ไอแดดร้อนแผดเผาบนผืนหญ้าให้แห้งกรอบสลับใบหญ้าอ่อนเขียวชอุ่มในไร่ชาญทิพย์ ไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในของภาคเหนือกินพื้นที่นับพันกว่าไร่บนภูใหญ่เขตรอบนอกในจังหวัดเชียงใหม่กาแฟที่ปลูกภายในไร่เป็นพันธ์อาราบิก้าซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศทางภาคเหนือผู้บุกเบิกพื้นที่แห่งนี้คือภูสิทธิ ศรีธิชัยชาญนักธุรกิจจากระดับรากหญ้าที่พลิกผันตนเองจนกลายมาเป็นนักธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับจากผู้ผลิตกาแฟสำเร็จรูประดับบิ๊กของประเทศ ครอบครัวศรีธิชัยชาญเป็นครอบครัวที่สมถะต่างจากครอบครัวนักธุรกิจรายอื่นที่ใช้ชีวิตหรูหรา นายใหญ่อย่างภูสิทธิพร่ำสอนคนในครอบครัวเสมอ ให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียงถึงแม้ว่าตระกูลศรีธิชัยชาญจะยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องแลกด้วยน้ำพักน้ำแรงของเหล่าคนงานที่ช่วยดูแลรดน้ำต้นกาแฟให้พลิดอกออกผลเป็นอู่ข้าวอู่น้ำให้กับทุกคนที่อาศัยได้หลบแดดฝนอยู่ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ในไร่แห่งนี้ ครอบครัวศรีธิชัยชาญมีทายาทใหญ่ที่เป็นมิ่งขวัญผู้สืบทอดกิจการยิ่งใหญ่นี้คือ ภูธนา ศรีธิชัยชาญ หนุ่มหล่อ ฉลาดหลักแหลมซึ่งเป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ทั้งแวดวงทั้งไฮโซ ดารา นางแบบแต่เขากลับต้องตากับสาวแก่นเซี้ยวอย่างอิงแก้วและคบหาดูใจหลังจากผ่านอุปสรรคมากมายมาด้วยกัน ในขณะที่น้องสาวของเล็กของตระกูลศรีธิชัยชาญอย่าง “บูรณา ศรีธิชัยชาญ”ญาติสาวแท้ๆ ของภูธนาที่ชีวิตของเธอจะต้องประสบเรื่องเลวร้ายตั้งแต่ยังเยาว์เพราะต้องสูญเสีย กูลทัศน์ ศรีธิชัยชาญพ่อผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายร่วมสายเลือดของภูสิทธิและรินลนา ศรีธิชัยชาญ ผู้เป็นมารดาด้วยอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝัน แต่ด้วยความรักที่ปฏิบัติไม่ต่างจากลูกแท้ๆ ภูสิทธิจึงรับอุปถัมภ์และดูแลบูรณาเป็นอย่างดีโดยไม่มีขาดตกบกพร่อง และเมื่อไม่นานนี้เองที่ภูสิทธิและนางนรามอบของขวัญล้ำค่าคือสวนดอกไม้นานาพันธ์ให้เป็นของขวัญสุดพิเศษเนื่องในโอกาสที่ลูกสาวบุญธรรมคนเล็กมีอายุครบ 24 ปีเต็มพร้อมจะสืบทอดกิจการงานต่อไป
“บูรจะต้องดูแลกิจการสวนดอกไม้ให้เจริญก้าวหน้าให้ได้เลยค่ะพี่ภู”หญิงสาวในชุดเรียบหรูทันสมัยสีฟ้ายาวพลิ้วมือเรียวขาวละเอียดขยับแว่นกันแดดขนาดใหญ่ที่บดบังดวงหน้าเล็กได้รูป ริมฝีปากสีชมพูเป็นกระจับฉีกยิ้มหวานส่งให้ชายหนุ่มร่างสูง อกผายกว้างชุดเสื้อโปโลสีขาวสะอาดที่ยืนขนาบข้าง
“พี่เชื่อว่าบูรทำได้ เหมือนที่พ่อกับแม่ก็เชื่อว่าบูรจะเป็นเจ้าหญิงน้อยที่ดูแลงานในสวนดอกไม้นี้ได้เหมือนกัน”พี่ชายกล่าวด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขทอดสายตามองสวนดอกไม้ท่ามกลางขุนเขาที่รายล้อมรอบทั้งสองไว้ราวกับมดตัวน้อยกระจ้อยร่อย หญิงสาวสวยเริดผมดำขัดม้วนดัดเข้าทรงหรือบูรณา ศรีธิชัยชาญเดินนวยนาดมาหยุดหน้าแปลงดอกไม้หลากสีเรียงรายเป็นระเบียบแบ่งกลุ่มออกเป็นแต่ละชนิดพลางหมุนตัวไปรอบๆ สัมผัสกับลมพัดเอื่อยเฉื่อย
“ไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับคนที่มีความตั้งใจจริง” ภูธนาในชุดเสื้อคอโปโล ผมดำขลับตัดกับใบหน้าแหลมเจ้าเล่ห์แฝงไปด้วยเสน่ห์น่าดึงดูด บูรณายิ้มกว้างขวางหันกลับมาตอบด้วยความตื่นเต้น
“บูรตื่นเต้นค่ะพี่ภู ตอนนี้จะต้องมาดูแลกิจการเป็นของตัวเองจริงๆ จังๆ บูรคงจะต้องมาปรึกษาพี่ภูบ่อยๆ แล้วเพราะพี่ภูน่ะออกจะเก่ง มีทั้งไร่กาแฟแล้วก็ร้านกาแฟด้วย”
“กว่าจะออกมาเป็นรูปร่างเราก็เห็นว่าต้องเจออุปสรรคแค่ไหน โดยเฉพาะร้านกาแฟกว่าจะเป็นรูปร่างต้องฟาดฟันกับยัยอิงแก้วมะขามป้อมนั่นอีก”ภูธนาพูดติดตลกเพราะนึกถึงหญิงสาวที่กล่าวถึงทีไรก็นึกถึงความหลังที่โดนน้องสาวต้มจนเปื่อย หลอกให้มาร่วมหุ้นเปิดร้านกาแฟกับอิงแก้วผู้หญิงที่เขาไม่ชอบขี้หน้าในตอนนั้นจนเกิดเรื่องยุ่งวุ่นวายต่างๆ นาๆ แต่ก็เพราะได้กามเทพบูรณาอีกเช่นกันที่ทำให้เขาได้พบกับรักแท้จริงที่ตามหามาแสนนานใช่รักที่เกิดจากรูปกายภายนอก
“พูดให้ยัยอิงได้ยินคงจะเรื่องใหญ่โตเลยแหละ แหม ชอบจริงๆ นะกับการตั้งฉายาให้กับคนอื่น”
“รักดอกจึงหยอกเล่นน่ะ ก็เพราะเราไม่ใช่หรือยัยบูรที่ทำให้พี่กับอิงแก้วได้รู้จักกันมากขึ้น”ภูธนาขยิบตาเจ้าเล่ห์ บูรณายกมือขึ้นปิดปากตนเองกึ่งทะเล้น
“อุ้ย! ตายหวานซะด้วยพี่ชายเรา”เจ้าหล่อนหยอกเอิญให้พี่ชายขวยเขินเล่นๆ ภูธนาหน้าแดงแจ๋ยิ้มมุมปากวางมาดเล็กน้อย
“ว่าแต่เราเหอะ ไม่มีใครเข้ามาจีบบ้างหรือ”ภูธนาเปลี่ยนเรื่องได้รวดเร็ว หันมากระเซ้าเย้าแหย่น้องสาวเป็นการเอาคืนที่ถูกหยอกให้เสียศูนย์ไปพักใหญ่ บูรณาเชิดหน้าขึ้นยกมือขึ้นกอดอกพร้อมรอยยิ้มมั่นๆ
“อย่างบูรณาถ้าหาดีไม่ได้ก็ไม่มีเลยซะดีกว่า ผู้ชายสมัยนี้มันมีหลายเล่มเกวียน”
“เล่มเกวียนเค้าใช้กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอไง”ภูธนาแย้งขึ้นเร็วไว บูรณาหมุนตัวกลับหรี่ตากลมใสให้เล็กลง
“สมัยนี้ค่ะ ผู้ชายเจ้าชู้มันก็ใช้มารยาพอๆ กับผู้หญิงน่ะแหละ ไว้ใจได้ที่ไหน”บูรณายกมือขึ้นกอดอกเหล่มองผ่านแว่นกันแดดอันใหญ่เบ้อเร่อเท่อที่วางอยู่บนดั้งโด่ง
“นึกเจ็บแค้นเรื่องในอดีตหรือไงที่ไอ้หน้ากวางนั่นทำรอยช้ำเอาไว้ แต่พี่ว่าดีแล้วที่บูรรู้ธาตุแท้มันก่อนจะได้ไม่ต้องเสียใจที่คบกับคนเฮงซวยอย่างมัน”
“ก็บูรถึงบอกไงคะว่าผู้ชายดีๆ มันมีแค่ในนิยาย”
“แล้วนายเวลนั้นล่ะ เห็นตามจีบบูรอยู่นี่ ออกตัวแรงซะด้วยนะ”ภูธนาถามขึ้นเมื่อไม่นานนี้ที่นักธุรกิจส่งออกตาน้ำข้าวนามว่าเวล เบลเที่ยม เพื่อนสนิทกับต้นโอ๊คเจ้าของไร่ทานตะวันขนาดใหญ่ตรงกันข้ามไร่กาแฟชาญทิพย์ที่เพิ่งหนีไปพักใจไกลถึงเมืองนอกเพราะภรรยาสาวเสียชีวิตกะทันหันเนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในงานฮันนีมูนบนเรือใหญ่เมื่อแก๊งนักต้มตุ๋นจับตัวเธอเป็นตัวประกันและผลักตกน้ำจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมติดตาทุกคนที่ไปร่วมงานให้โศกเศร้าอาลัยกันไปพักใหญ่
“บูรไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อยพี่ภู”บูรณาค้อนหางตาให้ ภูธนาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าของหนุ่มฝรั่งขี้เล่นที่ไม่เคยถือตัวว่าตนนั้นเป็นนักธุรกิจพันล้านแต่กลับวางตนเป็นคนติดดิน และมองโลกในแง่บวกเสมอ
“ก็ดีเหมือนกันพี่ก็จะคอยดูว่าพวกหนุ่มๆ ที่เข้ามาหาน้องพี่เป็นคนยังไง คงจะต้องสแกนกันละเอียดหน่อยล่ะ”ภูธนาตั้งตนเป็นพี่ชายเจ้าระเบียบ บูรณาส่ายหน้าทอดตามองดอกไม้งามที่เบ่งบานเต็มลานทุ่งส่ายเอียงโอนเอนไปตามแรงลมร้อนๆ ที่พัดพาดอกไม้ให้ไหวกระเท่เร่ไปทิศทางเดียวกันอยู่เนินนาน
“เดี๋ยวพี่คงต้องไปก่อนเพราะต้องเข้าไปดูงานในร้านกาแฟหน่อยไม่รู้ว่ายัยอิงจะซุ่มซ่ามทำอะไรเสียหายอีก ปล่อยไว้นานไม่ได้ไว้ใจไม่ได้มาก”ภูธนายกนาฬิกาขึ้นดูเวลา บูรณาพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวบูรก็ว่าจะเข้าไปในเมืองเหมือนกันค่ะ พอดีบูรมีแผนว่าจะจัดงานเปิดตัวสวนดอกไม้ค่ะก็เลยจะไปหาที่ปรึกษาในการจัดงานซะหน่อยเพราะงานนี้บูรจะไม่ทำให้คุณลุงคุณป้าเสียหน้าแน่ อีกอย่างสวนดอกไม้สมัยนี้ก็มีหลายที่บูรเลยอยากจัดงานเปิดตัวให้ที่ของเราเป็นที่รู้จักกว้างขวางบ้าง”บูรณาออกไอเดียเด็ด ภูธนาดีดนิ้งป๊อกขยิบตาให้น้องสาวเป็นนัย
“นี่ไงนักธุรกิจสาวมั่น ไอเดียเก๋เลยไม่น้อย”
“นี่แค่แพลนค่ะ แต่บูรยังคงต้องหาที่ปรึกษาก่อน”
“พวกอีเว้นน่ะหรือ”
“ก็อยากได้บริษัทอีเว้นกึ่งการตลาดไรทำนองนี้ด้วยน่ะค่ะ พอดีบูรมีแพลนไว้หลายอย่าง”บูรณายิ้มสวย ภูธนาเลิกคิ้วสูง “แพลนอะไรบ้างล่ะ”
“อุบเป็นความลับค่ะ แล้วถ้าออกมาเป็นรูปร่างเมื่อไร บูรจะบอกพี่ภูเป็นคนแรกเลยนะคะ”บูรณาเกริ่นไว้เพราะมีความลับที่อยากจะปกปิดไว้เซอร์ไพส์ในภายภาคหน้า ภูธนายิ้มกรุ้มกริ่มไม่ได้ซักไซ้ถามต่อเพราะเขาเองก็เคยมีแผนอยากเปิดธุรกิจโดยไม่ใช้ทุนทางครอบครัวโดยวางแผนไว้และเซอร์ไพส์ครอบครัวแบบนี้เช่นกัน
รองเท้าส้นจิกสีขาวทันสมัยเดินเร็วๆ ตรงเข้ามาในร้านกาแฟสไตล์อบอุ่นโทนสีฟ้าน้ำตาลอ่อน พนักงานในร้านต่างออกมาต้องรับขับสู้อย่างดีด้วยรอยยิ้มหวานสวยขณะที่บูรณาพยักหน้าทักทายพร้อมส่งยิ้มตอบด้วยความสุภาพ ทุกสายตาหันกลับมามองเจ้าของชุดหรูเริดและทรงผมสลวยทันสมัยเป็นตาเดียวกัน บูรณาร่างสูงโปร่งตากลมวาวเมื่อถอดแว่นกันแดดนำแฟชั่นนั้นออก
“สวยจริงเชียวบูรณาสาวเริด”หญิงสาวผมยาวสลวยสีดำขลับตัดกับแก้มยุ้ยจิ้มลิ้มพริ้ม ดวงตากลมวาวฉายประกายพราวด้วยความสุขยืนโบกมือรับอยู่ที่เคาน์เตอร์หน้าร้าน บูรณาหันกลับพร้อมเร่งฝีเท้าตรงมายังเพื่อนสาวคนสนิท
“อะไรยะยัยอิง มาถึงก็มาปะเหลาะเลยนะ”บูรณาเหลือบตามองแกมจิกแกมเล่น อิงแก้วเพื่อนสาวตัวเล็กอวบในชุดสีม่วงยิ้มกว้างจนตาหยีหล่อนเป็นเพื่อนรักกับบูรณามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมและตอนนี้อิงแก้วกับภูธนากำลังดูใจกันและกันไปกันด้วยดีจนเป็นที่น่าอิจฉา ถึงแม้ทั้งสองจะชอบหยอกล้อกันราวกับคู่กัดแต่แท้จริงแล้วเขาทั้งสองต่างรู้ใจกันราวกับคนรู้ใจกันมานานนับปี
“ลมอะไรหอบมาล่ะ แต่งตัวสวยจนหนุ่มๆ หันมามองกันเต็มเลย”อิงแก้วเหลียวมองหนุ่มน้อยใหญ่ที่ต่างพากันยิ้มหวานส่งให้ บูรณามอบแวบก่อนตอบ
“พอดีฉันนัดกับที่ปรึกษาทางด้านการตลาดน่ะ พอดีฉันมีแพลนจะเปิดตัวสวนดอกไม้ให้เป็นที่รู้จัก เลยอยากจะวางแผนทำการตลาดให้ดี ๆหน่อย”
“ดีจริง แล้วนี่เขามาแล้วหรือยัง”อิงแก้วถาม บูรณายักไหล่
“ยังไม่เคยเห็นหน้าน่ะ เขาบอกว่าถ้ามาถึงจะโทรหาฉันก็รออยู่”บูรณาบอกพลางยกโทรศัพท์ประดับเพชรแวววาวขึ้น อิงแก้วยิ้มแหยๆ บูรณายังไม่ละความเว่อที่เกินจนล้นแต่ถึงแม้หล่อนจะสวยเริดหรูเพียงไรก็ไม่ยอมปล่อยใจให้หนุ่มใดที่ไหนอีก อาจเป็นเรื่องในอดีตที่ไม่น่าจดจำแต่เธอก็ไม่ยอมให้ใครมาหลอกซ้ำให้เธอต้องกลับไปโง่งมนั้นดังเดิมแต่จะผงาดเป็นสาวสวยฉลาดที่ไม่ยอมให้ใครมาจูงจมูกได้อีก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นบูรณาเร่งรับสายขณะที่ชายคนหนึ่งเดินเร่งแทบวิ่งตรงมาในร้านพร้อมกับมือที่ถือโทรศัพท์แนบไว้กับหูด้วย
“ผมมาถึงแล้วครับ ไม่ทราบว่าคุณบูรอยู่ที่ไหนแล้วครับ”ชายร่างสูง ผิวคล้ำในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสดหยุดพูดกลางร้าน บูรณายิ้มแกมขันก่อนจะยกมือขึ้นโบก
“อยู่นี่คะ”หล่อนยิ้มกว้างโบกมือเหยงๆ ชายหนุ่มหันกลับมองหน้าตาเก้กังวางโทรศัพท์ลงพร้อมเดินตรงมาพร้อมกับกระเป๋าหนังสีดำที่หอบมาด้วย
“สวัสดีครับคุณบูรณา ศรีธิชัยชาญ ผมธำรง คงธรรมครับ”ธำรง ว่าที่ที่ปรึกษาทางด้านการตลาดกล่าวขึ้น บูรณาพยักหน้ารับพร้อมกล่าวตอบ “สวัสดีค่ะคุณธำรง คงธรรม”
“ธำรง คงธรรม นายบูมนี่”เสียงหนึ่งแทรกขึ้น ชายหนุ่มที่ถูกกล่าวชื่อเหลียวกลับพบกับอิงแก้วที่ตาค้างอยู่ที่เคาน์เตอร์ “เฮ้ย! อิงแก้วนี่”เขาร้องขึ้น บูรณามองสลับไปมาระหว่างเพื่อนสาวกับที่ปรึกษาหนุ่ม
“นี่รู้จักกันด้วยหรือ”
“รู้จักสิ นี่เพื่อนฉันตอนสมัยเรียนการตลาดด้วยกันบูมน่ะเก่งมากเลยนะ ถ้าเธอได้ร่วมงานกับบูมน่ะไม่มีคำว่าผิดหวัง”
“โหย อิงแก้วก็พูดไป จริงๆ ตัวเต็งที่เรียกว่ามือหนึ่งด้านการตลาดน่ะต้องยกให้ไอ่กรมัน รายนั้นน่ะที่สุดหัวไว ฉลาดหลักแหลมเป็นที่กล่าวขวัญที่สุดในกลุ่ม ช่วงก่อนได้ยินว่ากรมันทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ใช่เหรออิง ตอนนี้คงก้าวหน้ามาก”ธำรงเล่าเท้าความไปถึงความเก่า อิงแก้วยิ้มแหยๆ มองบูรณาที่ตั้งใจรับฟังเรื่องของบุคคลที่กล่าวถึง
“ตอนนี้กรดูแลร้านหนังสือของพ่อเขาน่ะ”
“อ้าว! แล้วงานนั้นล่ะ”
“ออกแล้ว คือกรบอกว่ามีปัญหาน่ะ เรื่องมันยาว”
“เสียดายมากเลยนะ คนที่มากความสามารถแบบกรน่ะอนาคตไกล ฝีมือ กลยุทธก็มีมากมาย ไม่น่าจะถอนตัวเลย”ธำรงต่อเรื่องเพราะนึกเสียดายในความสามารถ อิงแก้วก็แอบคิดเช่นเดียวกับที่เพื่อนหนุ่มกล่าว บูรณากระพริบตาปริบๆ เพราะบุคคลที่กล่าวถึงคือกรวิท ทศวัตร เพื่อนสนิทของอิงแก้วเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ฝีปากกล้าและเคยปะทะฝีปากกับบูรณามาก็หลายครั้งแต่ไม่เคยรู้ถึงประวัติและภูมิหลังอย่างแท้จริง มาได้ยินกิตติมาศักดิ์ถึงความเก่งกาจก็คราวนี้ที่ธำรงบอกเล่า บูรณาใจลอยนึกถึงภาพของชายหนุ่มหน้าตี๋ สวมแว่น สูงขาวหน้าตาเรียบร้อยแต่นิสัยต่างกับภาพลักษณ์ราวกับคนละขั้วทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันก็ไม่วายจะต้องขัดคอกันทุกครั้งอาจเป็นเพราะเมื่อครั้งก่อนที่เขาพยายามจับคู่ให้อิงแก้วกับพี่ชายของเขาแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะภูธนาคว้าใจอิงแก้วไปได้เสียก่อน
“แล้วทำไมบูมไม่ชวนกรมันมาร่วมงานด้วยล่ะ”อิงแก้วแทรกขึ้น ทะลายภวังค์ของบูรณาให้กลับสู่โลกปัจจุบัน
“เคยชวน แต่มันใจแข็งไม่รู้มันไปเจอภูมิหลังอะไรมา อิงพอรู้ไหม”ธำรงถามขึ้น อิงแก้วยิ้มแหยๆ ไม่กล้าตอบ
“พูดยากน่ะ เอาเป็นว่าคงยาก”อิงแก้วผู้กำความลับบอกปัด ธำรงไม่ถามต่อให้มากความหันมามองบูรณาที่หยีตามองเจ้าเล่ห์
“คุณบูรว่ายังไงบ้างครับ เรามาคุยงานของเราเลยดีไหม”ธำรงแทรกขึ้น บูรณายิ้มกลับกล่อนจะผายมือออกไปทางน้ำตกที่สวนหย่อม
“อ้อ! โอเคค่ะเชิญที่สวนหย่อมกันดีกว่านะคะ บรรยากาศโอเคดีกว่าค่ะ”บูรณาเชิดหน้าขึ้นเดินนำเข้าไปในสวนหย่อม กรอกตาคิดแผนดีๆ ที่คิดไว้แล้วหลังจากได้รู้ถึงความจริงทุกอย่างก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับตนเองและความฉลาดของตนเอง
จากคุณ |
:
คุณหนูแจ่มใส
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 54 23:18:53
|
|
|
|