Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพลงดวงดาว Sci-Fi ตอนที่ 4 ติดต่อทีมงาน

ทริกมองดูใบหน้าของคีย์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อมากขึ้นเรื่อยๆ

“หนุ่มน้อยเธอคิดไปไกลถึงไหนแล้ว ฉันรีบเดินทางมาจึงไม่ได้สำรองที่พักล่วงหน้าเอาไว้ ดังนั้นคืนนี้ฉันคงต้องขอพักในห้องของเธอ...ก็เท่านั้นเอง”

ใบหน้าของเขายิ่งแดงมากขึ้นกว่าเดิม และเธอต้องพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ 'ฉันชอบแบบนี้จริงๆ เลย' ความจริงแล้วเธอสามารถจะเข้าพักในสถานที่ใดก็ได้ที่ยังว่างอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อล่วงหน้า ไม่ว่าสถานที่แห่งนั้นจะเป็นที่พักอาศัยในรูปแบบใดก็ตาม รวมถึงห้องว่างภายในหอพักของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย

ประพันธ์ ดุริยดารา หรือ คีย์ อายุ 15 ปี เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ ศาสตราจารย์ จันทร์ ดุริยดารา ผู้ดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าฐานดวงจันทร์ ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญคนหนึ่งของสำนักวิทยาศาสตร์ ไม่มีการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการว่าใครคือมารดาของเขา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ในปัจจุบันนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าการแต่งงานอีกต่อไปแล้ว การใช้ชีวิตคู่เกิดขึ้น และจบลงได้ ด้วยการตกลงกันของทั้งสองฝ่าย เพียงแต่การมีทายาทนั้น จำเป็นต้องมีการยื่นคำขอ และได้รับการอนุมัติจากทางสำนักวิทยาศาสตร์เสียก่อน

คู่ที่ต้องการจะมีทายาทต้องผ่านการตรวจร่างกายอย่างเข้มงวด ส่วนในประวัติของทายาทที่เกิดขึ้นมานั้น จะบันทึกชื่อของบิดา มารดา ไว้หรือไม่ก็ได้ เด็กทุกคนจะได้รับการดูแลจากทางสภานวโลกา ให้ได้รับสิ่งจำเป็นพื้นฐาน และการศึกษาตามความเหมาะสมในทุกกรณี

แต่ที่เธอแปลกใจคือ แม้แต่ในฐานข้อมูลของสำนักวิทยาศาสตร์ ก็ยังไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับมารดาของเขาเอาไว้เลย ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ นอกจากว่าจะมีใครลบมันออกไปเท่านั้น และมีอยู่เพียงไม่กี่คน ที่สามารถทำแบบนั้นได้ 'แต่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น มันจะแปลกอะไรถ้ารู้ว่าแม่ของเด็กคนนี้เป็นใคร'

“...ว่าแต่ คุณรู้เรื่องเพชรได้ยังไงครับ”

ฟังดูเหมือนเขาแค่หาเรื่องถามเพื่อแก้เขิน แต่เมื่อได้สบตา เธอก็เริ่มไม่แน่ใจ เด็กหนุ่มคนนี้ได้รับการประเมินว่ามีศักยภาพสูงเพียงพอที่จะสามารถเข้าสู่สภานวโลกาได้ในอนาคต ความสนใจส่วนตัวในเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยิ่งทำให้เขามีความโดดเด่นมากขึ้น เธอต้องไม่ให้ภาพภายนอกของเขาหลอกลวงเอาได้

“อย่าลืมสิว่า พ่อของเธอทำงานให้กับเรา”

เขาพยักหน้าเห็นด้วย ใช่ มันไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกที่ทางสำนักวิทยาศาสตร์จะรู้เรื่องนี้ด้วย

“...แต่เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับทางสำนักวิทย์ด้วยครับ”

'เป็นคำถามที่ดี' บนใบหน้าของเธอยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลง มันเป็นสิ่งที่เธอต้องทำอยู่เป็นประจำจนกลายเป็นนิสัย การพูดโกหกได้อย่างเป็นธรรมชาติ พูดออกไปโดยที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังเชื่อว่ามันเป็นความจริง

“เธอคงรู้อยู่แล้ว ว่าพ่อของเธอเป็นคนสำคัญขนาดไหน และทางสำนักวิทย์ก็มีเหตุผลเพียงพอ ที่ต้องการให้ฉันเดินทางไปกับเธอด้วยในวันพรุ่งนี้”

“หมายความว่า...เรื่องนี้อาจมีอันตรายอะไรหรือครับ”

“ไม่ ตราบเท่าที่ฉันยังอยู่ข้างเธอ”

'ใช่แล้ว จงไว้ใจฉัน' แผนของเธอในครั้งนี้มีความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้เขาไว้วางใจ แล้วเดินทางไปรับเพชรพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นเขาจะหมดสติ และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งเธอ และเพชรเม็ดนั้นก็จะหายไปจากชีวิตของเขา เธอยังหวังอีกว่าในอนาคตคงจะไม่ต้องกลับมาพบเจอกับเขาอีก เพราะมันคงจะเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักของทั้งสองฝ่าย

'แต่หากเขาได้เข้าทำงานในสภานวโลกาจริง การพบกันอีกครั้งคงเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้' แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งเธอไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนัก ตอนนี้ขอเพียงให้งานสำเร็จก่อนก็พอ

“ผมไม่คิดว่าพ่อจะเป็นคนสำคัญขนาดนั้น...จริงๆ แล้วก็คือ ผมแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย ผมไม่ค่อยได้พบกับเขาบ่อยนัก และคุณคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดให้ผมรู้ได้ใช่ไหม”

“เธอเข้าใจถูกแล้ว ฉันไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของปฏิบัติการให้เธอรู้ได้...แต่เขาเป็นคนสำคัญ และดีมากๆ เรื่องนั้นฉันรับรองได้”

เธอมัวแต่ระวังตัว จนลืมนึกไปว่าความจริงแล้วเขาก็ยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่พึ่งจะสูญเสียบิดาไปเท่านั้นเอง 'เธอจะพบกับเขาบ่อยๆ ได้อย่างไร ในเมื่อเขาอยู่ที่ดวงจันทร์เกือบตลอดเวลา' เมื่อมองดูให้ชัดๆ ใบหน้าของเขาคล้ายกับผู้เป็นบิดาอย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น

ครั้งหนึ่งเธอเคยได้รับภารกิจที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์ผู้นี้ แม้เขาจะมีอายุมากกว่าเธอหลายปี แต่เมื่อได้พบกันครั้งแรก เธอก็ยังรู้สึกใจเต้นตึกตักขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ความดึงดูดใจของเขาอยู่ที่ความเฉลียวฉลาด เขาสามารถทำความเข้าใจในเรื่องราวที่คนอื่นไม่อาจเข้าใจ หรือมองข้ามไปอย่างไม่ใส่ใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ภารกิจสั้นๆ ในครั้งนั้นทำให้เธอรู้สึกประทับใจในตัวเขามาก แต่น่าเสียดายที่นั่นเป็นเพียงครั้งเดียวที่ทั้งสองได้ออกผจญภัยร่วมกัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พบกันอีกเลย 'มาคิดเรื่องเก่าๆ อะไรเอาตอนนี้นะเรา'

“เอาล่ะ ฉันว่าเราแนะนำตัวกันมาพอแล้ว เธอทำธุระที่นี่เรียบร้อยหรือยัง”

“...ครับ”

เธอพบเห็นท่าทีที่ผิดปกติของเขาในทันทีที่ถามคำถามออกไป

“ว่าแต่ เธอมาทำอะไรที่ห้องทดลองในเวลาป่านนี้”

เธอแกล้งถามเขา แต่ก็คิดเอาไว้แล้วว่าคงไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างแจ้งอะไรนัก

“เอ่อ...ผมอยากได้ข้อมูลอะไรนิดหน่อยน่ะครับ”

“...มีอะไรเกิดขึ้นที่งานหรือเปล่า”

“เปล่า ผมแค่อยากรู้อะไรขึ้นมานิดหน่อยเกี่ยวกับศาสนจักรน่ะครับ”

“ถ้ามีอะไรที่อยากพูด ก็พูดออกมา มันจะทำให้งานของฉันในวันพรุ่งนี้ง่ายขึ้น เข้าใจไหม”

“ครับ ผมเข้าใจ”

ทั้งคู่ยืนอยู่เผชิญหน้ากันในความเงียบเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเป็นคนทำลายมันลง

“เรื่องค้างที่ห้องผม คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหมครับ”

“แน่นอน ฉันพูดจริง”

“แต่ผมมีแค่เตียงเดี่ยว คุณนอนเตียง แล้วผมนอนที่เก้าอี้ยาวก็ได้”

เธอส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่ได้หรอก เธอนอนเตียงไป ส่วนฉันขอจองเก้าอี้ยาวเอง...”

เธอขยิบตาให้กับเขา

“...ฉันเคยนอนในสถานที่แย่ๆ ยิ่งกว่านี้หลายร้อยเท่ามาแล้ว เธอเชื่อไหม”

เขาเชื่อคำพูดของเธอโดยไม่มีข้อสงสัย เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักวิทยาศาสตร์มีหน้าที่หลักคือการขุดค้นหาไปตามซากของโลกเบื้องบน ซึ่งมีสภาพเลวร้ายราวกับขุมนรก ความจริงแล้วเขายังนึกภาพไม่ออกเลยว่าผู้หญิงอย่างเธอจะสามารถทำอะไรแบบนั้นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะแสดงให้เห็นถึงวิธีจัดการกับจูเลียตเมื่อครู่นี้ก็ตาม

เธอขยับหลบไปด้านข้าง พร้อมกับล้อเลียนด้วยการผายมือให้กับเขา

“เชิญนำไปได้เลย หนุ่มน้อย”

เขาเดินนำเธอออกมาจากห้องทดลอง ซึ่งไฟดับลงในทันที ก่อนที่ประตูจะเลื่อนปิดเข้าหากัน

“ถ้าในห้องของเธอมีอะไรไม่เรียบร้อย ให้ฉันยืนรออยู่หน้าห้องก่อนก็ได้นะ”

เธอถามมาจากทางด้านหลังพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ เขาเดินลิ่วไม่ยอมตอบ แต่ความจริงคือกำลังพยายามนึกดูว่าตัวเองมีอะไรที่ไม่อยากให้เธอพบเห็นบ้างหรือไม่

#####

หล่งค้นหาไปในระบบที่สลับซับซ้อน ข้อมูลที่เพื่อนของเขาร้องขอต้องถูกซุกซ่อนอยู่ตรงไหนสักแห่ง แต่แล้วอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นก็ดึงความสนใจของเขาเอาไว้

ไอพีแสดงให้เขารู้ว่าเพื่อนรักได้เจอะเจอกับจูเลียตเข้าให้แล้ว 'ยายนั่นหาเขาเจอได้อย่างไรกัน ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ ' แต่เมื่อลองคิดทบทวนดูให้ดีแล้ว มันก็มีคำอธิบายในเรื่องนี้ได้อย่างง่ายๆ มีสถานที่อยู่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เพื่อนของเขาชอบไป หากรู้จักกันก็พอจะคาดเดาได้ ที่เหลือก็แค่คอยวนเวียนไปมาตามสถานที่เหล่านี้เท่านั้น 'แต่นั่นแหละ ผู้หญิงก็ยังน่ากลัวอยู่ดี'

แต่แล้วเขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจมากขึ้น เมื่อหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ไอพีของจูเลียตก็จากไป โดยปล่อยเพื่อนของเขาทิ้งไว้ในห้องทดลองเพียงลำพัง 'เป็นไปไม่ได้ นายทำได้ยังไง' เขาไม่เชื่อว่าเพื่อนจะสามารถสลัดหลุดจากการตามติดของจูเลียตไปได้ง่ายๆ แบบนี้

'ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่' เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งคีย์ออกจากห้องทดลอง เขาก็ทนความสงสัยที่เกิดขึ้นภายในใจไม่ไหว จึงรีบติดต่อกลับไปอีกครั้ง สถานะของเพื่อนยังคงเป็นไม่รับการติดต่อ แต่นั่นไม่เป็นปัญหากับเขาเลยแม้แต่น้อย

สิ่งแรกที่เขาถามคือ

“นายทำได้ยังไง นายไล่ยายจูไปได้ยังไง”

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่ดูเหมือนสีหน้าของเพื่อนจะดูแปลกๆ

“ฉันเปล่าทำอะไรทั้งนั้น...”

เขายังไม่เข้าใจท่าทีพิลึกของเพื่อน แต่บอกได้ว่ามันต้องเกิดเรื่องไม่ปกติขึ้นแน่

“ฉันจะแนะนำให้นายรู้จักกับใครอีกคน”

คีย์เอียงแขนไปข้างๆ เพื่อให้เขาได้เห็นใบหน้าของทริก และแกล้งทำเป็นขยับแขนอย่างไม่ตั้งใจ เพื่อให้เขาได้เห็นชุดสีดำอันเป็นเครื่องแบบที่ทุกคนรู้จักดี 'โอ๊ะโอ วันนี้นายออกไปทำเรื่องอะไรมากันแน่นะ' การมีเจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักวิทยาศาสตร์มาหาย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่

แม้แต่ตัวเขาเองที่เคยก่อเรื่องเดือดร้อนเอาไว้มากมาย ก็เพียงแค่ได้รับการตักเตือนจากคณะครู และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอพอลโลแห่งนี้เท่านั้น ยังไม่เคยได้รับเกียรติจากทางสำนักวิทยาศาสตร์เลยสักครั้ง

“ผมหล่ง เป็นเพื่อนของคีย์ สวัสดีครับ คุณ...”

“ฉันทริก ยินดีที่ได้รู้จัก ถ้าเธอยังอยากรู้ว่าใครเป็นคนไล่ยายจูไป คนนั้นคือฉันเองนั่นแหละ”

“...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”

เขาตอบเธออย่างงงงง และพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นสายตาของเขาพลันเหลือบไปเห็นภาพในอีกหน้าจอ ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนมากมายที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางเครื่องประมวลผลหน้าตาแปลกๆ เขาเรียกพวกมันอย่างภาคภูมิใจว่าเป็น 'ศูนย์บัญชาการ' ของเขา

มันกินพื้นที่เกือบทั้งหมดภายในห้อง และเขาต้องใช้เวลาอย่างยาวนานในการค่อยๆ ค้นหา และประกอบพวกมันขึ้นมาจนกลายเป็นแบบนี้ พวกมันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี พวกมันคือส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา

ใบหน้าที่ปรากฏขึ้นมานั้น คือผู้หญิงที่พึ่งแนะนำตัวกับเขาว่า ทริก นั่นเอง เมื่อครู่เขากำลังทำการค้นหาข้อมูลภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้ภายในบริเวณโรงเรียนแห่งนี้ตามคำขอของเพื่อน ซึ่งยังไม่ยอมบอกว่าต้องการพวกมันไปทำไม แต่ภาพในบริเวณทางเข้าหลักของโรงเรียนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาค้นหาอยู่

เขามองปากที่ขยับไปมาของตัวเธอในอดีต ข้อความส่วนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นภายในหัว เขาไม่เคยเล่าให้ใครฟังว่ามีความสามารถอ่านริมฝีปากแบบนี้อยู่ด้วย แน่นอนว่ามันไม่ได้ถูกต้องไปทั้งหมด แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว ดูเหมือนเธอกำลังพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเองอยู่

'โดย...ให้...กำ...จัด...วิธี...ที่...ใช่ กำจัดอะไร กำจัดใคร' แต่ตอนนี้เธอกำลังอยู่กับคีย์ ซึ่งแน่นอนว่าคงเป็นเป้าหมายที่เธอกำลังพูดถึง เขาเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่า เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักวิทยาศาสตร์นั้นสามารถทำได้ทุกเรื่อง และอาจรวมถึงการฆ่าคนด้วย

'นายไปทำอะไรมากันแน่' เขารีบใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว รวมถึงพยายามทำหน้าให้เป็นปกติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับเขา

“...คุณทริก ให้ผมได้เห็นหน้าชัดๆ หน่อยได้ไหมครับ”

เขายกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่หน้าจอบนแขนของตัวเอง ก่อนชี้กลับไปที่ตัวเธออีกครั้ง เธอจึงเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ตอนนี้ทั้งสองกำลังคุยผ่านหน้าจอไอพีของคีย์ ซึ่งเขาพยายามบอกว่ามองเห็นเธอได้ไม่ชัด และต้องการคุยผ่านไอพีของเธอโดยตรง

เธอยกมือขึ้นก่อนลากนิ้วไปมาบนหน้าจอ และภาพของเด็กวัยรุ่น หน้ากลม มีตาหยีขีดเป็นเส้น ก็ปรากฏขึ้น ความจริงแล้ว เธอรู้จักเขาตั้งแต่ก่อนที่จะแนะนำตัวเสียอีก

หล่ง เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับการประเมินศักยภาพว่ามีความเหมาะสมในการเข้าทำงานกับสำนักวิทยาศาสตร์ต่อไปในอนาคต แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เจ้าหน้าที่ภาคสนามเหมือนกับเธอ แต่เป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่เทคนิค

ผลงานการเจาะระบบโรงเรียนของเขา ทำให้ใครหลายคนในสำนักงานทึ่ง แต่ก็ทำให้อีกหลายคนไม่พอใจ เขาถูกจับตาดูเป็นพิเศษนับตั้งแต่นั้น เพราะว่ายังไม่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะได้เจาะมัน และระบบอื่นๆ จนพรุนอย่างที่ต้องการ ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของสำนักวิทยาศาสตร์

“โอ คุณสวยมากเลยครับ”

“ขอบใจจ๊ะ”

แม้คำชมจากเด็กวัยรุ่นตัวกลมตาหยีจะไม่มีความหมายอะไรกับเธอมากนัก แต่คำชมก็ยังเป็นคำชม และมันทำให้เธอเกิดความรู้สึกดีๆ กับเขาขึ้นเล็กน้อย

“สำนักวิทย์มีธุระอะไรกับเพื่อนของผมหรือครับ”

'ขอเวลาอีกนิด' มือของเขาขยับเคลื่อนไหวไม่ยอมหยุด

“...อืม คงต้องบอกว่าเป็นความลับ แต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดีก็แล้วกัน”

“ผมก็ว่างั้นแหละ ถ้าเป็นผมก็ว่าไปอย่าง แล้วกำลังจะไปไหนกันหรือครับ”

'เกือบแล้ว' ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ยากอย่างที่เขากลัว แต่เมื่อทำไปแล้ว เขาเองก็คงต้องซวยไปด้วยแน่ 'แต่ถึงยังไงก็ต้องช่วยเพื่อนไว้ก่อน'

“ก็ว่าจะไปนอนที่ห้อง...”

คีย์รีบเข้ามาแทรกเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เธอจะพูดจบ ถ้าให้หล่งรู้ว่าเธอกำลังจะไปค้างที่ห้องของเขา รับรองได้เลยว่าพรุ่งนี้ต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ประจำโรงเรียนแน่

“...ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่นายมีอะไรหรือเปล่า หรือว่าจะเป็นเรื่องนั้น”

'ยังจะมาห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่อีก นายกำลังจะถูกฆ่าแล้วไม่รู้หรือไง' เขาลากมือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนยิ้ม 'เสร็จล่ะ คราวนี้ก็ต้อง'

“เรื่องนั้นน่ะ ยังไม่ได้หรอก แค่สงสัยเรื่องของยายจูเท่านั้นแหละ แค่นี้นะ...เพื่อนยาก”

คีย์มองหน้าเขาด้วยสายตาพิลึก

“เข้าใจแล้ว...เพื่อนยาก”

“สวัสดีครับคุณทริก”

“สวัสดีจ๊ะ”

หล่งเอนหลังพิงเก้าอี้ตัวโปรด ตอนนี้ปัญหาใหญ่คือคีย์จะยอมเชื่อเรื่องที่เขากำลังจะบอกให้ฟังหรือไม่

#####

“ขอโทษนะครับ คุณทริก แต่ผมคงต้องขอแวะห้องน้ำข้างหน้านี้ก่อน”

“...ไม่กลับไปเข้าที่ห้องล่ะ”

“ไม่ไหวแล้ว ขอโทษด้วยครับ”

เขารีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำชายที่อยู่บริเวณนั้นอย่างรีบร้อน เธอมองตามไปพร้อมกับส่ายหน้า 'ไม่เหมือนกับพ่อของเขาเลยสักนิด ฉันดูผิดไปเสียแล้ว'

เมื่อเข้ามาภายในห้องน้ำเรียบร้อย เขาก็รีบยกไอพีขึ้นมาทันที รหัสเพื่อนยาก นั้นตกลงกันไว้ว่าจะใช้เฉพาะในเวลาที่มีเรื่องคอขาดบาดตายเท่านั้น 'ถ้านายไม่มีคำอธิบายเหมาะๆ กับเรื่องในวันนี้ รับรองว่าจะต้องได้เจอดีกันแน่' ภาพใบหน้ากลมๆ ของเพื่อนโผล่ออกมาทันที ก่อนที่เขาจะทันได้กดติดต่อเสียอีก

“รีบหนีเร็ว เธอวางแผนจะฆ่านาย”

เขามองหน้าเพื่อน พร้อมคิดในใจ 'เขาบ้าไปแล้ว บ้ากว่าที่เคยเสียอีก'

จากคุณ : zoi
เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 20:37:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com