Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใต้เงาพระจันทร์ บทที่ 10 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 10
 
       ซาดิสท์รู้สึกหงุดหงิดอย่างยิ่ง ทำไมจะไม่ล่ะ ในเมื่อป๊อปปี้ ซัมเมอร์ ไม่พูดกับเขาเลยสักคำเดียวนับตั้งแต่กลับมาจากห้องขังของคริสต์ ดีแลนจนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ ซึ่งก็ผ่านมาหลายชั่วโมงและล่วงเข้าสู่วันใหม่แล้ว หล่อนเอาแต่นั่งอ่านหนังสือที่มีหน้าปกดูคล้ายนิยายประโลมโลกอยู่บนโซฟายาวหน้าเตาผิง พลิกหน้าซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น นี่ถ้าหล่อนอ่านจริงแม้แค่หน้ากระดาษเดียวเขาคงไม่โมโหมากขนาดนี้


       “คุณโกรธผมเรื่องอะไร คุณผู้หญิง” เขาถาม และเช่นเคย หล่อนเพียงยกหนังสือขึ้นเป็นเชิงบอกว่าหล่อนไม่สะดวกคุย ซาดิสท์กอดอก “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้อ่าน เพราะคุณพลิกกระดาษอยู่แค่สามสี่แผ่นนั้นมาหลายชั่วโมงแล้ว”


       แทนคำพูด หล่อนพลิกกระดาษอีกแผ่น ซาดิสท์จึงดึงหนังสือออกจากมือหล่อน


       ป๊อปปี้ถลึงตาใส่ “ฉันกำลังอ่านอยู่นะ”


       “ถ้าอย่างนั้น ช่วยบอกผมหน่อยว่าคุณกำลังอ่านถึงตอนไหน”


       หญิงสาวกลอกตาอย่างยอมแพ้และเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ประสานมือไว้บนตัก “ฉันอ่าน เพียงแต่ไม่มีสมาธิมากเท่าที่ควรเพราะฉันกำลังคิด”


       “ให้ผมเดานะ คุณคงคิดเรื่องเจ้าชายโง่เง่าสักคนที่ยอมทิ้งบัลลังก์ราชาเพราะผู้หญิง” ซาดิสท์พูดพร้อมกับปล่อยหนังสือ มันลอยค้างอยู่กลางอากาศชั่วครู่ก่อนเคลื่อนไปหล่นปุบนโต๊ะข้างเตียงซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง ป๊อปปี้มองตามตาละห้อยแล้วถอนหายใจ


       “ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วฉันกำลังคิดถึงเรื่องของเด็กคนนั้น ฉันอยากพาหล่อนหนีไป”


       “ตอนเช้าตรู่เป็นช่วงเวลาที่ดีครับ” ซีเสนอ


       “แต่หล่อนเกลียดฉันมากนะ” ป๊อปปี้พูดอย่างอับจน “หล่อนจะไม่มีวันเชื่อฟังฉันแน่นอน”


       “คุณแค่มัดหล่อนแล้วโยนออกไปไกลๆ ก็พอ” ปิศาจหนุ่มพูดหน้าตาย ป๊อปปี้จึงถลึงตาใส่เขาอีกครั้ง แต่จากนั้นหล่อนก็หลับตา โคลงศีรษะแล้วกอดอก


       “ทำไมเสือดำตัวนั้นถึงปล่อยให้หล่อนอยู่ตามลำพังนะ ที่สำคัญ ทำไมเขาถึงพาหล่อนเข้ามาอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนชั่วร้ายล่ะ”


       ซีเสยผมของตัวเอง “ผมเข้าใจเขานะ เป็นเรื่องยากที่สุภาพบุรุษอย่างพวกเราจะปฏิเสธคำขอร้องของสาวงาม”


       “เธอพูดเหมือนกับว่าเด็กคนนั้นหาเรื่องใส่ตัวเอง” ป๊อปปี้จ้องเขาอย่างเอาเรื่อง แต่ซียิ้มเจ้าเล่ห์ตอบ ใบหน้ามีเสน่ห์ของเขาทำให้แก้มหล่อนแดงก่ำ “ก็ได้” หล่อนกระแอม ปัดความหวั่นไหวออกไปจากหัวใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามหน่อยว่าคุณสุภาพบุรุษหายไปไหน ทำไมถึงไม่มาปกป้องสาวน้อยที่น่าสงสาร”  


       “เขาคงหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่งในคฤหาสน์นี้” ซีพูดพลางเดินมานั่งลงข้างหล่อน “ที่จริงผมเห็นเขากระโดดผ่านหน้าต่างอย่างรีบร้อนสองสามครั้ง ผมคิดว่าอาจเป็นการเสียมารยาทถ้าจะห้ามสุภาพบุรุษคนหนึ่งไม่ให้ไปทำธุระที่สำคัญ”


       “ช่างแสนดีอะไรอย่างนี้” ป๊อปปี้ประชดพลางหรี่ตามองปิศาจหนุ่มอย่างหมั่นไส้ หล่อนรู้ดีว่าซีจงใจให้เสือดำตนนั้นลอยนวลเพราะต้องการให้เขาปล่อยตัวพวกเด็กสาวที่ถูกจับมา เมื่อไม่มีเครื่องสังเวย ประตูก็ไม่ถูกเปิด “อย่างไรก็ตาม เสือดำตัวนั้นควรให้ความใส่ใจกับคริสต์ ไม่มีเด็กคนไหนสำคัญกว่าหล่อนอีกแล้ว”


       คำพูดของหญิงสาวทำให้ซีหัวเราะในลำคอ “นั่นเป็นความคิดของคุณคนเดียวเท่านั้น คุณผู้หญิง แต่ก็ต้องยอมรับว่าสำหรับผมแล้วไม่มีใครสำคัญมากไปกว่าคุณเช่นกัน”


       ทั้งที่อยากยิ้ม แต่หล่อนกลับค้อนใส่เขา “อย่าทำปากหวาน ฉันยังโกรธเรื่องเจ้าชายคนนั้นอยู่นะ”


       “อภัยให้เขาเถอะครับ เขาตกหลุมรักสุภาพสตรีที่ใจแข็งมากคนหนึ่ง” เขาพูดพลางเอนตัวเข้าหา ป๊อปปี้รีบขยับหนีจนกระทั่งหล่อนนั่งชิดพนักแขน ซาดิสท์ไม่ขยับตาม แต่เขาหยุดร่างของตนไว้ด้วยการวางข้อศอกเท้าพนักพิงหลัง เอี้ยวตัวไปทางหล่อน ยกขาข้างหนึ่งพาดไว้บนเข่าตัวเองแล้วถาม “คุณคิดว่าสุภาพสตรีคนนั้นจะตอบสนองต่อความรักของเขาไหมครับ”


       “ถ้าเป็นฉัน...” หล่อนกระแอมอย่างต้องการเรียกสมาธิเมื่อประสานกับดวงตาสีดำกรุ้มกริ่ม “ฉันจะพิจารณาถึงการวางตัวที่เหมาะสมและความซื่อตรงของเขา อย่างเช่น...” หล่อนนิ่งคิดครู่หนึ่ง “เขามีความลับกับฉันมากน้อยแค่ไหน”


       ซีกลอกตาขึ้นสวรรค์แล้วถอนหายใจ “ผมคิดว่าเขาไม่เห็นมันเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า แต่ในเมื่อผู้หญิงที่เขารักมากอยากจะรู้ เขาก็ยินดีตอบครับ”


       “ทุกเรื่องเลยหรือเปล่า” ป๊อปปี้ถามหยั่งเชิง


       “เท่าที่จะตอบได้ครับ”


       หญิงสาวทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมเอี้ยวตัวเผชิญหน้ากับเขา มือทั้งสองกุมประสานกันไว้บนตัก “ถ้าอย่างนั้นขอคำถามแรก ทำไมหลังจากที่เขาสละบัลลังก์ พ่อของเขาถึงไม่ยอมแต่งตั้งสายเลือดอีกคนขึ้นมาแทนล่ะ”


       “เพราะชายผู้ครอบครองบัลลังก์คนนั้นมีบุตรสายเลือดแท้เพียงคนเดียวครับ น้องชายของเขาเป็นลูกครึ่งมนุษย์ ซึ่งถือว่าต่ำต้อยเสียยิ่งกว่าลูกครึ่งชนเผ่ากลายร่างเสียอีก”


       โอ ปัญหาเรื่องชนชั้น ป๊อปปี้หลับตา นึกสงสัยว่าถ้าหล่อนกับซีแต่งงานกันจริง ราชาปิศาจจะขัดขวางหล่อนในภายหลังหรือไม่ “ดูเหมือนว่าความรักของเขาจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”


       “ผมเห็นด้วย” ซีพูด แต่ดวงตาของเขาบอกว่าการเอาชนะใจหล่อนต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องง่าย


       “คำถามต่อไป” หญิงสาวก้มมองมือที่ประสานกันของตัวเองเพื่อหลบตาเขา “ฉันอยากรู้เรื่องของเสือดำตัวนั้น”


       “แค่ไพร่คนหนึ่งที่บังเอิญโชคดี” ซียักไหล่พร้อมกับเอนร่างนั่งตัวตรง “เขาเป็นสายเลือดชั้นต่ำยิ่งกว่าลูริด ผมคิดว่าแม่ของเขาเป็นหญิงบริการของพวกปิศาจ”          


       ป๊อปปี้เหลือบมองปิศาจของหล่อน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อความหึงหวงวูบขึ้นมา “เธอรู้จักเขาหรือแม่ของเขาเป็นการส่วนตัวรึ”


       “ไม่เป็นการส่วนตัวครับ” ซาดิสท์พูดพลางเกาคางด้วยนิ้วหนึ่ง สีหน้าท่าทางเหมือนไม่รู้ความนัยของหล่อนเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ใจ “อันที่จริงผมเคยเห็นเขาแค่ครั้งเดียว ตอนนั้นเขาตายและกำลังจะถูกโยนลงบ่อขยะ”


       “เห็นได้ชัดว่าเขายังมีชีวิตอยู่” ป๊อปปี้เกือบถอนหายใจโล่งอกและปรับท่านั่งให้สบายขึ้นแต่ก็ยังระแวดระวังตัว หล่อนนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยเล็กน้อย “เดี๋ยวสิ เท่าที่ฉันจำได้ เสือตัวนั้นแข็งแรงมากจนไม่น่าจะมีใครทำร้ายเขาได้เลยนะ”


       “เมื่อก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้ครับ ผมเคยได้ยินมาเหมือนกันว่าในกลุ่มชนเผ่ากลายร่างชั้นต่ำมีลูกเสือพิการตัวหนึ่ง ผมคิดว่านั่นคือเขา”


       “พิการหรือ” ป๊อปปี้เลิกคิ้ว “ฉันว่าไม่นะ เขาตัวสูงใหญ่กว่าเธอเสียอีก แถมยังหน้าตาดีเสียด้วย”


ซาดิสท์มีสีหน้าหงุดหงิดจนเห็นได้ชัด หล่อนกล้าชื่นชมผู้ชายอื่นต่อหน้าเขาได้อย่างไร “เขาเป็นพวกเติบโตช้าจนหมู่ปิศาจคิดว่าเขาพิการต่างหากครับ แต่ก็อย่างที่คุณทราบ ทุกคนคิดผิดเกี่ยวกับเสือตัวนี้ เขากลายเป็นมนุษย์กลายร่างที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องดีแล้วที่เขาถูกโยนออกจากแดนปิศาจในตอนที่ร่างกายยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้น...”


       แล้วเขาก็ชะงัก ทำหน้าเหมือนเพิ่งหลุดปากในสิ่งที่ไม่สมควรพูดก่อนหลบสายตาเธอ ป๊อปปี้เห็นความผิดปกตินั้นจึงเร่งเร้า “ไม่อย่างนั้นอะไร”


       ซีถอนหายใจและตอบเสียงแผ่ว “เสือตัวนั้นจะกลายเป็นทาสชั้นองครักษ์”


       ป๊อปปี้นิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนยักไหล่ “นั่นก็ไม่เลวนักนี่ ฉันเคยได้ยินว่าทาสชั้นนี้กินดีอยู่ดีทีเดียว และไม่มีปิศาจตัวไหนกล้าดูหมิ่นเหยียดหยามพวกเขาด้วย”    


       “แต่มันก็มีข้อแลกเปลี่ยน” ซาดิสท์พยายามมองตรงไปข้างหน้า แต่หล่อนสังเกตเห็นว่าดวงตาของเขามีความเจ็บปวดแฝงเร้นอยู่ “เอาเป็นว่าเขาโชคดีแล้วครับที่หนีออกมาจากที่นั่นได้”


       “เขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสายเลือดของเธอใช่ไหม” หล่อนถามอย่างห่วงใย


       “ไม่ครับ” แต่แล้วเขาก็นิ่งไป บิดาของเขาขึ้นชื่อว่าชื่นชอบสาวงาม และนางเสือดาวตนนั้นก็เป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของความงาม พ่อของเขาเคยเรียกใช้หล่อนหรือไม่ “อันที่จริงผมไม่ทราบ แต่ผมเชื่อว่าสายเลือดชนชั้นสูงผู้นั้นจะไม่มีวันลงไปเกลือกกลั้วกับหญิงบริการ”


       “ฉันก็คิดว่าไม่ เพราะเขาเป็นมนุษย์กลายร่างสายเลือดแท้ ไม่ใช่ปิศาจ” ป๊อปปี้เอื้อมมือไปจับมือเขา บีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ซาดิสท์หันมาสบตากับหล่อนแล้วยิ้ม นัยน์ตาพราวระยับ


       “คำถามต่อไปครับ”


       “คือ... ฉันยังคิดอยู่” หล่อนอึกอักและรีบปล่อยมือเขาด้วยความเขิน แต่ซาดิสท์ฉวยมือทั้งสองข้างของหล่อนมากุมไว้ นวดคลึงหลังมือหล่อนเบาๆ ด้วยปลายนิ้วโป้งราวกับว่าเขากำลังขออนุญาต


       หรืออาจกำลังเตือน


       ป๊อปปี้เอนหลังหนีด้วยสัญชาติญาณเมื่อซาดิสท์โน้มตัวลงมาใกล้ แต่พนักแขนทำให้หล่อนเหมือนติดอยู่ในกับดัก “ซี” พระเจ้า นี่เสียงของหล่อนแน่หรือ มันแหบเครือสั่นพร่าราวกับว่าหล่อนกำลังเชื้อเชิญเขา ซาดิสท์เองก็ดูจะตกใจเช่นกัน แต่ปฏิกิริยาของเขามีเพียงหัวคิ้วกระตุกเล็กน้อยและหลุบตาลงมองริมฝีปากของหล่อนเท่านั้น ป๊อปปี้กลืนน้ำลาย ดวงตาเบิกโพลงเล็กน้อย และรอคอย


       แต่เขาชะงัก ปลายจมูกของเขาห่างจากปลายจมูกของหล่อนเพียงเสี้ยวองคุลี จากนั้นเขาก็ถอยห่าง “ตาคุณเริ่มโรยแล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาที่คุณควรจะได้พักผ่อนเสียที”


       โอ... หล่อนกลืนน้ำลายอีกครั้ง นึกประหลาดใจว่าเหตุใดตัวเองจึงไม่พ่นลมออกจากปากด้วยความโล่งอก บางทีหล่อนอาจคาดหวังก็ได้ แต่ระหว่างที่อยู่ในความสับสน ซาดิสท์ก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงมือหล่อนให้ลุกตามด้วย “อนุญาตให้ผมพาคุณไปที่เตียงนะครับ”


       ป๊อปปี้มึนงง ปล่อยให้เขาจูงไปยังเตียงหลังใหญ่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องโดยดี เมื่อเขาปล่อยมือ หล่อนก็ปีนขึ้นเตียงโดยไม่ถอดรองเท้า


       “เดี๋ยวครับ” ซาดิสท์เรียกพร้อมกับนั่งลงตรงปลายเตียง รอจนกระทั่งหล่อนนั่งเหยียดขา เขาจึงยกขาหล่อนพาดกับต้นขาของเขาเพื่อถอดรองเท้า ป๊อปปี้ได้แต่เอียงคอมองนิ้วเรียวยาวแก้ปมเชือกอย่างคล่องแคล่ว เมื่อรองเท้าถูกถอดออกจนหมดหล่อนก็ล้มตัวลงนอนโดยไม่กล่าวขอบคุณ – หล่อนควรขอบคุณเขาใช่ไหมนะ – ขณะที่คิดแบบนั้น ใบหน้างดงามราวเทพอพอลโลของซาดิสท์ก็ลอยอยู่เหนือหล่อน ผมสีทองซีดยาวและนุ่มนวลของเขาปัดไล้แก้มของหล่อน


       จุมพิตแรกเพียงแตะริมฝีปากหล่อนอย่างแผ่วเบาและรวดเร็ว ป๊อปปี้กะพริบตาพลางคิดว่าคงจบลงเท่านั้นเมื่อเห็นรอยยิ้มบางบนเรียวปากสวยของซี จนกระทั่งครั้งที่สองตามมารวดเร็วพอๆ กับครั้งแรก จากนั้นก็เป็นครั้งที่สามซึ่งเนิ่นนานกว่า อ่อนหวานกว่า และ...

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 21:25:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com