Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โรงเรียนกลางฤดูฝน ตอน 20 ติดต่อทีมงาน

ตอน 1-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10837764/W10837764.html
ตอน 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10843483/W10843483.html
ตอน 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846285/W10846285.html
ตอน 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10846567/W10846567.html
ตอน 6-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850334/W10850334.html
ตอน 8-9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10855060/W10855060.html
ตอน 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10859853/W10859853.html
ตอน 11-12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10863362/W10863362.html
ตอน 13-16 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10867723/W10867723.html
ตอน 17-18 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10871642/W10871642.html
ตอน 19 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10879548/W10879548.html

๒๐. ปิดบัง

อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานสัปดาห์วิชาการของโรงเรียน

ผมได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกตัวแทนฝ่ายวิชาคณิตศาสตร์ ความน่าสนใจของงานนี้เพิ่มขึ้นทันที เมื่อผมเห็นชื่อของสิทธา ในใบรายชื่อนักเรียนที่
สมัครเข้ามาแข่งขัน

สิทธาได้คะแนนสอบกลางภาควิชาคณิตศาสตร์เต็ม แต่ข้อสอบง่ายเกินไปจนวัดความพิเศษอะไรไม่ได้เลย แน่ล่ะ ถ้าผมออกข้อสอบเรื่อง การแยกตัวประกอบดีกรีสอง สมการเชิงเส้น หรือทฤษฎีบทสามเหลี่ยมปีธากอรัสแก่เด็กชั้นประถมสี่ คงไม่มีฝ่ายวิชาการโรงเรียนไหนยอมให้ข้อสอบผ่านออกมาแน่

ผมยังเก็บกระดาษคำตอบของสิทธาเมื่อวันนั้นเอาไว้ พอมาคิดๆดูแล้วมีจุดที่น่าสนใจบางอย่างที่ไม่น่ามองข้าม หนึ่ง คือ สิทธาจงใจไม่ทำข้อสอบข้ออื่นๆ นอกจากสองข้อสุดท้าย สอง กระดาษคำตอบไม่มีรอยยางลบเลยแม้แต่รอยเดียวและตัวหนังสือยังตวัดไปมาอย่างแม่นยำ สิทธาอาจต้องการบอกอะไรบางอย่าง หรืออาจเพียงต้องการตอกหน้าผมให้หงายเก๋งคาโต๊ะทำงานก็เป็นได้ แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เมื่อโอกาสมาถึง ผมจะทำให้ครูทุกคนเห็นว่า สิทธา ไม่ใช่แค่เด็กฉลาดทั่วไป แต่เป็น เด็กพิเศษ !

สถานที่คัดเลือกคือห้องประชุมในห้องพักครูตอนบ่ายวันนี้ กำหนดการช้าไปนิดหน่อยเมื่อหัวหน้าฝ่ายปกครองและหัวฝ่ายวิชาการประจำตึกไหมไทยขอมานั่งชมด้วย

ผมกับพี่รินทร์รับหน้าที่เตรียมคำถามให้เด็กๆ เราสองคนสลับกันเขียนโจทย์บนกระดาน ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงเวลาคัดเลือกเด็กประถมสี่ที่ผมรอคอย พี่รินทร์ได้เป็นคนตั้งโจทย์ข้อแรกก่อน คำถามของแกนั้นเข้าท่าดี แต่ยังไงๆมันก็เป็นเนื้อหาของเด็กประถม

“โจทย์แบบนี้มันจะไปได้เรื่องอะไรกันเล่า” ผมคิดในใจ มันต้องโจทย์ของผมต่างหากล่ะที่จะทำให้ทุกคนในห้องอ้าปากค้าง และหลังจากนั้นทุกคนต้องตะลึงมากขึ้นอีกเมื่อมีเด็กคนหนึ่งทำได้เสียด้วย

โจทย์ของผมเป็นทฤษฎีบทตรีโกณมิติรวมกับทฤษฎีบทสามเหลี่ยมปีธากอรัส
สามเหลี่ยมมุมฉาก มีด้านประกอบมุมฉากในแนวแกน Y ยาว 6 และมีด้านตรงข้ามมุมฉากยาว 10 มุมแหลมในแนวแกน X มีค่าเท่ากับ A จงหาค่าของ cosA
ไม่เพียงต้องรู้จักเลขยกกำลังและการถอดรากที่สองเท่านั้น แต่ยังต้องรู้ทฤษฎีบทตรีโกณมิติอีกด้วย ถ้าเด็กประถมสี่ทำได้ก็เข้าขั้นอัจฉริยะแล้ว

ผมเขียนโจทย์ไปเรื่อยๆจนใกล้เสร็จ เมื่อกำลังจะละปลายปากกาจากกระดานไวท์บอร์ด จู่ๆพี่แคทก็พูดสวนขึ้นมาดื้อๆ

“ษา วานไปหยิบสมุดบนโต๊ะห้องพี่ให้หน่อยสิ” เธอบอก
เสียงนั้นหยุดความตื่นเต้นของผมลง จนเกือบหงุดหงิดกลายๆ หัวปากกาสักกะ
หลาดครูดกับกระดานเกิดเสี๊ยงเอี๊ยดแสบแก้วหู

“อะไรนะครับ” ผมทวนคำ สีหน้าพี่แคทปกติมากแต่แฝงความรู้สึกบางอย่างไว้ ผมมองไปหาหัวหน้าฝ่ายปกครองเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่แกกลับโบกมือเป็นสัญญาณให้ทำตามที่บอก

“ได้ครับ” ผมเอียงศีรษะตอบอย่างไม่เต็มใจนัก

ปกติพี่แคทเป็นคนมีเหตุผล แต่นี่เป็นคำสั่งที่งี่เง่าที่สุดตั้งแต่ผมรู้จักเธอ ไม่มีสมุดอะไรเลยสักเล่มบนโต๊ะ มันเรื่องอะไรกันที่ผมต้องมาหาของในเวลาสำคัญแบบนี้ด้วย ป่านนี้เด็กๆคงกำลังทำโจทย์อยู่แน่ๆ ผมควรจะกลับไปในห้องประชุมเพื่อรอชมความมหัศจรรย์ของสิทธาน่าจะดีกว่า ส่วนไอ้สมุดบ้าๆนั่นช่างมันเถอะ

ผมเปิดประตูห้องประชุม เจอพี่แคทกับพี่สมเกียรติรออยู่หน้าประตูพอดี ทั้งสองคนเดินออกมาและรีบปิดประตู

“หาเจอมั้ย” พี่แคทถาม

“ไม่เห็นมีสมุดเลยครับ” ผมตอบ

“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นตามพี่มาหน่อยซิ” เธอสั่ง

ผมอยากกลับเข้าไปในห้องประชุมมากกว่าเลยปล่อยให้เธอเดินนำไปก่อน อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อเข้าไปดูว่าสิทธาทำโจทย์ของผมเสร็จรึยัง แต่ต้องงงหนักเข้าไปใหญ่เมื่อพี่สมเกียรติห้ามไม่ให้กลับเข้าไปข้างใน

“โจทย์ข้อนั้น แคท ลบทิ้งไปแล้วล่ะ ไม่ต้องเข้าไปดูหรอก” หัวหน้าฝ่ายปกครองบอกผม

ผมจำใจเดินเข้าห้องทำงานหัวหน้าฝ่ายวิชาการ

“สมุดเล่มนั้นสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมพูดเป็นคนแรก เมื่อเราสามคนเข้ามาอยู่ในห้องพี่แคท

“มันไม่มีสมุดอะไรทั้งนั้นหรอก ษา” เธอบอก แล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงาน “พี่เรียกเธอออกมา เพราะอยากรู้ว่าทำไมถึงเขียนโจทย์แบบนั้น นี่ดีนะที่พี่อยู่ด้วย ถึงห้ามได้ทัน”

“ห้าม … ทำไมต้องห้ามครับ มันก็แค่โจทย์ปัญหาธรรมดา” ผมแย้ง

“ธรรมดางั้นเหรอ หาค่าcos กับ ทฤษฎีสามเหลี่ยมปีธากอรัสเนี่ยนะคือโจทย์ธรรมดา เธอบ้ารึเปล่า !” พี่แคทขึ้นเสียง

“นั่นไม่ใช่ปัญหานี่ครับ” ผมบอกเธอ “อย่างร้าย ทุกคนก็ตอบผิดหมด อย่างดีก็ … ”

“หือ … อย่างดีก็อะไรงั้นเหรอ” เธอย้อนถาม  

เอาแล้วไงล่ะ ผมว่าแล้วเชียว สักวันต้องได้เห็นพี่แคทแปลงร่าง แต่ไม่เคยคิดเลย
ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

“ษา มีเหตุผลอะไรรึเปล่า” พี่สมเกียรติถามแทรก เสียงต่ำๆของเขาพอช่วยให้ผมกับพี่แคทอารมณ์เย็นลงได้บ้าง

“คือ … ” ผมเอ่ย

“ว่าไง” หัวหน้าฝ่ายวิชาการรุกเร้า

เอาล่ะๆ ถ้าอยากให้บอกกันนัก ผมก็จะยอมบอก

“ผมคิดว่ามี เด็กคนหนึ่งในห้องนั้นทำโจทย์ข้อนี้ได้” ผมบอก

“ใครเหรอ !” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน ปฏิกริยานั้นดูน่าสนใจเหลือเกิน

“เธอรู้อะไรมาอย่างนั้นเหรอ ษา” พี่แคทลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้

“อันที่จริงผมก็ไม่แน่ใจนัก แต่คิดว่าบางที สิทธา ห้อง ป.4/2 ครับ พี่แคท พี่สมเกียรติ ที่อาจจะทำโจทย์ของผมได้” ผมตอบ ทั้งสองมีสีหน้ากังวลทันที พวกเขามองหน้ากันและเงียบไปหลายวินาที ยิ่งตอกย้ำความไม่เข้าใจของผมมากขึ้น
พี่แคทถอนหายใจแรงๆ และบอกว่า “พี่เสียใจด้วยนะ ษา พี่ขอตัดเราออกจากการเป็นกรรมการคัดเลือกตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”

“เดี๋ยวก่อนครับ พี่แคท มันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น อีกอย่าง … ”
ผมพยายามขอคำอธิบาย แต่เธอไม่รอฟัง รีบเปิดประตูออกไปเลย

“พี่แคท เค้าเป็นอะไรเหรอครับ” ผมหันมาถามหัวหน้าฝ่ายปกครอง

“ษา มั่นใจได้ยังไงเหรอว่า สิทธา จะทำโจทย์ที่ษาเขียนได้” เขาถาม

“เดี๋ยวผมมาได้มั้ยครับ” ผมพูดแล้วรีบเดินไปที่โต๊ะทำงาน จากนั้นจึงส่งกระดาษคำตอบของสิทธาเมื่อวันที่ไปสอนแทนพี่รินทร์ให้ดู “ดูนี่ซิครับ พี่สมเกียรติ”

“นี่มันอะไรเหรอ” เขาถาม

“เครื่องหมายแฟคทอเรี่ยล เรื่องความน่าจะเป็น” ผมตอบเสียงเรียบๆ “เริ่มสอนกันในชั้นมัธยมปลาย โจทย์อีกข้อนึง จำนวนลบสองตัวคูณกันได้ จำนวนบวก เริ่มสอนกันในระดับมัธยมต้น”

เขาเงียบ ผมจึงพูดต่อ

“ก่อนสอบกลางภาค ผมเคยเข้าไปสอนห้องเด็ก ป.4/2 วันนั้นพวกเด็กๆคุยกันเสียงดังมาก ผมเลยหาวิธีลงโทษ โดยให้ทำโจทย์ยากขนาดนี้แล้วขู่จะตัดคะแนนสอบกลางภาค ผมไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ แต่พอเจอกระดาษคำตอบใบนี้ ก็อึ้งเหมือนพี่สมเกียรตินี่แหละครับ”
พี่สมเกียรติยิ้มส่ายศีรษะ “เปล่าเลย ษา มันไม่ได้น่าแปลกใจอะไรเลย” เขาพูดเสียงเบามาก ราวกับไม่ได้ต้องการบอกผม

“อะไรนะครับ”

“ษา อยากจะบอกอะไรพี่ล่ะ” เขาย้อนถาม

“ผมคิดว่า แก เป็นเด็กพิเศษ” ผมรีบบอก “เป็นไปไม่ได้ที่เด็กประถมจะทำข้อสอบระดับนี้ได้ถูกต้อง”

สีหน้าหัวหน้าฝ่ายปกครองคลายกังวลลงแต่ยังดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ เขาทำทีเป็นยกกระดาษขึ้นมา ซึ่งผมแน่ใจว่าเขาไม่ได้อ่าน

“พลาดท่าจนได้” พี่สมเกียรติหัวเราะฝืนๆ โบกกระดาษในมือไปมา “ถูกแล้ว สิทธาเป็น เด็กพิเศษ … ไม่ซิ อัจฉริยะต่างหาก”

อัจฉริยะ ! ผมหัวเราะในใจด้วยความยินดี และอดนึกโมโหคนแก่หัวโบราณสองคนนี่ไม่ได้ ในเมื่อเป็นอัจฉริยะแล้วทำไมถึงไม่ยอมส่งเสริมแกกันเล่า

“คงกำลังคิดว่าพวกพี่เป็นครูที่แย่ ไม่ยอมส่งเสริมเด็กนักเรียนเก่งๆอยู่รึเปล่า” เขาถาม

ผมอยากจะตอบตรงๆเหลือเกินว่า เออ ผมคิดอย่างนั้น !

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ” ผมบอก

“ก็แสดงว่าคิดซินะ เอาเถอะ ษา จะคิดแบบนั้นไปก่อนก็ได้ อ้อ … อีกอย่าง อย่าโกรธแคท เค้าเลยนะ” แกหัวเราะ แล้วคืนกระดาษให้ผม

“เดี๋ยวก่อนซิครับ …  ”

แล้วหัวหน้าฝ่ายปกครองก็ออกจากห้องไปอีกคน

พี่แคทออกมาบอกให้ผมขึ้นไปสอนเด็กๆแทนพี่รินทร์ที่ต้องทำหน้าที่เป็นกรรมการคัดเลือกเด็กๆต่อ ผมสอนไปดูนาฬิกาไป เมื่อเสียงกริ่งหมดคาบดังขึ้นผมก็รู้ว่า เวลาคัดเลือกของวิชาคณิตศาสตร์จบลงแล้ว และจะต่อด้วยวิชาภาษาอังกฤษเป็นลำดับถัดไป

ผมลงจากตึกเรียนอีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา เจอผลการคัดเลือกติดประกาศอยู่หน้าห้องพักครู มันยิ่งกว่าเหลือเชื่อที่สิทธาไม่ผ่านรอบคัดเลือก แถมหัวหน้าฝ่ายปกครอง หัวหน้าฝ่ายวิชาการ และครูวิชาคณิตศาสตร์ ก็ไม่อยู่ให้ผมถามเลยสักคน

มันจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว เด็กนั่นน่ะเหรอจะทำโจทย์ระดับประถมไม่ได้

ทฤษฎีสมคบคิด ! ผมบอกตัวเอง พวกเขาทุกคนรวมหัวกันหายตัวไปพร้อมกันหมดราวกับโดนอำนาจมืดปิดปาก พี่แคทกับพี่สมเกียรติรู้ว่า ผมจะต้องถามกรรมการคนอื่นๆว่าทำไมสิทธาถึงไม่ผ่านเข้ารอบ ถึงได้หนีไปกันหมด

“สิทธา นี่เก่งจังเลยนะคะ” สาวแว่นเอ่ยเสียงใส ขณะเดินเข้ามาในห้องกับครูฝ่ายวิชาภาษาอังกฤษคนอื่นๆ

“นั่นสิแก้ว เด็กอะไรก็ไม่รู้ เก่งอย่างกับไม่ใช่เด็กประถมเลยนะ” พี่วิชุดากล่าวเสริม “โดยเฉพาะสำเนียงพูดน่ะ โห ถ้าหลับตาฟังต้องคิดว่าเป็นเด็กฝรั่งแน่ๆเลย”

“สิทธา เข้าแข่งด้วยเหรอครับ !” ผมรีบชะโงกหน้าถาม

“ว๊าย ! ” สาวแว่นร้องเสียงดัง “ตกใจหมดเลย ษา นี่  ตะโกนมาได้”

“แล้ว ตกลง สิทธา เข้าแข่งด้วยเหรอครับ” ผมถามซ้ำ

“ชะ ใช่ค่ะ “ เธอตอบ ” นี่แน่ะ ษา รู้มั้ย ว่าสิทธา ได้คะแนนเท่าไหร่”

“เท่าไหร่เหรอครับ”

“เต็มค่ะ !” เธอประกาศเสียงดัง “ทำข้อสอบคัดเลือกได้คะแนนเต็มเชียวนะ เก่ง
จริงๆเลยล่ะ”

คำตอบของเธอไม่น่าแปลกใจ แต่ยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่ พี่แคทจงใจไม่ให้สิทธาเข้าร่วมแข่งวิชาคณิตศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทำไมถึงยอมให้ผ่านการคัดเลือกวิชาภาษาอังกฤษได้ล่ะ

“แล้ว สิทธา ได้เข้าแข่งวิชาคณิตศาสตร์ด้วยรึเปล่าคะ” พี่แก้วถามกลับ

“เข้าครับ แต่  … ” ผมส่ายหัว ตอบด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “ไม่ผ่านรอบคัดเลือก”

“เอ … น่าแปลกจัง หรือว่าแกจะไม่ถนัดเรื่องวิชาคำนวณกัน”

“ก็คงงั้นมั้งครับ” ผมตอบเลี่ยงๆ “เห็นเขาว่ากันว่า คนเก่งภาษา จะไม่ถนัดเรื่องตัวเลข”

“นี่ !หลอกด่าพี่อีกแล้วนะ” สาวแว่นยกมือเท้าสะเอว

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ” ผมหัวเราะ

จนแล้วจนรอดก็ไม่มีครูวิชาคณิตศาสตร์คนในเข้ามาในห้องพักครูอีกเลย รวมทั้งพี่แคทกับพี่สมเกียรติด้วย ในขณะที่ครูคนอื่นๆกำลังคุยกันถึงนักเรียนหัวกะทิประจำวิชาและให้คะแนน ผมกลับเป็นคนเดียวที่ไม่มีเพื่อนร่วมวิชาให้คุยด้วย ผมพยายามละความสนใจเรื่องสิทธาลง แม้ว่ายิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่ต้องมานั่งปวดหัว ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคิดหาคำตอบของเงื่อนงำนี้อยู่ดี

“เสร็จแล้ว” พี่วิชุดา ประกาศ พร้อมชูกระดาษในมือขึ้น สาวๆประจำวิชาภาษาอังกฤษได้ผลการคัดเลือกเด็กนักเรียนแล้ว

“เดี๋ยว แก้ว เอาไปติดให้ค่ะ” สาวแว่นเอ่ย
ผมทำทีลุกขึ้นออกไปด้วย สิทธาสนิทกับครูอุษามากที่สุดและรองลงมาก็น่าจะเป็นพี่แก้ว บางทีเธออาจจะรู้อะไรบางอย่างก็ได้  

“จะไปไหนเหรอครับ” ผมแสร้งถาม

“ติดประกาศผลคัดเลือกค่ะ”  เธอยิ้มบอก
สาวแว่นปักหมุดลงบนกระดาษทั้งสี่มุม สายตาเธอดูภูมิใจกับรายชื่อเด็กๆในกระดาษมาก เราต่างมีเด็กพิเศษคนเดียวกันเข้าคัดเลือก แต่อารมณ์ของผมกับเธอต่างกันเหลือเกิน

“นี่ ษา มีอะไรรึเปล่า ทำหน้าเหมือนอมอะไรอยู่” พี่แก้วพูด

“เอ่อ … “ ผมลังเลถาม ”ที่ว่าสิทธาเก่งนี่เก่งยังไงเหรอครับ”

“ทำไมเหรอ” สาวแว่นพูด เธอยกนิ้วจิ้มแก้มพลางเอียงศีรษะไปอีกข้าง

“เอ่อ ก็ เห็นพี่วิชุดา ชมซะขนาดนั้น ผมก็เลยสนใจนิดหน่อยนะครับ”
เธอยิ้มอย่างภูมิใจ แล้วบอกว่า “เก่งมากเลยล่ะ พี่ยังแปลกใจเลยที่ ยัยสา เคยบอกว่า เมื่อก่อน สิทธา เคยมาขอให้ช่วยติวหนังสืออยู่บ่อยๆ”

“ติว เหรอครับ” ผมทวนคำเธอ เด็กบ้านั่นน่ะเหรอต้องติวหนังสือ พูดเป็นเล่น !

“อ๊ะ ! นั่นไงล่ะ สิทธา” สาวแว่นร้อง พลางชี้ไปหาเด็กมหัศจรรย์กำลังเดินถือสมุดกองใหญ่ลงบันไดมา

“พี่ขอตัวก่อนนะ สิทธา คงเอาการบ้านลงมาส่งให้น่ะ”

ผมเข้าห้องพักครูพร้อมสาวแว่น ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้นวม พลางมองไปหาอัจฉริยะตัวเล็กด้วยความเสียดาย ผมน่าจะพาแกไปนั่งอยู่ในหอประชุมในวันงานวิชาการได้สำเร็จ และผมก็ควรเป็นคณะกรรมการที่เขียนโจทย์ แคลคูลัส กับการหา ดีเทอร์มิแนนต์ของแมตริกซ์ ให้แก้ปัญหาต่อหน้าคนทั้งหอประชุม

“อ๊ะ ! ขอโทษครับ ครูณัชชา” สิทธาพูดเสียงดัง กระดาษใบหนึ่งปลิวจากโต๊ะพี่แก้ว ลอยมาตกอยู่ใกล้โต๊ะทำงานผม

สิทธาเก็บกระดาษขึ้นมาใหม่ แล้วพูดกับผมว่า “ผมขอเขียนบนโต๊ะครูได้รึเปล่าครับ พอดี โต๊ะครูณัชชา ไม่มีที่ว่างเลย”

“ได้ซิ ตามสบาย” ผมบอก พลางยืดตัวบิดขี้เกียจ

“ผลบวกของความยาวด้านประกอบมุมฉากซึ่งยกกำลังสองจะเท่ากับ ความยาวด้านตรงข้ามมุมฉากยกกำลังสอง” สิทธาเอ่ยเสียงเบามากจนเกือบเป็นเสียงกระซิบ พร้อมกับเริ่มวาดรูปสามเหลี่ยมบนกระดาษเปล่าใบนั้น

ผมโผล่งดีดตัวจากพนักพิง “เธอว่าอะไรนะ !” ผมถาม

“มีอะไรรึเปล่าคะ” สาวแว่นสงสัย

“มะ ไม่มีครับ ครูณัชชา” ผมรีบปฏิเสธ

สิ้นเสียงนั้นสิทธาจึงพูดต่อ “ถ้าให้ความยาวของด้านประกอบมุมฉากในแกน X ยาวเท่า  X ยกกำลังสองแล้ว X จะมีค่าเท่ากับ 10 ยกกำลังสอง ลบด้วย 6 ยกกำลังสอง นั่นคือ 64 จากนั้นถอดรากที่สองจะได้ผลลัพธ์คือ 8 ”

“สิทธา” สาวแว่นเรียก “ไปกันเถอะ ใกล้ได้เวลาเรียนแล้ว”

“ครับครูณัชชา” เจ้าตัวเล็กขานรับ

สิทธา ตวัดดินสอเร็วขึ้นเพื่อเขียนให้ทันกับสิ่งที่ตัวเองกำลังอธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบายิ่งกว่าเดิม

“cosA คือ 8 หารด้วย 10 ดังนั้นคำตอบคือ 0.8” สิทธาวางดินสอลงแล้วส่งกระดาษมาให้ผม “ขอบคุณที่ให้ใช้โต๊ะเขียนหนังสือนะครับ คำตอบของผมถูกรึเปล่าครับ คุณครูปักษาสวรรค์”

ผมไม่ทันได้ตอบอะไรเลย เสียงกริ่งบอกเวลาเปลี่ยนคาบเรียนดังขึ้นเสียก่อน สิทธารีบผละตัวออกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปพร้อมกับพี่แก้วทันที

เธอไม่ใช่เด็กธรรมดาจริงๆด้วยซินะ สิทธา

แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 00:22:27

แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 54 00:11:11

จากคุณ : FlowerSong
เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 00:10:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com