Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หวานรัก ณ ปลายดง - 26 ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10900532/W10900532.html

บทที่ 26

ไม่นึกว่าต้องมาเสียเลือดตอนแก่ ปากเจ่อยังไม่เท่ากับใจเดือด นายขมิ้นทองเกือบจะลุแก่โทสะ ถลันไปฟาดหน้าไอ้หนุ่มบังอาจด้วยดุ้นฟืนในกองไฟนั่นล่ะ เห็นทีต้องกลับไปด่าแม่สาวชาวกรุงเจ้าปัญหาให้หนัก เพราะเธอคนเดียวเลย เขาถึงได้เจ็บตัวฟรี

"ฉันก็พอรู้ว่าแกขวางโลก อยู่อย่างไม่อยากมีชีวิต แกอยากตาย แต่ก็ไม่อยากฆ่าตัวตายเอง อยากให้ใครก็ได้มาฆ่าแก ล้อมไว้ ไม่ต้องให้ไปไหน ถ้าฉันไม่อนุญาต"

ท้ายประโยคอารัมภบท หัวหน้าดงโจรกลับใจก็ร้องสั่งลูกน้อง ภภีมหรี่ตาดุ กระชับย่ามติดไหล่ ถ้าใครแหยมเข้ามา เขาจะต่อยเตะถีบ และกระทืบไม่เลี้ยง

"ฉันห้ามเพราะหวังดี อยากให้แกพักผ่อน แต่คนขวางโลกอยากตายอย่างแก มันไม่สำนึกเว้ย บังอาจมาต่อยหน้าไอ้ขมิ้นทอง รู้ไหม ในรอบหลายปีมานี้ นี่เป็นหมัดแรกเว้ย"

"ฉันก็เตือนแล้วนี่ว่าอย่ามาขวาง แกยื่นหน้ามาขวางใช่ไหม แล้วจะให้ฉันทำยังไง หลีกไปเว้ย" ภภีมเลี้ยวไปกำราบเด็กๆ ด้วยตาดุ "ฉันไม่อยากรังแกเด็กๆ ฉันแก่แล้วก็จริง แต่เรี่ยวแรงยังมีเว้ย หลีก"

"ไม่ต้อง ล้อมไว้อย่างนั้นแหละ"

ลูกน้องแปดคนกระจายเป็นวงกลม แต่บางทีมันก็ออกเบี้ยวๆ เพราะไม่รู้ว่าจะฟังคำสั่งใครดี หัวหน้าดงโจรเค้นเสียงเข้ม เพื่อนของหัวหน้าก็ทอดเสียงเฉียบ แต่ละคนก็ใหญ่โตทรงอำนาจกันทั้งนั้น

"เอาน่า" หัวหน้าดงโจรหัวเราะออมชอม "เว้นพักสักคืนคงไม่เป็นไรหรอก ไอ้พวกลูกน้องอีกชุดของฉัน มันก็ยังไม่กลับมาเลย แกรอฟังข่าวมันสักคืนสิวะ มันอาจจะกลับมาพร้อมกับข่าวดี หรือไม่ก็อาจจะกลับมาพร้อมกับแม่หนู.. "

"ฉันรอไม่ไหวหรอก ฉันไม่ต้องการเสี่ยงกับเวลาทุกวินาทีที่สามแสนของฉันหลงอยู่ในป่า"

"ไอ้ดุ"

"ฉันไม่ต้องการลุ้นเว้ย ข่าวที่รอฟังมันก็มีทั้งสองด้านนี่หว่า ถ้าไม่ดีก็ต้องร้าย แล้วถ้ามันร้าย สามแสนของฉันจะเป็นยังไง"

'คำก็สามแสนของฉัน สองคำก็สามแสนของฉัน เชอะ แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่มีอะไร ไม่คิดอะไร แค่น้องสาว' ในอกของนายขมิ้นทองแอบค่อนขอดหมั่นไส้

อันที่จริงก็อยากผุดยิ้มหมั่นไส้เหมือนกัน แต่ตอนนี้มันบวมเจ่อเพราะฤทธิ์หมัดบังอาจเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่ล่ะ เลยขอวางสีหน้าเฉยๆ ไว้ก่อนก็แล้วกัน

"เด็กคนนี้มันดวงแข็ง" ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในวงล้อม แล้วตบบ่าใหญ่ "แกก็อย่าตีโพยตีพายแต่ทางร้ายนัก ห้าปีก่อน มันก็หลงป่าไม่ใช่หรือ ตอนนั้น มันไม่รู้จักใครในป่าสักคน มันยังรอดได้นี่หว่า"

"รอดอะไร ตอนฉันไปเจอ เด็กมันสลบเหมือดใต้ต้นไม้ ถ้าฉันไม่ไปเจอ มันก็ไม่แน่หรอกว่า.. "

'เด็กอาจจะตาย' ภภีมกลืนวาจาท่อนนี้ลงลำคอ เขาไม่กล้าพูด การคาดคะเนมรณะอย่างนั้น มันทำให้เขาใจไม่ดี แม้แต่เวลานี้ หัวใจก็แกว่งไม่หยุดเลย เขาเหนื่อยและทรมานกับความเป็นห่วง ป่านนี้ คนดีของเขาจะไปตกระกำลำบากอยู่ที่ไหนหนอ

ในดงโจร มันก็มีโจรหลายก๊กหลายพวกอยู่ แล้วมันก็กว้างเหมือนทะเลผืนย่อมๆ จะให้หาเจอภายในวันสองวัน มันก็อาจจะลำบากหน่อย แล้วดูสิ นายขมิ้นทองกลับยังมาขัดขวาง สั่งลูกน้องล้อมวงสกัด ไม่รู้เลยหรือว่า เขาร้อนใจจนจะบ้าอยู่แล้ว

"ใจเย็นน่า รอลูกน้องฉันอีกสักคืนเถอะ พรุ่งนี้มันก็มา ไม่แน่นะเว้ย ฟ้ามันใกล้จะหลังฝนแล้ว"

ภภีมไม่ค่อยเข้าใจ ฟ้ามันใกล้หลังฝนแปลว่าอะไร ตาดุกระด้างเหลือบมองรอยยิ้มพิลึกๆ แวบหนึ่ง ก่อนจะส่งไปจับลำธาร มันแลทะมึนน่ากลัวไปทั้งผืน ราวป่าข้างหน้าโน้นก็มืดมาก

สามแสนอาจกำลังเดินโซซัดโซเซด้วยความเหนื่อยล้าและหิวโหยอยู่ตรงไหนสักแห่ง เขาอยากไปให้ถึงตรงนั้น เขายอมแพ้หมดใจแล้ว ทันทีที่เจอตัว เขาจะกอดแบบไม่ต้องเกรงใจชุลียากันเลย และคำแรกที่จะสารภาพกับคนดีก็คือ 'พี่รักสามแสน'

"ไปนั่ง กินข้าวให้หมด เอาแรงไว้ พรุ่งนี้ ถ้าไอ้ลูกน้องของฉันมันกลับมาพร้อมกับข่าวร้าย แกจะได้มีแรงลุย"

"ฉัน.. "

"ไปน่า กินข้าวให้หมดจาน แกเชื่อฉันสิ พอท้องแกอิ่ม สมองแกจะแล่นปรูดปราดกว่านี้ หาคนหลงป่า มันต้องมีสติเว้ย ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าลุยดุ่มๆ อีกกี่ชาติกว่าจะหาเจอ"

"แต่ว่า.. "

"เออน่า" หัวหน้าดงโจรลอบโล่งอก เมื่อเดินมาถึงแคร่ แล้วกดตัวใหญ่ๆ ลงนั่ง ปากก็ตะล่อมต่อ "แกดูแม่หนูสิ ใจเย็นแค่ไหน รอเวลาตั้งห้าปีกว่าจะเข้ามาตามแก แถมเตรียมคนนำทางพรักพร้อม แกรอแค่คืนเดียว จะเป็นอะไรนักหนาวะ"

ภภีมลูบหน้าอัดอั้น อยากระเบิดเสียงออกไปดังๆ ว่า 'โว้ย จะบ้าแล้วโว้ย' นายขมิ้นทองยิ้มในหน้า พลางเลื่อนตาสำรวจไปทั่วซอกความมืด กำลังนึกถึงแม่หนูคนเก่ง

ไม่รู้ว่ากลับมาถึงกระท่อมหรือยัง หรือว่าอาจจะแอบมองพี่ชายงุ่นง่านอยู่ในพุ่มไม้แถวไหนสักพุ่ม ถ้าเห็นแล้ว จะสำนึกไหมว่า ตัวเองก่อเรื่องยุ่งยากให้ผู้ใหญ่เวียนหัวแค่ไหน โดยเฉพาะเขาเอง ถูกไอ้หนุ่มดุสอยไปหนึ่งหมัดหนักๆ ด้วย ซวยเป็นบ้า

"นี่ ไอ้ดุ" เขานั่งลง ตบขาเพรียวเบาๆ แล้วแจกยิ้ม ก่อนจะล้วงใจ "ถามจริงๆ เถอะวะ ถ้าแกเห็นฉันเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องร่วมดง ก็ขอให้ตอบความจริงนะเว้ย แกรักแม่หนูสามแสนใช่ไหม ความจริงนะเว้ยไอ้ดุ" เขาสำทับยิ้มๆ ในตอนท้าย

"แกจะบ้าหรือ นี่มันเวลาอะไร มาซักไซ้เรื่องห่วยแตกแบบนี้ ไม่ตอบเว้ย"

"อ๊ะๆ ไม่ต้องลุก กินข้าวไป" คนถามรีบกระตุกข้อมือ ทำเป็นรำคาญแล้วจะลุกหนีล่ะ ไม่เนียนสักนิด "แกมันใจไม่ใหญ่เลย" เขาด่าล้วงใจอีก "สู้แม่หนูคนนั้นก็ไม่ได้ ตัวเล็กนิดเดียว แต่ใจมหาศาลเป็นบ้า"

"นี่แกจะพูดอะไร" ภภีมรำคาญเต็มแก่ หงุดหงิดมาก เดี๋ยวก็คว่ำจานข้าวอีก

"แม่หนูมันรักแกมาก มันประกาศกับทุกคนแบบนี้ทั้งนั้น แล้วมันก็เป็นฝ่ายเดินดงมาตามหาแก หอบเอาความรัก หิ้วเอาหัวใจดวงน้อยๆ มาบำเรอแก ดูไปแล้ว แกก็น่าอิจฉาดี"

ภภีมยิ้มขื่น ก็ใช่ล่ะ เขาน่าอิจฉาดี ชุลียารัก สามแสนรัก ใบพลูก็รัก สาวๆ อีกหลายคนในป่าละแวกนี้ ก็มีจิตเสน่หา แต่มันไม่มีประโยชน์หรอก ในเมื่อหัวใจดวงนี้มันแตกสลาย ไม่มีชิ้นดีไว้ต้อนรับเงาของใครได้อีก

ก็ดูแค่ว่าเขารักสามแสนสิ เพื่อนรักอย่างคุณหมอแสวงบุญ ยังออกโรงคัดค้านเต็มเสียง ผู้ชายคนนี้ ไม่เหมาะจะมีความรักอีกแล้ว

นายขมิ้นทองถอนใจยาว ท่วงท่าก้มหน้าหดหู่แบบนั้น มันก็ชวนให้เศร้าใจได้ไม่หยอกอยู่ แล้วเขาก็เห็นบ่อย หรือเห็นเกือบทุกวัน นับตั้งแต่รู้จักกับไอ้หนุ่มดุขวางโลกคนนี้ เมื่อห้าปีก่อนนั่นล่ะ

ตอนนั้นยังสงสัยว่าเจ้าตัวเป็นอะไรนักหนา แต่ตอนนี้ก็พอเข้าใจแล้วว่า สาเหตุของความซึมเซาเศร้าสลด มันก็มาจากไอ้ตัวแสบที่มีชื่อว่า 'ความรัก' นั่นเอง

"ถ้าแกไม่รักแม่หนูสามแสน แกก็ปล่อยเด็กมันไปเถอะวะ" เขายังคงล้วงใจต่อไป "ตอนนี้ ก็คิดเสียว่า เด็กมันพ้นอุ้งมือไปแล้ว จะเป็นตายร้ายดี ก็ให้เป็นหน้าที่ของบุญกรรม"

"ไอ้ขมิ้น" ภภีมเงยหน้าตาขวางเลย

"ฉันพูดจริงนะเว้ย" ไอ้ขมิ้นก็รีบทำทีสำทับหนัก "แกจะตามไปให้เจอทำไมอีก เด็กคนนั้นมันรักแกจะตาย พอเจอกัน มันก็ติดแกหนึบ ไม่ยอมไปจากแกหรอก แกก็เห็นนี่ ไล่เท่าไหร่ มันก็ไม่ไปไม่ใช่หรือ"

"ไอ้.. "

"เว้นเสียแต่ว่า แกจะรักมันด้วย แล้วถ้ารัก แกก็ต้องทำอะไรสักอย่างให้เด็กมันรู้เว้ย ไม่ใช่คอแข็งตาขึงเหมือนพญามารแบบนี้"

"ไม่ได้หรอก ฉันกับสามแสนรักกันไม่ได้ ฉันก็รู้ว่าสามแสนรู้สึกดีๆ ต่อฉัน แต่ฉันเองที่ไม่คู่ควรจะรับ"

"เหตุผลอะไรบ้างที่แกบอกว่าไม่คู่ควรน่ะ แก่คราวพ่อน่ะหรือ โอ๊ย อย่าโบราณไปหน่อยเลยวะ แก่คราวพ่อสิดี เด็กมันจะได้ยำเกรง ดีออก เป็นทั้งผัวทั้งพ่อในคราวเดียว เหมือนที่สมัยนี้มันชอบพูดกัน อะไรนะ ทูอินวันใช่ไหมวะ"

หนุ่มอกตรมไม่ขำ เสียงหัวเราะของคนพูดก็ไม่ได้เสียดเข้ามาในโสตสักนิด เขาลุกไปยืนกุมศีรษะอย่างอัดอั้น จ้องมองลำน้ำสีคล้ำข้างหน้า หัวใจร้องไห้อีกแล้ว เขาเป็นห่วงสามแสนเหลือเกิน ทำไมคนดีลงโทษเขารุนแรงอย่างนี้หนอ ในรอบยี่สิบปีนี้ ก็เห็นจะมีหนนี้ล่ะ ที่เขาตกอยู่ในอาการทุรนทุรายแสนสาหัส

"แล้วตกลงว่าแกรักแม่หนูสามแสนใช่ไหม" นายขมิ้นทองตามมาคาดคั้น ยิ้มได้นุ่มมาก เมื่อไอ้หนุ่มเลี้ยวตามาสาดแสงวาวๆ

"แกนี่.. "

"ใช่ไหม แกตอบแค่ว่า ใช่หรือไม่ใช่ก็พอ ตกลงว่าใช่ ใช่ไหม"

"เออ"

สิ้นคำนั้น นายขมิ้นทองก็ยิ้มกว้าง ภภีมแปลความหมายไม่ถูก ระหว่างดีใจกับโล่งใจ เขาเดินไปหยุดริมลำธาร จ้องมองสีคล้ำของมันด้วยใจเศร้าหมอง เงยหน้าขึ้นก็เห็นพระจันทร์ดวงกลมเปล่งแสงมัวๆ หลังก้อนเมฆ อยากเห็นตำแหน่งของสามแสนบนนั้นเหลือเกิน



นายขิงปรากฏตัวขึ้นหน้ากระท่อม พร้อมกับแบกร่างเปียกโชกของสามแสนมาสร้างความแตกตื่น นายขมิ้นทองร้อง 'เฮ้ย' แล้วช่วยรับร่างระทวยของสาวน้อยลงนอนบนแคร่ ภภีมเบิกตากว้าง ทั้งลิงโลดและใจหายไปพร้อมกัน

"เกิดอะไรขึ้นน่ะ สามแสน เป็นอะไรสามแสน ได้ยินพี่ไหม สามแสน ได้ยินพี่ไหม"

ร่างสูงปราดมาประชิดเหมือนลมพายุหอบเดียว เขาปัดมือทุกคนออกห่างร่างระทวย แล้วค่อยยกคนดีขึ้นมากอดแนบอก คลายใจว่ายังมีลมหายใจ แค่ว่าเนื้อตัวเย็นกับอาภรณ์เปียก

นายขมิ้นทองกับนายขิงมองตากันปริบๆ เห็นไอ้หนุ่มหน้าดุกอดรัดสาวสลบใสล ทั้งจูบหน้าผาก จูบแก้ม ปากก็ร้องเรียกละล่ำละลัก

เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เห็นน้ำตาอ่อนแอของภภีม ในแววตาจึงพราวไปด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่ง สามแสนทำให้หนุ่มขวางโลกที่มีชีวิตอยู่เพื่อรอวันตายเฉยๆ เกิดความรู้สึกใดๆ ได้ จนถึงขั้นหลั่งน้ำตาเชียวหรือ

"เกิดอะไรขึ้น" ภภีมยังไม่รู้ตัวสักนิดว่าตนร้องไห้

"เอ้อ ผมช่วยออกตามหาสามแสนครับ" นายขิงโกหกเสียงซื่อ หน้าก็ซื่อได้เนียนมาก "เลียบมาตามลำธาร เผื่อว่าจะเจอเบาะแสเพิ่มเติม จะได้ช่วยอาดุอีกแรง"

"อาถามว่าเกิดอะไรขึ้น" ภภีมกระชากเสียงดุร้าย

"อ้อ เอ้อ ผมเจอสามแสนสลบตรงราวป่าฟากโน้น" พ่อหนุ่มหล่อบุ้ยปากส่งเดช "สามแสนอาจจะเป็นลม ผมเดาว่าเธอคงจะหิวมาก แล้วอาจจะแวะดื่มน้ำ แต่หน้ามืดก็เลยหมดสติ"

'โถ คนดีของพี่' หนุ่มใหญ่หลุบตามองวงหน้าชุลียาด้วยใจหมอง สงสารเหลือเกิน เพราะคำพูดรุนแรงของเขาแท้ๆ ที่ทำให้เธอต้องระหกระเหินหนีหน้าอย่างน้อยใจ

"ไม่มีบาดแผลเลยครับ" นายขิงรีบบอก เมื่อเห็นนายดุสำรวจร่างกายสาวสลบ "ผมเดาว่าสามแสนคงจะกลับมาถูกทางแล้ว เพราะราวป่าตรงนั้นกับกระท่อมของลุงขมิ้นก็อยู่ไม่ไกลกันสักเท่าไหร่ครับ"

"อ้าว แล้วแกจะทำอะไร"

"เปลี่ยนเสื้อผ้าสิ จะให้สามแสนนอนตัวเปียกอย่างนี้ทั้งคืนไม่ได้หรอก"

สองหนุ่มต่างวัยตาโต เปลี่ยนเสื้อผ้าให้น่ะหรือ มันจะเหมาะหรือ นายขมิ้นทองกวักมือเรียกสาวหน้านวลคนหนึ่ง สั่งว่าให้ไปช่วย แต่ภภีมกลับส่งเสียงลงมาจากข้างบนว่า

"ไม่ต้อง ฉันจัดการเองคนเดียวได้ ถ้าแกจะช่วย ก็ให้ใครต้มยาให้สักหม้อ สมุนไพรอยู่ในย่ามของฉัน"

หัวหน้าดงโจรพยักหน้า คนสั่งราวกับเจ้าของถิ่นเสียเองผลุบหายเข้าในห้องไปแล้ว จะนึกภาพตามยังไงดี ตอนพ่อหนุ่มช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สาวบริสุทธิ์ มันดูไม่ดีเลย ฝ่ายหนึ่งก็โคแก่ อีกฝ่ายก็หญ้าอ่อน ปะหน้าปะตากันแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น ประเดี๋ยวก็เกิดการปรี่เข้างับกันเสียเปล่าๆ




สาวหน้านวลคนเดิมถูกใช้ไปต้มยาตามที่ภภีมสั่ง นายขิงนั่งลงทุบบ่าที่ยังร้อนๆ แบกเพื่อนรักมาตั้งไกล ใจก็ไม่ค่อยสบายนัก เพราะเมื่อครู่นี้ ลงมือหนักไปหน่อย แต่มันก็จำเป็น เพราะถ้าไม่สลบจริง ก็อาจตบตานายดุไม่ได้

"ต้องทำอย่างนั้นเลยหรือ กรามสามแสนจะหักไหมนี่" เธอโอดครวญแต่ปาก เพราะแววตามุ่งมั่นตัดสินใจไปแล้ว

"ไม่หักหรอก เราจะพยายามให้ทีเดียวจอดเลย สามแสนจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวหลายหน"

"ไม่เป็นไรหรอกนายเรก เจ็บตัวกี่หน สามแสนก็ทนได้"

"เรื่องนั้นเรารู้อยู่แล้ว แต่ที่เรากำลังคิดอยู่นี่ มันหมายถึงคุ้มไหมที่ต้องลงทุนเจ็บตัวอย่างนี้เพื่ออาดุ"

"คุ้มสิ"

"สามแสนน่ะสิคุ้ม เราน่ะกลัวว่าพอฟื้นแล้วจะโดนอาดุว้ากเข้าให้"

"ไม่เป็นไรหรอก ความรักสอนให้สามแสนอดทนได้ทุกอย่างอยู่แล้ว"

"สามแสน"

"รู้ไหมนายเรก เวลาห้าปีสำหรับคนอื่นอาจจะสั้นยาวเพียงเท่านั้น แต่สำหรับสามแสน มันยิ่งกว่าห้าชาติเสียอีก สามแสนก็ยังอดทนและรอจนถึงวันสุดท้ายของมันได้ ประสาอะไรกับแค่เจ็บตัว หรือโดนพี่ชายด่า"

"แล้วหลังจากนั้น ก็จะได้หัวใจเขามาครองใช่ไหม"

"ฮื่อ"

พอสิ้นคำมุ่งมั่น เขาก็ตบเปรี้ยงเข้าให้เลย สามแสนคนเก่งก็ล้มพับทับอกให้ยกแบกพาดบ่าได้อย่างสบายๆ เขาไม่กล้าบอกให้รู้ตัว เกรงว่าเจ้าตัวจะเกร็ง แล้วเขาเองก็อาจจะทำไม่ลง ตั้งแต่เกิดมา สามแสนเป็นเหยื่อฝ่ามือรายแรกเลยนะ แม้จะทำด้วยความจำเป็น แต่เขาก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเอง 'ไม่ใช่ลูกผู้ชาย'




นายขมิ้นทองหายไปครู่หนึ่ง แล้วกลับออกมาพร้อมกับผ้าขาวม้าผืนใหญ่ ระหว่างรอนายขิงผลัดไปเนือยๆ โจรเจนโลกก็มองออกว่า 'เรื่องนี้มันไม่ปกติ' เพื่อนรักประสบเหตุทั้งที แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย แต่สีหน้าแววตาของพ่อรูปหล่อ มันกลับเฉยเยอะไปหน่อย

"ไปเจอแถวไหนน่ะ" เขาซักถามด้วยเสียงเรียบเรื่อย จ้องตากันเล็กน้อย

"ราวป่าทางโน้นครับ"

"บอกตำแหน่งมาชัดๆ เดี๋ยวจะส่งลูกน้องไปสำรวจซ้ำ เผื่อเจอร่องรอยโจรดงอื่นบ้าง"

นายขิงยิ้มเจื่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะระบุตรงไหนดี เขาไม่ใช่คนในดงโจรเสียด้วย แล้วตั้งแต่จำความได้ ก็เพิ่งจะหนนี้ล่ะ ที่มีโอกาสได้เข้ามาเหยียบ

"คืนนี้ค้างเสียที่นี่ แล้วพรุ่งนี้พาไปดูจุดที่เจอแม่หนูนั่น"

"เอ้อ.. "

"หรือไม่ก็เล่ามาให้ละเอียดว่าเรื่องมันเป็นยังไง อ้อ ฉันหมายถึงเรื่องจริงน่ะ"

โดนตบบ่าหนักๆ สองสามตึก พ่อหนุ่มรูปงามนามสั้นก็มีอันยิ้มเจื่อนอีกหน แววตาของผู้ใหญ่ฉายความฉลาดปราดเปรื่องชอบกล

"ลุงขมิ้นก็" เขาทำเป็นกลบเกลื่อน แล้วยอกย้อนไปว่า "ไม่ต้องมาคาดคั้นเลยน่า ตัวเองก็เถอะ ทำความผิดอะไรไว้ อย่านึกว่าผมไม่รู้นะ"

"เออ แกก็บอกมาดูซิว่า ฉันทำผิดอะไร"

"ก็ร่วมมือกับสามแสนกลั่นแกล้งอาดุไง นึกหรือว่าถ้าอาดุรู้ทีหลังแล้วจะไม่เอาเรื่อง ระวังจะโดนต่อยปาก"

"ทำไมต้องระวัง เมื่อกี้นี้ก็โดนไปแล้ว แกไม่เห็นปากฉันหรือ เจ่ออยู่นี่"

'อ้าว' นายขิงอุทานขำๆ เพิ่งสังเกตเห็นเหมือนกัน ใจคอเริ่มเสียวๆ อีกแล้ว หากนายดุทราบภายหลังว่า ทั้งหมดเป็นแผนลวงล้วงใจของเขา ปากสวยๆ ที่สาวๆ อยากให้ประทับจุมพิต มันจะเจ่อหรือว่า 'แตก'

สายตาคาดคั้นฉลาดๆ กับฐานะ 'จำเลย' เหมือนๆ กันกระมัง ทำให้นายขิงยอมคายแผนลวงล้วงใจออกมาเกลี้ยงกริบ แผนเด็ดมันเริ่มต้นมาจากประโยคพึมพำของสามแสนที่ว่า 'ต้องรอให้สามแสนตายก่อนหรือยังไง'

"ผมว่ามันน่าจะได้ผลนา" เขาสำทับถึงผลลัพธ์ที่ปรารถนา "ถ้าอาดุรักสามแสนอยู่บ้าง เขาก็น่าจะคายๆ อะไรในใจออกมาสักเล็กน้อย หรือถ้าจะคายหมดก็ยิ่งดี นิยายรักของสามแสนจะได้จบแบบหวานๆ ฉ่ำๆ "

นายขมิ้นทองหรี่ตาสุขุม แผนลวงล้วงใจของหนุ่มชาวดงรูปหล่อ มันก็ไม่เลวนัก เขานึกทึ่งกับความทุ่มเทของสามแสนอยู่ในใจ จะมีผู้หญิงสักกี่คนลงทุนบากบั่นฟันดง ยอมให้เพื่อนตบสลบคามือ แค่ว่าอยากได้หัวใจของหนุ่มดุจอมดื้อไปเป็นรางวัล แล้วก็ยังไม่มีใครฟันธงได้อีกด้วยว่า 'จะได้หรือเปล่า'

"ลุงขมิ้นทำไมเงียบไปครับ"

"ก็กำลังคิดว่าถ้าแผนของแกมันล้มเหลว แม่หนูใจเด็ดมันจะผิดหวังมากแค่ไหน"

"ผมว่าไม่นะ" นายขิงแย้งเสียงอ่อน ยิ้มบนปากสวยก็อ่อน "เมื่อกี้นี้เราก็เห็นนี่ อาดุร้องไห้เลยตอนเห็นสภาพของสามแสน คนสองคนนี้รักกันครับ แต่มีบางอย่างมันขัดแย้งกันอยู่ในใจ จึงทำให้ขัดๆ กันอยู่เรื่อย ไม่เข้าล็อกเข้ามุมเสียที"

"ทำเป็นรู้ดี"

"รู้สิครับ ก็อาดุประกาศลั่นกระท่อมสั่นว่ารักสามแสน ใบพลูก็ได้ยิน ผู้กองก็ได้ยิน"

"จริงหรือวะ" นายขมิ้นทองตาโต ถามซ้ำกระตือรือร้น

"จริงเสียยิ่งกว่าจริง"

พ่อรูปหล่อก็รีบสำทับเข้มแข็ง หัวหน้าดงโจรวัยดึกจึงค่อยยิ้มกริ่ม แบบนี้ก็น่าจะมีแววเข้าล็อกเข้ามุมมาให้เห็นกันบ้าง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอจนแม่หนูใจเด็ดฟื้นเสียก่อน เพราะเรื่องน่าลุ้น มันรอให้อุบัติหลังจากนั้นล่ะ

'เอ หรือว่าดงโจรจะถูกเปลี่ยนชื่อเสียแล้วจริงๆ ' ตอนท้ายของความคิดกระหยิ่ม นายขมิ้นทองก็หัวเราะออกมาเบาๆ

นายขิงพยักพเยิดเหมือนถาม เขาก็โบกมือแทนคำตอบ รอให้เรื่องที่รอลุ้น มันลงเอยด้วยดีก่อนเถอะ แล้วเขาจะบอกเองว่า นับจากนั้นไป ดงโจรที่เขาปกครองอยู่ จะเปลี่ยนชื่อใหม่แล้ว เป็น 'หมู่บ้านหวานรัก ณ ปลายดง'




แผนลวงล้วงใจของนายขิงสิ้นสุดลงตอนกลางดึก สามแสนรู้สึกตัวพร้อมกับอาการระบมนิดๆ แก้มเหมือนจะบวม เธอเกือบหัวเราะตอนลืมตาแล้วเห็นหลังคากระท่อมกับแสงตะเกียงเต้นไหว

ภาพยังไม่ค่อยคมชัด จึงต้องหลับตาลืมตาอยู่สองสามหน กระทั่งทุกอย่างกระจ่างหมด สามแสนจึงค่อยขยับตัว คะเนไม่ถูกว่าตอนนี้มันดึกแค่ไหน รับรู้ได้เฉพาะความเงียบเท่านั้น มันสงัดจนน่าอึดอัด ร่างใต้ผ้าห่มอุ่นจัด สามแสนกุมไว้เหนืออก อยากลุกขึ้นแต่ก็ไม่กล้าผลีผลาม เสียงก็ไม่กล้าเปล่ง

พี่ชายอยู่ไหนนะ เพื่อนรักชาวดงตบหน้าเต็มแรงเชียว สามแสนสลบไปตอนไหนก็ไม่รู้ เขาเล่นละครเก่งหรือเปล่า ตบตาพี่ชายได้ไหม หรือว่าโดนล้วงตับคายความจริงเกลี้ยงแล้ว พี่ชายไม่ใช่คนโง่หรอก คิดจะหลอกเขา ถ้าไม่เนียน มีสิทธิ์โดนเตะคอหัก

'อุบะ' เสียงอุทานมันลั่นอยู่ในใจ สามแสนตาโตห่อปาก เมื่อพบว่าพี่ชายยืนหันหลังให้ตรงหน้าต่างนี่เอง เธอเวียนหัวนิดหน่อย เดาว่ามันคงเป็นฤทธิ์ระบมตกค้าง

"พี่ชาย" เธอเรียกเบาๆ วาบหวามซาบซ่านรุนแรง เมื่อเขาหันขวับแล้วผลุงมาชิดชนเข่าทันที

"ฟื้นแล้วหรือ แล้วลุกขึ้นทำไม นอนลง"

"ไม่เป็นไร สามแสนสบายดี แล้วนี่ ที่นี่.. "

"สามแสนปลอดภัยแล้ว หิวไหม พี่ตั้งสำรับไว้ให้ตั้งแต่หัวค่ำ มันเย็นหมดแล้วล่ะ แต่ก็ฝืนกินเข้าไปเถอะ"

น้ำตาซึมอย่างอิ่มเอม เมื่อได้ยินเขาแทนตัวเองว่า 'พี่' มันไม่ใช่เพราะวลีนั้น แต่เพราะน้ำเสียงอบอุ่นเหลือเกินต่างหาก มันทำให้สามแสนระลึกย้อนกลับไปในคืนนั้น

เขากอดสามแสนแน่นหมดสองแขน จูบหน้าผาก จูบแก้ม แล้วกอดอีก ดั่งว่าอาลัยอาวรณ์ แต่จำใจจาก เขาแทนตัวเองด้วยวลีสนิทสนมผูกพันทุกคำ เหมือนตอนนี้

"เป็นอะไร เจ็บตรงไหนหรือเปล่า แก้มเราบวมๆ ไปนะ เหมือนโดนใครตบมา เจอเรื่องร้ายระหว่างทางไหม บอกพี่มาเลยสามแสน พี่จะไปจัดการให้"

เขาช่วยประคองคนดีให้ลุกมานั่งหน้าสำรับ ไม่บอกเธอก็แล้วกันว่า หัวใจทั้งดวงมันเบาโหวง ภูเขาระกำระเบิดเปรี้ยงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตั้งแต่ได้ยินเสียงเรียกพี่ชาย หมดเคราะห์หมดโศกเสียที สามแสนของเขาปลอดภัย และฟื้นขึ้นมานั่งตาแป๋วให้เขายลอย่างชื่นอารมณ์

"ป้อนเองไหวไหม อ้อ ดื่มยาถ้วยนี้ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว"

'ดื่มยาอีกแล้วหรือ สามแสนไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย' สาวอิดออดบ่นร้อนรนในใจ สีหน้าเหม็นเบื่อเรียกรอยยิ้มดุผุดขึ้นบนปากหยักสวย

"อย่ามาทำลีลา แค่ยาถ้วยเดียว ดื่มเข้าไป"

"พี่ชาย" สามแสนอ้อน

"สามแสน ดื่มเลย เดี๋ยวนี้สามแสน ดื่ม"

'นายเรกนะนายเรก โดนตบอีกสักสองสามฉาด สามแสนก็รับไหวนะ แต่ไอ้ยาถ้วยนี้นี่สิ นายเรกทำให้สามแสนต้องกลั้นใจกรอกใส่ปากอีกแล้ว' สามแสนบ่นในใจ พลางหลับหูหลับตากรอกยาเย็นชืดกลืนเอาๆ

ภภีมยิ้มอย่างมีความสุข แววตาก็เอ็นดูเหลือล้น เขายังปรารถนาร้อนแรงถึงขั้นอยากจุมพิตซับรอยขมบนปากจิ้มลิ้ม ยินดีโลมเลียรสเฝื่อนที่ซึมลึกในลิ้นเล็กคนดี หากยังไม่หายพะอืดพะอมอีก ก็ยังมีวิธีอื่นหันเหให้ลืมแบบหมดจิต เช่นว่า 'ประทับเสน่หา'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 07:56:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com