เมธัสพ่นควันบุหรี่อย่างเชื่องช้า มองบิดานั่งคลอเคลียกับสาวน้อยหน้าแฉล้มพร้อมจิบบรั่นดีไปพลาง แล้วก็มองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ก่อนตัดสินใจเอ่ยออกไป
พ่อ ขอคุยส่วนตัวหน่อยสิ
หญิงสาวเหลือบมองผู้พูด ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมองบุคคลที่อิงแอบ และเมื่อเขาพยักหน้าเธอจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง พร้อมๆกับสาวๆคนอื่น เหลือเพียงแต่ลูกน้องคนสนิทของสองพ่อลูกเท่านั้น
มีอะไรเรอะ
ก็ลูกเขยพ่อน่ะสิ มันอยากทำธุรกิจกับเราด้วย
หือ บุริมทร์มองลูกอย่างกังขา ธุรกิจอะไร
ยังไม่แน่ใจ ลิ่วล้อมันไม่ได้บอก แค่นัดเจอผมที่บ่อนของมัน
บุริมทร์ครุ่นคิดเพียงครู่ ถ้านัดเจอที่บ่อนก็ไม่ใช่ธุรกิจธรรมดาหรอก..แล้วเราว่าไงล่ะ
ก็ในเมื่ออีกฝ่ายเสนอตัวมาแล้ว เราก็สนองเสียหน่อยสิ เดี๋ยวเขาจะเสียหน้าแย่
ฮึ! แน่ใจแล้วเรอะว่าจะร่วมงานกันได้
ได้รึไม่ได้เดี๋ยวก็รู้
ดูท่าทีของมันให้แน่ใจก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไปล่ะ ถ้าไม่คิดว่าจะเป็นการหักหน้าลูกชาย เขาคงเรียกอชิระให้มาคุยกับเขาโดยตรงแทนแล้ว
เชื่อมือเถอะน่า เมธัสลุกขึ้นยืน งั้นผมไปล่ะ
แล้วโทรมาบอกพ่อด้วยนะ
อยู่แล้วน่า ชายหนุ่มพูดด้วยความมั่นใจในตัวเอง ก่อนเดินนำลูกน้องของตนออกจากห้อง โดยมีสายตาครุ่นคิดของบิดามองตามอย่างไม่วางใจนัก
.........................................
ภายในห้องกว้าง ชายฉกรรจ์สามคนยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหลังผู้เป็นนายที่กำลังนั่งถอดไพ่ไปเงียบๆดั่งรอคอยอะไรสักอย่าง และไม่นานเท่าไหร่ ศราก็เปิดประตูเข้ามา เมธัสมาแล้วเฮีย
อืม อชิระตอบรับในลำคอมือก็ยังถอดไพ่ไปเรื่อยอย่างใจเย็น นายออกไปดูข้างนอกไป ตรงนี้เฮียจัดการเอง
ศราลังเลเพียงครู่ เหลือบสายตามองบอดี้การ์ดทั้งสามก่อนจะหันเดินออกจากห้องตามคำสั่ง และคล้อยหลังเขาไปไม่กี่อึดใจ ลูกน้องของอชิระสองคนก็เดินนำเมธัสซึ่งมีลูกน้องคนสนิทตามติดมาอีกห้าคนเข้ามาหาผู้เป็นนาย ซึ่งถอดไพ่ใบสุดท้ายหมดพอดี
อชิระปัดไพ่ตรงหน้า พร้อมๆกับลุกขึ้นเดินไปต้อนรับผู้มาเยือน และหนึ่งในสามที่ยืนด้านหลังก็รีบเข้ามารวบไพ่เก็บคืนสำรับ
ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักรของผม..นึกว่าคุณจะปฏิเสธคำเชิญแล้วเสียอีก
เรื่องดีๆแบบนี้ ผมไม่พลาดอยู่แล้ว
สองหนุ่มหัวเราะให้กันอย่างรู้ความนัยกันดีอยู่แล้วในการเจรจาธุรกิจครั้งนี้ ก่อนผู้เป็นเจ้าบ้านจะเชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนนั่งลงบนโซฟา คุณจะดื่มอะไรล่ะ
ขอออนเดอะร็อกก็แล้วกัน
อชิระหันไปทางลูกน้องคนหนึ่งซึ่งรีบขยับตัวตรงไปยังบาร์เหล้าทำตามออเดอร์ รวมทั้งเครื่องดื่มของผู้เป็นนายด้วย ก่อนกลับมายืนประจำที่ ซึ่งชายฉกรรจ์ทั้งสองฝ่ายต่างยืนคุมเชิงซึ่งกันและกัน
เมธัสจุดบุหรี่มาสูบก่อนเอ่ยขึ้น นึกว่าคุณจะโกรธผมเรื่องผู้หญิงของคุณเสียอีก แต่คุณกลับเซอร์ไพร้ซ์ผมด้วยการบอกว่าอยากทำธุรกิจด้วย
อชิระยิ้มเย็น เรื่องนั้นผมไม่ถือสาอะไรคุณหรอก ก็แค่สินค้าตัวหนึ่ง จะหาเอาใหม่อีกสักเท่าไหร่ก็ได้..
เมธัสหัวเราะชอบใจ พับผ่าซิ! ผมไม่เคยถูกใจใครเท่าคุณเลย
ผมก็เหมือนกัน ถึงได้อยากทำธุรกิจด้วย
ไม่นึกว่าคุณจะสนใจธุรกิจด้านการขนส่งนะ
คุณน่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าจริงๆผมสนใจธุรกิจอะไรกันแน่..เราอย่ามาอ้อมค้อมให้เสียเวลาเลย
เมธัสอัดควันเข้าปอดมองหนุ่มรุ่นพี่อย่างชั่งใจ และอชิระก็สำทับตามติด ลูกค้าของผมล้วนแต่กระเป๋าหนักทั้งนั้นและก็ต้องการแต่ของดีๆ แต่ติดปัญหาว่าของดีที่บริสุทธิ์นั้นมันหายาก เอเย่นต์ที่ผมติดต่อด้วยศักยภาพด้อยเกินไป..ผมถึงได้สนใจคุณไงล่ะ
แล้วคุณคิดว่าผมจะมีศักยภาพพอที่จะรองรับลูกค้าของคุณได้เรอะ
ผมมั่นใจคุณเกินร้อยเลย
เมธัสยังคงจ้องเขม็ง ผมชักสงสัยแล้วสิ ว่าคุณรักยัยเมย์จริงๆ หรือคิดแค่เอายัยเมย์เป็นสะพานกันแน่
คำพูดนั้นจี้ใจคนฟังเข้าอย่างจัง แต่ใบหน้าก็ยังคงเจือด้วยรอยยิ้มสงบนิ่ง ผมจริงใจกับเมย์เขาจริงๆครับ..ส่วนเรื่องธุรกิจเป็นแค่ของแถมเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณไม่รับปากก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็ยังเป็นเครือญาติกันเหมือนเดิม เพียงแต่ผมคงต้องหาเอเย่นต์รายใหม่เท่านั้นเอง
แล้วคุณต้องการแค่ไหนล่ะ
เบาะๆ ขอสักสิบกิโลก่อน..คุณจะเอามาให้ผมได้เมื่อไหร่
เมธัสอมยิ้มกับจำนวนที่ได้ยิน พรุ่งนี้ผมจะโทรบอกคุณอีกครั้งก็แล้วกัน
แล้วผมจะรอฟังข่าวดี
เมธัสหัวเราะขลุกลักในลำคอ การเจรจาของเราจบแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนล่ะพร้อมลุกขึ้นยืน เจ้าบ้านจึงลุกขึ้นตาม
ไม่สนใจวัดดวงหน่อยเรอะครับ
คืนนี้เผอิญมีธุระซะด้วย ไม่งั้น รับรองได้เลยว่าผมไม่มีวันพลาดแน่
ไม่ว่าจะที่นี่ หรือที่คลับ ผมยินดีต้อนรับคุณเสมอ
แล้วเจอกันใหม่ครับ และยื่นมือมาจับมือกับอชิระ ก่อนเดินนำลูกน้องออกไปจากห้อง
คำตอบที่จะให้อชิระนั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องบอกบิดาพอเป็นพิธีเสียหน่อย ไม่เช่นนั้นจะน้อยใจ หาว่าลูกชายคนนี้ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตา
............................................
อชิระก้าวขาเข้ามาภายในคฤหาสน์ของตนด้วยใบหน้าสงบนิ่ง และร่างกายชะงักงันเมื่อสบกับสายตาของภาพเจ้าสัวอานนท์ที่แขวนเด่นสง่ากลางห้องโถง เสมือนว่า สายตาคู่นั้นกำลังตำหนิในสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป
ศราที่เดินตามมาเอ่ยถาม เป็นอะไรเรอะเฮีย
เปล่า เขาตอบราบเรียบ และก้าวขาเดินขึ้นบันไดพูดคุยเรื่องงานกับน้องชายเช่นปกติ พรุ่งนี้เช้า นายพากลุ่มเจ้าสัวอินไปไซด์งานด้วยนะ บอกว่าเฮียติดธุระ ไว้ค่อยเจอกันที่คลับ
ครับ แล้วพรุ่งนี้เฮียจะเข้าบริษัทรึเปล่า
อาจจะช่วงบ่าย แต่ถ้ามีอะไรก็โทรตามแล้วกัน สั่งจบก็ตบไหล่น้องชายเบาๆเป็นการยุติข้อสนทนา ก่อนหันเดินเลยห้องนอนของตนไปยังห้องนอนของผู้เป็นประมุขคนเก่า
ศรามองตามหลังด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเขาสังเกตเห็นอาการเคร่งขรึมที่มีมากกว่าในทุกค่ำคืนของพี่ชาย เกิดขึ้นหลังจากที่การเจรจาซื้อขายกับเมธัสผ่านไป เพราะสิ่งที่พี่ชายได้กระทำในค่ำคืนนี้เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าสัวอานนท์โดยสิ้นเชิง และมันคงเป็นสิ่งที่ติดค้างในความรู้สึกของพี่ชายไปอีกนานทีเดียว
อชิระเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนเปิดไฟ ซึ่งภายในได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำและยังคงสภาพเดิมไม่ต่างอะไรกับครั้งที่ผู้เป็นเจ้าของยังมีชีวิตอยู่
ชายหนุ่มเดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะซึ่งตั้งกรอบรูปของชายชราเคียงคู่กับภรรยาคู่ชีวิต และคุกเข่าลงก้มคำนับ ก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงหดหู่กับความสำนึกผิดที่เกาะกินใจ
อั๊วขอโทษ..ที่วันนี้ขัดคำสั่งทำเรื่องที่ก๋งเกลียดที่สุด แต่เพราะมันสามารถทำให้อั๊วช่วยป๊าได้อั๊วถึงทำมันลงไป..อั๊วไม่อยากเห็นม่าร้องไห้อีก เพราะม่าทนทุกข์มาทั้งชีวิตแล้ว..อั๊วสาบาน เสร็จเรื่องนี้แล้วจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีกเลย ก๋งยกโทษให้อั๊วด้วยนะ
และก้มคำนับอีกครั้ง พร้อมถ้อยคำที่เจ้าสัวเคยพร่ำสอนผุดขึ้นในความทรงจำ จำไว้นะอาเล่ย ลื้อจะทำอะไรก็ทำไป แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่อั๊วขอสั่งห้ามเด็ดขาด คือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะไอ้สิ่งนี้มันจะมอมเมาผู้คนและนำพาเรื่องเลวร้ายจนถึงขั้นเสียบ้านเสียเมืองเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตบนแผ่นดินเกิดของอั๊ว..และเมื่อลื้อเกิดบนผืนแผ่นดินนี้ ลื้อก็ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่ให้ลื้อเกิด ให้ลื้อได้กินดีอยู่ดี ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ขอให้ตอบแทน อย่าได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิดเด็ดขาด
...................................................
เมธิกาเหลือบมองเวลา แล้วก็มุ่ยหน้า เมื่อเห็นว่ามันเลยเวลามาพอสมควรแล้ว ทำไมอชิระยังไม่กลับบ้านเสียที และอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นไปมองตัวเองที่หน้ากระจกเงาอีกครั้งกับชุดนอนลูกไม้สีชมพูหวานสั้นแค่เข่า ต่างกับชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวที่เธอได้สวมใส่เป็นประจำ จากการเจ้ากี้เจ้าการของธนภัทรและพิมพ์กมลที่พาเธอไปเลือกซื้อได้มาหลายชุดทีเดียว แต่เธอกลับรู้สึกกระดากใจพอสมควรกับการเปลี่ยนแปลงที่ส่อแสดงในการยั่วยวนเช่นนี้ จึงเลือกชุดที่วาบหวิวน้อยที่สุดมาสวมแทน แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกถึงความโล่งโจ้งจากเนื้อผ้ามันบางเบาอยู่ดี จึงหยิบเสื้อคลุมยาวมาสวมทับอีกชั้น
และเมื่อเหลือบเห็นลูกบิดประตูขยับเบาๆ เธอก็รีบกระโจนกลับขึ้นเตียงนอนตะแคงข้างเท้าแขนหนุนศีรษะตนเองแสร้งเปิดนิตยสารที่เตรียมไว้ดูท่ามกลางแสงสลัว และเงยใบหน้าขึ้นพร้อยรอยยิ้มหวาน เมื่อร่างของอชิระก้าวเข้ามา
กลับมาแล้วหรือคะ
ใบหน้าของผู้ที่ก้าวเข้ามามองอย่างฉงนกับภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของสาวน้อยตรงหน้า ..ครับ และเธอก็สร้างเรื่องแปลกใจเพิ่มขึ้นด้วยการลุกจากเตียงเดินนวยนาดมาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยกรุ่นขึ้นมา สองมือเรียวพลางช่วยถอดเสื้อสูทให้ ก่อนหันมาแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า
วันนี้เหนื่อยมากหรือคะ หน้าคุณถึงได้เครียดเชียว
..นิดหน่อยครับ แล้วคุณล่ะ ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอนอีก
ก็..รอคุณไงคะ เมธิกาตอบพร้อมจริตมารยาตามที่ธนภัทรฝึกฝนนานร่วมชั่วโมง และพยายามขืนสายตาไม่ให้เมินหลบสายตาวาววามของอีกฝ่าย ทั้งๆที่หัวใจเธอนั้นกระหน่ำรัวแรงจนแทบทะลุอก
อชิระถือโอกาสโอบรอบเอวคอดไว้หลวมๆแล้วอมยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงผิวกายที่สั่นสะท้านด้วยความประหม่า..เขาไม่รู้ว่าค่ำคืนนี้เธอกำลังวางแผนปั่นหัวอะไรเขาอีก แต่ในเมื่อยังไม่รู้ก็ขอลองเล่นไปตามเกมของเธอดูหน่อยก็แล้วกัน..พลางโน้มใบหน้าลงหมายเชยชมผิวแก้มนวล แต่อีกฝ่ายกลับถอดใจใช้สองแขนยันร่างเขาสุดตัว
เอ่อ..คุณกลับมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันนวดให้นะคะ
หือ! คุณนวดเป็นเรอะ
เป็นสิคะ และเห็นเขาทำสีหน้ากังขาในความสามารถ เธอจึงรีบยืนยัน รับรองคุณต้องชอบแน่ ก่อนออกแรงผลักร่างเขาให้หันเดินเข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มทำตามที่เธอบอกระคนอยากรู้ว่าเธอจะกล้าล้อเล่นกับอารมณ์บุรุษเพศของเขาได้ถึงขนาดไหน
ในขณะที่เมธิกาเดินกลับมานั่งใจเต้นตุ้มๆต่อมๆบนเตียงกับช่วงเวลาลุ้นระทึกในชีวิตของเธอใกล้เข้ามาทุกขณะจิตแล้ว และแทบสะดุ้งเฮือก เมื่อเขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาอีกครั้งในชุดนอนเช่นปกติ เธอพยายามฉีกยิ้มหวานสุดชีวิต พร้อมใช้ฝ่ามือตบลงบนพื้นที่ข้างตัว
มานอนสิคะ ฉันจะได้นวดให้
และเมื่อร่างสูงเพรียวเดินมานอนคว่ำหน้าบนเตียง หญิงสาวก็ขยับท่วงท่าบีบนวดอย่างกระตือรือร้นตามที่จดจำมาจากหมอนวดแผนไทยที่เธอเคยไปใช้บริการ เพียงแต่ลืมคิดไปว่า ทุกครั้งเธอคือลูกค้าที่เป็นฝ่ายได้รับบริการ ไม่ใช่พนักงาน พอถึงคราวที่เธอต้องลงมือบีบนวดให้คนอื่นเป็นครั้งแรกในชีวิตมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด และกล้ามเนื้อไหล่ที่สัมผัสอยู่นี้มันก็ช่างหนาและแข็งจนบีบไม่ลงเอาเสียเลย..ทั้งๆที่คิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่นวดง่ายที่สุดแล้วเชียวนะ!
หญิงสาวเริ่มออกอาการหงุดหงิด แล้วไอ้เสื้อคลุมรุ่ยร่ายที่สวมใส่ก็ช่างเกะกะเสียจริง จึงถอดมันออกให้พ้นตัว ก่อนจะเปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมบนแผ่นหลังกว้าง เพื่อจะได้นวดกันถนัดมือหน่อย
เรียวคิ้วเข้มของอชิระเริ่มขมวดเข้าหากัน แรกๆก็นึกขำกับการที่เธอขยำขยุ้มบนท่อนแขนซึ่งมันไม่ได้ใกล้เคียงกับการบีบนวดในจินตนาการของเขาเลย และชักเริ่มไม่สนุกตามแล้วเมื่อเธอคร่อมมาบนหลังโดยทิ้งน้ำหนักตัวลงมาทั้งหมดก่อนใช้สองฝ่ามือกดสุ่มๆมาบนหลังไม่เท่าไหร่ เธอก็ยึดสองแขนของเขาแน่นก่อนออกแรงฉุดรั้งร่างเขาขึ้นมาเต็มเหนี่ยวจนแผ่นหลังแอ่นงอ และการกระทำนี้มันกะทันหันจนร้องห้ามไม่ทัน แต่โชคดีหน่อยที่เธอทิ้งร่างเขาให้กลับลงไปนอนคว่ำตามเดิมในไม่กี่วินาทีก่อนจะลุกขึ้น ซึ่งเขาก็นึกว่าเธอจะเล่นสนุกกับร่างกายเขาพอแล้ว แต่เปล่าเลย..เธอลุกจากหลังเพียงเพื่อจะหาเป้าหมายใหม่ นั่นคือขาทั้งสองข้างของเขา ซึ่งขณะนี้ข้างหนึ่งถูกจับพับลงอยู่กับข้อขาอีกข้างหนึ่งจากนั้นแม่คุณก็ออกแรงโน้มตัวลงดัดขาเขาทันทีโดยไม่รอให้ร่างกายได้ปรับตัว ซึ่งคราวนี้เขาถึงกับร้องลั่นตบมือลงบนที่นอนรัวเร็ว
โอ้ย! เมธิกา..ขาผมจะหักแล้ว
หญิงสาวรีบผวาปล่อยขาเขาอย่างตกใจ และอชิระก็ขยับลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ขอโทษค่ะ! งั้นเดี๋ยวฉันจะผ่อนแรงกว่าเมื่อกี้ก็แล้วกันนะคะ
และทำท่าจะเข้าไปนวดเขาใหม่ แต่ชายหนุ่มรีบโบกมือห้าม ไม่เป็นไร ผมหายเมื่อยแล้ว ตอนนี้ผมอยากนอนมากกว่า..ราตรีสวัสดิ์ บอกเสร็จก็คลานไปยังฝั่งที่นอนของตนแถมยังลากเจ้าบ็อบบี้มากั้นอาณาเขตให้เสร็จสรรพก่อนล้มตัวนอนหันหลัง
เมธิกามุ่ยหน้ามองเขาอยู่อึดใจก็ถอนใจเฮือกใหญ่ ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างพร้อมล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขาเช่นกัน พลางนึกขุ่นเคืองไปถึงเพื่อนชาย
ไหนบอกว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยพอถูกถูไถเข้าหน่อยก็คึกเป็นม้าดีดแล้ว แต่นี่อะไร! ฉันทั้งกดทั้งนาบแล้วไม่เห็นจะคึกเหมือนอย่างที่แกพูดเลยนังบีม ฮึ! โม้นี่หว่า
...................................................................... จบตอนค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ส.ค. 54 13:51:03
|
|
|
|