Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฆาตกรต่อเนื่อง ติดต่อทีมงาน

แฟ้มคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานไม้เก่าแก่เป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจของผมมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะผู้ร้ายในคดีนี้เหมือนกำลังเล่นเกมส์เยาะเย้ยผู้พิทักษ์สันติราชทั่วกรุงเทพ เหยื่อของมันแต่ละรายนั้นล้วนเป็นเด็กนักเรียนตามสถานศึกษาชื่อดัง และบาดแผลที่มันฝากไว้บนร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายช่างอมหิตเกินกว่ามนุษย์คนไหนในโลกนี้จะสามารถทำลงไปได้ ประชาชนต่างหวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนในยามวิกาล ถึงแม้ทางผู้บัญชาการกรมตำรวจจะมีคำสั่งลงมาให้จัดเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง แต่สุดท้ายแล้วก็มิอาจหยุดฆาตกรรายนี้ไม่ให้ก่ออาชญากรรมครั้งต่อไปได้เลย

ข้อมูลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมมาจากคำให้การของชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุบ่งบอกให้ทราบได้แต่เพียงผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี ร่างกายสมส่วน เดินวนเวียนอยู่รอบ ๆ ที่พบศพก่อนจะอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย เบาะแสซึ่งสามารถชี้ไปหาตัวคนร้ายก็มีเพียงแต่รอยบาดแผลที่ถูกของมีคมกรีดเป็นสัญลักษณ์รูปเลขแปดบนตัวของเหยื่อทุกคน และเศษของผิวหนังที่ติดอยู่ตรงซอกเล็บของเด็กหญิงวัย 14 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายในคดีนี้ แต่ผมก็ยังไม่เห็นความหวังใด ๆ ที่เราจะสามารถจับเจ้าฆาตกรโรคจิตรายนี้ได้เลย

"สารวัตร เราได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพเด็กสวมใส่เสื้อนักเรียนถูกทิ้งอยู่ในตรอกแถวซอยสุขุมวิท 24 ครับผม"
"โอเค ให้หน่วยเก็บหลักฐานเตรียมตัวให้พร้อม และแจ้งกลับไปยังเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมอยู่ในบริเวณนั้นให้กันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปทั้งหมดด้วย"

ระหว่างทางที่ผมกำลังขับรถไปยังจุดเกิดเหตุ ภาพของลูกสาววัย 10 ขวบ ถูกใบมีดกรีดตามทั่วร่างกายผุดขึ้นมาในห้วงความคิดจนทำให้ผมรู้เสียวสันหลังขึ้นมาทันทีทันใด มันคงเป็นผลจากการที่ดูแฟ้มข้อมูลของเหยื่อรายต่าง ๆ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวมากเกินไปล่ะมั้ง ประกอบกับความเหนื่อยล้าสะสมเนื่องมาจากความพยายามในการสืบเสาะหาหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะสามารถสาวไปถึงตัวคนร้าย มันทำให้ผมลืมเสียไปด้วยซ้ำว่าได้นอนหลับสนิทครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไร แต่ผมคงไม่อาจจะหลับตาลงได้อย่างวางใจ ถ้ามารสังคมตัวนี้ยังลอยนวลอยู่ เหยื่อรายต่อไปของมันอาจจะเป็นลูกของใครคนใดคนหนึ่งหรือที่แย่ที่สุดอาจจะเป็นลูกสาวของผมก็ได้

สิ่งแรกที่มาปะทะใบหน้าของผมเมื่อก้าวเท้าลงจากรถก็คือความเย็นยะเยือกในช่วงฤดูหนาวปลายปี กลิ่นคาวเลือดที่โชยมาจากตรอกนั้นผสมปนเปไปกับกลิ่นเน่าเหม็นของกองขยะซึ่งเรียงรายอยู่ตามข้างทาง ผมค่อย ๆ เดินไปยังจุดเกิดเหตุทีละก้าว แต่ละก้าวนั้นทำให้ร่างกายของผมสั่นสะท้านไปทั่วทุกอณู ปลายนิ้วเริ่มแข็งจนไม่อาจจะกำมือได้อย่างถนัดนัก บ่าทั้งสองข้างหนักอึ้งเหมือนมีลูกเหล็กขนาด 10 กิโลกรัมวางอยู่ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศที่หนาวเหน็บจนแทบทนไม่ไหวหรือความกลัวภายในจิตใจกำลังเล่นงานผมอยู่กันแน่

"สวัสดีครับคุณสารวัตร ผมกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปตามคำสั่งของคุณแล้ว แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากจะดูศพรายนี้สักเท่าไรหรอกนะ"
"ยังไงผมก็ต้องขอบคุณมากนะจ่า เอาผ้าคลุมออกเถอะแล้วหน่วยเก็บหลักฐานของผมจะได้ทำงานกัน"

ผ้าคลุมสีขาวถูกดึงออกเผยให้เห็นสิ่งที่น่าขนพองสยองเกล้า ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากของมีคม ใบหน้าของเหยื่อถูกถลกหนังออกจนเห็นแต่เส้นสายของกล้ามเนื้อสีแดงสด นัยน์ตาเบิกโพลงแฝงไปด้วยความกลัวอย่างสุดขีดก่อนที่ผู้เคราะห์ร้ายรายนี้จะตาย ลูกทีมเก็บหลักฐานที่มีประสบการณ์มานานหลายปี พบเจอคดีฆาตกรรมมามากมายก็ยังต้านทานความโหดเหี้ยมนี้ไม่ไหวจนอ้วกไปตาม ๆ กัน ส่วนผมน่ะหรือ...ผมรู้สึกโกรธ...รู้สึกกลัว ไม่รู้สิ...ผมอาจจะชินกับภาพแบบนี้แล้วก็ได้

ผมเริ่มตรวจสอบสภาพศพอย่างละเอียด นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สัญลักษณ์รูปเลขแปดของเหยื่อรายนี้กลับหายไป ไม่ใช่...มันไม่ได้หายไป แต่เหมือนมีใครมาขัดจังหวะก่อนเสียมากกว่า เพราะมีรอยคล้าย ๆ เลขแปดอยู่ซึ่งไม่เหมือนกับรอยกรีดอื่น ๆ ตามร่างกาย และก็เป็นแบบเดียวกับศพทุกรายที่ไม่มีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมนอกจากความโรคจิตของมันที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ผมเดินจากออกมาอย่างหัวเสียไปยังหน้าตรอกปล่อยให้ทีมงานของผมรับหน้าที่ต่อไป ให้ตายเถอะ...ผมรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เมื่อไรคดีนี้จะถูกปิดได้เสียทีนะ

ผมสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเพื่อหยิบซองบุหรี่ออกมา ช่วงเวลานี้การเสพย์สารนิโคตินดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อทำให้ผมเครียดน้อยลง เมื่อเปลวไฟจากไม้ขีดถูกจุดขึ้นพร้อมกับจ่อไปที่ปลายของตัวบุหรี่ ควันกลุ่มใหญ่ก็ล่องลอยออกมาจากริมฝีปากขึ้นไปสู่เบื้องบนซ้ำแล้วซ้ำอีก ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกัมปนาทขึ้นมาสองสามครั้งจนทำให้ผมต้องรีบวิทยุแจ้งไปยังตำรวจที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เพื่อหาต้นตอของเสียงนั้น

"ตำรวจทุกนายฟังผมให้ดี ผมได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นมาสองสามนัด กระจายกำลังออกไปหาสิ่งผิดปกติบริเวณรัศมี 2 กิโลเมตรให้หมด"
"สารวัตร อาจจะเป็นเสียงพลุก็ได้ เพราะนี่ก็เป็นวันคริสต์มาสนะครับ"
"เอาเถอะน่า ทำตามคำสั่งของผมแล้วกัน"

ผมทิ้งก้นบุหรี่และหยิบปืนพกคู่ใจรีบวิ่งไปหาต้นเสียงในละแวกนั้นทันที เลือดภายในร่างกายสูบฉีดอย่างแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจเริ่มเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะสัญชาตญาณตำรวจของผมมันบอกว่าเราอาจจะจับตัวเจ้าฆาตกรโรคจิตได้ในคืนนี้แน่ ๆ

เมื่อผมวิ่งไปตามทางที่จะออกไปสู่ซอยสุขุมวิท 25 เสียงปะทุก็ดังขึ้นอีกหนึ่งครั้ง แต่คราวนี้มันมีเสียงของเด็กผู้ชายกำลังร้องโอดโอยขอความช่วยเหลืออยู่ มือทั้งสองข้างของผมกำปืนพกไว้อย่างแน่นหนาและค่อย ๆ ย่องไปตามเสียงที่ออกมาจากตรอก ๆ หนึ่ง

"อย่าฆ่าผม...ได้โปรด" เสียงขอร้องดังซ้ำแล้วซ้ำอีก
"เป็นยังไงบ้างล่ะ ความรู้สึกนี้ แกชอบมันไหมไอ้หนู"

ผู้ชายวัยกลางคน ลักษณะรูปร่างตรงกับคนที่เดินวนเวียนแถว ๆ ที่พบศพจากคำให้การของพยานกำลังถือปืนจ่อศีรษะของเด็กชายวัย 16 ปี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และก่อนที่เขาจะลั่นไกสังหาร ผมก็รีบออกไปแสดงตัวพร้อมกับเล็งปืนไปที่เขาด้วยเช่นเดียวกัน

"หยุดเดี๋ยวนี้!!! นี่ตำรวจ รีบวางปืนลงไอ้ฆาตกร"
"คุณตำรวจเรียกผมว่ายังไงนะ? ฆาตกรอย่างนั้นเหรอ...ผมเป็นเทวดามาช่วยคุณต่างหาก คุณนั่นแหละที่ต้องวางปืนลง!!!"
"ผมจะไม่พูดซ้ำสองนะ อย่าบังคับให้ผมยิงคุณ เพราะผมจะไม่ลังเลที่จะลั่นไกเลย"

สายตาของเขาจ้องมองไปที่เด็กคนนั้นพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา เลือดสีแดงฉานที่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าสีขาวทำให้ผมคิดว่าเด็กคนนี้คงจะบาดเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นไปอีกเมื่อเขาเล็งปืนมาที่ผมและในวินาทีนั้นภาพทุกอย่างดูช้าลงไปหมด ประกายไฟจากปากกระบอกปืนเริ่มปะทุขึ้น ส่งลูกตะกั่วพุ่งเข้าไปฝังอยู่ตามร่างกายของกันและกัน สิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยินก็คือ เสียงของฝีเท้ากลุ่มหนึ่งที่กำลังดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

"เรียกหน่วยแพทย์มาที่ซอยสุขุมวิท 25 ด่วนเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจของเราโดนคนร้ายยิงบาดเจ็บสาหัส"
"สารวัตรจะต้องไม่เป็นอะไร แข็งใจไว้หน่อยรถพยาบาลกำลังจะมาถึงแล้ว" และทุกอย่างรอบตัวผมก็มืดสนิทลงไป...

แสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาทางกระจกหน้าต่างของโรงพยาบาลทำให้เปลือกตาของผมเปิดขึ้นอีกครั้ง ความเหนื่อล้าจากการสืบสวนคดีถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ผมพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งเพื่อที่จะสามารถมองไปรอบ ๆ ห้องได้ชัดเจนกว่านี้ แต่เหมือนกับมีรถบรรทุกหนักเป็นตันมาทับอยู่บนตัวผมอย่างนั้นแหละ

"คุณควรจะนอนพักนะคะสารวัตร"  นางพยาบาลที่เข้ามาตรวจบอกด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย
"นี่ผมสลบไปกี่วันครับเนี่ย"
"ประมาณอาทิตย์หนึ่งได้ค่ะ ถือว่าคุณโชคดีมาก ๆ ที่กระสุนไม่ทะลุไปโดนจุดสำคัญ ยังไงตอนนี้คุณอย่าเพิ่งลุกไปไหนนะคะ ถ้าอยากจะได้อะไรก็กดปุ่มแดงที่อยู่ทางขวามือของคุณก็แล้วกัน"

ทันใดนั้นเพื่อนตำรวจของผมก็เปิดประตูเข้ามาพอดี นางพยาบาลพูดกับเขาสองสามคำก็ที่จะเดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้เราอยู่ด้วยกันแค่สองคน

"พรุนไปทั่วตัวเลยนะเพื่อน โชคดีจริง ๆ ที่นายรอดมาได้"
"ว่าแต่...คนร้ายเป็นอย่างไรบ้าง" ผมอดที่จะถามถึงความคืนหน้าในคดีนี้ไม่ได้
"เสียชีวิตไปแล้ว กระสุนที่นายยิงไปทะลุปอดเข้าอย่างจัง ตอนที่เราไปถึงมันก็นอนตายคาที่แล้วล่ะ"
"แล้วผลตรวจหลักฐาน ดีเอ็นเอตรงกับเศษผิวหนังบนเล็บของเหยื่อไหม"
"นี่สิแปลก...ผลตรวจบอกว่าดีเอ็นเอของคนร้ายไม่ตรงกับเหยื่อ แต่...คราบเลือดของใครบางคนที่เราพบในที่เกิดเหตุกลับตรงกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน"
"เด็กล่ะ? เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน" ผมถามกลับด้วยความร้อนรน
"เด็ก? นี่นายพูดถึงอะไร ตอนที่เราไปถึงก็เหลือแต่นายกับคนร้ายอยู่แค่สองคนเท่านั้นนะ"
"ก็เด็กที่ทั้งตัวมีแต่เลือดไง นี่นายไม่เห็นเลยเหรอ..."
"ไม่มีนะ เออ...ลืมบอกไป บนตัวคนร้ายน่ะมีรอยกรีดรูปเลขแปดอยู่ด้วย เป็นแผลเป็น คาดว่าเขาคงกรีดตัวเองมานานมากแล้วล่ะ ส่วนรอยเลือดที่ดีเอ็นเอตรงกับเศษผิวหนัง เราสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะมีมากกว่าสองคนก็เป็นไปได้"

สิ่งที่ผมได้ยินจากปากเพื่อนตำรวจกลับทำให้ผมรู้สึกสับสนมากขึ้นกว่าเดิม นี่เรากำลังเล่นอยู่กับขบวนการที่ทำงานเป็นแบบแผนอยู่อย่างนั้นหรือ แต่แล้วผมกลับนึกขึ้นได้อีกอย่างหนึ่งก่อนที่ผมจะสลบไปด้วยพิษคมกระสุน ใช่แล้ว...มือของชายวัยกลางคนชี้ไปที่เด็กคนนั้น เขาพยายามจะพูดอะไรกับผมสักอย่าง ใช่...เขาพูดว่า

"ฆะ..ฆะ...ฆ่า...ตะ...กร"

----------------------------------------------------------------

เชิญวิจารณ์กันได้เลยครับ เรื่องสั้นเรื่องนี้ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วฆาตกรคือใคร และเด็กคนนั้นจะใช่หรือไม่ แต่ผมมีความคิดที่จะนำโครงเรื่องนี้ไปเขียนต่อให้เป็นเรื่องยาวกว่าเดิม ยังไงก็ลองติดตามอ่านกันนะครับผม ขอบคุณครับ

จากคุณ : MazzCazz
เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 54 14:30:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com