มีคนบอกว่าให้เอาท่านไปไว้วัด เขาว่าทุกวันนี้ใครๆ ก็ทำอย่างนั้นกันทั้งนั้น แต่ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันละ กริช
เธอหันกลับมาทางเขาราวขอเสียงสนับสนุน
จะเอาท่านไปทิ้งไว้คนเดียวได้อย่างไร อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกว่าท่านอยู่ที่นี่ คุณรามยังอยู่ที่นี่ใช่ไหม
เสียงพูดประโยคสุดท้ายสั่นเครือ เอ่ยถึงผู้เป็นสามีด้วยชื่อจริงของเขา...ชื่อซึ่งจำหลักแนบแน่นอยู่ในหัวใจมานานหลายปีทีเดียว
ชายหนุ่มรีบสนองตอบความคิดนั้น
ขอรับ คุณท่านยังอยู่ที่นี่กับคุณหญิงขอรับ
ยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปากอวบอิ่มอีกครั้ง ป้ายน้ำตาด้วยข้อนิ้วชี้พอเป็นพิธี คิดได้ว่าตัวเป็นเจ้าของบ้าน อย่งไรก็ไม่ควรละเลยหน้าที่นั้นเสีย
แม้ในเวลาเช่นนี้ก็ตาม
กริชเพิ่งมาถึง ไปอาบน้ำผลัดเสื้อผ้าเสียก่อนดีไหม หวังว่าคงตั้งใจจะค้างที่นี่
ใช่ไหม ที่ได้ถามก็เพราะรู้อยู่ว่าในเวลานี้ชายหนุ่มมีที่มาดหมายอยู่อีกแห่ง
เขารีบตอบแทบไม่ทัน ทั้งเพื่อต้องการลบล้างความคิดนั้นของเธอ และเพื่อยืนยันความตั้งใจที่แท้จริงของตัวเอง
ขอกระผมค้างที่นี่เถอะขอรับ ถ้าคุณหญิงไม่รังเกียจ กระผมตั้งใจมาช่วยงานท่านขอรับ
ยิ้มอ่อนโยนกว้างขึ้น
รังเกียจอะไรกันเล่า บ้านนี้ถึงอย่างไรก็ยังเป็นบ้านของกริช อย่าคิดเป็นอย่างอื่นเลยจ้ะ
ร่างน้อยขยับจะลุก ชายหนุ่มขยับลุกตาม ไหววูบเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ถามอีก
กริชนอนที่เรือนหลังเล็กดีไหม จะให้นอนชั้นบนของหลังนี้ก็...
เขาเข้าใจดี เขาเป็นผู้ชาย เธอเป็นผู้หญิง และบ้านหลังนี้ก็เคยมีเพียงสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของอาศัยอยู่ บ่าวไพร่และคนรับใช้อยู่เรือนอีกหลัง เมื่อเหลือแต่เธอคนเดียว เขาจะมาพักอยู่ร่วมบ้านได้อย่างไร
ขอรับ
ถึงรู้ว่าเข้าใจกัน หากหญิงสาวก็ยังอดอธิบายไม่ได้ กริชมิใช่เด็กในบ้านอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว ในเวลานี้เขามีตำแหน่งหน้าที่การงานทรงเกียรติ อายุก็ใช่น้อยแล้ว
"ฉันเองก็ลงมานอนข้างล่าง เกรงใจท่าน"
กริชจำได้ดี นานมาแล้ว เมื่อครั้งที่คุณหญิงละออ...มารดาของเจ้าคุณ
เสียชีวิต คุณหญิงย้ายไปนอนที่เรือนไม้หลังเล็กริมคลองเพราะตะขิดตะขวงใจที่จะนอนอยู่ชั้นบน ในเมื่อหีบศพของมารดาสามีตั้งอยู่ชั้นล่าง
"ขอรับ"
ชายหนุ่มรับคำอีกครั้ง ขยับลุกก่อนแล้วก้าวยาวๆ กลับไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบย่อมมาจากข้างประตู ได้ยินเสียงใสไพเราะร้องเรียกใครคนหนึ่ง
"สมบุญ...จะกลับหรือ"
หลังจากรีรออยู่ที่บันได ร่างสันทัด ค่อนไปทางผอม ก้าวเข้ามาภายใน เรือนครึ่งตึกครึ่งไม้หลังนี้สร้างขึ้นแทนตึกหลังเก่าซึ่งทุบทิ้งไปเมื่อเจ้าคุณและคุณหญิงกลับมาอยู่อาศัยอีกครั้ง แม้จะสร้างขึ้นใหม่หมด หากความเคยชินที่ตึกหลังเก่ามีทางขึ้นทั้งด้านหน้าและหลัง บ้านนี้จึงมีทางขึ้นทั้งสองด้านเช่นกัน
ขอรับคุณหญิง พรุ่งนี้กระผมกับเอิบจะมากันแต่เช้า
คุณหญิง ยิ้มอย่างจะบอกขอบใจ
ไม่ต้องเช้ามากก็ได้จ้ะ สมบุญ เช้าๆ คงไม่มีอะไรต้องทำ คงใส่บาตรอย่างเดียว ทำกับข้าวใส่บาตร ก็ทำกันเองได้
ขอรับ แล้วกริชจะนอนที่นี่หรือ ประโยคหลังมองผ่านไปทางชายหนุ่มซึ่งหยุดยืนอยู่ข้างหลังหญิงสาว ออกปากชวนอย่างเต็มอกเต็มใจ ไปนอนที่บ้านก็ได้นะ
ไม่เป็นไรหรอกพี่บุญ คุณหญิงให้นอนที่เรือนไม้
สมบุญรับรู้ ไหว้ลาผู้เคยเป็นนายทั้งๆ ที่เธออ่อนวัยกว่า
ถ้าอย่างนั้นกระผมกับเอิบจะมากันสายหน่อยขอรับ
หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ มองตามคนเคยเป็นบ่าวในบ้านลงบันไดกลับออกไป
กินอะไรมาหรือยังจ๊ะ กริช หันกลับมาทางคนเพิ่งมาถึงอีกครั้ง ป้านาบยังอยู่ในครัว จะให้แกอุ่นข้าวต้มให้ เธอหมายถึงแม่ครัวซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายสิบปี
กระผมรับข้าวเย็นมาแล้วขอรับคุณหญิง เขาจำต้องพูดปด ไม่อยากให้เธอต้องวุ่นวายไปมากกว่านี้ เธอควรพักผ่อน งานศพอย่างนี้เจ้าภาพมักเหน็ดเหนื่อยเสมอ
ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป แต่ถ้าหิว กริชผ่านครัวแล้วแวะบอกป้าแกนะจ๊ะ แกทำข้าวต้มเลี้ยงแขกไว้หม้อใหญ่เลยจ้ะ
ชายหนุ่มใช้ยิ้มเป็นคำตอบ
เธอปล่อยให้เขาเดินไปทางด้านหลังซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือนไม้เพียงคนเดียว กริชเคยอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็กๆ รู้จักทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังนี้ดี จึงบอกแต่เพียงว่าให้นอนในห้องนอนห้องใหญ่เพราะมีที่นอนหมอนมุ้งจัดไว้เรียบร้อยแล้ว
ทางเดินไปเรือนไม้สลัวราง มีเพียงแสงจันทร์สีเงินยวงส่องนำทาง ทางแคบๆ ลาดปูนขาวโพลนอยู่ในความมืดเมื่อเขาก้มลงดู ฝั่งขวามือเป็นเรือนครัวซึ่งสร้างขึ้นใหม่พร้อมบ้านหลังใหญ่ เรือนหลังเก่าถูกระเบิดทำลายไปตั้งแต่เมื่อครั้งสงคราม มีแสงสว่างส่องลอดออกมาจากที่นั่น
กริชมองเข้าไปเห็นผู้หญิงต่างวัยสองคนกำลังทำอะไรกันให้วุ่นวาย จึงไม่คิดจะเข้าไปทักทายในฐานะคนรู้จัก นางนาบนั้นอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อนใครๆ แหวน
หลานสาววัยรุ่นของแก
เขาก็เคยเห็น อย่างไรเสียพรุ่งนี้เช้าก็ยังมีโอกาสได้พูดคุยถามไถ่ทุกข์สุขกัน
ชายหนุ่มอดเหลียวกลับไปข้างหลังไม่ได้ ไฟในห้องโถงซึ่งเป็นที่ตั้งหีบศพดับมืดไปแล้ว เหลือก็เพียงแสงริบหรี่ส่องลอดออกมาจากหน้าต่างห้องติดกัน คุณหญิง คงย้ายลงมานอนที่ห้องนั้นเอง วาบหวามอยู่ในอกเมื่อใจประหวัดไปถึงเรือนร่างน้อยๆ บอบบางนั้น หวามไหวจนต้องรีบเบือนหน้าหนี
รอบด้านเงียบสงบ สงัดเสียจนได้ยินเสียงหรีดหริ่งเรไรกรีดปีกจากริมคลอง เรือนไม้เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ในความมืด พุ่มมะลิเรียงรายข้างทางส่งกลิ่นกรุ่นแข่งกับต้นราตรีข้างเรือนครัว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว
เขากลับมาบ้านอีกครั้ง บ้านซึ่งไม่เคยห่างหายไปจากตัวและหัวใจ
นายอำเภอหนุ่มทรุดนั่งลงบนขั้นบันไดระเบียงเรือนไม้ วางกระเป๋าลงข้างตัว ตาจ้องแน่วนิ่งไปที่แสงเรืองรองอ่อนจาง ส่องผ่านม่านสีขาวออกมาจากห้องที่เรือนหลังใหญ่ ไม่นานเห็นเงาดำผ่านช้าๆ ไปให้เห็น เหมือนเธอกำลังเดินกลับไปกลับมาทำอะไรบางอย่าง
ความรู้สึกในเวลานี้เหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงฝัน ตระหนักเดี๋ยวนี้เองว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความฝันนี้มาเนิ่นนานเพียงไร
ฝากคุณหญิงของฉันด้วยนะ กริช
คำพูดประโยคนั้นของเจ้าคุณผู้เป็นสามีของคุณหญิงไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำ ครั้งนั้นเขาไปลาท่านเพื่อเดินทางไปรับตำแหน่งงานที่หัวเมือง และท่านก็กำลังจะถูกส่งตัวไปเกาะตะรุเตาในฐานะกบฏ
ท่านจะรู้ไหม ว่าตลอดชีวิตของเขาไม่เคยมีความฝันใดที่หมดจดงดงามเท่าคุณหญิงของท่าน ท่านจะว่าอะไรไหมถ้าเขาจะขอกลับมาอยู่ในฝั่งของความฝันนี้อีกครั้ง ในเวลานี้ และในขณะนี้ ชื่อของผู้หญิงอีกคนเลือนหายไปจากห้วงคำนึงจนหมดสิ้น