Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โรงเรียนกลางฤดูฝน ตอน 13-16 (ยาวๆกันไปเลยละกัน) ติดต่อทีมงาน

ตอน 1-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10837764/W10837764.html
ตอน 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10843483/W10843483.html
ตอน 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846285/W10846285.html
ตอน 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846567/W10846567.html
ตอน 6-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850334/W10850334.html
ตอน 8-9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10855060/W10855060.html
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10859853/W10859853.html
ตอน 11-12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10863362/W10863362.html


ดีใจที่มีคนชอบเรื่องนี้ครับ แม้จะไม่มาก (น้อย 555+)
แต่ก็เป็นกำลังใจให้ผมมากมายเหลือเกินจริงๆ

ทีแรกค่อนข้างกังวล กับการเปิดเรื่องที่อาจจะ อืด เอื่อย เรื่อย ๆ เกินไปรึเปล่า
จนอาจทำให้ หลายคนส่ายหัวหนี ไปตั้งแต่บทต้นๆ

รบกวนติชม ตอนต่อๆไปเหมือนเดิมด้วยนะครับ

๑๓. วานิลลา

พวกเราสี่คนกำลังคุยกันอย่างออกรสชาติ ครอบครัวของผมจะมีบรรยากาศเช่นนี้อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง โดยไม่มีใครเคยเบี้ยวนัด

คุณอา ชวรัตน์ กำลังจะได้เลื่อนยศเร็วๆนี้หลังเพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นาน มื้อค่ำของเราเลยกลายเป็นการฉลองกลายๆไปในตัว ผมพยายามมองไปรอบๆห้องอาหารในโรงแรมไอยราเพื่อหาใครสักคนที่หน้าบานกว่าคุณอา แต่ก็หาไม่เจอ

“เอาอะไรอีกมั้ย สิทธา”  คุณแม่ถาม “วานิลลา มิลล์เชก ที่ลูกชอบก็มีนะ”

“เอาครับๆ” ผมรีบบอก พลางแกว่งมือดีใจ

แหวนทองคำขาวของคุณแม่สะท้อนแสงไฟบนเพดานเข้าตาผมแว่บหนึ่ง ทำให้นึกขึ้นได้ว่าควรสังเกตดูนิ้วนางซ้ายของครูอุษาด้วยว่ามีเจ้าสิ่งนี้สวมเอาไว้รึเปล่า

ทุกวันนี้ผมกำลังศึกษาว่าผู้ชายที่ผู้หญิงใฝ่ฝันนั้นเป็นยังไง

เรื่องหนังสือสอนจีบสาวที่ผมขอเงินคุณอาไปซื้อ กลายเป็นหนึ่งในเรื่องตลกบนโต๊ะอาหารคืนนี้ คุณพ่อชมว่า เจ๋งมาก ส่วนคุณแม่บอกว่า ยังไม่ถึงเวลาคิดเรื่องพวกนี้ ทีแรกผมนึกโมโหอที่คุณอาหยิบเรื่องนี้มาพูด ผมเป็นห่วงว่าคุณแม่จะคิดมากเรื่องพฤติกรรมของผมอีก ซึ่งก็นับว่าดีที่ผมคิดผิด

ผมไม่สนุกกับบทสนทนาของผู้ใหญ่ สุดท้ายพวกเขาก็วกเข้าเรื่องงานอีกจนได้ ผมเบื่อจนลุกเดินไปรอบห้องอาหาร นอกกำแพงกระจกมองเห็นชายหาดยามค่ำคืนของพัทยากับถนนคนเดินอันแสนวุ่นวาย มีเปียโนตั้งอยู่หลังหนึ่งคลุมผ้าสีแดงปิดเอาไว้ ผมแอบเปิดฝาขึ้นแต่พลาดท่าทำฝากระแทกตกกระแทกตัวเปียโนดังตึง แขกในห้องอาหารไม่ได้สนใจมากนัก แต่บริกรทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว

“นี่หนู เปียโนนั่นห้ามเล่นนะ” บริกรที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบเข้ามาห้าม

“ขอโทษครับ มันลื่นหลุดมือ” ผมบอก

ชายชุดสูทสีน้ำเงินเข้มอีกคนรีบจ้ำเข้ามา ระหว่างนั้นผมสังเกตว่าแขกที่เป็นผู้หญิงเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงๆนั่นเป็นตาเดียว  พอมาถึงก็ยกมือขึ้นปรามชายคนแรกไว้ ทั้งสองคุยกันไม่กี่คำ บริกรชุดทักซิโด้จึงเดินกลับไป

ชายคนใหม่เปิดฝาเปียโนขึ้นอีกครั้ง แล้วกล่าวว่า “ลองเล่นได้นะ แต่ต้องสวมหูฟังก่อน”

บัตรพนักงานบนกระเป๋าเสื้อของเขา เขียนว่า ธีรชัย ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม ผมรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด กริยาเรียบร้อยทว่าสง่างาม ตัวสูงมากน่าจะประมาณร้อยแปดสิบเซนติเมตร ไว้ผมบ็อบซอยไล่ระดับอย่างละเมียดละไม มือของเขาสวยแต่เล็กซึ่งดูแล้วขัดกับขนาดรูปร่างใหญ่โตพิกล

“ผมเล่นไม่เป็นหรอกครับ” ผมพูด

“แล้วอยากลองดูมั้ยล่ะ” เขาเอ่ยชวน

ผมพยักหน้า นั่งลงบนเก้าอี้หนังปรับระดับได้ และสวมเฮดโฟน “ผมคิดว่า มันไม่ได้ใช้ไฟฟ้าเสียอีก”

“นี่เป็นเปียโนระบบดิสคลาเวียน่ะ เราเลือกได้ว่าจะให้เสียงออกลำโพง หรือ ออกจากสายเปียโน” เขายิ้มอธิบาย “เอาล่ะ ลองกดดูซิ”

ผมกดก๊องแก๊งๆได้ไม่นานจึงผละตัวออกจากเก้าอี้

ผู้จัดการหัวเราะเบาๆ “เดี๋ยว อา จะเล่นให้ฟังนะ สวมหูฟังไว้”

เขาปรับเก้าอี้ให้พอดี เท้าขวาแตะบนแป้นเหยียบข้างล่าง แล้วเริ่มพรมนิ้วเพลงบรรเลงที่ฟังไม่รู้เรื่อง

“ไม่ได้เรื่องเลย” ผมคิดในใจ “ผมไม่รู้เรื่องดนตรีนักหรอก แต่สาบานได้ว่านี่เป็นเสียงเพลงที่ห่วยที่สุดในชีวิต”

เขาเคลื่อนไหวฝืนธรรมชาติ นิ้วกับแขนไม่สัมพันธ์กัน มักกลั้นหายใจยาวๆ เวลาที่เท้าเหยียบบนแป้นเสียงจะเบลอและดังขึ้นจนอยากถอดหูฟัง ผมนึกดีใจที่ชายคนนี้ไม่ได้เป็นนักเปียโนที่ต้องบรรเลงให้แขกในห้องอาหาร

“เป็นไง” เขาหยุด แล้วหันมายิ้มให้ผม “นี่ล่ะ เปียโน”

“มันก็สวยดีนะครับ” ผมคิดในใจ

มื้อค่ำของคืนนี้กินเวลานานกว่าปกติ เมื่ออาการเบื่อกำเริบหนักจึงขอพ่อกับแม่ออกมานั่งเล่นในล็อบบี้โรงแรมพร้อมกับวานิลลามิลเชกถ้วยที่สอง
โรงแรมนี้มีนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ พนักงานต้อนรับหน้าประตูกระจกต้องผงกหัวขึ้นลงบ่อยมากจนดูน่าสงสาร ทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง และน่าตลกที่สำเนียงพวกเขาแทบจะเหมือนเจ้าของภาษา ซึ่งแม้แต่ ครูอุษา ยังสู้ไม่ได้เลยล่ะ

รถทัวร์สองคันแล่นมาจอดส่งคณะทัวร์กลุ่มใหญ่เพิ่มอีก แขกกลุ่มใหม่เดินลากกระเป๋าส่งเสียงเซ็งแซ่ไปทั้งล็อบบี้ พวกเขามากันเยอะมาก แผนกต้อนรับต้องเรียกพนักงานเพิ่มมาช่วยถือกระเป๋า ชายหนุ่มชุดสูทสีน้ำเงินเข้มปรากฎตัวอีกครั้ง ผมได้ยินเขาพูดกับลูกค้าด้วยภาษาอังกฤษในทีแรก และเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นในภายหลัง

“พูดได้มากกว่าสองภาษาเสียด้วย !” ผมนึกชื่นชม  พลางหวนคิดถึงบทเรียนในหนังสือสอนจีบสาว “หรือว่านี่ คือ ผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงกันนะ”
หญิงสาวชาวเอเชียเข้ามาเป็นคนสุดท้าย เธอรีบส่งเอกสารให้พนักงานต้อนรับ ดูแล้วคงเป็นไกด์หรือคนจัดการเรื่องที่พักของคณะทัวร์นี้ ใช้เวลาไม่นานลูกค้าทั้งหมดก็ทยอยเข้าห้องพัก ส่วนเธอยังยืนคุยกับผู้จัดการต่อ

ผมมองเธอไม่ถนัดนัก เพราะเห็นแต่ด้านข้างและด้านหลัง ผมเดาว่าต้องเป็นคนสวย ผมมัวแต่สนใจสองคนนั้นจนลืมมิลเชกถ้วยโปรดเสียสนิท ในที่สุดเมื่อหญิงสาวหัวเราะบังเอิญหันมาให้เห็นใบหน้าๆชัด ผมก็แทบร้องเสียงหลง สิ่งแรกที่คิดได้คือ รีบมองไปที่นิ้วนางซ้ายของเธอทันที ผมโล่งใจพอควรที่ไม่เห็นมีอะไรสวมอยู่

จะไม่ให้รู้สึกแบบนี้ได้ยังไงกัน ในเมื่อ เธอคือ ครูอุษา

ทั้งสองดูสนิทกันจนผมรู้สึกร้อนใจ ฝ่ายชายนั้นคุยอย่างเนื้อถึงตัวตลอด และฝ่ายหญิงก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอีกด้วย

“ผู้จัดการเอาอีกแล้วเหรอวะ” พนักงานชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ขณะเก็บแก้วน้ำของแขกโต๊ะข้างๆ

“หล่อ เลือกได้ก็งี้ล่ะ อิจฉา:-)จริงเว้ย” ชายอีกคนพูดและหัวเราะ

“แต่น่าสงสารเมียแกนะ” ชายคนแรกกล่าว

ผมไม่เข้าใจที่พวกเขาคุยกัน แต่น่าจะเป็นเรื่องไม่ดี ผมหันไปหาผู้จัดการหนุ่มกับครูอุษาอีกครั้งจึงเห็นพวกเขา กำลังเดินจูงมือกันไปที่หน้าลิฟท์ จากนั้นก็มีบริกรฝั่งห้องอาหารมาเรียกตัวเขาเอาไว้ ผู้จัดการชุดสีน้ำเงินเข้มกับบริกรทำทีบอกอะไรสักอย่างกับครูแล้วปล่อยให้เธอรอที่หน้าลิฟท์อยู่คนเดียวพักหนึ่ง

ผมเด้งตัวจากเก้าอี้ เพื่อไปหาครูอุษา แต่ผู้จัดการชายคนเดิมก็กลับออกมาหาเธอก่อน ทั้งคู่จับมือกันไว้ราวกับเป็นคนพิเศษซึ่งกันและกัน ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าทฤษฎีแหวนบนนิ้วนางจะใช้ได้เสมอไปรึเปล่า มือคู่นั้นจับกันแน่น ครูอุษาเอียงศีรษะซบที่ไหล่ของชายหนุ่มรูปงาม แม้มองเห็นหน้าเธอไม่ชัดนักแต่ก็เห็นว่าแก้มครูแดง จากนั้นทั้งคู่ก็ก้าวเข้าไปในลิฟท์

ผมอยู่ใกล้พอจะได้ยินเสียงทั้งคู่คุยกัน และแปลกใจเล็กน้อยที่เสียงพูดครูอุษาฟังดู ไม่เหมือนที่เคยได้ยินเมื่อวันก่อนเลย

แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 22:09:11

แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 21:29:10

แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 21:21:43

จากคุณ : FlowerSong
เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 21:21:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com