http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10805541/W10805541.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10809472/W10809472.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10816926/W10816926.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10822911/W10822911.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10835384/W10835384.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10845646/W10845646.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10862720/W10862720.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10872806/W10872806.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10887636/W10887636.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10888051/W10888051.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10908987/W10908987.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10922634/W10922634.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10934180/W10934180.html
ตอนที่ 13
มธรินขมวดคิ้วเมื่อไปถึงโรงจอดรถ เด็กๆ ในชุดนักเรียนนั่งเล่นสบายกันอยู่ในรถของอาคเนย์ โดยมีเจ้าของรถยืนรอ ปกติไร่อิงฟ้าจะจัดรถคันหนึ่งไว้สำหรับใช้ทำธุระและเด็กที่ไปเรียนในตัวอำเภอ เพราะถ้าให้ไปรถประจำทางก็กลัวอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเถลไถลที่ควบคุมไม่ได้
ไร่อื่นๆ ที่อยู่ในเส้นทางมีฝากเด็กนักเรียนไปด้วย ได้ค่ารถเป็นแรงงานมาช่วยบ้าง โชคดีที่อำเภอมีโรงเรียนที่สอนตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม เด็กของไร่อิงฟ้าเป็นเด็กในวัยประถมทั้งหมด ที่เหลือก็ยังเตาะแตะอยู่กับบ้าน มีเด็กเก่งอยู่คนเดียวที่ได้ทุนไปเรียนมัธยมในตัวจังหวัด ซึ่งธนัตถ์รับเอาไปดูแลพร้อมกับเด็กในไร่อื่นๆ ในสังกัดอำเภอเขาสบเมฆ คนนั้นไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วท่าทางอนาคตไปไกล
แล้วนายศรเล่า?
หญิงสาวถามถึงคนขับรถอีกคน ซึ่งมีหน้าที่ประจำคืออยู่ที่โรงงานผลิตกาแฟ ตอนเช้าไปส่งเด็กๆ ตกเย็นก็ไปรับ พร้อมกับทำหน้าที่ส่งของรับของที่ซื้อขายไปในเที่ยวเดียวกัน ป้าแสงกับดารามักติดรถไปด้วยบ้างสัปดาห์ละสองครั้งเพื่อหาซื้อของจำเป็นอื่นๆ
ผมให้กลับไปอยู่ที่โรงกาแฟแล้ว ตอนเย็นค่อยให้ไปรับเด็กตามเดิม
ตาสีเข้มทอดมองอาคเนย์ที่สวมหมวกปิดหน้าตามปกติเวลาต้องออกข้างนอก ยังจะกลัวคนจำได้อยู่อีก?...ทั้งๆ ที่เคราขึ้นขนาดนั้น ผมสีน้ำตาลเริ่มยาวจนสะบัดปลายเพราะเป็นประเภทหยักศก แปลกนะ...คงเหมือนคนต่างชาติทั่วๆ ไป โกนหนวดวันนี้... วันรุ่งขึ้นก็เห็นเป็นปื้นอีกแล้ว แต่ถึงอย่างไร...พระเอกละครมาดเซอร์ยังสามารถทำให้แม่สาวดาราชื่นชมได้เหมือนเดิม
มีหนวดมีเคราเต็มหน้ายังหล่อเน้อ! เวลายิ้มทีนี่ฟ้าแจ้งเลยนะเจ้า ฟันเปิ้นง๊ามงาม ข๊าวขาว
ดาราทำตาลอยยามเมื่อเอ่ยถึง นายอาร์ค
อย่างนั้นเลยหรือดารา?
มธรินแกล้งทำหน้าตื่น นึกหาวิธีดับดาวดวงเด่นดวงใหม่ของไร่อิงฟ้า ถ้าทำซึ่งๆ หน้าอาจไม่ปลอดภัย...เพราะพ่อลูกครึ่งคนนี้นี่ปากคอเราะร้ายไม่ใช่เล่น ต้องทำลับหลังถึงจะดี
นี่จะบอก เจ้าไม่รู้อะไรนะดารา? นายอาร์ค...ไม่ชอบอาบน้ำหรอก ผมเค้าก็ไม่ชอบสระ ซกมกจะตาย กางเกงก็ใส่ซ้ำทุกวัน
หญิงสาวทำเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนตัวร้ายในละครโทรทัศน์ เวลาเมาท์...
ไม่จริงหรอก ดาราซักผ้าให้เปิ้น เปิ้นก็เปลี่ยนทุกวัน ออกจะสะอาด
เด็กสาวส่ายหน้าไม่เชื่อง่ายๆ
แหม...เพราะนายอาร์คเค้าต้องรักษาภาพพจน์นะสิ ยังไม่คุ้นกันก็อย่างนี้แหละ อีกอย่างมีดารากับป้าแสงดูแลไง ไม่อย่างนั้นนะหรือ? เฮอะ!... นี่ ...เพื่อนของเค้าที่เป็นหลานฉัน บอกว่าบางทีไม่ยอมซักกางเกงเป็นเดือนเลยนะ ฉันเคยอ่านประวัติของเค้าในอินเตอร์เน็ทด้วย วันหลังจะให้อ่านดู พวกฝรั่งเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น บ้านเค้าเป็นเมืองหนาว ไม่อาบน้ำตอนเช้าไม่พอ บางทีสามวันติดกันเชียว! เคยอ่านเรื่องนายอาร์คมานะกางเกงของเขาบางตัวถอดแล้วตั้งได้เลย
คนเล่าทำหน้าขยะแขยงจริงจัง
ยี้!...ไม่เชื่อ...คุณรินขี้จุ๊
ถึงปากบอกไม่เชื่อแต่ชักโอนเอียง อย่างไรก็ต้องเชื่อนายหญิงอยู่แล้ว คุณรินรู้เยอะ... บางเรื่องไม่คิดว่าเป็นไปได้ยังมีตั้งหลายเรื่องที่เป็นจริง
ไม่ได้จุ๊! เอ๊า! เธอก็ดูเอาแล้วกัน ไว้หนวดเคราอย่างนี้เดี๋ยวเหาก็ขึ้น วันไหนดาราได้กลิ่นหอมๆ เวลาอยู่ใกล้นายอาร์คนะ แปลว่าไม่อาบน้ำ
พูดเรื่อยเปื่อยเพราะมั่นใจว่าไม่มีใครจับได้หรอก
ไม่เชื่อ!...จุ๊! คนพูดงอนตุปัดตุป่องที่นายหญิงไปใส่ร้ายพระเอกในดวงใจ
คุณรินต้องจุ๊แน่ๆ
"เออ...คอยดูก็แล้วกันแล้วอย่าไปบอกใครล่ะ เดี๋ยวมาหาว่าฉันใส่ร้าย"
มธรินหัวเราะสะใจ ไม่มากก็น้อย เรื่องนี้ต้องถูกเอาไปกระจายในวงออฟฟิศ แล้วก็จริงอย่างที่คิด จู่ๆ หล่อนก็ถูกป้าแสงหยิกหมับเข้าให้
คุณรินไปใส่ไฟอะไรคุณอาร์คหรือคะ? วันก่อนเด็กดาราไปว่าคุณอาร์คว่าซกมกหน้าตาเฉย ไม่มีใครสอนหรอก ต้องคุณรินแน่ๆ
ดาราเค้าบอกไหมละคะ ว่ารินเป็นคนพูด?
ไม่ได้บอก
ถ้าอย่างนี้ เรียกว่า 'กล่าวหา' ...นา
ไม่รับและไม่ปฏิเสธเสียอย่างเป็นหนทางรอดของการโกหก แต่ท่าทางพออกพอใจคงทำให้คนเดากันได้ไม่ยาก และหล่อนก็ขำกลิ้งเก็บอาการไม่อยู่จริงๆ เมื่อทราบมาว่าเพราะเล่ห์กลของหล่อนนั่นเอง ที่ทำให้พ่อพระเอกละครรูปหล่อวิ่งโร่ไปโกนหนวดโกนเคราแถมตัดผมเผ้าเสียเรี่ยมด้วยฝีมือป้าแสง พอรู้ตัวว่าโดนแกล้งก็งอน หายหน้าไปหลายวัน คราวนี้ปล่อยผมปล่อยเคราให้ยาวอย่างเดิมเหมือนประชด รอบต่อไปนี่...ท่าจะหลอกยากเสียแล้ว
************************
ตาสีน้ำตาลอมเทามีแววสงสัยเมื่อมธรินเผลอยิ้มขำขันตาสีเข้มระยับพราว หญิงสาวรู้ตัวจึงรีบวางมาดขรึมให้สมกับที่จะไปโรงเรียนในฐานะผู้ปกครอง
คุณไม่ต้องไปก็ได้นะ...ไม่อยากให้ใครเห็นไม่ใช่หรือ?
ผมอยากไปให้กำลังใจบอยเสียหน่อย คนคงจำผมไม่ค่อยได้หรอกนะ อย่างมากก็คลับคล้ายคลับคลา
ตามใจ แล้วอย่ามาเคืองฉันนะ ถ้าฉันจะบอกคนถามว่าคุณแค่หน้าเหมือน แต่ที่จริงเป็นคนงานในไร่
ตาม...ใจ๊! ชายหนุ่มยักไหล่ ตกลงใครกลัวความลับรั่วไหลกันแน่ เขา?...หรือเจ้าของไร่อิงฟ้า?
เมื่อเช้าเด็กชายบอยมาเกาะระเบียงชวนเหยงๆ แต่เช้า พลางขยายความ
บ้านปางป่าสักไม่ค่อยชอบคนเขาสบเมฆหรอก เขาเป็นพวกอบต.พิศัยลุงแท้ๆ ของคุณริน เขาว่ามาแย่งมรดกอะไรทำนองนั้น อิจฉาเราด้วยว่าตำบลเราเจริญกว่ามีคนมาเที่ยวมากกว่าใหญ่กว่า รวยกว่า
เพิ่งทราบว่ามธรินยังมีญาติเหลืออยู่แถวนี้เหมือนกัน ส่วนเด็กชายบอย...แม้จะเขยกมาเพราะอาการที่ก้นยังไม่หาย หากไม่วาย...ลืมเจ็บ!
เรานี่น๊า! ไปหาเรื่องได้ถูกคนจริงๆ
ชายหนุ่มบ่นพึม เริ่มเห็นความเดือดร้อนที่เจ้าตัวก่อชัดมากขึ้นทุกที นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกแน่! ไม่น่าไปหลงกลเด็กเลย!
ไม่ชอบหน้ากันเหมือนกันนี่ฮะ นายไปเป็นบอดี้การ์ดหน่อยสิ นายตัวโตกว่าพี่ศรตั้งเยอะ พวกนั้นจะได้ไม่กล้าทำอะไรคุณริน
อะไรกัน ถึงจะทำร้ายกันเลยหรือ? คนแถวนี้คงไม่ใจร้ายขนาดนั้นมั้ง
ชายหนุ่มยังไม่อยากตอบรับในตอนแรก ให้ไปทำหน้าที่บอดี้การ์ด ทำหน้าไม่ถูก
ไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณรินขนาดนั้นหรอก แต่กลั่นแกล้งนะไม่แน่ ไปเหอะนะ...นาย... ไปเหอะ...
อนาคตหมอนี่คงอ้อนสาวเก่ง ...เขายังหลวมตัว
ไปก็ได้ แต่มันไม่ถูกนะ เราไม่มีเหตุผลที่จะบาดหมางกับใครแบบนี้ เพื่อนกันโรงเรียนเดียวกัน
ถ้าไม่ติดว่าทราบเรื่องไม่หมดก็คงต้องสอนกันยาว แต่ประสบการณ์จากเมื่อเย็นวานบอกเอาไว้อย่าเพิ่งตัดสินอะไรเพียงเพราะตาเพิ่งเห็น ต้องสอบสวนกันใหม่อีกทีเสียแล้ว สงสัย..สมควรโดนตีจริงๆ
******************
มธรินไล่เด็กๆ นั่งประจำที่พลางสั่งให้คนขับรถกิตติมศักดิ์ไปแวะรับเด็กอีกสามคนที่ไร่ระหว่างทาง
รถคันใหญ่จุคนได้สบายมาก ที่จริงไม่ควรปล่อยให้อาคเนย์ไปด้วย หากพอชำเลืองดูคนก่อเรื่องที่ตาละห้อยมาจากในรถแล้วใจอ่อน ไม่รวมสายตาอีกสองสามคู่ ที่จ้องเป๋งลุ้นว่าจะได้มีโอกาสนั่งรถใหญ่โก้ เบาะนิ่มๆ แสนสบายของนายอาร์คไปโรงเรียนหรือไม่?
หญิงสาวให้อาคเนย์จอดรถใต้ต้นไม้พลางปล่อยคนอื่นๆ ไปเข้าเรียนตามปกติ แยกมาแต่บอยที่ต้องไปพบครูใหญ่และผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี
คุณรออยู่ตรงนี้ก็ได้ จะได้ไม่เด่นนัก หญิงสาวสั่ง
อ้อ...ถอดหมวกด้วย
ทำไม? คนขับรถจำเป็นสงสัย
คุณหน้าเหมือนนายอาคเนย์ดาราดัง แล้วพวกดาราไปไหนมาไหนก็ชอบใส่หมวกแบบนี้ มันเป็นโลโก้ของดารา ยิ่งปกปิดเท่าไหร่ยิ่งเด่นเท่านั้น อีกอย่าง...คนแถวนี้เค้าใส่หมวกเก่าๆ ที่ใช้ทำงานในไร่ ไม่ใช่หมวกแฟชั่นแบบนี้แน่
เจ้าของไร่อิงฟ้าน่าจะอ่านนิตยสารดาราบ่อย ถึงได้ทราบทางหนีทีไล่ดี
คนก็สงสัยสิ? คนถูกทักยอมถอดหมวกแต่โดยดี
หน้าเป็นเคราปื้นแบบนี้ ไม่ยอมรับเสียอย่าง จะเป็นไรไป บอกว่าเป็นคนในไร่นะ เอาเป็นหัวหน้าคนงานคนใหม่ ผู้ช่วยลุงเศก ส่วนที่เหลือให้หาทางเอาตัวรอดเอาเองก็แล้วกัน
หล่อนอุปโลกน์ให้เสร็จสรรพ ก่อนจะพาเด็กชายบอยไปยังห้องพักครู
อาคเนย์ท้าวเอวมองตามหลัง ทั้งสองคนเดินตามกันไปเหมือนแม่กับลูกไม่มีผิด
เจ้าเด็กชายบอยพยายามส่งสัญญาณให้ตามไป แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะรอดีกว่า ดูๆ ไปแล้วไม่น่าจะต้องกังวล มุมจอดรถตรงนี้สงบดี เด็กนักเรียนไม่พลุกพล่าน เดี๋ยวก็ไปรวมตัวกันเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้าตามเวลา
ชายหนุ่มกำลังจะเข้าไปในรถตั้งใจว่าจะอาศัยเวลาที่รอคอยนี้เขียนบทโทรทัศน์เพิ่มเติม เขาเอาคอมพิวเตอร์มาด้วย ทำงานที่ไหนก็ได้
ถ้าไม่มีรถคันใหญ่อีกคันเข้ามาจอดเทียบข้างๆ อย่างไม่นิ่มนวลเท่าไหร่นัก
เบาๆ สิวะไอ้ลูกคนนี้!
เสียงเอ็ดดังออกมา พร้อมกับประตูเปิดออกมาแบบไม่สนใจเลยว่ามีใครยืนอยู่ จนอาคเนย์ต้องกระโดดถอยหลบออกมาแทบไม่ทัน
ชายวัยกลางคนออกมาจากรถ ในมือถือไม้เท้าอันหนึ่งสลักลวดลายแปลกตา ใบหน้าเรียวตอบมีหนวดเป็นแนวเรียวโค้งตวัดปลายแหลมเป็นระเบียบ แสดงว่าเจ้าตัวคอยเล็มไว้อย่างดี ส่วนคนขับรถเป็นชายหนุ่มหน้าตาคล้ายกันแต่ดูหนุ่มกว่าเท่านั้น ชายหนุ่มชำเลืองมอง...เดาว่าน่าจะเป็นญาติโดยสายเลือดของเจ้าของไร่อิงฟ้า ดูคล้ายคุณปู่ในรูปไม่น้อย
อ้าว! เฮ้ย! ไม่ใช่รถของไร่อิงฟ้าหรอกรึ?
ชายวัยกลางคน พูดเสียงดังท่าทางไม่เกรงใครเมื่อเห็นรถคันใหญ่ พลางสายตาเลื่อนมาทางอาคเนย์
เฮ้ย! ไอ้หนุ่ม มาจากไร่อิงฟ้าหรือเปล่าวะ?
คำเรียกขานค่อนข้างนักเลงทีเดียว
ครับ...
อาคเนย์ต้องทำหน้าเจียมเอาไว้ ความที่ตัวใหญ่ ไม่ว่าจะแอบลีบอย่างไรก็ยังดูตระหง่านสำหรับอีกฝ่ายอยู่ดี
นังรินเปลี่ยนรถแล้วหรือวะเนี่ย? หรูนี่หว่า ท่าทางจะราคาแพง สงสัยมันยอมเอาเงินออกจากกรุของคุณยายแล้วว่ะ อย่างนี้แหละ... เหยาะแหยะอย่างนั้น ยอมลำบากขับปิ๊กอัพได้ไม่นานหรอก
คนนี้กระมังที่นายบอยบอกว่าอยู่บ้านไร่ปางป่าสัก?
อ้อ!...แล้วนังรินอยู่ไหนล่ะ หรือว่าไม่กล้ามา?
คนถามเอามือข้างหนึ่งลูบหนวดเบาๆ คำเรียกขานดูแปร่งหู ตั้งแต่มาที่เขาสบเมฆ ชายหนุ่มยังไม่เคยได้ยินใครกล้าพูดถึงมธรินแบบนี้
ดูท่าคนถาม... ออกจะประเมินเจ้าของไร่อิงฟ้าต่ำไปสักหน่อย!
ได้ยินว่าไปที่ห้องพักครูครับ....
เขามีท่าทีนอบน้อมเอาไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ตัวใหญ่กว่าทั้งสอง
คนเป็นลูกชายเข้ามายืนใกล้ๆ มองเขาอย่างเพ่งพิศ เครื่องแต่งกายของฝ่ายตรงข้ามเหมือนมือปืนบ้านไร่มากกว่า
พ่อ...ไอ้คนนี้ ไม่เคยเห็นที่ไร่อิงฟ้าเลยนะ แต่จะว่ามาใหม่ก็ไม่น่าใช่ ดูคุ้นตาอย่างไรไม่รู้ เอ็งเป็นคนบ้านไหนวะ?
เพิ่งเคยเจอคนที่พูดชัดถ้อยชัดคำว่าไม่รู้จักนายอาคเนย์
ผมเพิ่งมาใหม่ครับ มาช่วยลุงเศก
คนตัวโตยืนประสานมือค้อมตัว ไม่ตอบรายละเอียด ทำอย่างที่หล่อนบอกไว้น่าจะปลอดภัยที่สุด
อ้อ...มาช่วยไอ้เจ้าเศกล่ะสิ ....เฮ้ย! พิเชษฐ์ ไร่อิงฟ้ามีคนงานเป็นลูกครึ่งแล้วหรือวะ? ผู้สูงวัยกว่าหันไปถามลูกชาย
ไม่รู้เหมือนกัน ช่วงนี้ไม่ได้ไปแถวนั้น พ่อ...ไปข้างในเถอะ เสียเวลา... คราวนี้เป็นตาของพวกเรามั่ง...ผมจะแก้ลำยายรินให้แสบเลย
คนเป็นลูกถูมือ ไม่น่าเชื่อว่าคนเป็นญาติกันจะกระเหี้ยนกระหือทำร้ายกันขนาดนี้
อาคเนย์รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ผู้หญิงตัวนิดเดียวจะทำอะไรได้ เกิดโดนทำร้ายล่ะ? ...ไม่ได้การ!
คนตัวใหญ่ตัดสินใจเดินตามสองพ่อลูกไปห่างๆ จนกระทั่งถึงห้องพักครูใหญ่ ซึ่งเป็นห้องกระจก เปิดประตูหน้าต่างกว้างเอาไว้ให้ลมธรรมชาติกระจายไปทั่ว ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศใดๆ
มธรินนั่งอยู่ในห้อง โดยมีครูใหญ่อยู่ประจำโต๊ะเหมือนผู้พิพากษา ส่วนคู่กรณีตัวเล็กทั้งสองยืนก้มหน้าหงอยๆ กลางห้อง บรรยากาศแบบนี้ดูคุ้นๆ ในวัยเด็ก เด็กผู้ชาย...เกินครึ่ง ต้องผ่านแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น
ชายหนุ่มมองไปรอบๆ จนไปเจอะกับสายตาสีเข้มจากเจ้าของไร่อิงฟ้าที่อยู่ในห้อง ทั้งคาดคั้นแกมขับไล่ เขาทำไม่รู้ไม่ชี้ไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่หน้าห้องครูใหญ่ที่ตั้งเอาไว้สำหรับให้คนมารอเข้าพบ อุตส่าห์เป็นห่วง...ยังจะมาไล่!
ว่าอย่างไรผู้ปกครอง? เดี๋ยวนี้ไร่อิงฟ้าริสร้างนักเลงแล้วหรือ? ถึงกับท้าชกท้าต่อยกัน อีกหน่อยเด็กพวกนี้คงตั้งแกงค์นักเลงกันสนุกล่ะ
เสียงคนคนทักดังออกมานอกห้อง เขาเห็นมธรินยกมือไหว้ทั้งสองคน แต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะรับไหว้ กลับเมินหน้าหนี แยกไปนั่งฝั่งตรงกันข้าม
แล้วว่าอย่างไร จะรับผิดชอบอย่างไร? เรื่องนี้พ่อแม่เค้ามอบหมายให้ผมมาจัดการครับคุณครู
ปลายประโยคถึงบอกให้คุณครูใหญ่ ผู้เป็นประธานรับทราบ
ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเข้าใจว่าพวกคุณเป็นญาติกัน น่าจะคุยกันง่าย
คุณครูใหญ่ยิ้มละไม ท่าทางสุขุม
รินต้องฝากขอโทษไปยังพ่อแม่ของเด็กด้วยค่ะ รินผิดเองที่ไม่ดูแลให้ดี ต่อไปรินจะสั่งสอนเด็กให้ดีกว่านี้
เจ้าของไร่อิงฟ้าดูเรียบร้อย เป็นผู้ใหญ่ เหมือนตอน...ที่ออกงานสังคมกับอบต.ธนัตถ์
โธ่เอ๊ย! รับปากแล้วกลัวทำไม่ได้มากกว่า เป็นผู้หญิงตัวแค่เนี้ยจะดูแลควบคุมอะไรได้? ไร่อิงฟ้าจะไปรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้? ทำไร่ทำสวนนะ ไม่ใช่เล่นขายของแต่งตัวตุ๊กตาชาววังนะ
นั่นน่าจะเป็นญาติผู้พี่ของหล่อนที่ชื่อพิเชษฐ์ปรามาศออกมา อาคเนย์อยากเข้าไปนั่งข้างในห้องใจจะขาด เผื่อจะได้ช่วยกัน แต่ดูท่าทางน้ารินยังคงนิ่ง สงบ...
แบบนี้...ไม่ใช่คนชอบเล่นขายของ แต่งตัวตุ๊กตาชาววังแน่!
...รินจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้อีก
รับประกันอย่างไร? พ่อแม่เค้าไม่กล้าเชื่อหรอก มันต้องลงโทษให้เข็ดหลาบต่อหน้าพยาน
นายพิเชษฐ์ดึงดันว่าต้องให้มีการทำโทษอีกครั้ง
เด็กๆ ได้รับโทษไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน
หญิงสาวชี้แจงเสียงอ่อน หากทำให้อีกฝ่ายโวยวายขึ้นมาอีก
อ้าว! อย่างไรกัน? จะรู้ได้อย่างไรกันว่าทำโทษคนผิดแล้วจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วอาจมาบอกว่าลงโทษก็ได้นี่ ผมไม่เชื่อนะคุณครู ต้องให้เห็นกันจะๆ นะครับ
คุณครูใหญ่ยิ้มใจเย็นสมกับที่เจอเด็กเกเรมามาก และที่จริงครูใหญ่นั้นคงคุ้นเคยกับสองพ่อลูกนี้มาพอสมควร
...ไม่ทราบนะคะว่าที่บ้านจะลงโทษอย่างไร? หรือจะไม่ลงโทษเลย ทางโรงเรียนคงไปกำหนดไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ โรงเรียน...เราจัดการทันที ไม่รอให้ไปถึงที่บ้านหรอกค่ะ
อ้าว! แล้วพวกผมจะมาทำไมให้เสียเวลา?
คนถามชักฉุน กะมาซัดฝั่งไร่อิงฟ้าให้เต็มที่ นานๆ ทีจะมีโอกาส
...ที่เชิญมานี่เพื่อให้ผู้ปกครองรับทราบ เราได้ทำการสืบสวนแล้วเรียบร้อย ทำโทษแล้ว และเด็กทั้งสองจะต้องถูกภาคทัณฑ์ควบคุมความประพฤติและทำกิจกรรมร่วมกันหนึ่งเทอม เพราะเราถือว่าเรื่องชกต่อยเป็นเรื่องที่โรงเรียนห้ามอย่างเด็ดขาด ทางผู้ปกครองของเด็กชายบอยได้รับทราบและยินยอมแล้ว เหลือแต่...
อ้าว! ทำไมเป็นสองละครับ ไม่ใช่ลงโทษแค่เจ้าเด็กบอยนี่หรอกหรือ? มันท้าเพื่อนก่อนนะครับ
คุณลุงของมธรินเริ่มโวย!
ดิฉันได้แจ้งพ่อแม่ของเด็กแล้วนะคะ ว่าผิดทั้งคู่ค่ะ ...คู่กรณีจริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่สอง เรื่องเริ่มจากเด็กชายไก่ไปแกล้งเด็กอนุบาล เด็กชายบอยเลยท้าทายไปชำระความ เด็กชายไก่รับคำท้าพากันไปหลังโรงเรียน ถือว่าไม่ได้พยายามหลบเลี่ยงเท่าที่ควร ที่สำคัญ... เด็กชายไก่ยังชักชวนเพื่อนอีกสองคนไปรุมเพื่อน แบบสามต่อหนึ่ง โรงเรียนไม่สนับสนุนการใช้กำลังและไม่สนับสนุนการกระทำที่เรียกว่า...ขอโทษนะคะ... หมาหมู่ ซึ่งไร้ความเป็นลูกผู้ชายอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะอย่างไร? ทั้งสองก็คือหัวโจกต้องได้รับโทษหนัก ส่วนผู้ช่วยอีกสองคนได้รับการทำโทษไปพร้อมกันนี้แล้วกับการตักเตือนให้หลาบจำ
คุณครูใหญ่ ชี้แจงเสียงเรียบ หนักแน่น ชัดเจนจนคนฟังนึกภาพออก ไม่มีใครค้าน แสดงว่ากระบวนการก่อนลงโทษแล้วส่งข่าวถึงผู้ปกครองนั้นได้สืบสาวราวเรื่องโดยละเอียดแล้ว
คราวนี้พิเชษฐ์ลุกขึ้นโต้แย้ง
แต่เด็กของผมถูกท้าก่อนนะครับคุณครู ถ้าไม่ตอบรับก็ไม่ใช่ลูกชาย อีกอย่างขนาดสามคนยังสู้มันไม่ได้ ก็สมควรแล้วที่จะพาเพื่อนมาช่วย อย่างนี้เรียกว่า ยุทธวิธี นะครับ ไม่ใช่หมาหมู่
คนตัวโตที่นั่งฟังอยู่ข้างนอก เกือบปล่อยหัวเราะพรืด
ข้อโต้แย้งแบบนี้ ภาษาอินเตอร์เน็ตต้องเรียกว่า แถ...เกรียน
นายพิเชษฐ์!
คราวนี้ครูใหญ่เรียกชื่อเต็มของอีกฝ่าย ทำเอาสะดุ้งกันไปทั้งห้อง
ครูไม่ได้เจอเธอมานานหลายปี นึกว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่นึกว่าไม้เรียวของครูมันไม่แรงพอให้หลาบจำใช่ไหม? ครูไม่เคยสอนเธอให้รังแกเด็กที่อ่อนแอกว่าหรือให้พาเพื่อนไปรุมคู่ต่อสู้เมื่อรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้
พอนึกถึงไม้เรียวสมัยเด็ก นายพิเชษฐ์ก็คอตกหันไปมองบิดา แต่...เห็นว่าไม่น่าจะช่วยอะไรได้ เพราะลงครูใหญ่เสียงเขียวอย่างนี้ ต่อให้เป็นอบต...ก็ต้องจืดไปเหมือนกัน
ครูของลูก เก๊าะ!..เหมือนครูของพ่อ!
อบต.พิศัย ขยับหนวดไปมาก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา
อ่า...คุณครูใหญ่ครับ นี่มันเรื่องเด็กชายบอยกับเด็กชายไก่นะครับ ไม่ใช่เรื่อง...เด็กชาย เอ๊ย! นายพิเชษฐ์
ผู้เป็นพ่อของเด็กชาย เอ๊ย! นายพิเชษฐ์ท้วง ท่าทีอ่อนลง
ผู้เป็นครูยิ้มเยือกเย็น รวมไปถึงน้ำเสียงหันมาทางคุณพิศัย
ดิฉันเข้าใจค่ะ คุณพิศัย ...แต่ ดิฉันอาจจะต้องตีคนเพิ่มอีกสักคนสองคนเสียแล้ว ผู้ใหญ่...มักเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กเป็นอย่างนี้ เพราะเด็ก...เป็นผ้าขาว คนที่เอามาแปดเปื้อนเป็นทอดๆ ก็คือผู้ใหญ่!
แหม! โชคดีที่คุณครูของผม ท่านจากไปแล้ว
นายพิศัยถอนหายใจโล่งอก สีหน้าดีขึ้นเพราะนึกว่า รอดตัว
หากคุณครูใหญ่กลับยิ้มเยือกเย็นมากขึ้นไปอีก
ไม่ทราบว่าจะโชคดีจริงหรือเปล่านะคะ? เพราะคุณก็ทราบดี...คุณครูของคุณ ท่านเป็นคุณแม่ของดิฉันเองนี่คะ ไม้เรียวที่ท่านใช้มาตลอดอายุการเป็นครูของท่าน ดิฉันก็ยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่ในห้องนี้ ตอนเด็กๆ ดิฉันเห็นคุณใช้บริการไม้เรียวของท่านออกบ่อยไป เราเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน จำไม่ได้หรือคะ?
ไม้เรียวอีกแล้ว! ลุงของมธรินหน้าจืด...จ๋อย ทำท่าหวาดเสียวขึ้นมาเมื่อเรื่องไม้เรียวสมัยเด็กถูกเพื่อนเก่าซึ่งบัดนี้เป็นถึงคุณครูใหญ่รื้อฟื้นขึ้นมา
อาคเนย์เริ่มรู้ซึ้ง ถึงจะเป็นอบต.ใหญ่โตแค่ไหน หรือจะเป็นแค่ครูบาอาจารย์ที่เคยสอนมา แต่...วัฒนธรรมของคนในชนบท ยังช่วยประคับประคองคนให้อยู่ในกรอบได้เป็นอย่างดี เห็นชัดๆ ได้จากที่สองคนพ่อลูกก้มหน้าเหมือนเด็กๆ เมื่อถูกครูใหญ่ ต้อนจนมุม มาดนักเลงเมื่อครู่ ...จืดไปถนัด
มองไปอีกที เจ้าของไร่อิงฟ้าที่คิดว่าจะต้อง จ๋อง เมื่อเจอกับลุงและญาติผู้พี่ที่ท่าทางนักเลง หญิงสาวกลับนั่งพิงพนักอมยิ้มน้อยๆ ลูกตาสีดำมองคนนั้นทีคนนี้ทีสบายอารมณ์! แทบไม่ต้องเอ่ยอะไรเลยนอกจาก ค่ะ... ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ...ประเภทนั้น
...ช่างเป็นนางเอกเสียจริง!
อาคเนย์ อาจจะนั่งรอให้เรื่องจบพร้อมกัน ถึงแม้ที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องกังวลใจกับหล่อนหรือเด็กชายบอยอีกต่อไป ถ้าไม่พบว่า คุณครูที่กำลังเตรียมการสอนบางคนเริ่มมองจ้องมาเขม็ง พลางซุบซิบ จนมีคนใจกล้าเข้ามาทัก
น้อง...เป็นดาราหรือเปล่าคะ?
ผู้หญิง...มีความใส่ใจละเอียดอ่อนกว่าผู้ชายจริงๆ เมื่อครู่ญาติทั้งสองของมธรินไม่เห็นเอ่ยสักคำว่าเขาหน้าเหมือนดารา ทำให้ตายใจ กล้าเข้ามานั่งถึงห้องพักครู
พอคนหนึ่งเริ่มทัก คนที่เหลือเริ่มให้ความสนใจ
เปล่าครับ ผมเป็นคนงานในไร่อิงฟ้าครับ
เขาดัดเสียงให้ดูเบาแหบ ตอบเลี่ยงไม่ตรงคำถาม
เหมื๊อน เหมือน อาคเนย์พระเอกละครน่ะ รู้จักไหม? คนถามยังไม่เลิกราทำเอาที่นั่งชักร้อน
ก็...มีคนทักหลายคนแล้วครับ
จำเป็นต้องหลบตา เอามือลูบจมูก ไม่อย่างนั้นเข้ามาใกล้อย่างนี้ อาจจะปฏิเสธไม่รอด
นี่ชนกับอาคเนย์ได้เลยนะ เดินคู่กันนี่ครูว่าเป็นพี่น้องกันได้เลย
ขอบคุณครับที่เห็นผมหล่อขนาดนั้น แต่ผมเป็นแค่คนงานในไร่ครับ
ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีรีบไหว้ลาคุณครูทั้งหลายมานั่งรอที่ใต้ต้นไม้ข้างรถ
สักครู่ถึงเห็นคู่กรณีรุ่นใหญ่เดินมาทางที่จอดรถ หน้าตาของมธรินยิ้มแย้มแจ่มใส ในขณะที่อีกฝั่งหน้าตาไม่เสบย แพ้ทาง!... ยังไม่เคยเห็นใครชนะน้ารินสักคน
เมื่อไหร่ลุงจะไปทานข้าวที่ไร่อิงฟ้าบ้างล่ะ? รินจะให้คนทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ ป้าแสงทำกับข้าวอร่อยมากนะคะ
หล่อนชวนเหมือนไม่มีเรื่องบาดหมางกับใครทั้งสิ้น
จ้างให้ข้าก็ไม่ไปหรอก!
คนสูงวัยกว่าตอบเมินๆ ไม่ถนอมน้ำใจสักนิด
โธ่! ลุง แวะไปเยี่ยมบ้างสิ...
ข้าไม่อยากเป็นลุงแกหรอก ลูกผู้ดีตีนแดงอย่างนี้จะทำไร่ได้สักกี่น้ำ ถ้าไม่ไหวก็เอาไปขายให้ข้าแล้วก็กลับกรุงเทพฯ ไปซ่ะ ไปอยู่กับคุณหญิงวณวรกานต์ตามเดิมน่ะดีแล้ว ไม่รู้ปู่แกคิดอะไร? ยกไร่ใหญ่โตให้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม จะรอดหรือเปล่า?
ปากบอกไม่อยากนับเป็นหลาน แต่เผลอนับญาติไปแล้ว
ใช่...กลับกรุงเทพฯ ไปซ่ะ พวกเราจะดูแลไร่อิงฟ้าเอง เด็กผู้ชายยังคุมไม่ได้ แล้วพวกโจ๊ก พวกสมหมายจะคุมได้หรือ? นี่ไร่อิงฟ้าคงเละเทะละสิ
คนเป็นพี่กลับมาทำนักเลงต่อ หลังจากที่คอตกต่อหน้าอดีตคุณครูมาเมื่อครู่
รินไม่ขายหรอก ลุงกับพี่พิเชษฐ์ไม่อยากเห็นผลงานของปู่ก็ตามใจ
คราวนี้ตาสีเข้มเป็นประกายวับ
ฮึ ...ข้าจะคอยสมน้ำหน้าเวลาเอ็งทำล่ม!
คนเป็นลุงหนีขึ้นรถ ปิดประตูดังปัง
คนขับรถยื่นคอโผล่ออกมา ปรายตามองมาที่อาคเนย์ ที่ยืนกอดอกรอดูท่าทีมาตลอดเวลา แวบหนึ่ง
"คราวหลังไม่ต้องเอาบอดี้การ์ดตัวใหญ่ๆ มาขู่หรอก ไม่กลัวโว้ย!
มีพาดพิงมาถึงซึ่งๆ หน้า ก่อนจะรีบถอยรถพรืดออกไป ปล่อยให้เจ้าของไร่อิงฟ้ายืนท้าวเอวมองตาม
เฮ้อ! เมื่อไหร่จะยอมดีกันเสียทีนะ?
หญิงสาวเตะก้อนหิน พยายามยอกเท้าขึ้นมาดูพื้นรองเท้าของตัวเอง
เออ...แล้วนี่เราตีนแดงตรงไหนเนี่ย? เฮ้อ!
แล้วทำหน้าเหรอหราเมื่อรู้ตัวว่าอาคเนย์กอดอกยืนมองอยู่
กลับเถอะ
หล่อนตั้งฟอร์มใหม่ สั่งแล้วเดินอ้อมไปนั่งในรถรอ ไม่รู้ไม่ชี้ กับอาการพิลึกของเขาที่เห็นเจ้าของไร่อิงฟ้าทำอะไรที่แปลกไปกว่าที่เคยเห็น
ไม่นึกว่าน้ารินยังมีญาติอยู่ทางนี้อีก
เหลืออยู่แค่นี้ ไม่รู้จะเคืองกันไปทำไม? ของตัวเองก็ได้ไปมากมายแท้ๆ
หญิงสาวหน้างอบ่นอยู่คนเดียว ชายหนุ่มค่อยๆ ขับรถกลับมาตามทางเดิม เพื่อกลับไปส่งหล่อนที่ไร่ วันนี้มีตารางงานด้วย
*********************
ตลอดทางที่นั่งรถออกมาจากโรงเรียน มธรินนั่งท้าวคางกับขอบประตู หันหน้าออกไปดูวิวข้างนอกซึมลงไปถนัด
เขาไม่เคยมีความรู้สึกว่า การที่ไม่ได้รับการยอมรับจากญาติ สายเลือดเดียวกันนั้นมันเจ็บปวดอย่างไร? ถ้าญาติคนไหนไม่อยากยุ่ง เขาก็ไม่ยุ่ง...เท่านั้น ไม่เคยจะแคร์
อาคเนย์ปรายตามองเป็นระยะระยะ ไม่ทราบว่าจะปลอบอย่างไรดี ...ทำไม่เป็นเสียด้วยสิ
ชายหนุ่มเคาะนิ้วกับพวงมาลัย บังเอิญเห็นร้านมินิมาร์ทข้างทาง จึงเลี้ยวเข้าไปจอดรถ
รอเดี๋ยวนะไปซื้อของก่อน
ร่างสูงบอกคนที่นั่งข้างๆ ก่อนจะเข้าไปในร้านไม่นานก็ออกมาพร้อมกับถ้วยไอศกรีม
เอ้า!
คนยื่นมีท่าทีขัดเขิน ไม่เคย...ง้อคนไม่เป็น! ปลอบใจคนไม่เป็น!
อะไร? หญิงสาวมองถ้วยไอศกรีมที่ยื่นมาให้อย่างงงๆ
ไอศกรีมไง ทานแล้วจะได้สดชื่น ผมเลี้ยงเอง
ฉันไม่ไช่เด็กๆ นะ
ปากก็ว่าไปแต่ยอมรับถ้วยที่ถูกยัดใส่มือ
ขอบใจย่ะ
หญิงสาวแกะฝาปิดออก เนื้อไอศกรีมเป็นรสส้ม หวานอมเปรี้ยวมีเนื้อส้มแท้ปนอยู่
น้ารินเลี้ยงผมมาตั้งหลายมื้อ คราวนี้ผมเลี้ยงเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มชี้ไปที่สัญลักษณ์ข้างถ้วย ยักคิ้ว...
"จากไร่ของคุณธนัตถ์เชียวน๊า
แหม...รู้ดี
ไม่ทราบว่าชมหรือประชด หากเจ้าของไร่อิงฟ้าก็อารมณ์ดีขึ้น ชื่อของธนัตถ์คงมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของเจ้าของไร่อิงฟ้า
ดีเหมือนกัน....นานๆ เจอกันที เห็นยังแข็งแรงอยู่ คงสบายดี
หล่อนเปรยขึ้นมาเอง คงหมายถึง...
คุณลุงเค้าโกรธน้ารินเรื่องอะไร...?
คงหลายเรื่อง มาเกลียดเอาก็ตอนที่คุณปู่เสีย แล้วคุณลุงยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกกระมัง ท่านไม่ยอมรับว่าฉันได้รับไร่อิงฟ้าเป็นกรรมสิทธิ์จริงๆ จะต้องฟ้องกัน แต่...ก็อย่างที่เห็น กฎหมายบอกชัดๆ อยู่แล้ว เลยไม่มีใครเล่นด้วย ผู้หลักผู้ใหญ่ปรามกันเป็นแถว คนที่นี่...นอกจากจะว่ากันด้วยกฎหมายแล้ว ก็มีธรรมเนียมด้วย...คนเค้ารู้กันทั้งนั้นว่าฉันมีกรรมสิทธิ์ เป็นส่วนของคุณพ่อ ส่วนของคุณลุงได้ไร่ปันนทีข้างๆ นั่นไง พื้นที่สวยกว่า สูงกว่า แต่คุณลุงขายแล้วไปอยู่กับคุณป้าที่บ้านปางป่าสัก ตอนขาย...มีคนเล่าให้ฟังว่าคุณปู่ท่านโกรธมากทีเดียว ก็เลยง่องแง่งกันมาตั้งแต่นั้น ฉันเองก็ทราบทีหลัง
น้ารินพลอยโดนร่างแห
ชายหนุ่มออกจะเห็นใจ ญาติพี่น้องของเขาไม่เห็นวุ่นวายอย่างนี้หรือเพราะครอบครัวเขาไม่ไปวุ่นวายกับพวกญาติๆ ก็อาจเป็นได้
เห็นแล้วใช่ไหมว่า ไม่ใช่ทุกอย่างที่ฉันควบคุมได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร...ท่านก็เป็นญาติที่เหลืออยู่ฝั่งคุณพ่อ ถ้าดีกันรักกัน จะดีกว่านี้
แล้วจะทำอย่างไร? ดูแล้วไม่เห็นจะมีทาง
คงต้องรอให้แก่กว่านี้ จะได้ดื้อน้อยลง
อาคเนย์อดหัวเราะไม่ได้ เพราะเริ่มตระหนักแล้ว พันธ์ดื้อนี่ มธรินรับมาเต็มๆ จากทั้งสองฝั่ง
หัวเราะอะไร ? หล่อนคาดคั้น
เปล๊า!
พูดไปเดี๋ยวจะโดนโกรธ ขนาดแค่หัวเราะยังถูกหาเรื่อง
นี่...อาคเนย์ ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ คุณลุงมีลูกชายสองคน ตนโตก็พี่พิเชษฐ์กับพี่พิชัยคนเล็กอยู่ต่างประเทศ คุณลุงเคืองพี่พิชัย เพราะเขากลับไปเข้ากันได้กับคุณปู่ ตอนนี้เขายังไม่อยากกลับมาทำไร่ ยังคงเดินทางไปต่างประเทศทำงานถ่ายภาพตามความชอบ อย่าบอกปริญเชียวน๊าว่าโปสการ์ดบางอันฉันก็ฝากให้พี่เค้าเป็นคนส่งให้ เพื่อนของฉันอยู่เมืองนอกหลายคน มีแต่ฉันที่อยู่บ้านนอก
ชายหนุ่มถึงบ้างอ้อ ถึงจะมีเงินไปก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเวลาไปตะลอนตะลอนต่างประเทศบ่อยๆ ยังสงสัยว่าทำอย่างไรไม่ให้ที่วณวรกานต์จับได้
อย่างนี้ เข้าข่ายเจ้าเล่ห์เลยนะน้าริน ไม่นึกว่าจะมีเครือข่ายมากขนาดนี้
น้ารินชี้หน้าเมื่อถูกวิจารณ์
พูดจาอย่างนี้ไม่สุภาพเลย ฉันเป็นผู้ใหญ่กว่าแท้ๆ
หล่อนต่อว่าไม่จริงจังแล้วถอนหายใจเหมือนหมดแรง
เฮ้อ!... กลับไร่กันเถอะ ป่านนี้ลุงเศกคงรอแล้ว
หมดเรื่องกังวลหนึ่งเรื่อง เปลี่ยนมาเป็นอีกเรื่อง ไม่หยุดหย่อนจริงๆ
ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจะเร่งความเร็วให้ รับรอง แป็ปเดียวถึงที่ไร่อิงฟ้า
รถเพิ่มความเร็ว หากหญิงสาวรีบหน้าตาตื่น ละล่ำละลักห้ามเอาไว้
ไม่!...ไม่ต้องหรอก ขับธรรมดานี่ล่ะ ไม่ต้องเร็วมาก ไม่ต้องใจร้อน อย่าประมาท เจ้าของไร่อิงฟ้าเตือน
ชายหนุ่มทำตาม ค่อยผ่อนคันเร่ง มองกระจกหลังเห็นรถเล็กสีน้ำเงินอีกคันวิ่งตามกันมา มีระยะห่างพอสมควร คนขับเป็นผู้หญิงแน่เพราะดูระมัดระวัง แต่เพราะความเร็วไม่เท่ากัน ทำให้ในไม่ช้ารถของชายหนุ่มก็แซงและทิ้งระยะห่างกันไป เห็นไกลลิบอยู่ข้างหลังไกลออกไป
จนกระทั่งรถถึงทางโค้ง รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งสวนมาจากเลนตรงข้าม ชายหนุ่มเห็นแต่ไกลแล้วว่าคนขับรถบรรทุก วิ่งแซงรถอื่นๆ ด้วยความเร็วสูงมาตลอด และไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้ทางรถคันอื่นๆ ที่วิ่งสวนทางกัน ทำให้คันที่วิ่งเลนเดียวกับเขาต้องแอบชิดซ้าย จนเกือบตกขอบถนนกันหลายคัน
รถบรรทุกคันนั้นมันขับแปลกๆ นะน้าริน เขาบ่น
ไม่ทันสังเกตว่าคนที่นั่งข้างๆ เองก็จับจ้องรถบรรทุกคันนั้นตาไม่กระพริบ นิ้วเรียวจิกกำเบาะเอาไว้แน่น!
ทั้งๆ ที่ระมัดระวังอยู่แล้ว ไอ้รถบรรทุกคันที่ยังแซงมาตลอดกลับโผเข้ามาหารถของอาคเนย์มากกว่าที่ควรจะเป็น
"ระวัง!"
มธรินร้องเตือนเมื่อเขาหักหลบ รถไถลลงข้างทางก่อนจะหยุดอยู่ที่ไหล่ถนน โชคดีเหลือเกินที่ไม่ใช่เหวหรือภูเขาสูง ไม่อย่างนั้นคงแหลก!
ขับรถบ้าๆ!
เขาบ่นฉุนเฉียว โกรธ! แต่เมื่อหันมามองคนที่ร้องเตือนเมื่อครู่...
มธรินนั่งตัวสั่น หน้าซีด น้ำตาคลอ ไม่ปกติ... ชายหนุ่มไม่เคยเห็น น้าริน เป็นอย่างนี้มาก่อน เป็นช่วงเวลาที่สัมผัสได้ คนที่มีท่าทีเข้มแข็งมาตลอดเวลาไม่ควรมีอาการแบบนี้!
น้าริน! เป็นอย่างไรบ้าง?
อาคเนย์รีบปลดเข็มขัดนิรภัย
อารามตกใจทำอะไรไม่ถูก ทำให้เขาโอบกอดร่างบางเพื่อปลอบประโลม มือใหญ่แตะตามแขนตามตัวของมธริน เมื่อครู่ได้ยินเสียงดังโป๊ก! น่าจะเป็นศีรษะกระแทกกับอะไรสักอย่าง ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นอกจากจะสำรวจดูหญิงสาวว่ามีอะไรบาดเจ็บบ้าง ความอาทรร้อนรนปรี่ขึ้นมาอยู่เต็มตื้น เมื่อครู่เขาเบรกแรงมากจนปวดกระดูกต้นคอไปหมด
ไม่เป็นไรหรอก...คุณล่ะ?
มือสั่นแตะแขนเขาเบาๆ วงหน้าเรียวขาวซีด ตาเรียวเบิ่งมองราวกับกำลังช็อค
ผมไม่เป็นไรเหมือนกัน
ชายหนุ่มบีบมือของหล่อนเช่นกัน หายใจโล่งอก ค่อยๆ ถอนตัวออกเมื่อรู้ตัวว่ากอดเจ้าของไร่อิงฟ้านานและแน่นจนเกินไป แต่...มือของหล่อนยังไม่หายสั่น...สั่นทั้งตัว ผิดปกติ!
น้าริน! ปกติคนตัวบางไม่ใช่คนใจเสาะหวาดกลัวอะไรง่ายๆ
อาการปกติน่ะ เดี๋ยวก็หาย...
หล่อนยิ้มเซียว แตะมือของชายหนุ่มบีบเบาๆ หลับตาสูดลมหายใจลึกๆ แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีเสียงเอี๊ยด!จากรถสองสามคัน ดังห่างออกๆ ไปเป็นระยะระยะ ทั้งสองหันกลับไปดูเห็นรถคันสีน้ำเงินที่ขับตามกันมาอีกคันเมื่อครู่ พุ่งลงข้างทางปะทะกับต้นไม้ใหญ่เสียงดังสนั่น ในขณะที่รถบรรทุกพุ่งลงไปไกลกว่า แนวถนนเป็นทางโค้ง และเอียงลึกไปกว่าขอบถนนที่รถของอาคเนย์แฉลบลงไป รถ...สองสามคันที่ต่างวิ่งอยู่ทั้งสองเลนรีบหยุดเพื่อดูเหตุการณ์
ระหว่างที่กำลังตกตะลึงกันทั้งหมด มธรินรีบกระตุกเสื้อของเขา
อาคเนย์!...รีบไปช่วย! ...เดี๋ยวนี้!
*******************
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน, คอมเมนท์ และ Like นะคะ
อย่าโกรธนะคะถ้าไม่ได้ตอบทุกคอมเมนท์ แต่นั่งอ่านแล้วยิ้มเองตลอดที่มีคนแวะเข้ามา
แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดช่วยทักท้วงจะขอบคุณมากค่ะ
ทั้งอาคเนย์และน้ารินจะเดินหน้าไปเรื่อยๆ ดุจธารน้ำสายเล็กๆ ในเขาสบเมฆ
ติดตามต่อไปนะคะ