้วกัน คงไม่มีอันตรายอะไรใช่ไหม”

“ผมยังสงสัยอยู่” มีความกระหายในดวงตาของซีขณะที่เขาปราดมองหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าอย่างรวดเร็ว ป๊อปปี้จึงถลึงตาใส่เป็นเชิงเตือน ปิศาจหนุ่มหัวเราะและปล่อยให้หล่อนจูงเขาไปยังประตูสู่สวนด้านหลัง บานเดียวกับที่แม่มดสาวสวยเพิ่งออกไป

แม้สวนด้านหลังจะงดงามด้วยพืชพรรณไม้และรูปปั้นเช่นเดียวกับด้านหน้า แต่ในความรู้สึกของป๊อปปี้ มันมีอะไรบางอย่างที่ชวนให้ขนลุกและไม่สบายใจ ทุกย่างก้าวบนทางเดินที่โรยด้วยกรวดสีขาวเหมือนกับว่าหล่อนกำลังเดินอยู่บนสะพานไม้ผุพังระหว่างข้ามหน้าผาสูงชัน ซึ่งหากก้าวพลาดเพียงนิดก็ถึงแก่ความตาย นอกจากนั้นหล่อนยังได้กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงจนเริ่มพะอืดพะอมราวกับว่าบริเวณใกล้ๆ นี้มีสัตว์ตายเป็นจำนวนมาก

“ตั้งสมาธิไว้ คุณผู้หญิง” ซีกระซิบปลอบ “อีกสักพักมันจะหายไปเอง”

ป๊อปปี้สะบัดศีรษะช้าๆ พยายามสูดลมหายใจอย่างยากลำบาก ขาของหล่อนเริ่มอ่อนแรงเพราะอาการคลื่นเหียน ซีจึงพยุงหล่อนหายตัวไปยังศาลาพักผ่อนริมสระน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากจัดแจงให้หล่อนเอนหลัง เขาก็หายตัวไปและปรากฏตัวอีกครั้งแทบในทันทีพร้อมกับขวดบรั่นดี ป๊อปปี้กะพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นว่าซีนำกุหลาบสีแดงดอกโตมาด้วยดอกหนึ่ง แต่หล่อนอ่อนแรงเกินกว่าจะสอบถามความ จนกระทั่งเห็นเขาเปลี่ยนดอกกุหลาบให้กลายเป็นแก้วคริสตัลต่อหน้าต่อตา หล่อนจึงเข้าใจ

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 10:41:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com