ความคิดเห็นที่ 1 ...............544          ประโยคนั้น ของหมอธีรพล เล่นชัยโรจน์ แทบตกจากเก้าอี้  และอีกคนหนึ่ง  ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน  ก็คือ  เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยที่แอบฟังอยู่ข้างนอกนั้น ซึ่งก็ เข่าแทบทรุด จากนั้น เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยก็จ้องมองไปที่ท้องของฟ้าสวย   จากนั้นภายในห้องของหมอธีรพล   ชัยโรจน์ จึงถาม หมอธีรพล ต่อว่า “ไอ้พล มิงอย่าล้อเล่นนะ  เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก” “ผมไม่ได้พูดเล่นครับ  เรื่องนี้เรื่องจริง  คุณชัย ก็คบกับผมมานาน  ก็น่าจะรู้ว่า ผมไม่ใช่คนที่ชอบพูดเล่น” “เฮ้ย  แล้วมิงรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” “ก็ตั้งแต่ คุณวิทย์แพ้อาหารทะเล ครั้งก่อนนะครับ ผมบังเอิญไปตรวจเจอเข้า  ตอนนั้นผมเองก็ตกใจมาก  แต่ก็ไม่กล้าบอกใคร” “แล้วทำไมถึงมาบอกกุตอนนี้วะไอ้หมอพล ถ้าวันนั้น ตอนที่นั่งรถไฟเหาะ ถ้าไอ้วิทย์มันแท้งลูกขึ้นมามันจะไม่บันลัยหรือไงวะ” “นั่นแหละครับ  ผมจึงตัดสินใจว่าจะต้องบอกคุณชัยว่า ไม่ควรพาคุณวิทย์  เอ๊ะไม่ใช่สิ  ต้องบอกว่า  ห้ามคุณชัย พาร่างกายของคุณฟ้าสวยไปเล่นอะไรเสี่ยงๆแบบนั้นอีก” “ให้ตายสิ  แล้วไอ้วิทย์ มันไปได้เสียกับใครตอนไหนวะเนี๊ยะ  กุงงมากๆ” “คงไม่ใช่คุณวิทย์หรอกครับ  แต่น่าจะเป็นคุณฟ้าสวยมากกว่า  เพราะ จากที่เรารู้มา คุณวิทย์เพิ่งมาอยู่ในร่างกายของคุณฟ้าสวยได้เพียง 2 เดือนเท่านั้นเอง” “เหรอ  เออ  ไอ้วิทย์มันเคยบอกว่า  ฟ้าสวยมีแฟนชื่อ  เจ้าหน้าที่นัฐพร เป็นไปได้มะว่า นัฐพร จะเป็นพ่อของลูกฟ้าสวย” “เรื่องนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ” “เหรอ  แต่กุก็มีข้อสงสัยอีกเรื่องนะ  ไอ้วิทย์มันเคยบอกว่า ตอนที่มันมาอยู่ ในร่างกายของฟ้าสวยใหม่ๆ  มันบอกว่า มันเคยมีประจำเดือนมาด้วย  มันบอกว่า รู้สึกหงุดหงิดสุด  เหมือนมีผีมาหมุนห้อง มันว่างั้นนะ” จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:57:57

ความคิดเห็นที่ 2 ..............545 “ใช่ครับคุณชัย  ประจำเดือนของร่างกายของคุณฟ้าสวยครั้งนั้น ก็เป็นของจริงครับ มีการตกไข่จริงๆ  มีความแปรปรวนทางอารมณ์จริงๆ และผมเองก็งงมากๆ  แต่ผมคิดว่า อาจจะเป็นเพราะความสับสนของระบบฮอร์โมนภายในร่างกายคุณฟ้าสวยหลังจากเกิดอุบัติเหตุครับ  และอีกอย่างร่างกายของคุณฟ้าสวย อาจจะกำลังสับสนเพราะคุณวิทย์เป็นตัวเสริมครับ” “ให้ตายสิ หมายความว่าไงวะไอ้พล” “ก็ร่างกายของคุณฟ้าสวยเอง  ก็กำลังสับสนอยู่ว่าตัวเอง เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เช่นเดียวกับคุณวิทย์นั้นแหละครับ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา  คุณวิทย์ก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับร่างกายของคุณฟ้าสวยอย่างหนักเช่นกัน”   “ไอ้หมอพล งั้นมิงก็รีบๆพาไอ้วิทย์กลับร่างเดิมดิ  น้องฟ้าสวยแฟนกุจะได้ฟื้นสักที” “.....  ..มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับคุณชัย...” “เอ๊ะ  ทำไม  ...   ก็ไหนไอ้วิทย์มันบอกว่า  มิงจะพามันกลับร่างเดิมได้ง่ายๆไง ไอ้วิทย์มันยังยืนยันหนักแน่นเลยว่าพอมันกลับร่างเดิมได้ แล้วเดียวฟ้าสวยก็จะฟื้นขึ้นมา  มันยังบอกเลยว่า จะมาจีบฟ้าสวยแข่งกับกุอีก” “ใช่แล้วครับผมบอกกับคุณวิทย์แบบนั้น” “อ้าว” “แต่คุณชัยก็รู้ว่า คุณวิทย์เคยคิดจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น” “ใช่  จำได้” “ดังนั้นการที่ผมบอกกับคุณวิทย์ว่าผมมีวิธีที่จะทำให้คุณวิทย์กลับร่างเดิมได้นั้น  ก็เพื่อเป็นการสร้างความหวังให้คุณวิทย์ เพื่อให้คุณวิทย์มีกำลังใจในการอยู่ต่อไป ทั้งๆที่ตอนนี้ผมเองก็มืด 8 ด้าน หาวิธีการนั้นไม่เจอเลย” “อ้าว.....เฮ้ย.... เรื่องใหญ่และนะเนี๊ยะ   แล้วไม่มีวิธีการที่จะทำให้ไอ้วิทย์กลับร่างเดิมได้เลยเหรอวะไอ้หมอพล” จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:58:40

ความคิดเห็นที่ 3 ...............546 “ตอนนี้ผมรู้แค่เพียงว่า ตอนที่คุณวิทย์เกิดการสลับร่างนั้น มีฝนตกฟ้าคะนองที่รุนแรง  บางทีอาจจะต้องใช้เหตุการณ์ฝนตกฟ้าคะนองแบบนั้นอีกครั้ง เพราะเป็นสภาวะที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในระดับสูง  อาจจะสามารถพาคุณวิทย์กลับร่างเดิมได้” “งั้นก็จัดการเลยสิไอ้หมอพล จะรีรออะไร” “สิ่งที่ผมรอมีเหตุผลอยู่ 3 ประการครับ   ประการแรก  สมมุติหากคุณวิทย์สามารถกลับร่างเดิมได้จริงๆ  จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณฟ้าสวย” “จะเกิดอะไรขึ้นละ  ฟ้าสวยก็ฟื้นขึ้นมานะสิ ไอ้พล” “ก็อาจจะเป็นไปได้  แต่ผมคิดว่า  ร่างของคุณฟ้าสวย  อาจจะหลับไปตลอดกาล ก็คือหัวใจยังเต้น และยังหายใจ แต่สมองไม่ทำงาน และกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปในที่สุด” “คงไม่หรอกมั้งหมอพล” “ผมก็หวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นครับ” “แล้วประการที่ 2 ละหมอพล” “ประการที่ 2 เมื่อก่อนผมเองเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งและฉลาด สามารถเข้าใจเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นได้เหนือคนทั่วไป  และมีความรอบรู้มาก ใครๆก็บอกผมแบบนั้น” “ใช่ กุก็ว่ามิงเก่งนะไอ้พล  ปริญญางี้4-5ใบ  แถมยังมีผลงานทางวิชาการทางแพทย์อีกตั้งหลายใบ จะว่าไปแล้วมิงได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศผ่านงานวิจัยตั้งเยอะนิ  ไม่มีใครเถียงหรอก” “ใช่ครับ  ใครๆก็บอกผมแบบนั้น  แต่พอผมมาศึกษาเรื่องของคุณวิทย์กับคุณฟ้าสวย  มันทำให้ผมรู้ว่า ผมก็เป็นแค่มนุษย์ตัวเล็กๆในจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล  ผมไม่สามารถเข้าใจและเข้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณวิทย์ได้เลย  ผมได้แต่คาดเดาว่า มันควรจะเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้  ทั้งๆที่ความจริงเรื่องราวหลายๆเรื่องมันเกิดขึ้นมาได้โดยไม่มีเหตุผลใดๆรองรับมันเลย  มันยากจริงๆครับ” จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:59:24

ความคิดเห็นที่ 4 ................547 “....อึ้งdak...” “แล้วการคืนร่างกลับ  ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ มีไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็น  เพราะผมขาดข้อมูล  และเหตุผลในการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น  อีกทั้งผมยังต้องทำงานแข่งกับเวลาอีก  มันทำให้ผมเครียดมากเลยครับ” “แข่งกับเวลาเหรอไอ้หมอพล” “ใช่ครับ แข่งกับเวลา  เพราะในขณะนี้ร่างกายที่ไร้วิญญาณของคุณวิทย์  ที่โรงพยาบาลเพชรบุรีกำลังเปลี่ยนสภาพครับ” “หมายถึงกำลังเน่าอะหรอ” “ใช่ครับ  จากความหวังที่ริบหรีอยู่แล้ว กลับยิ่งแย่ลงไปอีก” “นี้คือประการที่ 3 ที่มิงจะบอกใช่ไหมไอ้พล” “ใช่ครับ ประการข้อที่ 3 นี้เป็นสิ่งที่คุณชัยไม่ควรบอกกับคุณวิทย์อย่างเด็ดขาดเลยนะครับ      .....  เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเพชรบุรีว่า เกิดไฟฟ้าดับ และทำให้เครื่องทำความเย็นในห้องเก็บศพหยุดทำงานไปเป็นเวลา 24 ชม. เต็ม ศพส่วนใหญ่ที่นั้นไม่เน่าเพราะได้ฉีดฟอร์มารีนไว้แล้ว มีแต่ศพของคุณวิทย์เท่านั้นที่ไม่ได้ฉีดฟอร์มารีน  ” “ไอ้พล  มิงกำลังจะบอกว่า.....” “ใช่ครับ  ร่างกายของคุณวิทย์สิ้นสภาพอย่างสมบูรณ์แล้วครับ” “แว๊กกกกกกก!!”            ส่วนเอกวิทย์ ในร่างฟ้าสวย  ที่แอบฟังอยู่ด้านนอก แทบเกิดอาการช๊อค  ยืนไม่ติด ต้องเอาตัวเกาะประตูไว้แน่น  แขน และขา ชาไปหมด แทบจะไม่มีความรู้สึก  ราวกับว่า โลกแห่งความจริง กับโลกแห่งจินตนาการ มันคือโลกเดียวกัน  เหมือนว่ากำลังฝันอยู่  จากนั้น หมอธีรพลก็พูดต่อ จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:00:03

ความคิดเห็นที่ 5 ................548 “เรื่องนี้ไม่สามารถแก้ไขได้แล้วครับคุณชัย  ความหวังในการกลับร่างเดิมของคุณวิทย์  จากที่เคยน้อยมากอยู่แล้ว กลับแทบจะละลายหายไปเลยครับในตอนนี้” “แล้วทำไมมิงไม่ย้ายศพไอ้วิทย์มาไว้ที่นี้วะไอ้พล  จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ไฟดับ” “การทำเรื่องย้ายศพ เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก แม้แต่ตัวผมเองก็ทำไม่ได้ครับ  อีกทั้งตำรวจท้องที่ ที่เพชรบุรี ยังขออายัดศพไว้ เพราะคิดว่าคุณวิทย์เป็นโจรขโมยรถอีก” “เวร    แล้วทีนี้เราจะทำไงต่อไปละนี้” “เรื่องนี้ คุณชัย ห้ามบอก คุณวิทย์ อย่างเด็ดขาดนะครับ  เราต้องให้ความหวังกับคุณวิทย์ว่ายังสามารถกลับร่างเดิมได้  แล้วรอเวลา ให้กระบวนการกลืนผสานทำงานต่อไป  อาจจะต้องใช้เวลานานครับ  แต่มันเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาชีวิต ทั้งของคุณวิทย์เอง  และของคุณฟ้าสวยไว้พร้อมๆกัน” “........อึ้งdak........” “แล้วยังมีอีกอย่างครับ  คือร่างกายของคุณฟ้าสวยเป็นโรคลิ้นหัวใจ ซึ่งเป็นโรคประจำตัวตั้งแต่กำเนิด  และตอนนี้ก็เริ่มแสดงอาการออกมา อันเป็นผลพวงมาจากความเครียดในหลายๆเรื่องที่เกิดจากจิตใจของคุณวิทย์เอง  ซึ่งเราจะต้องไม่ทำให้คุณวิทย์เครียด เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว กระบวนการกลื่นผสาน  มันจะล้มเหลว กลับกลายเป็นความขัดแย้ง ที่ผมเคยพูดอยู่บ่อยๆ  ผมกลัวว่าร่างกายของคุณฟ้าสวยจะรับกับเรื่องนี้ไม่ไหว  อาจจะทำให้ทั้งคุณวิทย์ และคุณฟ้าสวยอาจจะตายพร้อมกันได้” “เวร.......แล้วกุควรจะอธิบายเรื่องนี้กับไอ้วิทย์แบบไหนจึงจะเหมาะสมวะไอ้หมอพล” “เราจะต้องพูดให้ความหวังกับคุณวิทย์ครับ  ว่ายังจะสามารถกลับร่างเดิมได้  เพราะการตั้งเป้าหมาย หรือการตั้งความหวังเอาไว้ จะทำให้คนที่กำลังคิดสั้น  หรือคนที่กำลังท้อแท้สามารถอยู่รอดได้ครับ  เพราะคุณวิทย์เคยคิดจะกระโดดตึกครับ  ที่โรงพยาบาลเพชรบุรี” “แล้วจะพูดให้กำลังใจ ยังไงเหรอไอ้หมอพล” จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:00:46

ความคิดเห็นที่ 6 .............549 “เช่นการลองตั้งเป้าหมายกับชีวิต  แม้จะรู้ว่า เป้าหมายหรือความหวังนั้น ไม่มีทางทำได้ก็ตาม  แต่ใครจะไปรู้ล่ะ  แต่อย่างน้อยก็มีเป้าหมายแล้ว  ผมยกตัวอย่างคนอเมริกาคนหนึ่ง  เขาเบื่อกับชีวิตมาก  และอยากตาย  เขาตั้งคำถามว่า  คนเราเกิดมาทำไม จนมาวันหนึ่ง  เขาได้ไปเจอหัวหน้าชนเผ่าอินเดียแดงคนสุดท้ายของอเมริกา และทั้ง 2 คนก็ได้คุยกัน  สุดท้าย ชีวิตคนอเมริกาคนที่เคยอยากตาย  กลับมีค่าและมีเป้าหมายในชีวิต จนลืมหาคำตอบของคำถามที่ว่า "เกิดมาทำไม"  เมื่อเขาได้กล้า  บ้า  และบิ่น  แกะสลักภูเขาทั้งลูก ด้วยมือและค้อนอันเล็กๆ ภูเขาลูกนั้นนามว่า  Crazy Hourse จากเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น เราจึงควรให้ความหวังกับคุณวิทย์ต่อไปครับ” “อืม  พอจะเข้าใจและ” “สำหรับเรื่องนี้  แม้ว่าในตอนนี้ เรายังจะสามารถปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้  แต่ถึงอย่างไรสักวันหนึ่ง  คุณวิทย์ ก็ต้องรู้  เพียงแต่เราต้องการเวลาที่จะอธิบาย ให้คุณวิทย์ยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้ได้  และเวลาก็เหลือน้อยเต็มทน” “..........ฟังอย่างตั้งใจ........” “และสิ่งนี้  ทำให้ผมเองก็เป็นกังวลใจถึงสถาพจิตใจของ คุณวิทย์ มาก    เพราะการตั้งครรภ์บนร่างกายของคุณฟ้าสวยที่เกิดขึ้น  ในสภาวะที่ กระบวนการกลื่นผสาน  ยังไม่ได้เริ่มขึ้น  จิตใจของ คุณวิทย์ จะยอมรับการมีลูก  และคลอดลูก ด้วยตัวเองได้อย่างไร  เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยครับ เพราะจะต้องมีการปรับ ทัศนคติขนานใหญ่เลย” “..........ฟังอย่างตั้งใจ........” “เรื่องความผูกพันระหว่าง  ผู้เป็นแม่ที่ให้กำเนิดลูกน้อย  มันมีความสลับซับซ้อน    มันเป็นสายใย แห่งความรัก ที่ผู้เป็นแม่มีให้แก่ลูก   เราเรียกว่า  “สัญชาตญาติแห่งความเป็นแม่”  มันจะเป็นตัวช่วยให้กระบวนการกลื่นผสานประสบความสำเร็จครับ” “อะไรของมิงวะไอ้หมอพล  กุงงไปหมดแล้ว” “ไม่ต้องงงหรอกครับคุณชัย  สัญชาตญาณของความเป็นแม่นี้แหละ ที่จะช่วยทั้งคุณวิทย์ และคุณฟ้าสวยได้  เพราะสัญชาตญาณของความเป็นแม่  มีอิทธิพลต่อจิตใจมนุษย์สูงมากเลยครับ  ไม่ว่าคนๆนั้นจะเก่งมาจากไหน แต่ถ้าได้เจอกับตัวเองจริงๆ ก็ต้องยอมแพ้หมด  เคยมีคดีตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นเมื่อ ไม่นานมานี้  เกี่ยวกับ การอุ้มบุญ  คือ มีสามีภารยา คู่หนึ่ง ภรรยาไม่สามรถตั้งครรถ์ได้  จึงได้ เอาเซลล์ไข่ และอสุจิ ไปฝากเอาไว้  กับผู้หญิงอีกคนโดยให้ค่าจ้างเป็นการตอบแทน และตกลงกันว่า เมื่อลูกเกิดมา  ลูกต้องตกเป็นของผู้จ้าง  เรียกว่าการอุ้มบุญ ” .....................โปรดติดตามต่อต่อไป จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:01:40

ความคิดเห็นที่ 7 คุยกับนักเขียน จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:02:13

ความคิดเห็นที่ 8 มาอ่านนะ ^__^ หายไปนานมากเลย จากคุณ : doctorwar เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 21:41:57