Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
xxx บ่วงพันธการ..บทที่ ๑๓ xxx ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๑๒
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10909682/W10909682.html

......................................


เมธิกาลืมตาขึ้นในแสงสลัว หลังจากอชิระล้มตัวลงนอนได้ครู่ใหญ่จนคิดว่าเขาหลับแล้ว จึงหยิบเจ้าบ็อบบี้เลื่อนไปอยู่ปลายเตียง เพียงเพื่อจะมองแผ่นหลังกว้างของคนที่นอนหันหลังให้เต็มตา..หลังจากที่เขาออกไปทำงานเมื่อเช้านี้ อารดาก็สอนวิธีเอาอกเอาใจสามีให้ฟังหลายขั้นตอน ซึ่งเธอได้แต่ตอบรับไปเท่านั้น แต่ถึงทำไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ในเมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน พันธะสัญญาระหว่างเธอกับเขาก็ถึงคราวสิ้นสุด..เพียงแค่คิด ความรู้สึกแปลบปลาบก็บังเกิดขึ้นในใจกับการที่ต้องแยกจากเขา และให้สมเพชในความโลเลของจิตใจคนนัก ที่ทำไมมันช่างเปลี่ยนแปลงได้ง่ายดายเพียงเพราะความใกล้ชิด..เมื่อก่อน เธอเคยโกรธเกลียดสุดใจ ที่เขาพร่าผลาญพรหมจรรย์และเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ แต่มาในวันนี้ เธอไม่แน่ใจว่ามันคือ ‘รัก’ หรือเปล่า รู้แต่เพียงว่า ในแต่ละวันใบหน้าของเขาจะผุดขึ้นมาในหัวจนนับครั้งไม่ถ้วน และทุกคืนสายตาของเธอจะจดจ่ออยู่กับตัวเลขของนาฬิกาที่กะพริบเปลี่ยนแทบทุกนาทีเพื่อจะเห็นเขาเปิดประตูห้องเข้ามานอนเคียงข้าง

และนับวันความหวงแหนในเรือนกายแกร่งกำยำนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาสัมผัสแตะต้อง และไม่อยากให้ตัวเขาสนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอ

หญิงสาวกะพริบตาจับจ้องแผ่นหลังกว้างไม่กี่อึดใจ ร่างกายเริ่มขยับเข้าแนบชิดแผ่วเบาซึมซับไออุ่นจากเรือนร่างที่คุ้นชิน ความร้อนผ่าวที่ได้รับเมื่อเช้ายังคงกำซ่านอยู่ในความรู้สึก และกำลังเรียกร้องถึงการตอบสนองในบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่านั้น จนเกิดคำถามให้จิตใจสับสนปั่นป่วนวุ่นวาย ว่าเธอกำลังต้องการอะไรจากเขากันแน่..

ต้องการให้เขากอด..ต้องการให้เขาจูบ..หรือมากกว่านั้น!?

ซึ่งทุกความต้องการ ล้วนเป็นสิ่งที่น่าละอายทั้งสิ้น
แต่จะให้ทำเช่นไร ในเมื่อความรู้สึกที่มีต่อเขานั้นมันถลำลึก โดยที่เธอก็ไม่สามารถห้ามปรามหัวใจของตนเองได้เสียด้วยซ้ำไป

เมธิกากล้ำกลืนความขื่นขมอันแสนอึดอัดคับใจ..เรียวแขนยื่นไปโอบกอดเรือนร่างหนาแผ่วเบา ซบใบหน้าแนบแผ่นหลังกว้าง..จะต้องทำเช่นไร ถึงจะหลุดพ้นจากความทรมานนี้ได้

และหญิงสาวไม่รู้เลยว่า เจ้าของร่างที่กำลังโอบกอดได้ลืมตาขึ้นตั้งแต่ที่เธอเริ่มขยับตัวเข้าหาแล้ว และตอนนี้อารมณ์ดิบที่เขาพยายามเก็บกดไว้กำลังถูกปลุกเร้าให้ความตั้งใจเดิมเริ่มระส่ำระส่าย ความร้อนผ่าวด้วยเพลิงปรารถนาเริ่มประทุขึ้นในกาย และความรู้สึกนี้ก็มีอิทธิพลมากพอที่จะบังคับให้เขาหันกลับไปหาเธอ และสบกับดวงตาตื่นตระหนกอย่างคาดไม่ถึงว่าเขาจะตื่นและหันมากะทันหันเช่นนี้ แถมฝ่ามือใหญ่ยังวางแหมะบนเนินสะโพกของเธอพอดิบพอดี

ดวงตาเรียวคมทอดสบอ้อยอิ่งก่อนเลื่อนมองกลีบปากอิ่มเย้ายวนในแสงเงาสลัว และทันทีที่ฝ่ามือเขาเลื่อนไล้เพียงเบาๆบนเนินเนื้อผายกลมกลึง อีกฝ่ายก็ทำลายมนต์ขลังด้วยถ้อยคำเก้อเขิน

“เอ่อ..สงสัยฉันจะนอนดิ้นมากินที่คุณอีกแล้ว” และรีบกลิ้งตัวไปหยิบเจ้าบ็อบบี้มาวางกั้นกลางเช่นเดิมและนอนหันหลังให้พร้อมๆกับหัวใจที่เต้นตึกตัก..ใจจริงก็อยากจะให้เขากอดเหมือนเมื่อค่ำคืนนั้น เพียงแต่เมื่อกี้ปากมันไวไปหน่อย แต่ถ้าจะกลิ้งกลับไปหาเขาในตอนนี้มันก็คงดูไม่ดีนัก..คิดๆแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองจริงๆ

อชิระพลิกร่างนอนหงายผึ่งพร้อมถอนใจเฮือก ข่มกลั้นอารมณ์ให้สงบนิ่ง ทว่า..มันไม่สามารถควบคุมได้ดั่งใจเหมือนเมื่อก่อน จำต้องผุดลุกขึ้นคว้าบุหรี่กับไฟแช็กที่วางบนโต๊ะข้างหัวเตียงหมายก้าวออกจากห้อง

เมธิการีบลุกขึ้นถาม
“คุณจะไปไหนคะ”

“ผมมีงานที่ทำค้างไว้น่ะ คุณนอนต่อเถอะ”

ทันทีที่บานประตูปิดลงตามหลังชายหนุ่ม หญิงสาวทอดร่างลงนอนอีกครั้งพร้อมๆกับความอ้างว้างจู่โจมจับขั้วหัวใจ..ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเร่งจุดบุหรี่อัดควันเข้าปอดเพื่อดับอาการทุรนทุรายด้วยอยากจะกลายร่างเป็นเสื้อร้ายกระโจนเข้าขย้ำเธอจนใจแทบขาด

และให้เริ่มหนักใจ นับวัน..รู้สึกว่า จะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้เข้าไปทุกทีแล้ว

.............................................

พิมพ์กมลวิ่งเหยาะๆบนลู่วิ่งตามจังหวะที่ปรับไว้บนเครื่อง และหันมองเพื่อนสาวที่วิ่งอยู่บนลู่ถัดไป แต่ใบหน้านั้นขมวดมุ่นคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง

“เมย์ คิดเรื่องอะไรอีกล่ะ”

ผู้ถูกทักหันไปตอบ
“เปล่าคิดอะไรนี่ คงแค่เหนื่อยมั้ง ก็เล่นมาเป็นชั่วโมงแล้วนี่นา”
จะให้บอกไปได้อย่างไร ว่าเธอกำลังกลัดกลุ้มกับระยะเวลาที่ได้อยู่กับอชิระนั้นลดน้อยลงทุกที ก็ในเมื่อ เธอเคยประกาศปาวๆว่าเกลียดเขาอย่างกับอะไรดี แต่ตอนนี้กลับไม่อยากแยกจากเขาเสียแล้ว เกรงว่าเพื่อนจะต่อว่า หาว่าเธอใจง่าย

“จะไม่มีได้ยังไง หมู่นี้ชอบทำหน้ายุ่งเหลือเกินนะ”
พิมพ์กมลปิดเครื่องหันมาเท้าสะเอวจ้องเพื่อนเขม็ง พร้อมคาดคั้น
“บอกมาซะดีๆยัยเมย์ ถ้ายังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนอยู่”

“ไม่มีจริงๆ” เมธิกายังคงปากแข็ง และแสร้งตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อ

“เออ จำไว้เลยนะ ทีหลังไม่ต้องมาเล่า มาปรึกษาอะไรกันแล้ว” แล้วก็เดินไปอย่างงอนๆ เมธิกาปิดเครื่องแล้วก็เดินตามไปง้อ

“ถ้าแกไม่ฟัง แล้วฉันจะไปพูดกับใครล่ะ”

“ก็นังบีมไง หรือคนไหนก็ได้ มันเรื่องของแก”

“โธ่..น้ำหวาน คนที่ฉันจะปรึกษาได้ก็มีแค่แกคนเดียวเท่านั้นล่ะ”

“ถ้าเห็นความสำคัญของฉันขนาดนั้นก็รีบๆบอกมาว่ามีปัญหาอะไร เพราะฉันเบื่อที่จะเห็นหน้ายับยู่ของแกเต็มแก่แล้ว”

เมธิกาถามกลับเสียงอ่อย “หน้าฉันมันฟ้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เออ คนอย่างแกเคยเก็บความลับอะไรกับเขาได้มั่งล่ะ มีอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าหมดแหละ”

คนฟังยิ่งหน้าม้าน พิมพ์กมลจึงเร่งอีกครั้ง “พูดมาเร็วๆ” ขณะเดินนำไปนั่งภายในมุมพักผ่อน เมธิกาตามไปนั่งด้วยและใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเอื้อนเอ่ย
“คือ..ฉันกำลังคิดเรื่องของคุณอชิระน่ะ”

“จะต้องคิดอะไร อีกแค่ไม่ถึงเดือนแกก็จะเป็นอิสระแล้วนี่นา..ทำไม หรือเขามีเงื่อนไขอะไรเพิ่มรึไง” น้ำเสียงที่พูดเผยชัดถึงความไม่พอใจ เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายคิดจะบิดพลิ้วสัญญา

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”

“อ้าว! แล้วมันยังไงล่ะ”

“คือ..” เมธิกาอึกอัก ขณะที่เพื่อนก็ยังจ้องเขม็ง “..คือ..ตอนนี้..ฉันไม่อยากเลิกกับเขาแล้วน่ะ”

ผู้ที่รอฟังถึงกับอ้าปากเหวอก่อนถามย้ำให้แน่ใจ
“อะไรนะ! ไม่อยากเลิกกับเขาเรอะ”

“อืม” เมธิกาพยักหน้ายืนยัน

“..นี่อย่าบอกนะ..ว่าแกรักเขาแล้วใช่ไหม”

“ฉันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่อยากเลิกกับเขาน่ะ..แกอย่าต่อว่าอะไรฉันอีกเลยนะ แค่นี้ฉันก็กลุ้มจะแย่แล้ว”

พิมพ์กมลยกมือกลึงขมับพร้อมถอนใจยืดยาว “ในเมื่อแกรักเขาไปแล้ว ฉันจะไปต่อว่าอะไรได้อีกล่ะ และไอ้เมื่อก่อนที่ห้ามไม่ให้แกรักเขาน่ะก็เพราะเห็นว่าเขาอันตรายเกินไป อายุก็ขนาดนั้นแล้วฉันก็กลัวว่าเขาจะไม่จริงจังด้วย แล้วมันจะทำให้แกต้องเสียใจน่ะ”

“ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ทั้งๆที่เมื่อก่อนหน้าเขาฉันก็ยังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ กลับมานั่งกลุ้มอยากให้เขารู้สึกเหมือนอย่างที่ฉันรู้สึกกับเขาน่ะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฉันทรมานมากเลยนะ มันทั้งอึดอัด ทั้งกังวลไปสารพัด” แล้วก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

พิมพ์กมลได้แต่ทอดถอนใจ “โธ่เอ้ย! เพื่อนฉัน..ถ้ามาถึงขั้นนี้ก็ต้องใช้ยุทธวิธีใหม่ ไหนๆก็รักเขาแล้วนี่ ก็เดินหน้าดับเครื่องชนไปเลย มารยาหญิงมีเท่าไหร่งัดเอามาใช้ให้หมด หรือไม่ แกก็ต้องท้องกับเขาให้ได้”

คนฟังเบ้ปาก “อี๋!” แล้วก็หน้าแดงเร่อ

“จะต้องมาหน้าแดงทำไมอีก แกกับเขาก็เคยมีอะไรกันมาแล้วไม่ใช่เหรอ มันจะยากอะไรถ้าจะมีกับเขาอีกน่ะ”

“แกไม่ใช่ฉัน แกก็พูดได้สิ” โต้แย้งออกไปแล้วก็บีบมือไปมาอย่างขัดเขิน “ก็ตอนนั้นฉันหลับไม่รู้เรื่อง จำอะไรก็ไม่ได้..แล้วเรื่องน่าอายแบบนี้แกจะให้ฉันเริ่มต้นกับเขายังไงล่ะ จะให้บอกเขาไปเลยเหรอ ว่าฉันรักเขาน่ะ”

“จะบ้าเหรอ! ขืนบอกไปโต้งๆอย่างนั้นก็เสียเชิงแย่ซิ”

“งั้นแกก็บอกฉันมาสิว่าให้ทำยังไง ฉันเริ่มต้นไม่ถูกหรอก..เกิดมาก็เพิ่งจะรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายเป็นครั้งแรก”    เมธิกาพึมพำ แล้วมองเพื่อนด้วยความหวังเต็มเปี่ยม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มแหยเกาข้างแก้มตัวเองแกรกๆ

“ฉันก็ไม่เคยรักใครเสียด้วย..เรื่องแบบนี้คงต้องให้นังบีมมาช่วยแล้วล่ะ”

“ถ้างั้น บีมมันก็ต้องรู้ความลับน่ะสิ”

“เราไม่ต้องบอกมันถึงขั้นนั้นก็ได้ เอางี้ แกอยู่เฉยๆเดี๋ยวฉันจัดการเอง” แล้วก็ลุกขึ้นยืน เมธิกาทำท่าจะขยับตามแต่ถูกห้ามเสียก่อน “นั่งรออยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวฉันไปตามนังบีมก่อน”

เมธิกาจึงทำตามที่เพื่อนบอกและรอไม่กี่อึดใจ พิมพ์กมลก็เดินจูงมือธนภัทรให้ตามมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยเต็มใจนัก เพราะกำลังพูดคุยอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างถูกคอ และถ้าไม่เห็นว่าเพื่อนรักกำลังร้อนใจเรื่องสามีล่ะก็ ต่อให้เอารถเครนมายกมาลาก เขาก็ไม่ยอมแยกจากชายหนุ่มคนนั้นมาเด็ดขาด

“น้ำหวานบอกว่าสามีเธอกำลังติดผู้หญิงคนอื่นเหรอ”
ธนภัทรถามขณะนั่งลงข้างเพื่อนสาว ที่กำลังมองเขาตื่นๆ พิมพ์กมลจึงรีบสำทับ

“ก็เออน่ะสิ”

เมื่อได้ฟังเพื่อนสาวพูดออกมาเช่นนั้น เมธิกาก็รีบพยักหน้าเออออ

“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วให้เฝ้าผัวแกให้ดีๆ เป็นไงล่ะ มคปด.จนได้”

“อย่าซ้ำเติมกันน่า แกมีแผนอะไรพอจะช่วยฉันบ้างมั้ย”

ชายหนุ่มกวาดสายตามองเพื่อนอย่างครุ่นคิด “ผู้ชายน่ะมักเป็นพวกขี้เบื่อ แล้วยิ่งแกกับเขาแต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่ไม่ได้เพราะความรักแล้วล่ะก็ ถ้าไม่รู้จักปรับปรุงตัวก็คงไปกันไม่รอดแน่” พูดไปตามคำบอกเล่าที่พิมพ์กมลเคยบอกไว้ “แกรู้บ้างไหม ว่าเขาชอบกินอะไร ชอบกีฬาอะไร ดูหนังฟังเพลงประเภทไหน ฉันจะได้เดานิสัยเขาถูก”

เมธิกายิ้มเจื่อน
“ไม่รู้เลยสักอย่าง”

“อะไร แต่งงานกันตั้งหลายเดือนแล้วไม่รู้อะไรบ้างเลยเรอะแม่คุณ”

“แหม ก็วันๆเขาทำแต่งานนี่นา แถมกลางคืนก็ออกไปคุมบ่อนคุมไนต์คลับอะไรของเขาอีก กว่าจะกลับฉันก็หลับไปแล้ว”

“โอ้ย ตายแล้ว แบบนี้ถ้าเขาแอบไปกกอีหนูเธอก็คงไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะสิ..เห็นทีต้องเทรนกันยกใหญ่ล่ะ”

“แกแน่ใจนะว่าจะช่วยยัยเมย์ได้” พิมพ์กมลถามอย่างกังขา และธนภัทรก็ถลึงตาใส่กับคำสบประมาทของเพื่อน

“อย่างน้อย ฉันก็ยังมีสัญชาตญาณของเพศผู้หลงเหลืออยู่เฟ้ย”

แล้วก็หันมาทางเมธิกาแนะนำในสิ่งที่ผู้ชายพอใจ แม้บางช่วงบางตอนจะทำให้คนฟังหน้าแดงอยู่สักหน่อย แต่ถ้ามันช่วยให้ยึดสามีไว้ได้ เธอก็ขอลองเสี่ยงดูสักตั้ง


ต่อค่ะ

จากคุณ : ระรินใจ
เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 13:43:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com