“อะไรนะ! คุณภูไม่อยู่ นังเอ้ย! อิงแก้วก็ไม่อยู่งั้นเหรอ”พิมพาถอดแว่นกันแดดออกกวาดตามองรอบร้านด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดเหล่าเด็กในร้านก้มหน้างุดเตรียมรับอารมณ์ของเจ้าหล่อนที่พร้อมจะเหวี่ยงวีนได้ทุกเมื่อ ในเวลาเดียวกันกิตติเข้ามาในร้านพบพิมพาที่กำลังเดือดเลือดพล่านจึงเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีกทั้งเขาก็สุดแสนจะเอือมกับพฤติกรรมของแฟนเก่าคนนี้อยู่ใช่ย่อย
“กิตติก็คงมาหานังอิงแก้วด้วยอีกคนสิแต่จะบอกให้นะว่าทั้งคูณภูและก็ยัยนั่นไม่อยู่หรอกวันนี้ คงไปออกไปสวีทหวานที่ไหนซักแห่ง”กิตติเลื่อนสายตามองหล่อนที่เดินตรงรี่เข้ามาจนได้
“นี่พิม คุณเลิกพูดใส่ร้ายคนนั้นคนนี้ได้ไหม อิงแก้วไม่ใช่คนแบบนั้นแล้วอีกอย่างคุณภูเค้าก็มีแฟนแล้ว”
“ยัยหนูรินน่ะเหรอจะบอกให้เขาเลิกกันแล้วนะถ้าคุณภูเค้าชอบอิงแก้วเค้าก็มีสิทธิไม่แพ้คุณเหมือนกัน”พิมพายุแยงตะแคงรั่วให้คนอื่นเข้าใจผิดกัน กิตติเงียบไปชั่วขณะชั่งในสิ่งที่พิมพาพูดเพราะเขาเองก็แอบหวั่นใจหากภูธนาจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
“อย่าว่าแต่คนอื่น คุณยังมีหน้าจะกลับมาหาคุณภูธนาอีกเหรอทั้งๆ ที่ตอนอยู่บนเรือให้ความสนใจกับเสี่ยไพบูลย์ออกหน้าขนาดนี้ถ้าเป็นผมนะผมคงไม่หน้ากลับมาแล้วล่ะ”กิตติยิ้มเยาะ พิมพาอ้าปากค้างร้อนผ่าวแทบเต้นแต่ชายหนุ่มไม่รีรอให้หล่อนอาละวาดจึงเลี่ยงออกจากร้านไปเสียปล่อยให้หล่อนบ้าร้องกรี๊ดอยู่คนเดียว หนูรินยืนนิ่งอยู่ริมหน้าต่างเมื่อแอบได้ยินพิมพากับกิตติสนทนาถึงความจริงที่หล่อนก็พอจะรู้อยู่แก่ใจว่าภูธนาอาจมีใจให้กับอิงแก้วและนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเลิกกับเธอ หนูรินทอดน่องออกจากร้านเดินเรื่อยเปื่อยเลยออกมาไกลแสนไกลให้พ้นกับความจริงที่ตามหลอกหลอนใจ ภูธนาแสนจะเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมร้ายๆ ของเธอความรักที่มีให้กันก็กลายเป็นภาพลวงตา
“ไงน้องสาวมาเดินทำไมทางเปลี่ยวๆ คนเดียวจ้ะ”เสียงชายหนุ่มแปลกหน้าดังขึ้น หนูรินหันกลับมองพบชายหนุ่มหน้าตาหน้ากลัวคล้ายพวกขี้ยาที่โผล่พงหญ้าริมทางที่แสนเปลี่ยวหล่อนเดินหลงมาได้ไกลพอควรและลืมหนทางที่จะหนีกลับ คุณหนูก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำอ้าวออกไปให้เร็วแต่เหล่าพวกขี้ยาพวกนั้นต่างพากันเดินมาดักหน้าดักหลังหล่อน
“ให้พี่ไปส่งไหมจ้ะ”
“ไม่ต้อง”หล่อนเลี่ยงออกมาแต่ทว่าชายหนุ่มคนนั้นกลับจู่โจมเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวจับคว้าแขนเธอ ไว้แน่น หนูรินพยายามดิ้นแต่ก็สู้แรงไม่ได้
“มาอยู่กับพี่ดีกว่า”
“ช่วยด้วยๆ ”เจ้าหล่อนร้องสุดเสียงแต่ก็ไร้ประโยชน์คนร้ายยกมือขึ้นปิดปากถึงแม้ว่าหล่อนจะดิ้นสุดกำลังขณะที่กำลังลากเข้าริมทาง กรวิทขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีเห็นภาพผู้หญิงที่กำลังโดนฉุดลงข้างทางหน้าตาคุ้นเคยคล้ายๆ หนูรินจึงวิ่งเข้ามาดูและก็ไม่ผิดแปลกเมื่อผู้หญิงคนนั้นคือคุณหนูแฟนสาวภูธนาจึงรีบเข้าไปช่วยทันที
“คุณหนูริน! ”
“กร! ” หล่อนร้อง ชายหนุ่มขี้ยาหันกลับมาเมื่อเห็นว่ากรวิทเข้ามาจึงหันไปเล่นงานแต่ดีที่กรวิทมีฝีมือแม่ไม้มวยไทยจึงเข้าไปจัดการเข้าจนไอ้ขี้ยาต้องเผ่นแนบหางจุกตูดหนูรินร้องไห้คร่ำครวญเข้าไปกอดกรวิททันที
“ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีคุณกรฉันต้องตายแน่ๆ ”
“ไม่เป็นไรครับ”กรวิทยกมือขึ้นลูบหลังปลอมประโลมแต่หล่อนยังไม่คลายกอดร้องไห้เป็นเรื่องเป็นราว บูรณาชะลอรถลงเห็นกรวิทกอดกับผู้หญิงริมทางทำให้เธอตะลึงงันก่อนจะสอดส่องสายตาจ้องมองแต่คนที่ทำให้หล่อนต้องอึ้งไปครู่คือหนูรินที่สวมกอดกับกรวิทกันกลม
“มีอะไรกัน”บูรณาเลื่อนกระจกลงจอดรถข้างทาง กรวิทผงะจากหนูรินด้วยความตกใจหนูรินยังไม่เลิกร้องไห้วิ่งไปเกาะกระจกรถของบูรณา
“ฉันเกือบถูกทำร้ายค่ะ”
“หา! อะไรนะ”น้องสาวภูธนารีบลงรถจับจ้องมองกรวิทเอาเรื่อง กรวิทส่ายหน้าพยายามปฏิเสธ
“อย่าบอกนะว่านายคิดจะทำไม่ดีไม่ร้ายคุณริน”
“โห ดูเธอคิดเข้า”กรวิทร้องขึ้นบูรณายังไม่เลิกมองชายหนุ่มในแง่ร้ายและตีความไปในทางที่ไม่ดีอยู่ตลอดเวลา
“ก็มันจริงนี่ ถ้านายไม่ได้ทำร้ายเธอ เธอจะร้องไห้ทำไม”
“ไม่ใช่นะคะ พอดีมีไอ้บ้าไหนไม่รู้มาจะทำร้ายรินแต่คุณกรมาช่วยไว้ทัน”หนูรินอธิบายรวดเร็ว บูรณาเลิกคิ้วหันไปมองกรวิทอีกครั้ง
“หน้าผมมันโจรขนาดนั้นเลยหรือครับคุณบูร”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ”บูรณาบ่นเบาๆ ก่อนจะหันไปถามไถ่หนูรินต่อ
“แล้วคุณหนูรินเป็นอะไรมากป่าวคะ มีบาดแผลหรือเปล่า”บูรณาก้มมองสำรวจร่างกายหนูรินว่าครบสมบูรณ์ทุกประการหรือไม่
“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ คุณกรเข้ามาช่วยได้ทัน”หนูรินบอก บูรณาเลื่อนสายตามองกรวิทที่ยักคิ้วข้างเดียวให้
“ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะงั้นเดี๋ยวบูรไปส่งคุณหนูเองนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”หนูรินพยักหน้าพลางหันไปหากรวิท
“ขอบคุณคุณกรมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นพลเมืองดีอยู่แล้ว” กรวิทยิ้มกว้างพร้อมแยกเขี้ยวแกมเย้ยให้บูรณายังทำเชิดเริด
“ไปเถอะค่ะคุณริน” บูรณาแทรกขึ้นเปิดประตูรถให้หนูรินที่เดินขึ้นรถถึงแม้จะยังไม่เลิกส่งยิ้มให้กรวิทที่ยังไม่เลิกทำหน้าทีเล่นทีจริง
จากคุณ |
:
คุณหนูแจ่มใส
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ส.ค. 54 22:10:10
|
|
|
|