นักรบจันทรา ตอนที่ 1 ผู้กล้าแสงตะวัน
|
 |
แม่น้ำการ์ที่เชี่ยวกรากที่สุดในทวีปใหญ่เป็นศูนย์รวมของหลายชีวิตไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ แต่ตอนนี้ที่ริมตลิ่งกลายเป็นที่ก่อไฟนอนฆ่าเวลาของการ์ เด็กหนุ่มผู้ร่อนเร่ไปเมืองต่างๆพร้อมกับพ่อบุญธรรมที่เก็บเขามาเลี้ยง ดวงตาสีพระจันทร์ของเขากำลังมองกองไฟที่ลุกโชนเพราะเมื่อกลางวันได้รับคำสั่งไร้สาระเกี่ยวกับการออกตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง
"ตั้งหลักแหล่งได้แล้วแท้ๆ" การ์พูดกับกองไฟแล้วตัดสินใจกลับไปยังหมู่บ้านเล็กๆอีกครั้งด้วยลางสังหรณ์ประหลาด
เขากับพ่อบุญธรรมอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆได้แค่ห้าปี พ่อบุญธรรมของเขาบอกเสมอว่าเพราะเก็บการ์มาได้ข้างแม่น้ำเชี่ยวสายนี้จึงตั้งชื่อเด็กน้อยตามชื่อแม่น้ำ แล้วทั้งสองก็ทำเหมือนกับแม่น้ำการ์ ไหลไปทั่วทวีปใหญ่ไม่หยุดนิ่ง เว้นเสียแค่สองเมืองใหญ่ที่มีการคุ้มกันเข้มงวดเท่านั้น
แต่สิ่งที่การ์พบนั้นคือหมู่บ้านเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่แสงไฟหรือเสียงผู้คน เขารีบวิ่งไปดูจนทั่วก็ไม่พบใครนอกจากหลุมศพที่เยอะเหมือนเป็นที่ฝังศพของคนทั้งหมู่บ้าน เมื่อไปดูกระท่อมของตนก็ไม่พบกับพ่อบุญธรรม ตอนนั้นหัวสมองมึนตื้อคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าคนในหมู่บ้านไปอยู่ที่ใด หากจะอยู่ในหลุมนั่นก็น่าแปลกเพราะไม่มีร่องรอยการต่อสู้และใครเป็นผู้กลบฝังคนทั้งหมู่บ้านกัน
เขารีบฉวยสัมภาระจากกระท่อมของตนไม่ว่าจะเป็นเงินหรือดาบที่ใช้มาตั้งแต่เด็ก เขาคิดว่าระหว่างการนอนเล่นคงเกิดเหตุการณ์อะไรสักอย่างทำให้คนในหมู่บ้านย้ายไปอยู่เมืองยูเรียที่อยู่ใกล้ๆ ระยะห่างระหว่างหมู่บ้านของเขากับเมืองดังกล่าวไกลกันประมาณเดินหนึ่งวัน หากเดินไปตอนนี้อาจพบกับทุกคนที่กำลังพักนอนกันกลางป่า
การ์เดินฝ่าป่าดงอันมืดมิดด้วยตัวคนเดียวและคบไฟอีกหนึ่งอัน เขาพยายามเร่งฝีเท้าจนหายใจไม่ทันเป็นเวลาหนึ่งคืนโดยไม่พักแต่กลับไม่เจอคนในหมู่บ้านเลยแม้แต่คนเดียว พอสอบถามทหารยามที่เฝ้าประตูจึงรู้ว่า เมื่อหัวค่ำวานนี้มีปีศาจกลุ่มย่อยๆผ่านทางโดยไม่ทราบเหตุผลและไม่มีเมืองอยู่แถบนี้จึงไม่สนใจเข้าปะทะ
จนผ่านไปได้สักครู่ก็มีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับการ์มาแจ้งว่าปีศาจกลุ่มเมื่อครู่ฆ่าคนในหมู่บ้านจนกลายเป็นหมู่บ้านร้าง ชายหนุ่มอยากพบกับเขาคนนั้นแต่ทหารยามบอกว่าเขาหายตัวไปด้วยมนตร์เคลื่อนย้ายจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน เมื่อถามลักษณะคร่าวๆก็รู้ว่าเป็นชายผอมสูงมีดวงตาสีเขียว หน้าซีดเหลืองมองครั้งเดียวก็จำได้
"นั่นหมู่บ้านของข้าเอง
ตอนเย็นข้าไปนอนเล่นในป่านานไปหน่อยเลยไม่ได้อยู่ด้วยตอนนั้น"
การ์ตอบด้วยดวงตารื้นน้ำ หลุมศพที่เห็นคงเป็นที่ฝังศพของคนในหมู่บ้านจริงๆ เขาอยากเดินกลับไปหมู่บ้านร้างอีกครั้งแต่ขาของเขาแทบไม่มีแรงยืนจึงยื่นใบผ่านทางเพื่อเข้าไปนอนพักในเมือง เขาแทบไม่รู้สึกตัวว่าเดินไปพักที่ไหนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปพักห้องอะไร ในหัวคิดอยากนอนสักตื่นเผื่อตอนนี้เขากำลังฝันอยู่ หรือไม่ก็ไม่ต้องตื่นมาเผชิญกับความจริงเลย
ในฝันของการ์ช่างแปลกกว่าที่เคยฝัน รอบข้างเต็มไปด้วยแสงสว่างของกลางวันแม้แต่เงาคนก็เป็นสีสรรต่างๆ ในความฝันเขากำลังวิ่งไปเรื่อยๆ ปากพร่ำบ่นอยากพบกับความมืด แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งไปที่ใดก็ไม่พบกับสิ่งที่น่าจะเป็นความมืดเลยสักอย่างจนเขาตื่นขึ้นกลางดึกเพราะความหิว ในห้องมืดสนิทไม่มีแม้แต่แสงจันทร์ ทำให้สงสัยว่าทำไมในฝันเขาจึงต้องการความมืดถึงขนาดนั้น
การ์หันไปมองด้านนอกห้องเพราะลูกไฟสีฟ้าเล็กๆลอยมาเกาะที่ขอบหน้าต่าง เมื่อเพ่งมองก็เห็นว่ามันคือนกน้อยที่มีไฟสีน้ำเงินปกคลุมเหมือนเสื้อคลุม การ์เคยเห็นนกไฟแต่ไม่เคยเห็นนกไฟที่มีขนสีนี้เลยแม้แต่ตัวเดียว เขาค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินไปดูนกเพลิงสีฟ้าตัวเท่าแม่ไก่ใกล้ๆ นกน้อยก็ทำตัวไม่กลัวคนกระโดดสั้นๆเข้ามาในห้อง ก้าวย่างบนโต๊ะเขียนหนังสือไร้ซึ่งท่าทีระแวดระวัง มันคงรู้ว่าการ์หลงเสน่ห์สีขนของมันเสียเต็มเปา
การ์จ้องมองนกไฟสีฟ้าไม่วางตา พอเขาเผลอเอียงคอตามเจ้านกก็ฉวยโอกาสใช้อุ้งเล็บจิกลงบนห่อหนังของชายหนุ่ม เมื่อการ์รู้สึกตัวนกสีฟ้าก็กระโจนออกจากห้องพักในพริบตา เขารีบใช้หินจุดไฟติดตะเกียงแล้วตรวจสัมภาระ นกตัวนั้นขโมยถุงเงินของเขาไปทั้งถุง!
"ไว้ได้เงินคืนเมื่อไรรับรองว่ามันต้องโดนเหยียบแน่" การ์กัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น ฉวยสัมภาระทั้งหมดวิ่งออกนอกที่พักเพื่อไล่ตามนกเพลิงขี้ขโมย เขาโยนเงินเท่าที่มีเหลือติดตัวให้คนเฝ้าร้าน โชคดีที่นกขี้ขโมยยังเกาะต้นไม้ใกล้ๆราวกับมีแผน แสงสีฟ้าที่ปกคลุมร่างทำให้การ์มองเห็นมันอย่างเด่นชัด
การ์ตะโกนอย่างบ้าคลั่งให้นกสีฟ้าคืนถุงใส่เงินของเขาคืนมา มันกลับใช้จะงอยปากคาบเหรียญขึ้นมาเหรียญหนึ่งแล้วปาใส่หัวอย่างแรงพร้อมกับกระพือปีกบินหนี เขาก้มเก็บเหรียญแล้ววิ่งไล่ไปกุมหัวไปด้วยความเจ็บระคนโกรธโดยไม่นึกเอะใจว่าเจ้านกต้องการให้เขาวิ่งตามเข้าไปในป่าที่ซับซ้อน
การ์เป็นคนแข็งแรงและเพิ่งตื่นขึ้นจากการพักผ่อนจึงยังมีแรงเหลือเฟือที่จะตามเจ้านกน้อยในความมืด ตอนนี้เขาไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากเงินใช้ซื้อข้าวประทังชีวิตในอุ้งเล็บของนกตัวนั้น เขาถูกล่อให้วิ่งไปตามทางด่านสัตว์โดยไม่รู้ตัวจึงไม่พบสิ่งกีดขวางเพียงแต่เขาไม่ได้สนใจทำเครื่องหมายไว้ตามทางอย่างเคย พอการ์หยุดพักเหนื่อยเจ้านกน้อยก็หยุดพักด้วยยิ่งทำให้เขานึกว่ากำลังถูกยั่วโมโห ทั้งคู่เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันจนถึงเช้าด้วยความโกรธที่มีอยู่เต็มเปี่ยม
"หยุดนะ! หยุด!"
การ์ตะโกน เสียงของเขาทำให้คนที่อยู่ในกระท่อมใกล้ๆตกในเดินออกมาดู เจ้านกน้อยปล่อยถุงเงินลงข้างกระท่อมที่สร้างขึ้นอย่างลวกๆ เขาชูมือไล่นกน้อยอย่างหัวเสียวิ่งไปเก็บเงินของตัวจนไม่ทันสังเกตเห็นเด็กชายที่เดินออกมาจากกระท่อมหลังนั้น
"การ์หรือ กำลังรออยู่พอดีเลยละ"
เด็กหนุ่มผมสีดำสนิทใบหน้าเต็มไปด้วยกระและสิวร้องด้วยความดีใจ การ์สะดุ้งเล็กน้อยเพราะเขาคนนั้นคือเพื่อนที่เคยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ไหนทหารยามคนนั้นบอกว่ากลายเป็นหมู่บ้านร้างแล้วอย่างไรละ "ท่านผู้นั้นพูดไม่ผิดจริงๆ มานี่สิข้าจะพาไปหาท่านผู้มีพระคุณ"
"ใคร แล้วคนอื่นๆอยู่ที่ไหน ท่านพ่อข้าล่ะ" การ์ยิงคำถามตลอดเวลาด้วยความสงสัยแกมยินดี เพื่อนผู้รอดชีวิตคนหนึ่งของเขาบอกว่าคนที่จะให้คำตอบกับนั่งรออยู่ข้างในกระท่อม เขาเป็นผู้ที่เดินทางมาที่หมู่บ้านพอดีกับเหล่าปีศาจจึงเข้าต่อสู้กับปีศาจเพื่อช่วยคนในหมู่บ้าน แต่ก็ช่วยชีวิตได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ข้างในกระท่อมมีแคร่ไม้ขนาดใหญ่เป็นที่นอนของเด็กเล็ก เด็กโต และคนแก่ที่รอดพ้นความตายมาได้หวุดหวิด กำแพงกระท่อมด้านหนึ่งมีชายหนุ่มห่มตัวด้วยผ้าหนาอ่านหนังสือด้วยเปลวไฟสีแดงสดที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาค่อยๆลุกขึ้นบิดขี้เกียจเมื่อเห็นการ์เดินเข้ามา
จากคุณ |
:
Lazy return
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ส.ค. 54 19:09:19
|
|
|
|