“พี่ภูไม่ได้มาร้านเหรอคะแล้วอิงแก้วก็ยังไม่มา!”หนูรินร้องขึ้นเสียงดังกวาดตามองเหล่าพนักงานก้มหน้างุด บูรณาเปิดประตูเข้ามาพอดีช่างประจวบเหมาะกับที่แฟนสาวของทายาทใหญ่กำลังเหวี่ยงวีนคนในร้ายอย่างเกรี้ยวกราด บูรณายังคงตกใจเล็กน้อยที่เพิ่งเคยเจอกิริยาร้ายๆ ของคุณหนูแสนดีแต่หล่อนก็ปรับอารมณ์ได้รวดเร็วเธอลดน้ำเสียงลงเมื่อบูรณาชวนสนทนา
“สวัสดีค่ะคุณริน”
“ดีค่ะนี่พี่ภูก็ยังไม่เข้าร้านหรือคะ รินคิดว่ามานานแล้วซะอีกพักนี้พี่ภูมีปัญหาจริงๆ ชอบหายแวบบ่อยๆ แล้วก็ชอบหายไปพร้อมกับอิงแก้วด้วย เหมือนกับงานเมื่อคืน”คุณหนูรินกำลังโกรธเข้าเส้น บูรณาพอเดาออกว่าหล่อนคงจะเคืองไว้ตั้งแต่เมื่อวันแต่งงานคุณต้นโอ๊คที่ ภูธนาก็อุ้มเพื่อนเจ้าสาวออกงานและหายกันไปสองต่อสองท่ามกลางสายตาผู้คนนับร้อย
“ไม่มีอะไรหรอกคิดมากไปนะค่ะ”บูรณาได้แต่คลายสถานการณ์ได้เพียงคำพูดแต่หลังจากเมื่อคืนภูธนาก็ไม่ได้มีโอกาสได้เคลียร์กับแฟนสาวคงเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้เจ้าหล่อนมาถึงร้านกาแฟแต่เช้า
"จะไม่ให้รินคิดมากหรือคะแฟนตัวเองทั้งคนหายไปต่อหน้าต่อตา ไม่รู้ว่าแอบกิ๊กกับยัยอิงอยู่หรือเปล่าไว้ใจไม่ได้”
“คุณรินคะคุณรินเป็นแฟนพี่ภู น่าจะรู้นะคะว่าพี่ภูรักคุณมากแค่ไหน”
“แต่หนูรินไม่ไว้ใจหนูรินรักพี่ภู แต่มันก็ระแวงเป็นธรรมดาและตอนนี้หนูรินก็ระแวงอิงแก้วมากด้วยเพราะพฤติกรรมของทั้งสองมันน่าสงสัย”หญิงสาวแสนสวยกลายเป็นนางมารร้ายไปทันทีเมื่อพิษรักเข้าแทรก ขณะที่พิมพาเปิดประตูเข้ามาในร้านด้วยรอยยิ้มร้ายๆ คงเพราะได้ยินเรื่องราวหมดแล้ว
“เพิ่งรู้หรือคะสองคนนั้นเค้ากิ๊กกั๊กกันมานานแล้ว”คำพูดนี้ถึงกลับทำให้หนูรินสติแตก บูรณาหันไปติพิมพาด้วยสายตาเจ็บจี๊ดในใจ
“ยังไง”หนูรินถามต่อโดยไม่รีรอและพิมพาก็สนองได้รวดเร็ว
“ไม่สังเกตเหรอ จากเมื่อคืนน่ะเค้าไปกันสองต่อสอง แถมยังอุ้มขึ้นรถแล้วก็ไปไหนต่อไหนทั้งคืน ถ้าไม่สนิทสนมลึกซึ้งคงไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ คิดเหรอว่าก่อนที่คุณรินจะมาเค้าไม่กิ๊กกัน คุณหนูรินน่ะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางซะแล้วนะคะคนเขาก็เล่าไปทั่วว่ายัยอิงอ่อยภูแค่ไหนถึงได้มาลงทุนทำร้านกาแฟด้วย”
“นั่นสิ! ”
“มันไม่ใช่อย่างที่พิมพาบอกนะ”บูรณาสวนขึ้น แต่ทว่าหนูรินหันเชื่อทางพิมพาเข้าอย่างจัง
“คุณพิมคะ แล้วที่ว่าพี่ภูกับคุณ...”
“ฉันกับพี่ภูธนาไม่มีอะไรหรอกค่ะ เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นไม่เหมือนอิงแก้วที่ทั้งอยู่ใกล้และสนิทสนมกันแทบเรียกว่าเกินเลย มันก็แค่ข่าวกลบที่อิงแก้วสร้างขึ้นเพื่อให้หนูรินเข้าใจฉันผิดก็เท่านั้น”พิมพาแสดงละครได้ยอดเยี่ยมหล่อนปัดความจริงทุกอย่างและโยนเรื่องเหลวไหลให้อิงแก้วทั้งหมด บูรณาอ้าปากค้างได้แต่กำหมัดแน่นนึกแค้นสุมเต็มอกแต่ทำอะไรไม่ได้มาก
“ขอบคุณนะคะที่บอกความจริงเรื่องนังงูพิษ รินคิดว่าอิงแก้วจะเป็นคนที่น่าไว้ใจที่สุดแต่ที่แท้ก็คอยจะฉกของคนอื่นไป”หนูรินร้องขึ้นหน้าตาสั่นโกรธ พิมพาโค้งศีรษะเล็กน้อยขณะที่บูรณากลายเป็นหัวหลักหัวตอไปเสียแล้ว หนูรินจวักตาใส่บูรณาเล็กน้อยก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะออกจากร้านไปด้วยความหุนหันพลันแล่นผิดกับพิมพาหัวเราะกระซิกได้หน้าหมั่นไส้น่าดู
“ดีจังเน๊าะพวกสร้างความร้าวฉาน”บูรณาพูดขึ้น พิมพาหุบยิ้มถลึงตาใส่
“นี่ว่าฉันเหรอ”
“เปล่าอยากรับก็รับไปสิ”บูรณาแสยะปากทำหน้าตาทะเล้นก่อนจะเดินผ่านข้ามเค้าน์เตอร์ไปหลังร้านปล่อยพิมพาที่ร้อนแทบเต้นผ่าวอยู่คนเดียวแต่ติดที่สายตาผู้คนที่ทำให้ไม่สามารถทำได้อย่างนั้นหล่อนจึงได้แต่เก็บอารมณ์และเดินจากไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นหมองสุดขีด พายุรักกำลังจะมาลงที่ไร่ชาญทิพย์หลังจากภูธนาและอิงแก้วกลับมาถึงไร่ชาญทิพย ระหว่างที่กำลังนำรถจักรยานไปเก็บ หนูรินที่ไม่ได้รับเชิญกลับเดินดุ่มมาด้วยสีหน้าขุ่นมัวรีบชักแขนภูนามากอดก่อนจะจิกตามองอิงแก้วราวกับศัตรูตัวฉกาจเหตุการณ์เริ่มไม่เข้าท่าเสียแล้วหนูรินคงจะไม่ยอมจบคงเข้าใจผิดยกใหญ่ว่าแฟนหนุ่มกับหุ้นส่วนสาวคงไปจู๋จี๋กันที่ไหนสักแห่ง
“ไปไหนกันมาน่ะทำไมต้องไปกันสองต่อสองคะ”หนูรินถามขึ้นน้ำเสียงแข็งกร้าว ไม่ได้ระบุว่าใครจะตอบแต่ภูธนากลับชิงไปเสียก่อนที่อิงแก้วจะอ้าปาก
“พี่กับอิงแก้วไปขอโทษคุณต้นโอ๊คที่ทำให้งานแต่งของเขาเสียหาย”
“ไปกันสองต่อสองนี่หรือคะ”
“ก็ต้องไปกันสองคนสิก็วันนั้นพี่กับอิงแก้วทำเรื่องน่าขายหน้ารินก็เห็นนี่คะ”เขาอธิบายให้แฟนสาวเจ้าอารมณ์ทราบข้อเท็จจริงแต่เจ้าหล่อนก็มิวายมองอิงแก้วในแง่ร้ายไม่เลิก
“เธอรู้ใช่ไหมอิงว่าฉันกับพี่ภูเรารักกัน”หนูรินหันไปจิกกัดอิงแก้วบ้างจนได้ ส่วนหญิงสาวที่กลายเป็นจำเลยได้แต่ยิ้ม
“ก็รู้สิคะ ทำไมจะไม่รู้ก็ที่ผ่านมาหนูรินกรอกหูฉันเรื่องเขาอยู่เสมอไม่ใช่หรือ นี่ฉันพูดตรงๆ เลยนะ ว่าฉันไม่คิดจะไปเป็นมือที่สามที่สี่ที่ห้าใครหรอกเธอควรไว้ใจแฟนเธอบ้างนะได้แต่จับผิดเขาเธอคิดว่ามีความสุขหรือไง”
“ไม่มีความสุขเพราะว่ารอบกายของพี่ภูมีคนคอยจะจับเขาให้อยู่หมัด ร้ายยิ่งกว่างูพิษ”
“ก็แล้วแต่เธอจะคิดนะ ฉันก็ไม่รู้จะบอกไงพูดไปเธอก็ไม่เชื่ออยู่ดี”อิงแก้วรู้สึกเบื่อหน่ายกับการตอบคำถามซ้ำซากของหนูรินเสียเต็มประดาเพราะนอกจากเจ้าหล่อนจะไม่มีเหตุผลแล้วยังใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
“กลัวว่าฉันจะจับได้สิว่าเธอน่ะคิดไม่ซื่อพยายามจะแย่งพี่ภูไปจากฉัน เมื่อคืนมันก็คงจะแผนตื้นๆ ทำเป็นออเซาะฉอเลาะแล้วยั่วให้พี่ภูเข้าไปกอดล่ะสิ” เจ้าหล่อนยังไม่เลิกโวยวาย อิงแก้วมองนิ่งๆ ยิ้มเยาะ
“ถ้าฉันคิดจะทำงั้นจริงก็ทำไปนานละไม่ปล่อยให้เธอมาโวยวายอย่างนี้หรอก”
“อ้อนี่สารภาพมาแล้วสิท่าว่าเธอน่ะคิดจริงเธอนี่มันงูพิษ พี่ภูไม่โง่ไปหาคนอย่างเธอหรอกหน้าตาก็ธรรมดา แต่งตัวก็ปอนๆ ไม่มีเสน่ห์ไรซักนิด ฉันว่าเธอกลับไปส่องกระจกซะก่อนเถอะไม่มีผู้ชายคนไหนมาชอบคนอย่างเธอหรอกเธอสู้ฉันไม่ได้ซักนิด”คำพูดของหนูรินทำให้อิงแก้วเงียบไปพักใหญ่คงจะเป็นอย่างที่หล่อนบอกว่าให้หันส่องกระจกซะบ้าง อิงแก้วได้แต่กลั้นน้ำตาไว้ยังคงยืนหยัดไว้ไม่ให้เห็นว่าข้างในอ่อนแอ
แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 12:27:06
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 54 22:52:39
จากคุณ |
:
คุณหนูแจ่มใส
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 54 22:40:24
|
|
|
|