บูรณาและอิงแก้วเดินจูงมือกันชมบรรยากาศสองริมฝั่งแม่น้ำปิงขณะที่รถของแขกผู้ได้รับเชิญแต่ละคันกำลังทยอยขนของลงเพื่อลำเลียงสัมภาระขึ้นเรือสำราญใหญ่สีขาวสะอาดที่ต้นโอ๊คจัดเตรียมไว้เพื่อท่องเที่ยวทริปนี้ อีกด้านคือภูธนาที่กำลังขนของมาวางเป็นจุดเดียวกันโดยมีหนูรินทำหน้าบึ้งตึงงอดงอนไม่รู้สาเหตุได้แน่ชัดส่วนกิตติที่อยู่อีกมุมที่กำลังลงรถมาพร้อมกับกับกรวิทโดยไม่สนใจว่าพิมพาก็ทริปนี้ด้วย ลมหนาวพัดพาให้อากาศหนาวเย็นและเต็มไปด้วยไอหมอกที่ลอยปะทะกับไอน้ำริมฝั่งแม่น้ำปิงเป็นฝ้าขาวๆ โผล่พ้นยอดเขาเขียวชอุ่มขณะที่เหล่าผู้มาร่วมทริปต่างสวมเสื้อกันหนาวหลากสีเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับตนเองนอกเหนือจากกลุ่มอิงแก้วแล้วยังมีกลุ่มผู้ดีเพื่อนๆ ของคุณนุชและญาติ รวมถึงยังมีนักข่าวสังคมที่ติดตามมาด้วย อิงแก้วและบูรณาสังเกตว่างานนี้มีแวดวงสังคมมาร่วมด้วยมากมายและบุคคลที่โดนเด่นในแสงแฟลตไม่น้อยคงไม่พ้นภูธนาหนุ่มในฝันแห่งปีอันดับที่หกและอีกหนึ่งหนุ่มคือเวลที่จัดได้ว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองคนหนึ่งซึ่งพวกหล่อนก็เพิ่งทราบว่าเขาไม่ใช่แค่ฝรั่งอารมณ์ดีติดดินธรรมดาแต่เขาคือทายาทของมหาเศรษฐีด้านสิ่งทอที่มีธุรกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
“ต๊าย! ก็เพิ่งรู้นะว่าคุณต้นโอ๊คกับคุณนุชนาดก็เชิญเด็กกะโปโลมา”พิมพาและเหล่าสมุนไฮโซที่ได้รับเชิญเฉียดกายเข้าถึงแม้จะไม่ประสงค์ดีมากนัก
“ก็ทำไมล่ะคะมีป้ายติดไว้หรือคะว่าไม่ให้เด็กกะโลโลเข้างาน”อิงแก้วถามย้อน บูรณาหัวเราะร่าเริงเยาะเย้ย พิมพาเบิกตากว้างรับไม่ได้ที่โดนสวนกลับ
“นี่กล้ามาย้อนฉันหรือไง”
“ทำไมล่ะก็ฉันพูดตามความจริง”
“ตายละงานที่มีผู้ดีมามากมายขนาดนี้ไม่น่าจะมีคนอย่างเธอมาปลอมปนเลย”
“งั้นก็ดีสิคะงานนี้จะได้มีหลายชนชั้นดียิ่งกว่ายุคสมัยโบราณเลยนะแล้วต้องให้คลานเข้าไปกราบด้วยเลยไหม”อิงแก้วยอกย้อนได้คล่องแคล่ว พิมพาหัวเสียเต้นแร้งเต้นกายิกๆ แต่ทว่าถูกขวางไว้ด้วยหนูรินไว้เสียก่อน
“อย่าเอาพลอยงามอย่างเราๆ ไปแลกกับเกลือด่างเลยค่ะเพราะเรามันคนละชั้นกับยัยคนนี้”อิงแก้วชะงักไปเมื่อสบตากับหนูรินที่คอยจิกตากัดตลอดเวลา
“มาถึงที่นี่คงอยากจะสร้างคะแนนให้พี่ภูสนใจล่ะสิฉันรู้แผนเธอเธอน่ะมันหน้าซื่อใจคด คิดจะแทงข้างหลังฉันแต่จะบอกให้เอาบุญนะพี่ภูเค้าไม่ลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับเธอหรอก”หนูรินพูดดูจาหมิ่นกวาดตามองอิงแก้วตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาเย้ยหยัน อิงแก้วกระตุกยิ้มโต้ตอบนิ่งๆ
“แต่ฉันมีความเชื่ออยู่หนึ่งอย่างคือจิตใจของคนมีค่าสูงกว่าสิ่งไหน เงินทองเกียรติยศมากมายของคุณไม่รู้ว่าจะซื้อจิตใจใสสะอาดได้หรือเปล่าในเมื่อมันสกปรกเหลือเกิน ถ้าให้เลือกระหว่างมีพร้อมทุกอย่างแต่จิตใจร้ายกาจคิดแต่ปองร้ายผู้อื่นกับการเป็นคนธรรมดาเดินดินแต่มีจิตใจดีงามฉันเลือกเป็นอิงแก้วคนแสนธรรมดาดีกว่า”อิงแก้วโตกลับอย่างสงบโดยวิธีของที่มีสมองคิดไตร่ตรองบูรณายิ้มเยาะบ้าง หนูรินและพิมพาหันมาสบตากันใจร้อนรน
“เธอน่ะมันใฝ่สูงคนอย่างเธอไม่มีทางที่พี่ภูจะมองหรอก”หนูรินยังไม่เลิกราติเตียน บูรณาอดไม่ได้เข้าร่วมอีกคน
“โถๆ นี่แค่เพราะหวงพี่ภูหรอกหรือนี่จะบอกให้นะถ้าพี่ภูเค้าไม่เลือกเธอน่ะก็เพราะว่าเธอน่ะเป็นคนน่าเบื่อน่ารำคาญชอบไปอิจฉาละลานคนอื่นไง”บูรณาว่า หนูรินหน้าร้อนผ่าวเต็มไปด้วยโทสะไม่ต่างจากพิมพาเท่าไร
“โอ้ย! ดูสารรูปสิใครจะไปชอบเธอ หน้าตาก็ธรรมดาแต่งตัวก็ปอนๆ อี้ แหวะ! อย่าริอาจเลยนะ”พิมพาว่าทำท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์แต่ทว่าโดนสวนกลับโดยเวลที่เข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน
“ผมว่าคุณอิงเธอน่ารักดีออกนะครับ น่ารักทั้งใบหน้าและจิตใจไม่เหมือนกับ...”ว่าแล้วมองไปทางสองสาวก่อนจะยกนิ้วโป้งคว่ำพร้อมกับแสยะปาก
“ไม่ดีๆ ผู้หญิงไม่ดี”ว่าแล้วเดินจากไปหน้าตาเฉยปล่อยให้หนูรินยืนอ้าปากค้างก่อนจะรีบเดินฝ่าสายตาออกจากวงสนทนาไปรวดเร็วเพื่อไประงับจิตใจขณะที่ภูธนาได้แต่แอบยิ้มสะใจอยู่เบื้องหลังที่จริงเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะอิงแก้วพูดได้ตรงใจเขามากมายอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
แขกทั้งหลายต่างทยอยกันขึ้นเรือพร้อมมารับฟังคำนัดหมายกำหนดการจากต้นโอ๊คถึงงานเลี้ยงต้อนรับเย็นนี้และชี้แจงการเดินทางในครั้งนี้ หลังจากรับทราบกันถ้วนหน้าต่างก็ทยอยกันไปพักตามห้องที่จัดเตรียมไว้ให้แต่ละท่าน อิงแก้วหัวเสียไม่น้อยที่ต้องปะทะฝีปากทั้งหนูรินและพิมพาในเวลาเดียวกันเพราะเรื่องของภูธนาคนเดียวหลังนำของไปเก็บไว้เรียบร้อยแล้วบูรณาจึงขอตัวนอนพักก่อนเพราะรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยส่วนอิงแก้วจึงใช้เวลาว่างเดินเที่ยวชมบรรยากาศรอบเรือแต่ทว่าในระหว่างกลับต้องพบกับเจ้าของเรื่องยุ่งๆ อย่างเช่นภูธนาถึงกลับทำให้หล่อนต้องล่าถอยหนีแต่เขาไม่รอช้ารีบเดินมาขวางเจ้าหล่อนไว้ทันที
“ทีอย่างนี้มาเดินหนีเมื่อตะกี้ทะเลาะกับหนูรินอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“อ่อนี่จะมาต่อว่าฉันมันไม่ดีที่ริอาจไปต่อล้อต่อเถียงแฟนของพี่ภูสิท่า”อิงแก้วหันขวับมาเผชิญหน้ากับภูธนา
“พี่พูดอย่างนั้นหรือไง”
“ก็ใช่สิไม่อย่างนั้นไม่พูดให้ฉันรู้สึกผิดหรอกถ้าอยากโอ๋กันก็ไปโอ๋หนูรินนู้นฉันไม่รับรู้ว่าฉันผิดมากน้อยเพียงไหน”อิงแก้วกอดอกมองออกไปนอกเรือ ชายหนุ่มเอียงหน้ามองเจ้าหล่อนเล็กน้อย
“พี่ก็ไม่ได้ว่านี่ ปกติเธอก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วใครว่ามาก็ว่าโต้ตอบไม่ยอมใครอยู่แล้ว”
“ฉันจะบอกให้รู้ว่าหากไม่มีใครมากระตุกหนวดฉันก่อน ฉันก็ไม่ละลานใคร”
“อ้อนี่จะบอกว่าหนูรินมาละลานเธอก่อน”
“พี่ก็เข้าข้างแฟนของตนเองอยู่วันยังค่ำ”หล่อนสะบัดหน้าเดินหนี ภูธนารั้งข้อแขนเจ้าหล่อนไว้ทัน
“ทำไมถึงชอบต่อล้อต่อเถียงนะ จะพูดกันดีๆ ไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้ก็พี่น่ะเป็นคนลำเอียงพูดอะไรไปก็ไม่มีทางเชื่อฉันหรอก”
“ก็เพราะเธอมันหัวดื้อไง”
“ก็ใช่สิฉันมันหัวดื้อ ไม่ต้องมาเสวนาด้วยหรอก”อิงแก้วสลัดมือออก ภูธนายิ้มมุมปากเหลือร้ายขวางทางไม่ให้หล่อนได้เดินยกมือขึ้นโอบเอวหญิงสาว
“ก็ไม่ปล่อยจะทำไมทีกิตตินี่ทำเสียงหวานจ้ะจ๋า เธอไม่ลำเอียงบ้างหรือไง”
“ก็พี่กิตติเค้าเป็นคนดีน่ารักมีเหตุผล”หล่อนไม่ยอมอ่อนข้อกลับโต้เถียงไม่เลิกรา ภูธนาหมุนตัวเจ้าหล่อนเข้ามาใกล้จนชิดลำตัวอิงแก้วพยายามตีตัวให้ออกห่างแต่เขายิ่งรัดแขนยิ่งขึ้น
“เธอน่ะมันพยศเกินไปจริงๆ พูดกันดีๆ ไม่ได้หรือไง”อิงแก้วหลบตาอียงตัวหนี แต่ทว่าภูธนากลับพยายามยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะฉันเกลียดพี่ที่สุดอย่ามาทำแบบนี้นะฉันไม่ชอบ”
“แล้วชอบแบบไหนกันแบบสวมหน้ากากแบบคุณเวลนั่นหรือไง”
“อย่าไปพาลถึงคุณเวลนะ”เจ้าหล่อนโผลงตาใส่ ภูธนายิ้มเยาะ
“ว่าแล้วเธอคงหลงรักเขาเข้าให้แล้วสิท่าถึงได้ออกรับหน้าแทนกันขนาดนี้”
“อย่างน้อยคุณเวลเค้าก็น่ารักกว่าใครบางคน”
“แล้วใครล่ะ”เขาลดเสียงลงกระซิบข้างหนูชวนน่าขนลุก อิงแก้วเบนหน้าหนี
“คนเจ้าชู้อย่างพี่ไม่มีทางได้พบรักแท้หรอก”
“แน่ใจนะว่าไม่มีทางได้เจอ”เขาถามเสียงค่อย เจ้าหล่อนรู้ดีว่าเขากับเธอแนบชิดสนิทกันราวกับตัวติดกันใบหน้ายาวได้รูปกับรอยยักริมฝีปากจับรายละเอียดของเขาได้ชัดเจน
“ถ้าหนูรินมาเห็นพฤติกรรมของแฟนที่เที่ยวไปกอดผู้หญิงอื่นเธอคงจะเสียใจไม่น้อยเลยที่คว้าผู้ชายแย่ๆ อย่างพี่มาเป็นคู่รัก”
“คนแย่ๆ แบบนี้มันก็เหมาะกับเธอไม่ใช่เหรอ”เขาพูดจาได้ร้ายกาจ อิงแก้วกัดฟันกรอดมองเจ็บแค้น “ฉันเกลียดพี่ภูที่สุด”หล่อนร้องเสียงกร้าว ภูธนายิ้มๆ สบตาเจ้าหล่อนดวงตาประกายพราวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันและกัน แสงแฟลตวูบเข้าตาภูธนาสะดุ้งหันกลับไปมองนักข่าวสาวสวมหมวกปีกกว้างที่รัวชัตเตอร์เป็นการใหญ่ อิงแก้วได้ทีรีบผลักออกก่อนจะวิ่งหนีไปให้ไกลสุดชีวิตขณะที่ภูธนายกมือห้ามป้องแสง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ” เหยี่ยวข่าวสาวลดมือลงก่อนจะหันหลังเผ่นหนีโดยไวไม่คิดชีวิต ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวได้แต่นิ่งอึ้งรู้แต่เพียงว่าอีกไม่กี่นาที ต้องมีคำถามมากมายจากผู้คนเกี่ยวกับอิงแก้วแน่ซึ่งเขาก็รู้อยู่แก่ใจสิ่งที่ทำไปเพราะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
จากคุณ |
:
คุณหนูแจ่มใส
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ส.ค. 54 23:28:38
|
|
|
|