บุริมทร์วางโทรศัพท์จากเมธิกาที่นัดจะทานข้าวด้วยกันในเย็นนี้ ซึ่งเขาก็ตอบตกลงเพราะเริ่มคิดถึงลูกสาวที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน แล้วก็หันไปทางลูกชายที่นั่งดื่มเบียร์ดูสาวๆว่ายน้ำกลางสระ
เย็นนี้อย่าเพิ่งออกไปไหนนะ
ชายหนุ่มหันมาวางแก้วเบียร์ พร้อมเอ่ยถาม ทำไมล่ะพ่อ
น้องมันอยากจะพาผัวมากินข้าวด้วย
เมธัสแค่นหัวเราะ โฮ่ นายอชิระจะมาด้วยเรอะ
เออ เห็นยัยเมย์บอกมาอย่างนั้น
ไม่มีปัญหา ดีซะอีก จะได้ทำความรู้จักกับน้องเขยจริงๆจังๆซะที เมธัสว่าแล้วก็ทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนขยับตัวอีกครั้งพูดกับบิดาน้ำเสียงจริงจัง อืม พูดถึงนายอชิระ ถ้าเราสามารถดึงนายนี่เข้ามาร่วมด้วย จะช่วยเราได้มากทีเดียวเลยนะพ่อ
บุริมทร์คิดตาม ก่อนจะส่ายหน้า พ่อว่าเรื่องนี้อย่าเพิ่งผลีผลามเลย บอกตรงๆ ว่าพ่อยังดูมันไม่ออก
โธ่พ่อ! ตอนนี้นายนั่นก็เหมือนเป็นคนของเราไปครึ่งตัวแล้ว อีกอย่าง ธุรกิจที่มันทำน่ะ ร้อยทั้งร้อยมันต้องมีเอี่ยวกับยาอยู่แล้วล่ะ โดยเฉพาะในบ่อนของมันน่ะไม่รู้คืนนึงปล่อยของได้ตั้งเท่าไหร่
บุริมทร์เริ่มลังเลกับการชี้นำของลูกชาย และตรึกตรองชั่งน้ำหนักระหว่างความสำเร็จในการเปิดเส้นทางการค้าใหม่ กับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อคิดจะร่วมงานกับชายหนุ่มที่คิดว่ามีเขี้ยวเล็บพอตัวทีเดียว ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถควบคุมธุรกิจที่อยู่ทั้งในด้านสว่างและด้านมืดได้จนมาถึงทุกวันนี้
เอาน่าพ่อ คิดอะไรมาก ทีกับพวกตำรวจยังไม่เห็นพ่อคิดมากถึงขนาดนี้เลย
ก็เพราะไอ้พวกนั้นมันหิวเงินไงแค่มีเงินให้ เราก็สามารถเป็นนายมันได้แล้ว แต่ไอ้หมอนี่มันต่างกัน มันมีทั้งเงินทั้งอำนาจอยู่แล้ว ถ้าเราเข้าผิดจังหวะดีไม่ดีอาจถูกมันฟัดกลับมาก็ได้ เพราะฉะนั้น พ่อถึงบอกไงว่าอย่าเพิ่งผลีผลาม รอดูท่าทีมันไปก่อนก็แล้วกัน
เมธัสยักไหล่ จะเอางั้นก็ได้ พร้อมคว้าเบียร์ขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินพุ่งตัวลงสระไปคลอเคลียกับสาวๆ
บุริมทร์มองตาม รู้ว่าลูกชายกำลังไม่พอใจ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ลูกเสนอจะน่าสนใจไม่น้อย แต่เมื่อยังไม่แน่ใจ เขาก็ไม่อยากเสี่ยง เวลายังมีเหลือเฟือ เมื่อเห็นว่ามั่นใจเมื่อไหร่ เมื่อนั้นค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย
อารดารู้ว่าลูกชายจะไปทานอาหารเย็นที่บ้านของเมธิกา จึงสั่งให้คนตุ๋นเครื่องยาจีนฝากไปให้บุริมทร์ ซึ่งเมธิกาตื้นตันกับความมีน้ำใจของนางที่นอกจากมีให้กับเธอแล้วยังอุตส่าห์เจือจานไปถึงบิดาของเธอด้วย แต่สำหรับศรา เขากำลังขุ่นเคืองพี่ชายต่างสายเลือดเป็นที่สุด กับคำสั่งที่ไม่ให้เขาติดตามไปด้วยในครั้งนี้
อย่ามาทำหน้าตูม อยู่เป็นเพื่อนม่าน่ะดีแล้ว
โธ่เฮีย นั่นมันถ้ำเสือนะ
จะกลัวอะไร อั๊วมีลูกเสือเป็นโล่ชั้นดี แล้วก็เหลือบสายตาไปยังร่างของเมธิกาที่กำลังเดินมาพร้อมของฝากให้บิดา ไปล่ะ เขาตบบ่าน้องชายให้คลายกังวลก่อนเปิดประตูก้าวขึ้นรถประจำที่คนขับ
สาเหตุที่ไม่อยากให้ศราไปด้วย สืบเนื่องมาตั้งแต่วันงานแต่ง กับพฤติกรรมที่เมธัสและบรรดาลูกน้องพูดและปฏิบัติต่อศราเหมือนจะหยามเกียรติกัน เพียงเพราะรู้ว่าศรานั้นเป็นเพียงแกะดำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรภายในตระกูลของเขา และในวันนั้น เขาเองก็รู้ว่าศรานั้นต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนที่จะไม่โต้ตอบกลับไปอย่างเท่าเทียมกัน ขนาดคนสนิทของเขาที่ว่านิ่งแล้ว ยังแสดงสีหน้าไม่พอใจกับพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นเพราะคำสั่งของเขาว่าห้ามมีเรื่องเด็ดขาด ทั้งหมดถึงได้อดทนอดกลั้นจนงานผ่านพ้นไป
และตัวเขาเองก็พยายามซ่อนความไม่พอใจไว้จนสุดกลั้นเหมือนกัน เพียงเพราะเป้าหมายที่ต้องการช่วยบิดายังคงเหนี่ยวรั้งไว้ เขาจึงได้แต่ข่มใจมองบุคคลที่เปรียบเสมือนดั่งญาติสนิทถูกหยามเหยียดต่อหน้าต่อตา
แต่ไม่เป็นไร เพราะพวกมันจะต้องถูกเอาคืนในไม่ช้านี้แน่นอน !
ผู้เป็นประมุขของบ้านยืนสง่าผ่าเผยอยู่ใต้มุขหน้าคฤหาสน์ โดยมีร่างของบุตรชายยืนข้างกาย สายตาคมมากด้วยประสบการณ์มองตัวรถยุโรปสีดำคันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบเชิงบันได เพียงครู่ ประตูฝั่งผู้โดยสารก็เปิดออกก่อนประตูฝั่งคนขับไม่กี่เสี้ยวนาที และร่างของสาวน้อยที่ถือของฝากติดมือมาก็แล่นถลามาหาบิดาด้วยความคิดถึง ไม่สนใจสามีที่เดินเรียบเรื่อยตามมา
สวัสดีค่ะพ่อ ยกมือไหว้เสร็จก็เอียงใบหน้าซบอกบิดาอย่างออดอ้อน
บุริมทร์ยิ้มกับกิริยานั้นพร้อมยกมือลูบศีรษะ อืม เราดูสบายดีนี่นา แบบนี้ก็แปลว่าคุณอชิระเขาเลี้ยงดีสินะ แล้วก็เลยสายตาไปยังร่างสูงที่เดินมาหยุดตรงหน้า ก่อนจะยกมือไหว้เขา
สวัสดีครับ
หวัดดี ยัยเมย์คงไม่สร้างเรื่องปวดหัวให้คุณใช่ไหม บอกก่อนนาว่าเอาลูกสาวผมไปแล้ว แล้วจะเอามาคืนทีหลัง ผมไม่ยอมเด็ดขาด ในน้ำเสียงหยอกเย้านั้นแฝงด้วยการข่มขู่ ซึ่งชายหนุ่มยิ้มรับ
รับรอง ผมไม่คืนหรอกครับ
แต่สำหรับเมธิกาได้แต่เก็บความขมขื่นไว้ในอก..เมื่อสัญญาสิ้นสุด เธอก็จะต้องกลับมาอยู่บ้านหลังนี้อีกครั้ง ไม่ว่าบิดาจะเต็มใจยอมรับหรือไม่ หญิงสาวผละตัวออกห่าง แย้มยิ้มให้ผู้กำเนิด
อาม่าฝากไก่ตุ๋นยาจีนมาให้พ่อด้วยค่ะ
เรอะ อืมฝากขอบใจไปถึงอาม่าด้วยนะ
เมธิกาหันไปยื่นของที่ถือส่งให้คนรับใช้ ก่อนจะหันไปหาพี่ชาย สบายดีนะพี่เมฆ
เออ คนอย่างพี่ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ตอบพร้อมสายตาเหยียดมองให้อีกฝ่ายหน้าหงิก
ก็นั่นสินะ เมย์ก็ลืมไปว่าคนหนังเหนียวอย่างพี่ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก
บุริมทร์เอ่ยปรามลูกทั้งสอง เออ ไอ้คู่นี้มันยังไงนะ นานๆจะเจอกันสักทียังจ้องจะฮึ่มจะแฮ่ใส่กันอีก
เมธัสจึงเมินจากน้องสาวหันมาทางอชิระแทน เราไม่เคยคุยกันจริงๆจังๆสักครั้งเลยนะ วันนี้คงถือโอกาสดื่มให้กับน้องเขยซะหน่อยแล้ว
เมธิกาหันขวับเอะอะก็ชวนกินเหล้า เขาจะมากินข้าวกันนะ
และเมธัสก็หันมาชักสีหน้าหมายจะตอบโต้ แต่อชิระที่เฝ้ามองพฤติกรรมของสองพี่น้องอยู่เงียบๆ ก็รีบเอ่ยกับภรรยาด้วยรอยยิ้มละไม ไม่เป็นไรหรอกเมย์ ผมเองก็อยากจะทำความรู้จักพี่ของคุณให้มากกว่านี้ด้วย
ซึ่งเมธัสก็หัวเราะชอบใจ พร้อมยื่นมือมาตบไหล่เขา นั่น มันต้องอย่างนี้สิคุณน้องเขย แล้วก็หันมาทางน้องสาวที่มองตาเขียวขุ่น แกเป็นผู้หญิง แกไม่รู้หรอกว่าผู้ชายเขาสานสัมพันธ์กันยังไง จากนั้นก็แทบจะกอดคอหนุ่มรุ่นพี่เดินเข้าบ้าน โดยไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายพยายามหักห้ามใจแค่ไหนที่จะไม่จับมือข้างนั้นมาหักทิ้งในการกระทำที่เหมือนเป็นการปีนเกลียวเช่นนี้
บุริมทร์จึงเอ่ยกับลูกสาว ปล่อยพี่กับผัวแกไปเถอะ
หนูก็ไม่ได้อยากจะว่าอะไรหรอกนะคะ แต่เบื่อตรงที่พี่เมฆน่ะพอเหล้าเข้าปากล่ะเบรกไม่อยู่เลย..หนูขี้เกียจเป็นคนขับรถกลับค่ะ
โธ่ เรื่องแค่นี้เอง ถ้าผัวเราถูกมอมจนขับรถกลับไม่ได้ ก็ค้างเสียที่นี่เลยจะเป็นไรไป มากินข้าวกับพ่อดีกว่า แล้วก็จูงมือลูกตรงไปยังห้องอาหาร
ในช่วงเวลาอาหารมื้อนั้น เมธิกาเป็นคนพูดคุยกับบิดาเพียงลำพัง ในขณะที่พี่ชายผูกขาดอยู่กับอชิระด้วยเรื่องสัพเพเหระที่ออกจะทะลึ่งตึงตังซึ่งเธอไม่ชอบฟังสักนิดเดียว.. เชอะ เนี่ยนะสิ่งที่พวกผู้ชายชอบนำมาพูดคุยกัน
เมื่อพ้นมื้ออาหารเย็น หญิงสาวพูดคุยกับบิดาได้อีกไม่กี่คำก็ถูกปล่อยลอยแพ เพราะบิดารีบรุดออกจากบ้านตามคำออดอ้อนของคู่นอนที่โทรศัพท์มาตาม
พ่อนะพ่อ เห็นผู้หญิงสำคัญกว่าลูกตลอดเลย พึมพำด้วยความน้อยใจและเหลียวมองอชิระก็ยังคงถูกพี่ชายกักตัวไว้ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆ เธอจึงออกไปเดินเล่นภายในสวน และเห็นสุนัขตัวโปรดของบิดาเดินเลาะอยู่ริมรั้วพอดี จึงตบมือพร้อมเอ่ยเรียก
แรมโบ้
เจ้าอาเซเชี่ยนตัวเขื่องหันขวับ ก่อนควบหูตูบลิ้นห้อยมาหาอย่างไว ปลายหางสะบัดพั่บๆยามตะกายเลียหน้าเลียตา หญิงสาวได้แต่หัวเราะคิกคัก สองมือยันแผงขนหนาให้พ้นไปจากเนื้อตัว
อี๋ ปากเหม็นเชียวแก ไม่มีใครแปรงฟันให้ใช่ไหมเนี่ย
และวิ่งเล่นกับมันเป็นการฆ่าเวลา..โชคดีนะที่เจ้าลาบาดอร์อีกสองตัวนอนหลับอยู่ในกรง ไม่เช่นนั้นเธอคงถูกพวกมันรุม ไม่ต่างอะไรกับขนมหวานเป็นแน่
จนผ่านไปร่วมชั่วโมง เมธิกาก็หมดแรงเล่นกับมันแล้ว จนต้องจับล็อกล้มตัวมันมานอนแผ่หงายและเกาคอเกาพุงให้ มันถึงจะยอมเลิกยื้อยุดฉุดเสื้อฉุดกางเกงของเธอ..บางครั้ง ยามที่รู้สึกเหงา เธอก็นึกอยากจะหาสัตว์น่ารักๆอะไรก็ได้มาเลี้ยงเป็นเพื่อนสักตัว และคิดว่าอชิระก็คงไม่สั่งห้ามอะไร แต่พอมาคิดถึงตอนที่เธอต้องเลิกรากับเขาและนำเจ้าสัตว์เลี้ยงนั้นกลับมาบ้านหลังนี้ และไม่นาน..ชีวิตมันคงต้องจบลงด้วยเงื้อมมือของพี่ชาย ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เลี้ยงตัวก่อนๆของเธอ
ซึ่งตัวแรกในวัยประถม เธอเลี้ยงนกหงส์หยกไว้คู่หนึ่ง ตั้งกรงของมันไว้ที่ระเบียงคอยประคบประหงมอย่างดี แต่พี่ชายบอกว่าหนวกหู จับกรงนกขว้างลงกลางสระว่ายน้ำ เธอกรีดร้องเสียงหลงรีบวิ่งลงจากบ้านเพื่อกระโจนลงสระพยายามงมกรงนกจนเกือบจมน้ำตาย โชคดีที่คนของพ่อกระโดดลงไปช่วยเธอขึ้นมาและงมกรงนกที่อยู่ก้นสระมาให้แทน แต่กว่าจะขึ้นมาได้เจ้านกน้อยแสนสวยที่น่าสงสารทั้งสองก็ไม่เหลือลมหายใจแล้ว ในขณะที่พี่ชายยืนหัวเราะชอบใจอยู่บนระเบียง
และอีกครั้ง ตอนที่เรียนมัธยมต้น เธอขอลูกแมวสายพันธุ์เปอร์เซียของเพื่อนคนหนึ่งมาเลี้ยง เฝ้าทะนุถนอมอย่างดี เวลาที่ไปเรียนหนังสือก็ขังมันไว้ภายในห้อง ปิดประตูหน้าต่างแน่นหนาด้วยเกรงว่ามันจะเที่ยวซุกซนออกไปให้พี่ชายแกล้งอีก แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความโหดเหี้ยมอำมหิตของพี่ชายได้..ในเย็นวันหนึ่งหลังกลับมาจากโรงเรียน หัวใจเธอแทบสลาย เมื่อเห็นซากสัตว์ตัวเล็กเนื้อหนังเหวอะหวะจนไม่เหลือชิ้นดีอยู่ภายในกรงสุนัขตัวโปรดของพี่ชาย ซึ่งในครั้งนั้นเธอทั้งโกรธทั้งแค้นมาก นอกจากจะด่าทอพี่ชายแล้วยังถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน และถึงจะสู้ไม่ได้ แต่เธอก็ได้ฝากรอยเขี้ยวรอยเล็บไปบนใบหน้าและเนื้อตัวของพี่ชายได้หลายแผลทีเดียว
ส่วนพ่อ ก็แค่ดุพี่ชายนิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี แล้วก็บอกว่าจะซื้อลูกแมวมาให้ใหม่ แต่เธอก็ไม่เอาแล้ว เพราะไม่อยากเห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นต้องตายลงอย่างน่าเวทนาอีก
ถ้าบ้านโน้นไม่มีเจ้าถิ่นอยู่ก่อนแล้ว ฉันคงขอพ่อเอาพวกแกไปอยู่ด้วยแน่
เมธิกาพึมพำพลางลูบหัวเจ้าสุนัขที่ทำท่าเคลิ้มหลับ และนั่งอยู่กับมันอีกไม่กี่นาทีก็ลุกเดินเข้าบ้านล้างมือ ล้างหน้าล้างตาจนสะอาดก็เดินไปตามอชิระ ซึ่งตอนนี้ถูกห้อมล้อมด้วยลูกน้องคนสนิทของพี่ชาย
พี่เมฆ เมย์จะกลับบ้านแล้ว
เมธัสที่เริ่มกึ่มๆหันมาแย้ง เฮ้ย ไรวะ จะรีบกลับไปไหน พี่กำลังคุยกับคุณอชิระสนุกเลย
เมย์ง่วง
ง่วงรึว่า.!..กันแน่วะ แล้วก็หัวเราะชอบใจ ในขณะที่เมธิกาหน้าแดงก่ำกับถ้อยคำหยาบโลนของพี่..อชิระก็คิดไม่ถึงว่าถ้อยคำนี้จะหลุดออกมาจากปากของคนที่มีสายเลือดเดียวกัน แล้วก็ลุกขึ้น
ผมว่า วันนี้ผมขอตัวก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ผมมีธุระตอนเช้าด้วย
แต่เมธัสก็ยังเย้า ธุระแน่นะ ไม่ใช่ว่ากลัวยัยเมย์จะงอนจนไล่ไปนอนนอกห้องล่ะ
อชิระแสร้งยิ้ม เมย์ไม่ใจดำกับผมถึงขนาดนั้นหรอกครับ แล้วก็หันไปจับมือหญิงสาว แล้วค่อยพบกันใหม่นะครับ หรือจะไปหาผมที่คลับก็ได
ผมไปหาคุณแน่ พร้อมโบกวี.ไอ.พี การ์ดที่เพิ่งได้มาจากอชิระ
งั้นผมกลับล่ะ
เชิญครับ ผมไม่ไปส่งนะ เพราะยัยเมย์คงพาคุณไปได้
แน่นอน เมธิกาตอบอย่างฉุนเฉียว พลางเป็นคนจับจูงอชิระให้ก้าวพ้นมาจากพี่ชาย..จนเมื่อมาหยุดยืนข้างตัวรถเธอก็หันกลับมาถาม ใบหน้ายังบูดบึ้งผสานความอับอายกับถ้อยคำของพี่ที่ไม่ให้เกียรติเธอต่อหน้าเขากับบรรดาพวกลูกน้องเลย
คุณเมาหรือเปล่าเนี่ย
ไม่เมาหรอก
แน่นะ เห็นดื่มไปตั้งหลายแก้ว
แน่ซี่ จะพิสูจน์กลิ่นไหมล่ะ พูดพร้อมขยับตัวเข้าใกล้ ให้อีกฝ่ายรีบก้าวถอยพร้อมขึงตาใส่
ไม่ต้องเลยนะ เดี๋ยวฉันขับเองดีกว่า ว่าพลางก็เปิดประตูจับร่างสูงใหญ่กว่ายัดเข้าไปนั่งฝั่งผู้โดยสาร โดยเขาก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร เธอจึงปิดประตูให้เสร็จสรรพ ก่อนเดินอ้อมไปประจำที่คนขับ
ตี๋ ลูกน้องของเมธัสมองตามท้ายรถยนต์ที่แล่นลับไปด้วยความคั่งแค้นใจ..ผู้หญิงที่เขาหมายปองมานาน และ ถ้าหากไม่เกรงกลัวบารมีจากนายใหญ่ ป่านนี้คงจับรวบหัวรวบหางสำเร็จไปแล้ว และไม่ต้องมานั่งเจ็บใจทนเห็นเธอตกไปเป็นของคนอื่นเหมือนในขณะนี้หรอก ฮึ่ม !
ต่อค่ะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ส.ค. 54 13:33:20
|
|
|
|