เวทย์ จอมไตร (เเฟนตาซีผีไทย)
|
 |
เย็นวันนั้น นานิรีบมาดักหน้าวัด อยากรู้ความลับของพ่อสัปเหร่อดวงตาไร้แววคนนี้ว่าเป็นใครกันแน่ ทำไมเขาต้องเข้าออกวัดภูเขาทองทุกวันด้วย ไม่ทันจะมองหา เวทย์ก็มายืนอยู่ข้างหลังเสียแล้วราวกับจะล่วงรู้ว่าเธอคิดอะไร
งานแรกของนักสืบคุณไสยเริ่มขึ้นทันที เวทย์ขอให้เธอพาไปที่บ้าน อันที่จริงบ้านของนาคินีก็อยู่ในละแวกวัดที่เวทย์พักอยู่นั่นเอง
ชุมชนเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นรัตนโกสินทร์ มีบ้านเรือนไทยอยู่ในแมกไม้หลายหลังสลับกับบ้านทรงยุโรปดูไม่เข้ากันเอาเสียเลย เวทย์รี่ตามองดูปรากฏการณ์บนฟ้าเหนือหมู่บ้านอย่างครุ่นคิด เขาบอกว่ามีเมฆหมอกร้ายปกคลุมอยู่ นานิไม่รู้ว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร กรุงเทพฯเป็นเมืองใหญ่มีมลพิษไอเสียจากรถยนต์มาก ท้องฟ้าหม่นมันก็ไม่แปลก
พูดไปเธอก็คงไม่เข้าใจแน่ เขาเริ่มเดินสำรวจดูตามซอกซอยต่างๆ ดูทางสามแพร่ง ดูศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ต่างๆ ไปด้วย ยังไม่ไปที่บ้านของเธอที่อยู่ท้ายซอยในทันที นานิทำหน้าให้ข้อมูลบอกว่าในชุมชนแห่งนี้ปกติจะมีเด็กเล็กมาเล่นหน้าบ้าน ผู้คนอัธยาศัยดีชอบเดินไปมาหาสู่กันไม่ได้เงียบเหงาอย่างที่เห็นในตอนนี้
ที่นี่มีพลังงานด้านลบอยู่มากเลยขอรับคุณนาคินี พลังงานด้านบวกแทบไม่มีเลย พลังงานในธรรมชาติไม่สมดุลกันแบบนี้ผู้เป็นเจ้าบ้านจะเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านได้ง่าย ลูกบ้านที่พักอาศัยด้วยจะเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยวิธีพูดของเขาดูโบราณจัง หญิงสาวบอกปนยิ้มให้เรียกชื่อเธอว่า นานิ ก็พอ
เขาคงจะบอกว่าหยินหยางไม่สมดุลแน่เหมือนพวกอาจารย์ดูฮวงจุ้ย อันที่จริงพ่อกับแม่ของนานิปกติรักใคร่กันดีแต่มาช่วงหลังมีเรื่องให้ทะเลาะกันหลายครั้งอย่างที่เขาบอก คุณอาข้างบ้านปกติเป็นคนธรรมธรรมโมก็มีเรื่องชกต่อยกับคุณอาอีกบ้านหนึ่ง เวทย์รับฟังข้อมูล ก่อนหน้านี้หลานชายของคุณยายที่เขาพึ่งไปเสกยาหม้อให้ปกติเป็นคนแข็งแรงเพราะชอบเล่นกีฬาแต่พักหลังกลายเป็นคนขี้โรค ไม่ออกมาเล่นกีฬาเหมือนอย่างเคย
แกวก..แกวก..
ตะวันเหมือนผลส้มครึ่งลูก อาคารบ้านเรือนเริ่มเข้าสู่เงามืด ใกล้ค่ำทุกที มีนกตัวหนึ่งกลางปีกร่อนลงมาจากฟ้าร้องเสียงเยือกเย็นมาแต่ไกล กงเล็บของมันหิ้วพัสดุชิ้นหนึ่งมาด้วย เวทย์ยิ้มหน้าบานรู้ว่าคุณพ่อส่งพัสดุมาให้เขาอีกแล้ว น่ารักจังนกแสกไปรษณีย์ก็มีด้วย นานิไม่เคยเห็นนกแสกใกล้ขนาดนี้มาก่อนจะแล่นเข้าไปใกล้ เวทย์รีบห้ามเมื่อเห็นมันกางปีกกางเล็บจะสู้ นกแสกจะไม่ยอมให้ใครที่ไม่ใช่เจ้าของพัสดุเข้าใกล้ของที่มันรับส่งเด็ดขาด นกแสกเป็นพาหนะของยมทูตสามารถโฉบเกี่ยวเอาวิญญาณของมนุษย์ไปเมืองนรกได้ เขาเตือน คราวนี้เธอไม่ได้มองว่ามันน่ารักอีกต่อไป
เอ๊านี่รางวัลของแก
บิสกิตโยนให้ จะงอยอันคมกริบงับได้อย่างแม่นยำ นกแสกบินหายขึ้นฟ้าแล้วอันตธานไปอย่างรวดเร็ว
พัสดุในกล่องสีน้ำตาลถูกแกะออก ข้างในมีของอยู่สามอย่าง แว่นตาทรงโฉบเฉี่ยวกับแว่นขยายที่จำเป็นต้องใช้ในงานสืบสวน แว่นตาพอดีมีสองอัน นานิขอเอามาใส่ด้วย ภาพที่เห็นมีแสงสีผิดตา พอมองเปรียบกับท้องฟ้าด้านอื่น ที่ชุมชนแห่งนี้พลังงานผิดปกติกว่ามาก
แว่นขยายเอาไว้ส่องมองอดีตในจุดนั้นๆ เวทย์เอามาส่องย้อนดูเหตุการณ์ก่อนหน้าในชุมชนแล้วก็ต้องยืนนิ่งครุ่นคิด เขาไม่พบเหตุแห่งพลังงานหยินหยางผิดปกติเลย นานิชี้ไปที่ตลับกำมะหยี่สีแดง เขาเปิดดูข้างในเป็นแหวนเพชรสวยงามล้ำค่ามาก มีโน้ตมีคุณพ่อเขียนมาด้วยบอกว่า
รับขวัญลูกสะใภ้ในอนาคต
หนุ่มน้อยจากหิมพานต์ซิตี้ถึงกับหน้าแดงอายซ่านรีบเก็บแหวนเอาไว้กับตัว คุณพ่อทำไมถึงทำรุ่มร่ามไปสืบดูอนาคตของเขาว่าจะได้แต่งงานกับนานิได้นะ เขาพึ่งจะได้พบได้รู้จักกับเธอแค่วันสองวันเอง
บ้านของนานิหลังใหญ่โตที่สุดในซอย พ่อของเธอทำธุรกิจส่งสินค้าออกนอกประเทศ แม่ของนานิพอเห็นเวทย์ก็จำได้ทันทีว่าเป็นสัปเหร่อถึงกับออกปากต่อว่าลูกสาวว่าไม่รักดีริจะคบกับผู้ชายไม่มีอนาคต นานิแก้ตัวไปก็เปล่าประโยชน์ พ่อของนานิเดินออกมาด้วยใบหน้าทะมึนทึนไม่พอใจที่ภรรยาต่อว่าลูกสาวด้วยถ้อยคำรุนแรง พ่อไม่เห็นด้วยกับการเลือกชนชั้นวรรณะบอกให้ลูกสาวคบกับเจ้าหนุ่มคนนี้ได้เลย การทะเลาะกันของสามีภรรยาเลยเริ่มขึ้น เวทย์รู้สึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุ นานิแอบกระซิบว่าทั้งสองจ้องจะทะเลาะกันมาตั้งแต่เช้าแล้วไม่ได้เกี่ยวกับเขาหรอก
อยู่ดีๆ พ่อกับแม่ก็มาพูดเองเออเอง เธออายเวทย์มากรีบลากแขนเขาเข้าไปในบ้าน บอกด้วยว่าเมื่อก่อนพ่อกับแม่เป็นคนมีเหตุมีผลไม่เคยทะเลาะกันเลยแต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรทั้งสองจะเห็นแตกต่างกันเสมอ ไม่เพียงแค่นั้นคนข้างบ้านหลายคนที่เคยเป็นคนใจดีก็กลับกลายเป็นคนหุนหันใจร้อนหากไม่มีใครจะทะเลาะด้วยก็ตะโกนเอะอะอยู่คนเดียว พวกเด็กกับคนแก่ก็ล้มป่วยด้วยโรคสารพัด ที่ประสบอุบัติเหตุก็มาก
ชุมชนไม่สุขสงบเหมือนดั่งเดิมเธอบอกอย่างนั้น
วางใจเถอะขอรับ กระผมจะไขคดีนี่ให้เร็วที่สุดแล้วคืนพ่อแม่และชุมชนที่น่ารักให้คุณนานิเองขอรับ เวทย์กล่าวอย่างมุ่งมั่น เมื่อครู่เขาเห็นหน้าผากของพ่อแม่นานิหมองคล้ำ พวกเขาจะต้องโดนคุณไสยอย่างไม่ต้องสงสัยแต่จะถูกของประเภทไหนนั้นเขาจะต้องสืบให้รู้ให้ได้เพื่อหาทางแก้
นานิยังมีน้องสาวที่มีอายุห่างกันมากอีกคนชื่อหนูนา กำลังเดินลากตุ๊กตาออกจากในห้อง หนูนาอายุห้าขวบยังพูดไม่ได้เลย เวทย์ถึงกับตะลึงหนูนาก็คือ แม่ ของเขาที่มาเกิดบนโลกมนุษย์ ไม่นึกว่าจะบังเอิญมาพบเจอที่นี่ หนูนาไม่ได้มีร่างกายหรือสมองผิดปกติแค่ไม่ยอมพูดออกมา เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นานิกลุ้มใจจนต้องหานักสืบคุณไสยอย่างเขามาช่วย
บรรยากาศภายในบ้านไม่ค่อยดี พ่อกับแม่ของนานิยังคงทะเลาะกันอยู่ เวทย์เห็นทีจะต้องเข้ามาสืบค้นเบาะแสในบ้านอีกครั้งในภายหลัง นานิเดินมาส่งที่หน้าบ้าน นัดแนะพบกันอีกครั้งก็พอดีเธอเห็นมีรถจักรยานยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วสูงจะต้องเฉี่ยวชนเขาแน่ รีบดึงแขนของเขามาได้ทัน รถแค่เฉี่ยวแขนเสื้อของเขาหวุดหวิดร่างของทั้งสองสนิทแนบแน่นเป็นครั้งแรกโดยบังเอิญ
เวทย์มองตามเห็นคนขับใส่เครื่องแบบพนักงานส่งพิชช่า มีกล่องอยู่ท้ายรถ หมวกกันน๊อกเปิดหน้ากากมองเห็นหน้าคนขับยามที่หันมาชัดเจน ผีพรายน้อย คือชื่อที่เขาตะโกนเรียกตามหลัง ไม่นึกว่าจะมาเจอเพื่อนนึกศึกษาที่นี่ ผีพรายน้อยขับรถเลี้ยวลดเข้าซอยบึ่งหายไปในทันที
ใครกันค่ะผีพรายน้อย?เธอถาม
เขาคือเพื่อนร่วมสถาบันของผมเองขอรับ เขาทำงานพิเศษเป็นคนส่งพิชช่ามาพักใหญ่แล้วนึกแล้วใจหาย ผีพรายน้อยขาดเรียนมาหลายวันอาจจะถูกเพิกถอนสถานภาพนึกศึกษาเขาจะต้องช่วยเพื่อนให้ได้ก่อนสายเกินไป
จากคุณ |
:
doctorwar
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ส.ค. 54 21:25:32
|
|
|
|