ตอนที่ 11
เด็กชายบอยก้มหน้าก้มตาก้าวขึ้นมายังเรือนหลังเล็กของอาคเนย์ในขณะที่ชายหนุ่มยังนั่งร้อยเรียงบทละครที่วางพล็อทเอาไว้ เด็กชายยังสวมชุดนักเรียน เสื้อขาวมีรอยเปื้อนขะมุกขะมอมมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา บอยอ้อมแอ้มทักแล้วปลีกตัวไปทำความสะอาดพื้นซึ่งเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
แทนที่จะเล่าโน่นเล่านี่ตามประสาคนช่างพูด เจ้าตัวกลับเลี่ยงไปทำงานอย่างเงียบเชียบ ผิดปกติจนชายหนุ่มต้องวางมือจากงาน
เป็นอะไรนายบอย วันนี้มาแปลก อมอะไรเอาไว้หรือ?
เขาอดหยอกเย้าไม่ได้ รู้สึกบ้านเงียบเหงาไปถนัด ทุกทีไม่มีเงียบ
เปล่าครับ... พูดไม่ชัดเหมือนอมอะไรเอาไว้
อาคเนย์จึงลุกขึ้น จับบ่าเด็กชายมาดู คนตัวเล็กกว่ายิ้มปากเบี้ยว เพราะตรงมุมปากมีรอยบวมแดงอมม่วง หัวคิ้วมีแผลแตกเป็นแนวเล็กๆ ไม่รวมสภาพอย่างอื่น
ไปต่อยกับใครมา? คำถามกลั้วหัวเราะ
เรื่องแบบนี้คนตัวโตกว่าเคยมีประสบการณ์บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก โรงเรียนในกรุงเทพฯ และสังคมรอบข้างไม่ค่อยเอื้อ ยิ่งเข้าวงการแล้วยิ่งไม่มีเรื่องแบบนี้ ที่สำคัญ เขาไม่ใช่พวกชอบใช้กำลัง
กับเพื่อนที่โรงเรียนครับ
เจ้าตัวสูดปากเมื่อถูกนิ้วโป้งของนายอาร์คแตะเบาๆ ที่รอบแผล
ไหวหรือเปล่า? ถ้าไม่ไหวก็กลับไปบ้าน แล้วพักผ่อนเสีย ทางนี้เว้นไว้สักวันคงไม่สกปรกมากนักหรอก
ชายหนุ่มไม่ถามว่าผลของการมีเรื่องเป็นอย่างไร ไม่อยากแสดงอะไรที่เป็นการสนับสนุนการใช้กำลัง ถึงจะเป็นประสบการณ์วัยเด็กของผู้ชายส่วนใหญ่ก็ตาม เมื่อวันก่อนเด็กชายยังมาจ้ออยู่ว่ามธรินอนุญาตให้ไปฝึกต่อยมวยกับคนงานข้างในไร่ ได้ยินว่าทำเป็นสนามซ้อมเอาไว้เป็นกิจกรรมของคนในไร่ ไม่ทันไรก็ได้ใช้วิชาเสียแล้ว
ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมเด็กชายยังมีความไม่สบายใจ ดูหงอยไปถนัด ไม่นานเด็กสาวดาราก็ถือถาดอาหารมาให้ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นหน้าที่ของคนตัวเล็ก เจ้าหล่อนส่งยิ้มให้อาคเนย์แต่ไกล
บอย เดี๋ยวจัดอาหารอาหารเย็นให้นายอาร์คเสร็จแล้ว ให้ไปหาคุณรินที่บ้านใหญ่นะ ไปทำอะไรมา...ดูสิ เป็นเรื่องเลย
สองคนกระซิบกระซาบ คนแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นญาติกันทั้งนั้น รู้จักกันไปหมด
คุณรินบอกแล้วใช่ไหมว่าว่าอย่าลองของ แล้วเป็นอย่างไร...เจ็บตัว!...หาเรื่องจริงๆ
พี่สาวตำหนิ แฝงด้วยแววห่วงใย
แต่บอยก็ชกชนะนี่นา
ท่าทางคนชนะไม่ได้ดีใจสักนิด เถียงลงข้างคูเสียมากกว่า
อ๋อ...อย่างนั้นหรือ? แล้วได้รางวัลอะไรมาล่ะ? นอกจากจะยิ่งแย่ใหญ่... คุณรินคงปลื้มตายล่ะ หาเรื่องแท้ๆ เชียวนะเรา
เด็กสาวบ่นเป็นภาษาเหนือ อีกยาวเหยียด
อาคเนย์ฟังรู้เรื่องบางคำ ดีกว่าตอนมาอยู่แรกๆ มาก เพราะมีคนขยันช่างคุยอยู่ใกล้ตัวหลายคน สมหมายพ่อของบอยก็อีกคนหนึ่งช่างซัก ช่างถาม
ดารา คุณรินเรียกบอยไปพบทำไม?
จะว่าสอดรู้ก็ช่าง เขาไม่อยากเป็นบุคคลที่ไม่ทราบเรื่อง อย่างน้อยเด็กชายบอยยิ่งนับว่าเป็นเพื่อนสนิทในยามนี้รองลงมาจากลุงเศกและป้าแสง
ดาราเปลี่ยนมาเป็นภาษากลาง ออกจะเหน่อแต่ฟังง่ายกว่า
เรื่องที่โรงเรียนค่ะ คุณครูโทรศัพท์มาแจ้งตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆ แล้วว่ามีเรื่องกับเพื่อนข้างห้อง นี่บอย...ยังไม่ได้เล่าให้นายฟังใช่ไหมคะ? ก็แน่ล่ะว่าไม่กล้า...ไม่ใช่เรื่องที่จะโพนทะนาเล้ย! ตอนนี้คุณรินโกรธใหญ่... นี่สั่งว่าเสร็จจากที่นี่แล้วให้บอยขึ้นไปรายงานตัวตามระเบียบ
ระเบียบ นี่น่าจะมีมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่กระมัง
ทำไมทางโรงเรียนถึงแจ้งคุณรินล่ะ ไม่ใช่พ่อแม่ของบอยหรอกหรือ?
อ๋อ...คุณรินเป็นผู้ปกครองค่ะ เด็กในไร่อิงฟ้าทุกคนนี่ พ่อแม่เค้าฝากให้คุณรินเป็นผู้ปกครองหมด พ่อแม่เอาไม่อยู่หรอก ทั้งซนทั้งร้าย เดิมคุณปู่ที่เสียไปรับจัดการให้ พอท่านไม่อยู่แล้ว คุณรินก็รับหน้าที่แทน อย่างบอยนี่คุณรินก็ดูแลเหมือนเป็นแม่มาเป็นปีแล้ว
ชายหนุ่มได้ความรู้จากลุงเศกมาว่าตัวเด็กดาราเองต้องนั่งรถไปเรียน กศน.ในวันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อปรับวุฒิตามคำสั่งเช่นกัน มาอยู่ได้ไม่นาน แต่พอจะสัมผัสได้ ทุกคนต้อง...ฟัง! และทำตามถ้าถูกนายหญิง สั่ง
ดูเจ้าของไร่อิงฟ้าจะมีอำนาจที่จะกำหนดชีวิตคนในไร่นี้แทบทั้งสิ้น
...ไม่อยากไปเลย...
คนก่อคดีอิดออด คงอยากหนีไปให้ไกล
ไปเหอะ ให้คุณรินทำโทษยังดีกว่าไม่ใส่ใจนะ ถ้าเกิดคุณรินไม่ยุ่งด้วย เราน่ะจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง
คุณรินมือหนัก...ตีที...เจ็บจะตาย คนเป็นน้องโอดครวญ
แล้วก่อนทำ ทำไมไม่คิด จำได้ว่าคุณรินเตือนแล้ว คุณรินพูดเอาไว้ผิดที่ไหนว่าต้องมีเรื่อง บอยเองก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ นี่แหละ...คุณรินถึงโกรธ ไม่รักษาสัญญา พี่สาวเตือนย้ำความผิด
เด็กดาราแม้จะดูซื่อ แต่ไม่ใช่คนไม่รู้ความว่าอะไรถูกอะไรผิด เจ้าหล่อนยังรู้จักสั่งสอนน้อง
ก่อนกลับไปที่เรือนใหญ่ บอยยังถูกกำชับหนักแน่นให้รีบตามไป เด็กชายคอตก ทำงานอย่างเนือยๆ เพื่อซื้อเวลา จนอาคเนย์เห็นว่าเย็นมากแล้ว
บอย ไปหาคุณรินเถอะ ทางนี้ฉันจะจัดการเอง
ครับ..
คอที่ตกอยู่แล้วยิ่งตกไปยิ่งกว่าเดิมอีก
ร่างสูงใหญ่แตะบ่าไปส่งถึงหน้าเรือน ก่อนจะมองตามหลังเด็กชายไปด้วยความเป็นห่วง ไม่ทราบว่ามธรินจะใช้วิธีไหนทำโทษเด็กชาย? คนรุ่นเก่าๆ ชอบเลี้ยงเด็กด้วยไม้เรียว และหล่อนเองน่าจะเป็นตัวแทนของคนกลุ่มนั้น ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องป่าเถื่อนและล้าสมัยที่สุด ที่ใช้สอนเด็กด้วยวิธีนี้
ทั้งๆ ที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ทว่า....
อาคเนย์ตัดสินใจยังไม่จัดการอะไรกับอาหารเย็น ชายหนุ่มเดินเข้าไปยังตัวบ้าน มีเพียงลุงเศก ป้าแสงและเด็กในบ้านอยู่รวมกันด้านหน้า มีกิ่งไม้วางบนโต๊ะไม้สองสามอัน แสดงว่าอันที่ดีที่สุดคงถูกเลือกไปแล้ว!
น้ารินกับบอยล่ะครับ?
ไม่จำเป็นต้องปิด ไม้เรียวไม่ควรถูกใช้อีกต่อไป!
กำลังพิพากษาอยู่ในห้องทำงานค่ะ คุณอาร์คมีธุระอะไรหรือคะ รอก่อนดีไหมคะ? ให้เขาชำระความกันให้เสร็จก่อน
ผมมีเรื่องจะพูดกับน้ารินเรื่องเดียวกันนี่แหละครับ!
ชายหนุ่มไม่รอให้ใครห้าม ถือวิสาสะเดินผ่านทุกคนเข้าไปตรงห้องทำงานของเจ้าของไร่ น่าแปลกใจที่เขาไม่เห็นพ่อแม่ของบอย ทั้งๆ ที่ลูกชายกำลังถูกทำโทษด้วยวิธีที่ป่าเถื่อน น่าจะห่วงหรือทุกข์ร้อนกันบ้าง!
มือใหญ่ หนัก เคาะประตูห้องทำงานของนายหญิงแห่งไร่อิงฟ้า แล้วเปิดเข้าไปโดยไม่รอให้เจ้าของอนุญาต
บอยกำลังยืนก้มหน้าเหมือนเด็กทั่วไปที่รู้ตัวเองว่าทำผิด ในขณะที่มธรินกำลังนั่งบนเก้าอี้หันหน้าเข้าหาเด็กชาย ในมือมีไม้ที่ถูกเหลายาว การสอบสวนคงจบลงแล้ว ต่อไปคือ...การลงทัณฑ์
หญิงสาวดูประหลาดใจ เมื่อเห็นเขาเข้าไปในห้อง
คุณอาคเนย์ รอสักครู่ได้ไหม? ฉันกำลังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอยู่
น้ำเสียงคนพูดไม่ได้ดีไปสักเท่าไหร่
อาคเนย์ขึงขัง ไม่อยากให้มีการทำการใดๆ ที่เรียกว่า ป่าเถื่อน ยิ่งท่าทีของคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้สักใหญ่ ไม่มีแววสนุกสนานใดๆ ทั้งสิ้น
ขออนุญาตนะครับน้าริน ผมคิดว่าไม้เรียวไม่ควรจะเป็นทางออกของการลงโทษ
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เดาะไม้ลงบนมือของตัวเอง ก่อนจะตอบ
ขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็น ทางที่ดี คุณช่วยปล่อยให้ฉันจัดการเรื่องนี้เองดีกว่านะ
ไม่มีใครพอใจหรอกถ้าหากว่ามีใครสักคนโผล่มาวิจารณ์การการทำของตนเอง หากเจ้าของไร่อิงฟ้าควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าหลายคนที่เคยรู้จัก ทุกอย่างราบเรียบและเคร่งขรึม ผิดจากมธรินคนช่างเล่น แกล้งอำที่เคยเห็นมาตลอด
ผมไม่เห็นด้วยกับการที่น้ารินจะตัดสินลงโทษบอยด้วยการตี การลงโทษแบบโบราณควรจะหมดไปได้แล้ว ทำแบบนี้ไม่ได้ทำให้เด็กหลาบจำได้หรอกนะครับ
ตาสีเข้มมองตรงมาแน่วนิ่งคล้ายกับเข้าใจเรื่องที่เขากำลังคิดได้ทะลุปรุโปร่ง
ขอบคุณอีกครั้ง ...สำหรับความคิดเห็นที่มีค่า ตรงตามหลักวิชาการสากลสมัยใหม่ แต่นี่เป็นเรื่องของฉันกับบอย เป็นเรื่องสัญญาของคนที่จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ปกครองและรับผิดชอบต่อการกระทำทั้งหมดของเขา ให้ฉันเป็นคนตัดสินใจจะดีกว่า
แม้น้ำเสียงจะนิ่ง หากความเป็นคนมีอำนาจมาจากเนื้อแท้ บางครั้งก็เสแสร้งกันไม่ได้ ชายหนุ่มเคยได้รับคำชมมากมายจากการแสดงเป็นเจ้าชาย เศรษฐี ผู้ดีเก่า หรือกระทั่งนายทหาร หากนั้นก็คือการแสดง ในชีวิตจริง...เขาทำไม่เป็น!
ที่ผ่านมา อาคเนย์ไม่เคยแปลกใจเมื่อเห็นปริญตำหนิหรือสั่งพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเพื่อนของเขามีภาพลักษณ์ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาตั้งแต่ต้น แต่กับมธริน...น้ารินที่เอาแต่หัวเราะไปวันๆ เหมือนไม่ใยดีอะไรทั้งนั้นนอกจากคอยลี้หลบโลกที่เต็มไปด้วยพิธีรีตอง กฎข้อบังคับแบบโบราณ น้ารินที่อ่อนโยนของปริญ เจ้าของไร่อิงฟ้าที่มักยิ้มแย้ม ก่อกวน กลั่นแกล้งคนรอบข้างเลือนหายไป
หล่อนกลายเป็นคนแปลกหน้าที่ยิ่งกว่าแปลกหน้าไปในยามนี้!
มาดของมธรินไม่ต่างไปจากปริญยามที่มีอะไรสักอย่างที่ต้องจัดการกับผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เคยคิดมาก่อนว่าปริญกับมธรินมีส่วนคล้ายกัน แต่ทว่า...เรื่องงานไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้... ถึงบอยจะเป็นคนในบ้านก็ตาม!
เราควรจะใช้เหตุผล ต้องสั่งสอน ไม่ใช่การทำร้ายกันอย่างป่าเถื่อนแบบนี้ การตี เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนที่สุด
ป่าเถื่อน? หล่อนทวนคำเสียงเยาะ ทำร้าย?
นี่เป็นวิธีหนึ่งที่สร้างคนให้เป็นคนดีมาไม่รู้มากมายเท่าไหร่ ฉันเองก็โตมาด้วยไม้เรียว
ความเชื่อเก่าๆ ที่ล้าสมัย คือความเห็นของชายหนุ่ม
ผมนี่อย่างไรเล่า ไม่เคยถูกพ่อแม่ตี แต่ผมก็โตมาได้และผมก็เกลียดครูที่ทำกับผมอย่างป่าเถื่อน ไม้เรียวไม่ได้ทำให้ผมเป็นผู้เป็นคนได้หรอก
เขาเห็นเด็กชายบอยยืนตัวลีบ มองคนนั้นทีคนนี้ที ด้วยความลำบากใจ
อือม์... เจ้าของไร่อิงฟ้าทำเสียงรับทราบ
แล้วคุณใช้เวลานานเท่าไหร่? กว่าที่คุณจะตระหนักถึงสิ่งที่คุณควรจะทำ ...นานเท่าไหร่?...กว่าที่คุณจะทราบถึงความผิดพลาดในชีวิตและแก้ไขมัน มีมากเท่าไหร่? ที่คุณนึกเสียใจว่าถ้าไม่ทำ...จะดีกว่านี้ และมีใครกี่คน? ที่ให้โอกาสคุณ ถ้าคุณไม่ได้ให้โอกาสตัวเองก่อน
อาคเนย์อึ้งเมื่อถูกย้อนถามว่าคนที่ปิดใจไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆ น่าจะเป็นใครกันแน่?
บางสิ่งบางอย่างจากตาสีเข้มบอกไว้ว่า มธรินคงพอจะทราบประวัติที่ผ่านมาของเขาไม่มากก็น้อย อาคเนย์เป็นคนที่ผ่านชีวิตที่มีชื่อเสียงสูงสุดในช่วงของวัยรุ่น ความหลงระเริงในชื่อเสียงและเงินทองทำให้พลั้งพลาด และทำให้คนรอบข้างผิดหวัง โชคดีที่เขากลับมาย้อนคิดได้ แต่บางอย่างก็ไม่ทันเวลา เพียงแต่เพราะรูปลักษณ์ ชื่อเสียง ที่ทำให้คนรอบข้างพากันลืมสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
แล้วถามหน่อย คนที่นี่! จะได้รับโอกาสจากสังคมที่จะรำลึกถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้วแก้ไข ได้มากเท่าคุณไหม? เพราะพวกเขาไม่ใช่คนมีชื่อเสียง ไม่ใช่คนที่ทุกๆ คนพร้อมจะให้โอกาส ...โลก...ไม่ได้มีคนคอยอ้าแขนรับตลอดชีวิตหรอกนะ
หญิงสาวดูเลือดเย็นและร้ายกาจในสายตาของชายหนุ่ม
แต่จะไม่มีใครยอมรับสิ่งที่น้ารินกำลังทำ! ไม่อย่างนั้น แม้กระทั่งโรงเรียนยังต้องมีการออกกฎหมายไม่ให้ครูตีนักเรียน
คุณอาคเนย์...
หล่อนลากเสียงยาว ราวกับจะสั่งสอนอาคเนย์อีกคน
โรงเรียนมีกฎของโรงเรียน บ้านมีกฎของบ้าน ไร่อิงฟ้านี้ก็มีกฎ ซึ่งเราตั้งเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
มันไม่มากไปหน่อยหรือที่จะตั้งกฎบ้าบอตามใจชอบ?
ชายหนุ่มทราบทีหลังด้วยซ้ำว่ากฎส่วนใหญ่ คนของไร่อิงฟ้าทั้งหมดต่างหาก...ที่ช่วยกันคิดและตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลกันเองทั้งนั้น
เสียใจนะ ฉันไม่บ้าจี้ไปยึดทฤษฎีไร้ไม้เรียวเหมือนคนตะวันตกหรอก ไม้เรียวยังศักดิ์สิทธิ์เสมอ ถ้าใช้ถูกวิธี แต่จะถูกจะผิด คนที่จะต้องตัดสินใจไม่ใช่คุณ คนที่จะโดนไม้เรียวต่างหาก! ...ต้องคิด!
อาคเนย์ชี้ไปที่ร่างเล็กๆ ของบอยอย่างเหลืออด
เด็ก! นี่คือเด็ก! จะให้เขาคิดอะไรกัน?
จะคาดคั้นอะไรนักหนา วัยขนาดนี้ ตัวเล็กนิดเดียว!
มธรินไม่ต่อความ วางไม้มะยมลงบนโต๊ะทำงานให้เห็น ไม้เรียวยาวอย่างนี้หากสะบัดที....
หันไปหาคนกลางที่ยืนเช็ดน้ำตาป้อยๆ โดยไม่สนใจว่าใครอีกคนยังยืนอยู่ในห้องอีกต่อไป
บอย...คุณรินจะถามบอย...จะยอมให้คุณรินตี 10 ทีตามสัญญาไหม? ถ้า... ไม่ยอม คุณรินจะหักไม้เรียวนี้ทิ้งเสีย แล้วเราก็ไม่ต้องมามีสัญญาอะไรกันอีกต่อไป บอยสามารถกลับไปบ้าน อยากทำอะไรก็ทำไป คุณรินจะไม่ยุ่งอีกแล้ว
ไม่เอาครับ บอยยอมให้คุณรินตี
เด็กชายสะอื้นน้ำตาไหลพราก อาคเนย์ยืนมองด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมทุกคนถึงยอม? ทำไมทุกคนถึงกลัวหล่อนทิ้ง?
หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบ ลุกขึ้นเดินมาที่หน้าโต๊ะ จ้องหน้าเด็กชาย
เอาล่ะ... คุณรินไม่สนับสนุนให้ใช้กำลัง... มวยที่ให้เรียน มีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง และปกป้องคนที่ตัวเองรัก ป้องกันคนที่อ่อนแอ ไม่ใช่ให้ไปหาเรื่องคนอื่นก่อน หรือไปอาจหาญรับคำท้าคนอื่นแบบโง่ๆ เมื่อเรามีวิชาป้องกันตัว เราก็ได้เปรียบกว่าเขาอยู่แล้ว แต่กลับไปท้าทายเพื่อนเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนสู้เราไม่ได้ เพื่อจะได้หัวเราะเยาะเย้ยเขา นี่คือการรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ต่อไปจะทำแบบนี้อีกไหม?
ไม่แล้วครับ
ในเมื่อไปท้าเพื่อนชกต่อย แล้วชนะมาด้วยเล่ห์กล ผลตอบแทนก็ต้องเจ็บตัวมากกว่า จะได้รู้ คนอื่น...ก็เจ็บเป็น! ที่สำคัญก่อนจะให้เรียนมวย คุณรินขอสัญญาลูกผู้ชายเอาไว้จากบอย ไม่ต้องทวนหรอกนะว่าเคยพูดไว้ว่าอย่างไร แต่บอยไม่รักษาสัญญา!
...ครับ...
เด็กชายสะอื้น กอดอก ยืนหันข้างให้เจ้าของไร่อิงฟ้า เตรียมตัว!
คราวนี้มธรินหันมาบอกอาคเนย์ ใบหน้าของหล่อนเรียบ ... นิ่ง
คุณอาคเนย์... ถ้าคุณทนดูไม่ได้ ก็กลับไปที่เรือนเล็กของคุณเสีย หรือถ้าอยากจะปลอบใจก็ช่วยรอทีหลังก็แล้วกัน
เขายืนนิ่งไม่ขยับ อยากจะดูว่าจะน้าของปริญจะกล้าทำรุนแรงขนาดไหน?
มือเรียวบางกำไม้เรียวเริ่มดำเนินการทำโทษ โดยที่อาคเนย์ช่วยเพื่อนตัวเล็กไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้น! ไม้ที่ลงบนก้นของเด็กชายไม่ได้หวดเปาะแปะถนอมแรง เสียงขวับของไม้ตามด้วยเสียงกระทบกับก้นของเด็กชายดังก้องในห้องทำงาน ชายหนุ่มกำมือแน่น...อยากเข้าไปกระชากไม้เรียวออก แล้วลากบอยออกมา ถ้าบอยไม่ยืนกอดอกร้องไห้ พร้อมกับพึมพำ
บอยขอโทษครับ... บอยผิดไปแล้ว ต่อไปไม่ทำอีกแล้ว
ไม่ได้หลบหรือร้องขอให้ละเว้นโทษ
และทันทีที่มธรินบอกว่า ไปได้แล้ว
เด็กชายก็ยกมือไหว้ ร้องไห้ซิกๆ ออกไป ปล่อยให้อาคเนย์อยู่กับเจ้าของไร่อิงฟ้าไม่สะทกสะท้านว่าเพิ่งทำอะไรลงไปตามลำพัง
ผมไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะเป็นโหดร้ายอย่างนี้ การศึกษา หน้าที่รับผิดชอบ ไม่ได้ทำให้จิตใจสูงส่งได้เลย
อย่างนั้นหรือ?
หญิงสาวกระแทกไม้เรียวลงบนโต๊ะอย่างเหลืออด
ตาสีเข้มมองกลับมายังเขาเขม็ง คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างคนที่มีอำนาจเหนือกว่า ทั้งคุณวุฒิ...วัยวุฒิ
ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยคิดเสียใหม่ด้วย ฉันเป็นคนมีการศึกษา ได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่ฉัน...นิยมความป่าเถื่อน เป็นคนใจร้าย เลือดเย็น และบ้าอำนาจ พอใจแล้วหรือยัง?
เขาถือว่านี่เป็นคำท้า!
ถ้าอย่างนั้น มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว!
สุดทนสำหรับอาคเนย์ ชายหนุ่มมองหล่อนด้วยสายตากร้าว ตัดสินใจในทันที ไร่อิงฟ้าไม่น่าพิสมัยสำหรับเขาอีกต่อไป!
ขอบคุณที่แวะมาอ่าน
ของคุณที่แวะมา Like
ขอบคุณที่เข้ามาคอมเมนท์ค่ะ
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ