“อะไรนะ! ”หนูรินผงะขึ้นหลังจากนั่งฟังความจากเหยี่ยวข่าวสาวพร้อมหลักฐานที่ครบถ้วนรวมถึงพิมพาที่แอบยิ้มเยาะในใจที่เห็นความร้าวฉานของหนูรินและภูธนา
“เห็นไหมล่ะคะว่ายัยอิงแก้วน่ะมันออดอ้อนแค่ไหน แค่ในภาพนี้ก็พิสูจน์ได้อยู่ไม่น้อยเลย”พิมพาว่าพลางยกกล้องขึ้นมาเชยชมรูป หนูรินโกรธกำหมัดแน่น
“มันทำประเจิดประเจ้ออย่างนี้เลยหรือ นังงูพิษฉันเกลียดมันเกลียดๆๆ”หนูรินเหวี่ยงฟาดงวงฟาดงา พิมพาเหลือบตามองแวบ
“ฉันก็ทำตามหน้าที่แหละค่ะเห็นภาพอะไรก็ต้องถ่ายไว้ยิ่งเป็นคนดังๆ ด้วย”นักข่าวสาวจีบปากจีบคำพลางยักคิ้วให้กับพิมพาแก๊งเดียวกัน
“เธอจัดการกับเขาเลยสิ”พิมพายุ หนูรินกรอกตาไปมา
“ฉันจัดการอะไรไม่ได้มาก”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ฉันกับพี่ภูเราเลิกกันเมื่อวานนี้”
“อะไรนะ! ”พิมพาเบิกตาโต หนูรินพยักหน้า
“เมื่อวานฉันไปอาละวาดที่บ้านพี่ภูมา แล้วพี่ภูก็โกรธฉันถึงขั้นบอกเลิกน่ะ”หนูรินก้มหน้าตอบ พิมพาแสยะยิ้มเล็กน้อย
“อย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเขาจะทิ้งเธอไปหายัยอิงจริงๆ ”พิมพาใส่ไฟได้จังหวะ หนูรินเงยหน้าขึ้นฉับไว
“ฉันทนไม่ได้แล้วนะ มันจะเกินไปแล้วจริงๆ ”หนูรินคว้ากล้องจากพิมพาก่อนจะเดินดุ่มออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พิมพาและนักข่าวสาวหันมาหัวเราะคิกคักก่อนจะพากันวิ่งตามออกไปให้ทันหนูรินเดินเร็วแทบวิ่งตรงมายังห้องของภูธนาแต่ทว่าเคาะเท่าไรก็ไม่มีเสียตอบรับหล่อนหัวเสียมากก่อนจะผละตัวออกตามหาที่อื่นขณะที่บูรณาเดินผ่านมาแวะจะมาหาพี่ชายแต่ก็พบกับหนูรินโดยบังเอิญสีหน้าของเจ้าหล่อนไม่ค่อยดีนักเมื่อพบบูรณาจึงหยุดถามไถ่หาความ
“บูรเห็นพี่ภูหรือป่าว”
“ก็กำลังจะมาหา”
“แต่พี่ภูไม่อยู่ที่ห้อง”
“อ้าวเหรอคงเดินเล่นแถวนี้ล่ะมั้ง”บูรณาสอดส่องสายตามองไปทางอื่นแต่หนูรินยังใส่อารมณ์ในการพูด
“แล้วเพื่อนตัวดีเธอน่ะหายไปไหน”
“ไม่รู้สิคงเดินอยู่แถวๆนี้ล่ะมั้ง”
"ไม่หรอกคงกำลังกกกับพี่ภูมากกว่า”หล่อนว่า บูรณาสะดุ้งโหยงไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากหนูริน
“อ้าว! ทำไมเธอพูดอย่างนี้ล่ะหนูริน อิงแก้วกับพี่ภูเสียหายนะ”
“เสียหายเหรอดูนี่หลักฐานขนาดนี้คงไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว”หนูรินยื่นกล้องให้ บูรณารับกล้องกลับมาพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากไม่คิดว่าจะมีภาพประเจิดประเจ้อของพี่ชายและเพื่อนสาวขนาดนี้
“นี่มัน...”
“ก็ใช่สิเพื่อนเธอน่ะจ้องจะจับพี่ภู”
“อิงแก้วไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
“ไม่ใช่แล้วรูปจะออกมาขนาดนี้หรือ”หนูรินเหวี่ยง พิมพาและนักข่าวสาวคนสนิทวิ่งมาหยุดก่อนจะมองบูรณาที่คืนกล้องให้กับหนูริน
“บางทีอาจจะอุบัติเหตุกับเขาทั้งสองก็เลยมีภาพออกมาอย่างนี้”
“พี่นักข่าวเพื่อนของพิมเค้าถ่ายได้”
“จริงค่ะคอนเฟิร์มว่ากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน”เหยี่ยวข่าวสาวแทรกกายขึ้นมาเสนอหน้า บูรณาเหลือบตามองแกมจิก
“พวกนักข่าวก็ชอบแต่งสีเติมเรื่องกะถ่ายให้ได้มุมน่ะสิข่าวจะได้ขายได้”บูรณากัดได้ตรงประเด็นตอกหน้าแม่นักข่าวที่ยังไม่เลิกทำท่าทางท้าทายเต็มประดา
“นี่อย่าไปว่าพี่เค้าสิเพื่อนเธอต่างหากที่คิดไม่ซื่อกับพี่ภูของฉัน”หนูรินออกโรงปกป้องคนของตนเอง บูรณาถอนใจเฮือกใหญ่ให้หนูรินที่ถลำตัวไปอยู่กับพวกพิมพา
“ถ้าเธอมัวแต่คิดแบบนี้ก็ตามใจถ้าสบายใจที่จะคิด ฉันว่าพี่ภูก็คงจะเบื่อเหมือนกันที่มีแฟนขี้หึงไร้สติอย่างเธอ”บูรณามองหนูรินซังกะตาย หนูรินปากสั่นระริกเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“เธอก็เข้าข้างเพื่อนของเธอวันยังค่ำ คงอยากให้เพื่อนเธอเป็นพี่สะใภ้เต็มแก่”
“ใช่ก็ดีกว่ามีเธอเป็นพี่สะใภ้จะบอกให้นะเจอเธอครั้งแรกก็น่ารักอยู่แหละ แต่พอได้รู้จักจริงๆ อดคิดไม่ได้ว่าพี่ภูคว้าเธอมาเป็นแฟนได้ยังไงทั้งขี้หึงหน้ามืดหูเบาแถมยังชอบดูถูกคนอื่นด้วยนิสัยไม่น่ารักเหมือนหน้าตาเลย”
“ตายละ”พิมพาและสมุนยกมือขึ้นกุมอกทำท่าทางได้น่าหมั่นไส้
“ฉันไม่อยากเสาวนากับพวกเธอเลย ไปล่ะปวดหัว! ”บูรณาเดินเลี่ยงก่อนจะหันไปมองพิมพาและสมุนที่ทำตัวได้น่าชัง บูรณารู้ว่าทั้งสองต้องมาเป่าหูหนูรินแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่เหวี่ยงบ้านแตกขนาดนี้จะโทษแต่หนูรินฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ พวกบ่างช่างยุมันก็เป็นแรงสำคัญด้วย เรื่องไม่เล็กๆ น้อยๆ เสียแล้วอีกไม่นานภาพนั้นคงจะได้เผยแพร่ไปกว้างกว่านี้แน่ บูรณารีบออกตามหาภูธนาโดยด่วนขณะที่กิตติเดินเลี้ยวมุมเรือเพื่อตรงกลับห้องเมื่อพบว่าบูรณาที่เร่งฝีเท้ารีบเดินไปที่ไหนซักแห่งจึงตัดสินใจสะกดรอยเดินตาม บูรณาพบกับภูธนาไม่ไกลจากมุมเรือมากนักรีบดึงตัวพี่ชายมาหลบมุมที่คนน้อยโดยไม่รู้เลยว่ากิตติกำลังแอบฟังอยู่อีกด้าน
“พี่ภูเกิดเรื่องแล้ว”
“มีอะไรหรือ”
“ก็รูปสินี่พี่ทำอะไรลงไป บูรรู้นะว่าพี่ภูกำลังแกล้งอิงแก้วแต่ก็ไม่น่าเล่นแรงตอนนี้นักข่าวได้รูปที่พี่กำลังจะกอดกับยัยอิงสนิทแนบแน่นนั่น”
“อ้อรูปนั้นแน่”
“พี่ภูรู้? ”
“ก็มันไม่ได้มีอะไร พี่ก็แค่โอบอิงแก้วไว้ไม่ได้กอดรัด”
“ทำไปทำไมกันกะจะแกล้งอิงแก้วล่ะสิ พี่ภูมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะยัยหนูรินหัวเสียแทบจะเหวี่ยงเรือให้ล่มอยู่แล้ว พี่ภูทำลงไปเหมือนกับไม่แคร์สื่อ”
“ก็พี่ไม่แคร์อยู่แล้วพวกนั้นไร้สาระจะตายไปอีกอย่างพี่กับหนูรินเราก็ไม่มีอะไรต้องแคร์กันอีก”
“อะไรนะหมายความว่ายังไงคะ”บูรณาตกใจอย่างเห็นได้ชัด ภูธนาพยักหน้าช้าๆ
“เมื่อวานหนูรินมาอาละวาดซะบ้านแตกคงโดนยุมาเต็มที่เรื่องอิงแก้วเขวี้ยงข้าวของเต็มบ้าน พี่ทนไม่ได้แล้วเหมือนกันไม่คิดว่าเธอจะร้ายจนน่าเกียจขนาดนี้ภาพนางฟ้าที่เคยมีก็หายหมด เรารู้จักกันในเวลาสั้นจริงๆ แค่หนึ่งอาทิตย์ก็ตกลงเป็นแฟนกันจนมาคบกันสี่เดือนถึงได้รู้กันและกัน พี่จึงตัดสินใจที่จะจากมาเอง”
“ว่าแล้วเชียวทำไมหนูรินถึงได้ระเบิดขนาดนี้”
“มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกถ้าหนูรินได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองกระทำว่ามันร้ายกาจแค่ไหน ส่วนเรื่องอิงแก้วพี่บอกนักข่าวว่าพี่ช่วยยัยอิงที่กำลังซุ่มซ่ามจะล้มก็เท่านั้นพวกสื่อก็ชอบเติมแต่งเรื่องพาดหัวซะฮือฮา”
“พี่ภูไม่แคร์ยัยหนูรินหรือไงคะ เค้าก็เคยเป็นแฟนพี่ภูนะ”
“หนูรินคนเดิมได้หายไปแล้ว แล้วพี่ก็รู้ใจตัวเองว่าที่ผ่านมาพี่ไม่ได้รักหนูริน หนูรินก็ไม่ได้รักพี่เหมือนกันเราต่างหลงในรูปลักษณ์และความสมบูรณ์แบบของกันและกันมากกว่าและที่หนูรินเป็นตอนนี้เธอแค่ต่อต้านที่มีคนมาขโมยของเล่นเธอไป เธอจึงยอมไม่ได้ทั้งที่ไม่ได้รักพี่เพราะแค่อยากเอาชนะอิงแก้วเท่านั้น”ภูธนาพูดไปด้วยถอนใจไปด้วย
“คนที่เดือดร้อนก็ไม่พ้นอิงแก้วอยู่ดีที่สำคัญยัยพิมพาตัวแสบอยู่เบื้องหลังด้วยนะเห็นเข้าเป็นปี่เป็นขลุ่ยกะยัยนักข่าวนั่นอย่างอะไรดีคงจะเป็นพวกเดียวกันที่นัดกันมา”
“เรื่องจะเกิดมันก็ต้องเกิดแต่พี่จะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
“พี่ภู”บูรณาร้องเสียงหลงชายหนุ่มยักไหล่
“อย่าคิดมากเลยพี่มีแผนอยู่ในหัวแล้ว” ภูธนาได้แต่ยิ้มๆ บูรณาไม่เข้าใจความคิดของพี่ชายเอาเสียเลยเรื่องมันคงไม่จบลงง่ายๆ แค่นี้ในเมื่อยังมีคนช่างยุอย่างพิมพาอยู่เบื้องหลังทั้งหมดหนูรินก็คงจะก่อเรื่องไม่หยุดหย่อนเพียงเพราะฟังลมปากจากคนอื่นมาอีกที
จากคุณ |
:
คุณหนูแจ่มใส
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ส.ค. 54 22:03:38
|
|
|
|