Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โรงเรียนกลางฤดูฝน ตอน 17-18 ติดต่อทีมงาน

ตอน 1-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10837764/W10837764.html
ตอน 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10843483/W10843483.html
ตอน 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846285/W10846285.html
ตอน 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846567/W10846567.html
ตอน 6-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850334/W10850334.html
ตอน 8-9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10855060/W10855060.html
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10859853/W10859853.html
ตอน 11-12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10863362/W10863362.html
ตอน 13-16 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10867723/W10867723.html

๑๗. วันเกิด

ผมสั่งให้เด็กคุยเก่งคนหนึ่งออกไปทำโจทย์หน้ากระดาน แล้วเดินมายืนพิงฝาผนังหลังห้องเรียนโดยไม่ได้สนใจเจ้าตัวแสบเลยแม้แต่น้อย

ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาหลังตึกไหมไทยมีอนุสรณ์สถานเล็กๆตั้งอยู่อย่างเดียวดายใกล้ๆกับห้องพักครู ทางโรงเรียนสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับครูอุษา โดยทำเป็นสวนดอกไม้แปลงเล็กล้อมรอบรูปปั้นสี่เหลี่ยมสีดำสลักชื่อเธอด้วยตัวอักษรสีทอง เมื่อมองผ่านหน้าต่างหลังโต๊ะทำงานของผมจะเห็นด้านหน้าของรูปปั้นพอดี

มีข่าวลือหนาหูว่านักการภารโรงหลายคนเห็นหญิงสาวรูปร่างสูงเดินไปมาแถวๆอนุสรณ์ตอนกลางคืนบ่อยครั้ง ทำเอาสัปดาห์นี้แทบไม่มีเด็กๆออกไปนั่งจับกลุ่มคุยกันหลังตึกไหมไทยเลย แต่อีกไม่นานข่าวนี้คงซาลงไปเอง ส่วนตัวแล้วผมไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามผมกลับอยากเจอพี่อุษาเสียด้วยซ้ำ

จนถึงวันนี้ผมก็ยังคงพูดคุยกับรูปปั้นที่เดียวดายนั้นอยู่เสมอ

“การบ้านส่งภายในวันศุกร์นี้นะทุกคน” ผมประกาศจากหลังห้องเรียน หลังเสียงกริ่งดังขึ้นพักกลางวันดังขึ้น

บนทางเดินที่ทอดยาวอีกฝั่งหนึ่งบนตึกรูปตัว L อันใหญ่โต สายตาผมกระทบเข้ากับร่างเล็กๆที่ดูอ่อนล้าเหลือเกินของพี่แก้ว ผมสองจิตสองใจว่าจะรอลงบันไดพร้อมกับเธอดีหรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่าเธออยากอยู่เงียบๆคนเดียวหรือต้องการใครสักคนเป็นเพื่อน ตั้งแต่พี่อุษาจากไปเธอกลายเป็นคนพูดน้อยจนน่าใจหาย ถึงแม้ต่อหน้านักเรียนเธอจะฝืนยิ้มพูดคุยกับพวกเด็กๆได้เป็นปกติ แต่พอลับหลังเธอก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนล่ะคน

เราสองคนทักทายกันพอเป็นพิธีตรงทางลงบันได แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีประโยคสนทนาใดๆเกิดขึ้นอีก เราเดินคู่กันเรื่อยมาจนถึงห้องพักครู เธอวางของลงบนโต๊ะ หมุนเก้าอี้เข้าหาหน้าต่าง รอจนครูคนอื่นๆ ออกไปทานข้าวกลางวันจนหมด แล้วจึงเข้าไปนั่งคนเดียวในห้องประชุมโดยไม่ทานมื้อเที่ยงเหมือนเดิม

ในห้องประชุมอันเงียบงันพี่แก้วนอนฟุบหน้าลงบนโต๊ะ วางแว่นกับสมุดสีขาวเล่มเล็กไว้ข้างตัว ผมยิ้มออกได้บ้างเมื่อเห็นแก้มซึ่งกดทับกับข้อมือทำให้เธอหน้าย่นเหมือนหมาพันธุ์บลูด็อก

แม้ผมจะหวังว่าเสียงที่ดังอยู่ในใจคงจะส่งไปถึงพี่อุษาบนสวรรค์ แต่หากเบื้องบนมอบพรวิเศษที่จะบันดาลอะไรก็ได้ให้เกิดขึ้นแก่ผมสักข้อหนึ่ง ผมก็อยากขอให้ความรักและความคิดถึงของพี่แก้วส่งไปถึงพี่อุษาแทนเสียดีกว่า

ไม่ซิ … ถ้าเป็นเช่นนั้นผมก็จะขอให้เราสามคนยังอยู่ด้วยกันเหมือนไม่กี่วันที่ผ่านมา

ผมถือวิสาสะหยิบสมุดสีขาวที่ทำด้วยกระดาษสาทั้งเล่มบนโต๊ะขึ้นมาเปิดอ่าน หน้าปกติดโบสีขาวอันเล็กไว้มุมขวาบน กระดาษแผ่นแรกถัดจากปกเว้นว่างเอาไว้ แผ่นถัดไปมีรอยน้ำหมึกสีฟ้าใสเขียนด้วยลายมือ

'สุขสันต์วันเกิดแด่ น้องอุษา อันเป็นที่รักของพวกเราทุกคน' มุมขวาล่าง ลงวันที่ 7 ตุลาคม ของปีที่แล้ว

และหน้าถัดไปก็เป็นข้อความว่า

สุขสันต์วันเกิด น้องสา ที่รัก
น้องสาวคนสุดท้องของพวกเราอายุมากขึ้นอีกปีแล้วสิคะ พี่ขออวยพรให้น้องสามีความสุขมากๆตลอดปีและตลอดไป เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไปแล้ว ให้โอกาสตัวเอง ได้เจอวันเวลาดีๆใหม่อีกครั้งเถอะนะคะ จากพี่วิชุดา

ถึง น้องสา
พี่ขอให้ สา กลับมาเป็นน้องสาที่น่ารักของพวกเราทุกคนในเร็ววันนะคะ พี่ๆทุกคนรักและเป็นห่วงจากใจจริงค่ะ สุขสันต์วันเกิดค่ะ จากพี่แคท

ผมยังคงไล่อ่านไปเรื่อยๆจนถึงกระดาษแผ่นสุดท้าย

สุขสันต์วันเกิด น้องสาวที่น่ารักที่สุดของพี่
ขอให้ต่อไปนี้มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตสานะคะ เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นขอให้สาผ่านมันไปให้ได้แม้มันจะลำบากสักแค่ไหนก็ตาม อยากให้สารู้ว่า ยังมีพวกพี่ๆอยู่เคียงข้างเสมอนะคะ จากพี่แก้ว

สุขสันต์วันเกิดครับ ครูอุษา
ขอให้ครูมีความสุขมากๆนะครับ ครูคงจะเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมอยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ครูอุษานะครับ อ้อ อีกอย่างหนึ่งถ้าครูอุษาไม่รังเกียจที่ผมยังเด็กอยู่ ต่อไปนี้ผมจะขอเป็นคนที่คอยปกป้องครูเองครับ จาก สิทธา

สมุดเล่มนี้คงเป็นของขวัญวันเกิดของพี่อุษาเมื่อปีที่แล้ว และเดาได้ไม่ยากเลยว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาใกล้ๆกับเมื่อตอนที่เธอเพิ่งเสียสามีใหม่ๆ กระดาษหลายๆหน้ามีรอยน้ำหมึกเปื้อนหยดน้ำ โดยเฉพาะหน้าสุดท้ายที่ตัวอักษรค่อนข้างเลือนลางจนดูคล้ายกับคราบสีน้ำที่วิ่งไปมาบนผิวกระดาษหยาบๆ

คงเป็นรอยหยดน้ำตาของเธอเมื่อปีก่อน

คำอวยพรของทุกคนล้วนสั้นและกระชับ ข้อความดูเกร็งๆพิกล คงไม่มีใครกล้าเขียนถึงเรื่องสามีของเธอที่เพิ่งด่วนจากไป จะมีก็แต่ข้อความของคนสุดท้ายนี่แหละที่ห้าวหาญกว่าใครเพื่อน

ผมวางสมุดเล่มเล็กลง พลางยกมือแตะใบหน้าของสาวแว่นอย่างแผ่วเบา

“พี่แก้วที่พูดเก่งและร่าเริงอยู่เสมอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะครับ” ผมบอกเธอในใจ “พอลับหลังเด็กนักเรียนพี่ก็แอบมาร้องไห้คนเดียว แก้มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ดวงตาสวยๆก็ช้ำไปหมดแล้ว ผมรู้ว่า พี่เสียใจมากแค่ไหน หัวใจของพี่คงต้องทนทุกข์กับการจากไปของน้องสาวที่รัก ผมเองก็เสียใจและคิดถึงพี่สา แต่ก็รู้ดีว่าความรู้สึกของผมคงเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ของพี่แก้ว ผมไม่อยากห้ามไม่ให้พี่แก้วไม่เสียใจ แต่ว่า … พี่แก้วครับ รู้รึเปล่าว่า ผมเป็นห่วงพี่แก้วเหลือเกิน …”

สาวแว่นตัวร้อนและหลับสนิทมากทีเดียว ขนาดผมเผลอทำเสียงเก้าอี้ดังเอี๊ยดอ๊าดน่ารำคาญ เธอก็ไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่หลับเป็นตายนี่เพราะเธอเหนื่อยมากหรือเพราะพิษไข้กันแน่

ผมออกไปควานหายากับน้ำอีกหนึ่งแก้วมานั่งรอเวลาเธอตื่นขึ้น เมื่อสาวแว่นเริ่มขยับตัว เธอพยายามควานหาแว่นทั้งที่ยังงัวเงียอยู่ ซึ่งเกือบปัดเอาแก้วน้ำล้มลง

“ตื่นแล้วเหรอครับ” ผมรีบทัก พลางขยับแก้วน้ำอุ่นหนี

“ค่ะ” เธองัวเงียตอบพลางยืดตัวบิดขี้เกียจ

“พี่แก้วไม่สบายนี่ครับ ทานยารึยัง”

สาวแว่นตอบอะไรกลับมาสักอย่างซึ่งผมฟังไม่รู้เรื่อง พลางยกมือแตะหน้าผากตัวเอง สักพักเธอจึงหันมองไปรอบโต๊ะ เหมือนกับพยายามหาอะไรบางอย่างแล้วลุกลี้ลุกลนเที่ยวเดินดึงเก้าอี้ที่สอดอยู่ใต้โต๊ะประชุมออกทีล่ะตัว

“หา สมุดเล่มนี้อยู่รึเปล่าครับ” ผมถาม พลางชูสมุดกระดาษสาขึ้น

“เอ๋ ! ” เธอร้อง “ใช่ค่ะ ทำไม ษา ถึง”

“ขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตนะครับ ผมเห็นมันวางอยู่ ก็เลย … ”

“ไม่เป็นไรหรอก” สาวแว่นยิ้มและส่ายหัว “พี่คิดถึงยัยสา เลยเอามาอ่านดู คิดว่าคงทำให้หายคิดถึง แต่อ่านไปไม่เท่าไหร่ น้ำตาก็ไหลไม่หยุดเลย น่าอายจริงๆเลย”

ผมเปิดสมุดออกใช้นิ้วลูบบนรอยหยดน้ำบนกระดาษอีกครั้ง ถึงรู้ว่าจริงๆแล้วมันยังชื้นอยู่

สาวแว่นรับสมุดคืนแล้วดึงไปแนบอกอย่างทะนุถนอม ใบหน้าเธอปรากฎรอยยิ้ม ทว่าดวงตาคู่สวยกลับมีน้ำใสๆเอ่อล้นออกมา

“รู้อะไรมั้ยคะว่า ยัยสา ชอบสมุดเล่มนี้มากเลยนะ”  เธอยิ้มพูด “พี่ให้เป็นของขวัญวันเกิดของยัยสาเมื่อปีที่แล้ว คิดว่าถ้าสาได้อ่านความห่วงใยของพวกเรา คงดีใจที่รู้ว่าพวกเราทุกคนรักเธอแค่ไหน”

“ตอนนั้น แฟนพี่สาเพิ่งเสียเหรอครับ” ผมถาม พลางนึกกลัวว่าจะเป็นคำถามที่ไม่เข้าท่ารึเปล่า

สาวแว่นทำท่าฝืนใจพยักหน้า “แต่ว่าตั้งแต่วันเกิดปีที่แล้ว สา ก็มีกำลังใจดีขึ้นเรื่อยๆนะ”

“เพราะสมุดเล่มนี้ของพี่แก้ว แน่ๆเลยครับ” ผมรีบชมเธอ
พี่แก้วยิ้มดีใจอย่างน่าสงสารอีกครั้งแล้วก็ร้องไห้ออกมา ผมขยับเก้าอี้เข้าใกล้ยกมือขึ้นโอบไหล่เธอเอาไว้ มันอาจไม่ดีนักหากมีใครมาเห็นเราสองคนตอนนี้เข้า แต่เสียงความห่วงใยที่มีต่อเธอยังยืนยันให้ผมทำแบบนี้

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ทุกคนรักและเป็นห่วงพี่สามาตลอด พี่สารับรู้แล้วล่ะครับ ถ้าสวรรค์มีจริง ถ้าตอนนี้พี่สาอยู่บนนั้น ตอนนี้เธอคงดีใจมากที่รู้ว่ามีคนรักเธอมากมายขนาดนี้“

สาวแว่นปล่อยโฮออกมายกใหญ่เมื่อผมพูดจบ

ไม่ได้ผลแฮะ ปักษาสวรรค์ !

“เอ่อ จริงซิครับ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง “พี่แก้วไม่สบายนี่ ทานยาก่อนดีกว่า ผมเอามาให้แล้ว”

“พี่ไม่เป็นแล้วล่ะ” สาวแว่นบอก

ผมลองยกมือแตะหน้าผากเธอดูอีกครั้ง “ตัวยังร้อนอยู่เลยนี่ครับ ทานยาหน่อยดีกว่าจะได้ดีขึ้น”

สาวแว่นทำตาโต “ไม่เอา ยาเม็ดมันกินยาก”

“ถ้าไม่ยอมทานเอง ผมจะป้อนนะครับ” ผมทำท่าขึงขัง

เธอยังคงอิดออดไม่ยอมทาน ส่ายหัวหงึกๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเรื่องแค่นี้แม่ตัวดีต้องดื้อด้วย หน้าเธอยังซีดอยู่เลยแถมไข้ก็ยังไม่ลด ผมรู้ว่าตัวเองจุ้นจ้านแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ยังไงๆก็ต้องคะยั้นคะยอให้เธอยอมทาน

ผมแตะยาเม็ดไว้ที่ริมฝีปากเธอ “ทานหน่อยนะครับ ดื่มน้ำตามเดี๋ยวเดียวก็ลงท้องแล้วครับ ง่ายจะตายไป”

สาวแว่นทำตาแป๋ว แล้วจึงยอมเปิดปากให้ยาแก้ไข้เข้าไปได้ แต่ไม่วายฉวยโอกาสกัดนิ้วผมเบาๆแก้แค้นคืน แล้วจึงรีบหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อช่วยให้กลืนยาลงคอง่ายขึ้น

“ก็แค่นี้เอง” ผมบ่น ส่วนสาวแว่นทำแก้มป่องค้อนใส่กลับ พลางลุกขึ้นจะเอาแก้วน้ำไปเก็บ

“ษา คะ” พี่แก้วเอ่ย

“อะไรเหรอครับ”

“ขอบคุณนะ” เธอก้มหน้าบอก

เข็มนาฬิกาแขวนผนังในห้องประชุมบอกว่าใกล้หมดเวลาที่ผมจะได้อยู่ใกล้ชิดกับสาวแว่นแก้มยุ้ยแต้มกระสีแดงแล้ว แม้ว่าใจจริงผมยังอยากอยู่เป็นเพื่อนเธอต่ออีกทั้งวันก็ตาม

เสียงกริ่งบอกเวลาเริ่มต้นวิชาเรียนแรกในตอนบ่ายก็ดังขึ้น ได้เวลาที่พวกเราทุกคนต้องพักความโศกเศร้าเอาไว้ก่อนและเตรียมตัวเริ่มภาระกิจสอนหนังสือเด็กๆกันตามปกติเหมือนทุกๆวันแล้ว

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 54 19:25:32

จากคุณ : FlowerSong
เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 54 19:22:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com