ชีวิตชาวบ้านคลองหวะ-ข้อควรปฏิบัติ
|
 |
ชีวิตชาวบ้านคลองหวะ-ข้อควรปฏิบัติ
ในกิจการงานมงคลต่าง ๆ ของชาวบ้าน เช่น การดูที่ตั้งบ้านเรือน การลงเสาเอก วันขึ้นบ้านใหม่ การสู่ขอลูกสาว การแต่งงาน งานบวช งานศพ จะมีข้อห้ามทางพิธีกรรมต่าง ๆ ที่แล้วแต่ชาวบ้านที่ได้เชื่อถือกันมา ดังนั้นเวลามีงานพิธีกรรมต่าง ๆ ก็มักจะเชิญหมอมาทำพิธีกรรม สมัยนั้นจะมีหมอหลากหลายประเภท เช่น หมอดูที่ตั้งบ้านเรือน หมอดูที่ขุดบ่อน้ำ หมอตำแย หมอตั้งขันหมาก หมอยา เป็นต้น
การที่จะได้เป็นหมอในสมัยนั้น จะเป็นการสืบทอดกันมาทางสายเลือด เรียกว่า พ่อ ปู่ สืบทอดกันมาโดยตลอด เป็นลูกหลานสายตรงหรือจากการแต่งงานแต่งการกัน หรือจากการถ่ายทอดระหว่างครูกับลูกศิษย์ หรือเรียกว่า เรียนรู้จากผู้รู้ ไม่ใช่จากการอ่านตำราหรือหนังสือ แล้วตั้งตนเป็นหมอแต่อย่างไร เพราะความเชื่อถือและศรัทธาก็จะลดน้อยเสื่อมถอยลงไปมาก เนื่องจากเชื่อว่า เคล็ดลับบางอย่าง หรือข้อห้ามบางอย่างจะไม่มีการเขียนไว้ในหนังสือหรือตำรา แต่จะมีการบอกต่อกันมาแบบปากต่อปาก หรือรู้กันเฉพาะในวงวิชาชีพของกลุ่มตนเท่านั้น
ดังนั้นจึงมีธรรมเนียมประเพณี หรือข้อควรปฏิบัติของชาวบ้านที่ว่า เวลาไปร่วมงานร่วมการที่บ้านใครแล้ว อย่าถือตนว่ามีอายุหรืออาวุโสกว่าผู้อื่น แล้วเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการในงานในการของเจ้าของพิธี เพราะบางครั้งเจ้าของได้กำหนดฤกษ์ยาม หรือบุคคลที่จะต้องมาทำพิธีไว้เรียบร้อยแล้ว เผลอ ๆ จะทำให้เขาเสียฤกษ์เสียยาม หลักง่าย ๆ ก็คือ คำกลอนเดิมที่มักจะท่องกันว่า
วันที่เป็นมิตรกัน
อาทิตย์ เป็นมิตรกับครู (พฤหัสบดี) จันทร์โฉมตรู พุธนงเยาว์ ศุกร์ปากหวาน อังคารรับเอา ราหูกับเสาร์ เป็นมิตรแก่กัน วันที่เป็นศัตรูกัน
อาทิตย์ ผิดใจกับอังคาร พุธอันธพาล วิวาทกับราหู ศุกร์กับเสาร์ นานเนาว์เป็นศัตรู จันทร์กับครู เป็นคู่อริกัน
เป็นความเชื่อแต่โบราณนานนมว่า คนที่วันต้องกันก็มักจะถูกคอกัน หรือคบกันเป็นเพื่อนมิตรสหายกันได้ยืนนาน ภาษาใต้เรียกว่า ถูกรัดดวงกัน (รัดดวง = ริดสีดวงทวาร)
ถ้าผิดวันกันมักจะมีปัญหา หรือผิดพ้องหมองใจกันง่าย
ดังนั้น การที่ไปร่วมงานพิธีต่าง ๆ จึงไม่บังควรไปเจ้ากี้เจ้าการในพิธีกรรมต่าง ๆ เพราะเจ้าของบ้านหรือหมอได้กำหนดตัวบุคคล ที่จะให้ทำพิธีต่าง ๆ ไว้แล้ว เช่น คนที่จะลงเสาเอก คนจูงมือเจ้าสาว คนที่จุดไฟพิธีการต่าง ๆ หรือ คนผ่ามะพร้าวให้เป็นสองซีก เพื่อทำนายว่า คู่สมรสนี้จะร่ำรวยหรือปานกลาง ถ้าหงายทั้งสองข้าง ก็รับเงินทั้งคู่ ถ้าคว่ำทั้งสองข้าง ก็เก็บเงินไม่อยู่ทั้งคู่ ถ้าหงายข้างหนึ่ง คว่ำข้างหนึ่ง ก็ฐานะปานกลาง พอกินพอใช้
ดังนั้นมักจะมีการกล่าวกันว่า การเป็นเฒ่าควรจะอยู่เป็น ไม่ใช่เฒ่าเพราะกินข้าว ไม่ใช่เฒ่าเพราะอยู่นาน ไม่ใช่เฒ่ากระโหลกกะลา (ไม่มีราคา) แต่ควรเป็นเฒ่าสังคโลกลายคราม (จะได้มีราคา)
เขียนขึ้นจากความทรงจำร่วมกัน ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนหมอพิธีกรรมพื้นบ้านที่ผ่านมา
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 54 10:15:13
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ส.ค. 54 10:11:14
|
|
|
|