Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความสุขของสมชาย ติดต่อทีมงาน

สมชายหนุ่มออฟฟิศ ผู้ใช้เวลา 9 ชั่วโมงในแต่ละวันนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่ในออฟฟิศแห่งหนึ่งแถวสีลม งานของสมชายเป็นงานเอกสาร วันๆวุ่นวายแต่กับกระดาษ A4 สมชายเป็นผู้ชายเฉื่อยชา ทำอะไรค่อนข้างเชื่องช้าและไม่ทันใจอารมณ์ของเจ้านายและเพื่อนร่วมงานสักเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยมีความสุขกับงานมากก็เหมือนที่เขาไม่ค่อยมีความสุขกับโลกใบนี้เท่าที่ควร ในออฟฟิศเขาดูเหมือนตัวตลก อาจเป็นเพราะสมชาย ดูเฉิ่มและติ๋ม ทำให้เขาถูกเพื่อนร่วมงานล้อเลียนและแซวเป็นประจำ

           สมชายไม่ค่อยมีเพื่อน ทำให้ทุกวันหลังเลิกงานสมชายต้องกลับบ้านเพียงลำพัง สมชายเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก นั่นทำให้สมชายเลือกที่จะเดินกลับด้วยแรงกายของเขาเอง เหตุที่เขาไม่ยอมขึ้นรถเมล์เพราะคนบนรถมันเยอะและแออัด อีกทั้งเขารู้สึกว่าทุกครั้งที่เขาขึ้นรถเมล์ เขาเหมือนตกเป็นเหยื่อทางสายตาจากผู้คนบนรถ ซึ่งจนบัดนี้เขาก็ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่การเดินกลับของสมชายก็ไม่ได้ราบรื่นมากนัก เพราะสมชายต้องข้ามถนนเส้นใหญ่ที่มียวดยานพาหนะวิ่งกันขวักไขว่มากมาย สมชายเฝ้าภาวนาให้ใครสักคนคิดสร้างสะพานลอยสักที ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงอยู่บนเส้นด้ายแห่งความเป็นความตายทุกวัน

           ทันทีที่สมชายถึงหน้าอพาร์ทเม้น สมชายวิ่งผ่านลิฟท์ของอาคารและวิ่งขึ้นบันไดอย่างร้อนรนผิดธรรมชาตินิสัยเฉื่อยชาของเขา เมื่อพลันถึงห้องของสมชายแล้วนั้น จะพบว่าห้องของเขานั้นไม่มีทีวี ไม่มีคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ที่หนุ่มสมัยใหม่ใครครวญจะมี ห้องสมชายเป็นห้องโล่งๆ มีกล้องดิจิตอล 1 ตัว และรูปถ่ายติดเต็มฝาผนังห้อง รูปทั้งหลายยังติดลามไปถึงบนเพดาน มิหนำซ้ำเตียงของสมชายยังอยู่ผิดที่ผิดทางต่างกว่าชาวบ้านทั่วไป เพราะมันอยู่กลางห้องนอนของเขา สมชายรีบถอดชุดทำงานของเขาออกด้วยความรีบร้อน แปรเปลี่ยนเป็นชุดลำลองที่สบายตัว

           ขณะที่ทำภารกิจของเขาอยู่นั้น เขาจะเหลืบมองนาฬิกาของเขาอยู่เป็นระยะๆ เหมือนมีนัยยะสำคัญอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ สมชายอาจจะนัดผู้หญิงไว้สักที่หนึ่ง แต่คิดให้ดีสมชายที่ดูเฉิ่มๆจะไปหว่านเสน่ห์กับสาวที่ไหนได้ อีกทั้งสมชายยังไม่มีรถหรือสมบัติพัสถานใดๆที่จะเป็นเครื่องการันตีในความมั่นคงเพียงพอดั่งหญิงสาวทุนนิยมสมัยใหม่จะฝากชีวิตไว้กับเขา สมชาติมักจะแปลกใจทุกครั้งที่ดูข่าวทางทีวี ทุกครั้งที่บริษัทผลไม้แหว่งมีผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดออกมา ตามมาด้วยข่าวคนแห่ไปต่อคิวซื้ออย่างมากมาย แถมด้วยเสียงกรีดร้องถึงความอยากได้อยากมีของเพื่อนร่วมงานที่อยู่รายล้อมตัวเขา ทั้งๆที่พวกเขาเหล่านั้นก็ใช้โทรศัพท์ยี่ห้องเดียวกับที่ดูในข่าวแม้จะคนละรุ่นกันท่านั้น  ผิดกับตัวเขาที่ยังใช้โนเกียที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ แถมหน้าจอยังเป็นสีขาวดำ แต่เขาจะไปสนมือถือที่ถ่ายรูปได้ทำไมกัน ก็เขามีกล้องดิจิตอลอยู่แล้วทั้งตัว

           สมชายเหลือบดูนาฬิกาอีกครั้งก่อนที่จะพรวดออกทางประตูห้องของเขา พร้อมกล้องดิจิตอลคู่ใจ แล้ววิ่งขึ้นบันไดตรงสู่ดาดฟ้าชั้นสูงสุดของตัวอาคาร ทันทีที่เขาถึงบนนั้น หน้าตาของสมชายดูสดชื่น และปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาขึ้นอย่างที่เขาเกินจะหักห้ามใจ เป็นรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเปิดเผยต่อผู้ใด แต่น่าแปลกเพราะบนนั้นบนดาดฟ้าตรงนั้นนอกจากสมชายแล้วก็ไม่มีใครที่แลดูว่าเขาจะนัดไว้เลยสักคน

           แต่ที่ตรงนั้นตรงที่สมชายรีบร้อนขึ้นไปนั้น ตรงที่สมควรจะเป็นพื้นที่โล่งๆของดาดฟ้าอพาร์ทเม้นท์ที่ไม่มีใครสนใจ แต่ผิดถนัดตรงพื้นที่โล่งๆตรงนั้นกลับกลายเป็นสวนย่อมๆ ในพื้นที่ที่แสนจำกัด ตรงพื้นที่ควรจะเป็นพื้นคอนกรีตโล่งๆ กลับโปะไปด้วยดินและหญ้าอย่างผิดธรรมชาติ บนพื้นหญ้านั้นเต็มไปด้วยกระถางต้นไม้ บนกระถางก็เปี่ยมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ แต่ละต้นนั้นมีสีสันสดใสชวนให้เพลินตากับการมองยิ่งนัก   บรรยากาศบริเวณนั้นช่างมีความอภิรมย์ ลมยามเย็นพัดพาเอื่อยๆกระทบกับผิวหน้าและเรือนกายของสมชายอย่างแผ่วเบา จึงเกิดความรู้สึกสบายและผ่อนคลายแก่เขาอย่างสุดวิเศษ

            สมชายนั่งตรงพื้นหญ้าสายตาของเขาเหยียดมองตรงไปท้องฟ้าด้านหน้าเขา ดวงอาทิตย์สีส้มดวงโตที่กำลังจะลับขอบฟ้าด้านหน้าของเขาช่างสวยและงดงามกว่าสิ่งใดที่สมชายเคยได้สัมผัสบนโลกใบนี้ แสงสีทองของท้องฟ้ารอบบริเวณดวงอาทิตย์ส่องประกายระยิบระยับ สมชายคิดเสียดายต่อเพื่อนร่วมโลกของเขาที่เมินเฉยต่อความงามงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา เพียงเพราะใคร่หลงกับสิ่งรูปธรรมต่างๆนานาที่ตอบสนองกิเลศตัณหาของมนุษย์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด อาจเป็นเพราะความไม่สิ้นสุดของคนเรานี่เองเขาจึงไม่คิดใคร่มีอย่างใครเขา เพราะเขาเปรียบความสิ้นสุดเป็นดั่งความไม่สิ้นสุดในส่วนลึกของจิตใจ

              สมชายนั่งมองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ลมเอื่อยยามเย็นพัดพาความรื่นรมของต้นหญ้าใบไม้เข้าหาเขา แต่กลับพัดพาจิตวิญญาณของสมชายล่องลอยผ่านไป สมชายริษยานกน้อยที่ละลิ่วลอยและลับตาจางหายไปบนนภาลัย เขาไม่ใคร่รู้ในที่มาและที่ไปของพวกมัน เขาเพียงสัมผัสได้ในกลิ่นเสรีภาพที่พวกมันได้รับตลอดชีวา สมชายหยิบกล้องดิจิตอลขึ้นมาเล็งถ่ายพระอาทิตย์ที่ส่องแสงลาท้องฟ้าก่อนจากลาเพื่อเหลือไว้เพียงความมืดมิดที่ว่างเปล่าในยามค่ำคืน

             สมชายคล้อยตามองพระอาทิตย์จนลับหายจากไป ณดินแดนของเส้นโค้งขอบฟ้าที่ไร้จินตนาการ สมชายรับรู้ถึงสารภายในร่างกายที่หลั่งออกมาอย่างมิได้ตั้งใจ เขามิอาจทราบรู้ได้ ว่าสารเหล่านั้นที่ทำปฎิกิริยาต่อร่างกายของเขามีความหมายต่อเขาอย่างไร เขารู้สึกดีใจต่อภาพสวยงามที่เห็นและเขาก็เศร้าใจในการจากไปของดวงอาทิตย์แม้จะเป็นเวลาเพียงสั้นๆก็ตาม

               สมชายเดินกลับเข้าห้องชั้น 6 ของเขา ด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ด้วยคำพูดใดๆ มันเป็นความรู้สึกที่มีเส้นกั้นของความจากลาและการเริ่มต้นผสมปนเปกันอยู่ สมชายล้มตัวลงนอน คร่ำครวญจินตนภาพถึงภาพบางสิ่ง สรรพสิ่งทุกสิ่งล้วนมีที่มาและจากไป นั้นเป็นสัจธรรมของชีวิต แต่กลับบางสิ่งที่สำคัญหากถึงเวลาที่จากไปเราจะยอมรับมันได้ไหม หรือบางสิ่งมันสำคัญจนละเลยถึงคำว่าจากลา แล้วเช่นนั้นมันจะยังสำคัญอยู่ไหม สมชายมองภาพดวงอาทิตย์ที่เขาเฝ้าถ่ายในทุกยามเย็นตลอด 10 ปีให้หลัง เขาหลับตาลงและพลันฉุกคิดขึ้น หากวันหนึ่งพระอาทิตย์หมดแสงแลลับตาหายไป ความสำคัญของดวงอาทิตย์จะคงอยู่ไหม หรือว่าทุกสิ่งมันล้วนอนิจจัง พลันคิดเช่นนั้นน้ำตาของสมชายก็พลันไหลลงและเขาก็เผลอหลับไปในจินตนาการของความไม่เคยสิ้นสุด

จากคุณ : A-Bellamy
เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 23:18:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com