เจ้าชายกันนาร์ประทับอยู่บนเก้าอี้ผ้าไหมบุนวมนุ่มในห้องนั่งเล่นส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรรายงานทางทหารที่เพิ่งได้รับมาใหม่ โดยพยายามไม่ใส่พระทัยกับสาวน้อยในชุดยาวกรอมเท้าสีชมพูอ่อนที่เอาแต่เดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าหมู่เก้าอี้กลางห้อง ไม่ยอมนั่งลงตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามา นานๆ ครั้งดวงตาสีม่วงใสภายใต้แพขนตาดกหนาจะตวัดมองมาคล้ายเจ้าตัวอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ยอมปริปากจนแล้วจนรอด กระทั่งพระองค์หมดความอดทนต้องเอื้อนพระโอษฐ์ขึ้นก่อน หากมิได้เงยพระพักตร์จากมัวนกระดาษในพระหัตถ์ เจ้าเลิกเดินสักทีเถอะกายย์ ข้าเวียนหัว อ่านรายงานไม่รู้เรื่องแล้ว สิ้นคำพูดของพี่ชาย สุรเสียงใสราวกับระฆังเงินของเจ้าหญิงกาอิยาห์ก็สวนกลับทันควัน ดวงพักตร์นวลงอง้ำ พี่กันนาร์ก็เลิกอ่านเอกสารพวกนี้ก่อนสิคะ ถ้าพี่เลิกอ่านน้องก็จะเลิกเดิน น้องมีเรื่องกลุ้มใจจะปรึกษา เจ้าชายกันนาร์ถอนพระทัยยาวยืดด้วยเสียงอันดังจงใจให้คนเป็นน้องได้ยิน ก่อนจะวางม้วนกระดาษลงบนโต๊ะ แล้วหันไปจับพระเนตรอยู่ที่ร่างบางซึ่งยอมหยุดเดินได้สักที เอ้า มีอะไรก็ว่ามา คืออย่างนี้ เจ้าหญิงกาอิยาห์ทรุดพระองค์ลงนั่งบนเก้าอี้นุ่มตรงข้ามพี่ชาย โน้มพระองค์ไปข้างหน้าน้อยๆ ราวกับกำลังจะกล่าวถึงเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง เจ้าชายเอเดรียนจะเสด็จมาลินเด็น น้องเพิ่งได้รับจดหมายเมื่อเช้า พระนามคุ้นหูนั้นมีผลทำให้คิ้วเข้มพาดตรงของคนฟังขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ เจ้าชายกันนาร์เคยได้ยินกิตติศัพท์ความเป็นหนุ่มรูปงาม เจ้าสำอาง และเจ้าชู้ ของผู้เป็นโอรสองค์ที่สองในราชาแห่งแลมพ์ตันมาบ้าง พระสุรเสียงที่ตรัสตอบจึงเข้มขึ้นทันทีด้วยความระแวง ทำไมจู่ๆ เจ้าชายเอเดรียนเกิดจะต้องเสด็จมากรีนแลนด์ หรือว่าพระองค์จะมาหาเจ้าอีกคน ไม่ใช่ค่ะ เจ้าชายเอเดรียนไม่ได้มาหาน้อง แต่พระองค์จะเสด็จมาเพื่อพาตัวเลดี้เมลิอานาร์คู่หมั้นกลับแลมพ์ตันต่างหาก พาคู่หมั้นกลับแลมพ์ตัน ความพิศวงฉายชัดออกมาทางสีหน้าของชายหนุ่ม ตามมาด้วยคำถามกึ่งปรารภ
เจ้าชายเอเดรียนทรงมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมข้าไม่เห็นได้ข่าว ก็นั่นน่ะสิคะ นางหมั้นแล้วแต่กลับไม่ยอมปริปากบอกกันสักคำ คำตอบหงุดหงิดของคนเป็นน้องทำให้พี่ชายยิ่งงง เดี๋ยวก่อนกายย์ นี่เจ้ากำลังพูดถึงใครกัน ก็คู่หมั้นของเจ้าชายเอเดรียน เลดี้เมลิอานาร์ เลดี้เมลิอานาร์ เจ้าชายทวนคำแล้วส่ายพักตร์ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้ เจ้ารู้จักนางด้วยหรือ รู้จักสิคะ รู้จักดีด้วย พี่กันนาร์เองก็รู้จักนาง ...เมลอย่างไรล่ะคะ สิ้นประโยคนั้น ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในภาวะเงียบกริบ เงียบเสียจนเจ้าหญิงกาอิยาห์คิดว่าหากมีเส้นผมตกลงบนพื้นสักเส้นพระองค์ก็คงได้ยิน เด็กสาวลอบชำเลืองดูปฏิกิริยาของพี่ชายด้วยความเป็นห่วง
เจ้าชายกันนาร์ทรงนิ่งอั้นไปคล้ายพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่เพิ่งได้รับฟัง พระพักตร์คมคายแดงก่ำแล้วกลับซีดเผือดลง ก่อนที่จะกลับเป็นสีแดงเข้มขึ้นมาอีกครั้งราวกับเล่นกล น้องสาวเห็นแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้หากแต่ไม่กล้าหัวเราะออกมา นี่หมายความว่า เจ้าหมอนั่...เอ่อ...เพื่อนของเจ้าเป็นคนเดียวกับเลดี้เมลิ..อะไรคนนั้นหรือ ? เมลิอานาร์ ใช่แล้วค่ะ พี่เข้าใจถูกต้อง เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า... เจ้าชายเค้นพระสุรเสียงถามรอดไรพระทนต์ ...เพื่อนของเจ้าเป็นผู้หญิงงั้นสินะ เจ้าหญิงกาอิยาห์พยักพระพักตร์แทนคำตอบ เท่านั้นผู้เป็นพี่ชายก็ราวกับจะ เดือด ขึ้นมาในบัดดล นี่พวกเจ้าร่วมมือกันหลอกข้าเล่นหรือไง เจ้าเห็นข้าเป็นตัวอะไรกันฮึ กาอิยาห์ แหม พี่กันนาร์ก็...อย่าเพิ่งโกรธสิคะ น้องสาวยิ้มหวานประจบ น้องไม่ได้คิดจะหลอกพี่สักหน่อย แต่พี่เองต่างหากที่เป็นฝ่ายคิดเหมาเอาว่าเมลเป็นนักบวชตั้งแต่ยังไม่ทันได้เจอตัวนางด้วยซ้ำ พี่ชายมีอาการคล้ายสะอึกไปเล็กน้อย แต่ยังคงเสียงแข็ง ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเข้าใจผิด แล้วทำไมไม่บอกสิ่งที่ถูกให้ข้ารับรู้ล่ะ ถ้าน้องบอกแล้วพี่จะเชื่อหรือคะ ประโยคย้อนถามของเจ้าหญิงกาอิยาห์ทำให้เจ้าชายกันนาร์จำต้องเงียบเสียงลงแล้วคิด นั่นสินะ หาก มีคนแต่งกายเหมือนผู้ชายทุกอย่างแถมยังคาดดาบเล่มยาวเอาไว้ที่เอวเสียด้วย เดินเข้ามาบอกกับพระองค์ว่านางเป็นผู้หญิง พระองค์จะเชื่อในสิ่งที่เขาบอกหรือจะทรงเชื่อในสิ่งที่ตนเห็นกันแน่
คำตอบก็เป็นอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ เพราะฉะนั้นจะไปโทษว่าเป็นความผิดของน้องสาวกับผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ถูกต้องนัก
เอาเถอะ...
เจ้าชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์โกรธที่ยังกรุ่นอยู่ในพระทัย ทำไมจะต้องโกรธ พระองค์ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ความจริงพระองค์ควรจะรู้สึกโล่งใจมากกว่า เพราะไม่ต้องคอยระวังความสัมพันธ์อันน่าสงสัยของน้องสาวกับหนุ่มหล่อรายนั้นอีกต่อไป เข้าเรื่องของเจ้าดีกว่ากายย์ เจ้าชายเอเดรียนจะเสด็จมาตามคู่หมั้น แล้วเจ้ากลุ้มเรื่องอะไร ข้ายังไม่เห็นว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับเจ้าตรงไหน เจ้าหญิงกาอิยาห์กระแทกพระองค์พิงพนักเก้าอี้เต็มแรง ส่งเสียง ฮึ ออกมาอย่างขัดพระทัย ทำไมจะไม่เกี่ยว เกี่ยวสิคะแถมยังเกี่ยวมากด้วย น้องไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าเมลหมั้นแล้ว น้องอยากจะให้นางอยู่ที่นี่กับเรานานๆ ไม่ต้องกลับแลมพ์ตันได้เลยยิ่งดี พูดจาเอาแต่ใจเป็นเด็กไปได้ ลืมแล้วหรือว่าเมลแค่มาช่วยเจ้าคลายคำสาปให้เจ้าหญิงแคธรีน ถึงอย่างไรนางก็ต้องกลับแลมพ์ตัน ไม่ว่าจะหมั้นแล้วหรือยังก็ตาม เมื่อเห็นน้องสาวนิ่งไปไม่โต้ตอบ เจ้าชายกันนาร์ก็คิดว่าจบเรื่อง พระองค์ตั้งท่าจะหยิบม้วนกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาทอดพระเนตรต่อ หากแล้วก็แทบจะพลัดตกจากพระเก้าอี้เมื่อได้ยินคำถามโพล่งขึ้น พี่กันนาร์ไม่รู้สึกชอบเมลบ้างเลยหรือคะ ถามอะไรของเจ้า ชายหนุ่มหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู ข้าไม่ใช่พวกวิปริตนี่จะได้นึกชอบผู้ชายด้วยกันได้ลงคอ เอ๊.. ก็น้องบอกว่าเมลเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อยจะวิปริตได้ยังไง เจ้าหญิงกาอิยาห์เอียงพระศอมองหน้าผู้เป็นพี่ ก่อนพยักพระพักตร์หงึกหงักกับองค์เอง คงเป็นเพราะกันนาร์ไม่เคยเห็นเมลตอนแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาก่อน จึงได้พูดออกมาเช่นนั้น
ดีละ...
รอยแย้มสรวลเร้นลับผุดขึ้นบนเรียวโอษฐ์สีกุหลาบ พร้อมกับความคิดใหม่เอี่ยมที่จะจับคู่พี่ชายกับเพื่อนสาวแทนการปล่อยให้นางตามเสด็จเจ้าชายพระคู่หมั้นกลับแลมพ์ตัน ทรงตรองแล้วว่าวิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีของทุกฝ่าย ...ยกเว้นเจ้าชายเอเดรียน เด็กสาวผุดลุกจากเก้าอี้ พยักหน้าเป็นสัญญาณให้นางข้าหลวงผู้ติดตามซึ่งยืนสงบเสงี่ยมรออยู่แถวหน้าประตูเตรียมตัวกลับ เจ้าชายกันนาร์แหงนพระพักตร์มองตามร่างบางอย่างงงงัน บทจะมานางก็มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แถมยังบังคับให้พระองค์ฟังเรื่องไร้สาระของนางเสียยืดยาว พอบทจะกลับนางก็หันหลังกลับได้หน้าตาเฉย จนพี่ชายปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน อะไรของเจ้าน่ะกายย์ แล้วที่ว่าจะปรึกษาข้า จบแล้วหรือไง ค่ะ น้องหาทางออกได้แล้ว ต้องรีบกลับไปวางแผน เอ๊ย กลับไปทำอย่างอื่นต่อ เจ้าหญิงเสด็จตรงไปที่ประตูโดยผู้เป็นพี่ชายไม่ได้เอ่ยพระโอษฐ์คัดค้านแต่อย่างใดเพียงแต่ทรงส่งเสียงปรามไล่หลังว่า อย่ามัวแต่เล่นอยู่ล่ะ เจ้าควรจะหาเวลาไปอยู่กับเจ้าหญิงลูเซียบ้าง ถึงเจ้าชายดิเร็กซ์จะเสด็จกลับทาเนียร์ไปแล้วก็ยังไม่ควรวางใจ เพราะเรายังหาตัวคนร้ายไม่ได้ น้องสาวลอบย่นจมูกใส่บานประตูก่อนจะรับคำส่งๆ เพื่อไม่ให้พี่ชายสังเกตเห็นพิรุธ
พอลับร่างของเจ้าหญิงกาอิยาห์และนางข้าหลวงผู้ติดตาม เจ้าชายกันนาร์กลับเป็นฝ่ายลุกขึ้นเดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าหมู่เก้าอี้เสียเอง ม้วนกระดาษบนโต๊ะถูกทิ้งให้วางดายอยู่ที่เดิมโดยที่พระองค์ไม่มีความคิดจะเอื้อมพระหัตถ์ไปแตะ เรื่องที่เจ้าหญิงกาอิยาห์เพิ่งสารภาพเกี่ยวกับเพื่อนของนาง รบกวนพระทัยจนกระทั่งเจ้าชายกันนาร์ไม่ทรงมีสมาธิจะอ่านรายงานทางทหารพวกนั้นอีกต่อไป ป่านนี้องค์ราชาจะทรงเป็นอย่างไรบ้างก็ยากจะเดา ยิ่งเดินทางตามลำพังกับผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นแม้แต่นักบวชฝึกหัดอย่างนั้น ถึงน้องสาวของพระองค์จะยืนยันอยู่หลายครั้งว่านางเก่ง แต่ผู้หญิงจะเก่งได้สักแค่ไหนกันเชียว หากมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นยังไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะเป็นฝ่ายคุ้มครองใครกันแน่ เจ้าชายกันนาร์ถอนพระทัยหนักหน่วง เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พระองค์ทรงทราบดีว่าไม่ควรทิ้งตำหนักหลวงออกไปไหนเวลานี้ แต่ความเป็นห่วงในตัวประมุขแห่งกรีนแลนด์มีมากเกินกว่าเหตุผลอันควรทุกประการ
หลังจากชั่งพระทัยอยู่ครู่ใหญ่ เจ้าชายกันนาร์ก็เลือกที่จะเสด็จออกไปพบท่านคาร์ลที่คฤหาสน์ย่านชานเมือง โดยหารู้ไม่ว่าทันทีที่ทรงย่างพระบาทพ้นจากเขตตำหนักหลวง นกสีขาวตัวใหญ่ซึ่งเกาะนิ่งอยู่บนกิ่งไม้ในสวนหย่อมก็โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้างตามติดพระองค์ไปเช่นเดียวกัน!
แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 23:29:28
จากคุณ |
:
akihiro
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ส.ค. 54 23:29:12
|
|
|
|