๑๔. ความในใจ
ผมนั่งเขียนจดหมายอยู่ทั้งคืน อยากจะพร่ำพรรณนาให้ครูอุษาประทับใจ แต่พยายามเขียนเท่าไหร่ก็ไม่ได้ความสักที ลายมือผมทุเรศเป็นบ้า บนกระดาษมีรอยยางลบดินสอเลอะเทอะเต็มไปหมด ใจจริงผมอยากเขียนหนังสือให้ตัวอักษรหวัดเหมือนลายมือหมอฟันอย่างคุณพ่อกับคุณแม่จริงๆ มันดูเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เท่ห์เอามากๆเลย
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ดูง่ายๆอย่างการเขียนข้อความธรรมดาๆ กลับยากยิ่งกว่าการแก้โจทย์ปัญหาแคลคูลัสเสียอีก
พอวันรุ่งขึ้น ผมรีบทานอาหารกลางวันเพื่อกลับมาหยิบซองจดหมายที่เขียนเอาไว้ที่ห้องเรียน ผมสืบมาอย่างดีว่าตอนพักเที่ยงครูอุษามักจะนั่งอยู่คนเดียวในห้องพักครู เวลานี้เหมาะที่สุดที่จะส่งจดหมายบอกความในใจให้เธอรับรู้
ผมเดินยกเท้าสูงเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง อะดรีนาลีนเริ่มทำงาน เหงื่อซึมออกมาที่หางคิ้ว ทั้งที่อุณหภูมิในห้องพักครูค่อนข้างเย็น หัวใจของผมเต้นแรงจนซองจดหมายในกระเป๋าเสื้อไหวไปมาราวกับมีชีวิต แต่พอเห็นครูอุษา ผมก็ต้องผงะ
ครูรีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว แล้วพยายามหลบสายตาด้วยการหมุนเก้าอี้กลับหลัง แต่ไม่กี่อึดใจถัดมาครูก็ร้องไห้ออกมาอีก และร้องดังขึ้นๆเรื่อย จนกลายเป็นร้องไห้โฮเสียงดัง
“ครูอุษาครับ … ” ผมเรียกเธอ พลางรู้สึกแปลกๆหายใจไม่ค่อยถนัด หน้าอกเหมือนมีของหนักๆมากดเอาไว้
“สิทธา เดินไปล็อคประตูให้ครูหน่อยได้มั้ย” เธอพูดขึ้น
ผมรีบทำตามที่เธอบอก
“ครูอุษา เป็นอะไรเหรอครับ ทำไม … ร้องไห้ใหญ่เลย”
“มะ … ไม่มีอะไร เดี๋ยวครูขอตัวไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ” ผมลากเก้าอี้ของใครสักคนมานั่งข้างๆโต๊ะครูอุษา แสงโทรศัพท์มือถือของเธอยังสว่างค้างอยู่ พอให้มองเห็นรายชื่อบนหน้าจอแต่ไม่ชัดนัก ผมอ่านออกแค่สองชื่อบนสุด ชื่อแรกน่าจะอ่านว่า ชญากานต์ ส่วนชื่อที่สอง คงอ่านว่า พี่ธีรชัย
ธีรชัย ? … หรือว่าจะเป็นผู้จัดการโรงแรมคนนั้น
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ส่งเสียงดังขึ้น ซึ่งครูอุษาไม่มีทีท่าสนใจจะรับสายแม้แต่น้อย จนผมต้องทัก “โทรศัพท์ดังครับ ครูอุษา”
“ครูได้ยินแล้วล่ะ”เธอขานรับ แต่ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น ซึ่งมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ ครูอุษา รีบคว้าขึ้นมาไว้ในมือ “ขอโทษนะคะ พี่ธี ตอนนี้สา ไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว แค่นี้นะคะ ...”
เธอปล่อยโทรศัพท์กระแทกลงบนโต๊ะดัง ตึง !
น่าจะเป็นคุณธีรชัย จริงๆด้วย หรือว่าทั้งสองคนจะทะเลาะกัน
“เอ่อ … ครูอุษาครับ ...”
“มีอะไรเหรอ” เธอสะอื้น ดวงตาคู่นั้นดูน่าสงสารเหลือเกิน ผมเลิกล้มความคิดที่จะส่งจดหมายบ้าๆนี่ แล้วเปลี่ยนเป็นไถ่ถามด้วยความห่วงใยแทน
“ครูจะโกรธผมรึเปล่าครับ ถ้าผมจะถามว่า … ครูอุษา เป็นอะไรไป ทำไมถึงนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวล่ะครับ ” ผมหลับตาลงข้างหนึ่ง ก้มหน้าลงกลัวจะถูกดุ ครูอุษาเงียบไปนาน จนผมต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้น จึงเห็นว่าเธอกำลังนั่งอมยิ้ม
“เป็นห่วงครูด้วยเหรอ” เธอพูด ผมดีใจที่สีหน้าเธอดีขึ้น
ผมรีบพยักหน้า
“ขอบคุณนะ สิทธา ที่เป็นห่วง แต่ครูไม่เป็นอะไรหรอก … จริงซิ … มาหาครูมีอะไรเหรอ”
“เอ่อ … คือ ผม … ”
“ว่าไง … หรือว่า ไม่เข้าใจวิชาภาษาอังกฤษตรงไหนอีกรึเปล่า ถามครูได้นะ”
“เปล่าครับ คือ … ผมมีอะไรอยากจะให้ครู แต่ว่า ตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่ ครูคงไม่อยากได้ … ”
“อะไรเหรอจ๊ะ ที่จะให้ครูน่ะ ใช่ซองจดหมายนั่นรึเปล่า”
ผมสะดุ้งโหยง รีบยกมือปิดซองจดหมายที่เผยออกมานอกกระเป๋าเสื้อ และแก้ตัวพลันวัน
“ไม่ครับ ไม่ใช่ “
“ตกใจขนาดนี้ ต้องใช่แน่ๆเลย ” เธอเอื้อมมือมาคว้าอย่างรวดเร็ว “นี่แน่ะ … ได้มาแล้ว”
ผมรีบจับมือเธอไว้ไม่ให้เปิดอ่าน เรายื้อยุดกันกันแป็บเดียว ซองจดหมายก็ขาดเป็นสองส่วน
“ตายจริง ! สิทธา ครูขอโทษ” เธอร้องเสียงดัง ทั้งที่จริงแล้วน่าจะเป็นความผิดผมมากกว่า
“ไม่เป็นไรครับ ครู มันไม่ใช่ของสำคัญอะไรหรอก” ผมไม่เสียดายแม้แต่น้อย เอาไว้คราวหน้าค่อยเขียนมาให้เธอใหม่ก็ได้
“ครูขอโทษนะ ไม่คิดว่า สิทธา จะหวงขนาดนี้ ”
“มันไม่สำคัญอะไรหรอกครับ แล้วก็ไม่เป็นไรด้วย ครูอย่าทำหน้าแบบนั้นอีกเลยนะครับ” ผมรีบปลอบใจเธอ พลางเก็บเศษซองจดหมายลงในกระเป๋าเสื้อตามเดิม “ใกล้ได้เวลาเข้าแถวตอนเที่ยงแล้วล่ะครับ ผมขอไปหาเพื่อนๆ ก่อนดีกว่า เอาไว้คราวหน้าผมจะเอามาให้ใหม่นะครับ”
ผมออกมาจากห้องพักครูด้วยความตื่นเต้นและนึกเสียดายเล็กๆ แต่เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วล่ะ ผมจะได้กลับไปเขียนมาใหม่ คราวนี้เอาให้ครูอ่านแล้วประทับใจไม่รู้ลืมไปเลย
ผมคลี่เศษกระดาษในซองที่ขาดวิ่นเพื่ออ่านประโยคบอกรักแย่ๆของตัวเอง แต่ทว่ากระดาษใบนี้กลับขาวโพลน ไร้ซึ่งตัวหนังสือใดๆ
เวรกรรม ! ผมคว้าได้แต่ส่วนที่เป็นกระดาษเปล่าหรอกเหรอเนี่ย ป่านนี้ครูอุษาคงกำลังหัวเราะเยาะกับข้อความในจดหมายรักอันสุดแสนจะห่วยแตกของผมอยู่แน่เลย
ครูอุษาเป็นผู้หญิงที่สวยและใจดีมากเลยครับ ผมรักครูอุษา เป็นแฟนผมได้มั้ยครับ
บ้าจริงๆ บ้าที่สุด สิทธา เอ๊ย ไอ้คนไม่ปกติ ทำไมแกถึงไม่ได้เรื่องอย่างนี้ !
จากคุณ |
:
FlowerSong
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 54 21:23:13
|
|
|
|