Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ้านอุ่น...ล้อมรั้วรัก บทที่ ๓ ภาพของฝัน วันของปูน ติดต่อทีมงาน

บทนำและบทที่ ๑ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10931894/W10931894.html
บทที่ ๒ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10957018/W10957018.html


หลังจากนั่งรถไฟมาร่วมชั่วโมง ต่อด้วยรถสองแถว ตามด้วยเรือข้ามฝาก แล้วก็แถมด้วยรถตุ๊กๆ อีกนิด เรียกได้ว่าการเดินทางที่ผ่านมาเล่นเอาเมื่อยขบ ภาพฝันบิดซ้ายบิดขวามองหาเส้นทางต่อไป ก่อนกระชับกระดานรองเขียนให้แนบชิดกับตัว ไม่ง่ายเลยที่จะท่องเที่ยวเมืองเก่าด้วยสองมือสองเท้าแล้วก็เงินในกระเป๋าอีกนิดหน่อยแบบนี้ กว่าเธอจะเดินทางมาถึงจุดหมายก็เล่นเอาเหงื่อชุ่มหลังได้เหมือนกัน

ภาพฝันหยุดมองป้ายใหญ่บอกชื่อวัดอยู่ได้สักพัก แล้วจึงตัดสินใจเข้าไปด้านใน อย่างไรเสียเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวคลาคล่ำมากที่สุดวัดหนึ่ง อาจจะไม่เป็นผลดีเท่าไรกับการรวบรวมสมาธิวาดรูปสักรูป แต่เธอไม่อยากจะนำเงินออกจากกระเป๋าเสียค่ารถต่อไปอีกแล้ว เพราะที่เหลืออยู่มันก็มีพอที่จะเดินทางกลับเท่านั้น

ความงามวิจิตรของศิลปะอยุธยานั้นภาพฝันพอได้ศึกษามาบ้าง หากแต่มาเห็นด้วยตาเช่นนี้ ทำให้เธอนึกทึ่งในความสามารถของศิลปินในยุคก่อน แม้นี่จะเป็นแค่เพียงซากปรักหักพัง บางชิ้นอาจจะดูสมบูรณ์แต่ก็ไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้คิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เคยทรุดโทรมลงไป ภาพฝันไม่อยากจะคิดเลยว่า หากตอนนี้เธอยืนอยู่ในกรุงอโยธยาศรีรามเทพนคร จะทำให้เธอตื่นตะลึงในความตระการของศิลปะเหล่านี้เพียงไร

ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา นิ้วเรียวลูบไปตามผิวอิฐก้อนเก่า ที่มีตะไคร่ขึ้นอยู่เบาบาง อย่างน้อยสิ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีว่า ประเทศไทยเคยมีอดีตที่รุ่งเรืองเช่นกัน

หลังจากเลือกมุมวาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าที่ศิลปินใหญ่ก็เริ่มลงมือร่างภาพด้วยดินสอที่มีความเข้มน้อยที่สุด เสียงจอแจรอบข้างไม่มีผลอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะเธอกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งศิลปะอย่างเต็มตัว ลายเส้นที่บรรจงจรดลงบนกระดาษสีขาวล้วนแต่สื่อความหมาย นั่นก็ทำให้ภาพเดียวกัน มาจากมุมเดียวกัน แต่คนวาดเป็นคนละคน กลับทำให้ภาพนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ภาพนั้นจะเหมือนกันได้อย่างไร ในเมื่ออารมณ์ของแต่ละคนช่างผิดแผกแตกต่างกัน

หลังจากร่างด้วยดินสอเสร็จแล้ว ปลายพู่กันที่ชุ่มไปด้วยสีน้ำ ถูกปาดกับขอบจานสีเบาๆ เพื่อกำจัดสีส่วนเกิน ก่อนจะแต่งแต้มลงบนกระดาษสีขาว ที่มีลายเส้นขีดเขียนและระบายน้ำเปล่าไว้อย่างบางเบา ภาพฝันถนัดสีน้ำมากที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ชอบสีอื่น เพียงเพราะสีน้ำไม่เคยมีขอบเขต อยากจะสะบัดปลายพู่กันไปทางไหน ก็ลื่นไหลได้ตามอารมณ์

พู่กันเบอร์เล็กสุด ถูกใช้เพื่อเก็บรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้าย ภาพฝันมองผลงานตัวเองที่อยู่ในมือ แล้วเผยยิ้มออกมา สายตาคู่นั้นมีประกายระยิบ บ่งบอกให้รู้ว่าเธอมีความสุขกับภาพนี้แค่ไหน

บางครั้งการเดินทางช้าลง กลับทำให้เรามีเวลามองข้างทางมากขึ้น ต้องขอบคุณช่วงเวลาที่อยู่บนรถไฟ ที่ทำให้เธอลืมอารมณ์ขุ่นๆ ก่อนหน้านั้นไปหมดสิ้น ลมแรงที่เข้ามาปะทะใบหน้า ช่างเย็นบริสุทธิ์ สองข้างทางเขียวขจีไปด้วยนาข้าว นี่แหละความสุขที่หาได้ไม่ยาก และใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ก็เป็นเหมือนพลังที่ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นได้มากมาย

‘ภาพของฝัน’ ทุกภาพ ก็ล้วนถ่ายทอดมาจากจินตนาการและจิตวิญญาณเสมอ


เมื่อรอจนภาพนั้นแห้งสนิท หญิงสาวจึงนำกระดาษบางอีกแผ่น ปิดทับภาพเอาไว้อีกชั้น การเดินทางกลับยังต้องเผชิญอะไรอีกมากมาย ทั้งลม ทั้งฝุ่น อาจจะทำให้ภาพเสียหายได้ ภาพฝันหยิบกระเป๋าสะพายคู่ใจ พร้อมหยิบกระบอกใส่แบบขึ้นมาคล้องไหล่เอาไว้ แต่ยังไม่ทันได้ได้คล้อง ก็เหมือนมีอะไรมากระแทกกระบอกนั้นเสียก่อน
โอ๊ย! เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น ภาพฝันหันมองหาต้นเสียง เด็กชายตัวผอมกะหร่องที่ลงไปกองอยู่กับพื้นกำลังพยายามลุกขึ้นมา อายุอานามน่าจะประมาณเก้าขวบ ผิวสีดำหยาบกร้าน ราวกับกรำแดดผ่านฝนมาอย่างโชกโชน ท่าทางลุกลี้ลุกลน แววตาหลุกหลิกพิกล สีหน้านั้นบ่งบอกถึงความหวาดระแวงชัดเจน

นอกจากกระบอกใส่แบบจะมีความแข็งแล้ว แรงเหวี่ยงนั้นรุนแรงอยู่ไม่น้อย ภาพฝันก้มลงไปหมายเอ่ยคำขอโทษ แต่กระเป๋าสตางค์ในมือของคนที่อยู่บนพื้นเป็นที่ผิดสังเกต ไม่บอกก็รู้ว่าราคาของมันสูงเอาการ เด็กชายพยายามลุก แต่ดูเหมือนข้อเท้าของเขาจะแพลงด้วย

และสิ่งที่ภาพฝันคาดไว้ก็เป็นจริง เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองคนวิ่งมาถึง แล้วกระชากกระเป๋าสตางค์ออกจากมือนั้นอย่างรวดเร็ว เด็กชายหันซ้ายหันขวาหาทางหนีทีไล่ แต่โชคร้ายเมื่อข้อเท้าที่แพลงของเขาไม่เป็นใจด้วยสักเท่าไร

“จับส่งตำรวจไปเลย จะได้ไม่ต้องมาขโมยใครอีก” ชายหนุ่มตาสีฟ้า เจ้าของกระเป๋าสตางค์เสียงดังขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ สำนวนแปร่งๆ

“เดี๋ยวค่ะ ใจเย็นก่อนนะคะ เกิดอะไรขึ้นคะ” ภาพฝันเข้าไปเจรจา ใช่ว่าเธอจะไม่เข้าใจเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่สายตาหวาดกลัวของเด็กชายมันทำให้เธอปล่อยเลยผ่านไปไม่ได้

ภาษาอังกฤษของเธอใช่ว่าจะดีเลิศ แต่หากคราวนี้มันจะช่วยให้ใครคนหนึ่งได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ต่อให้อายที่จะพูดแค่ไหน เธอก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้ได้ หรืออาจเป็นเพราะการเติบโตมาชนิดที่เรียกว่า ปากกัดตีนถีบ ทำให้ภาพฝันเห็นอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้นของเด็กชาย แววตาหวาดระแวงราวกับเพิ่งขโมยเป็นครั้งแรก เนื้อตัวหยาบกร้านเหมือนเผชิญความยากแค้นมาอย่างโชกโชน

“แต่เด็กคนนี้เป็นขโมย คุณจะปล่อยคนผิดไปอย่างนั้นเหรอ” ชายหนุ่มคนเดิมแย้ง

“ขอถามเขาก่อนนะคะ ถ้าเด็กคนนี้ตั้งใจทำความผิดจริง ฉันจะไม่ขัดขวางคุณอีกเลย” ภาพฝันต่อรองอีกครั้ง ก่อนหันไปถามเด็กชาย ที่เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามา โดยมีคู่กรณีระวังอยู่ไม่ห่าง “น้องคะ ถ้าน้องบอกพี่มาว่าทำไมน้องทำอย่างนี้ พี่จะช่วยพูดกับเขาให้ แต่ถ้าน้องไม่บอก พี่ก็ไม่ไว้เหมือนกัน รู้ไหมว่าน้องผิดที่ทำอย่างนี้  แล้วใครจะกล้ามาที่นี่อีกล่ะ”

เด็กชายส่งแววตาสำนึกผิด แล้วเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น เขาหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่สิบขวบ ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ ขอทานบ้าง รับจ้างบ้าง แล้วแต่จะมีอะไรให้เขาทำ อันที่จริงแล้วเด็กชายตัวน้อยอายุ ๑๓ ปีแล้ว สามปีที่ออกจากบ้าน ทำให้จิตใจเริ่มเข้มแข็งขึ้น แต่มันก็ทำให้จิตใจหยาบกร้านขึ้นเช่นกัน เพราะความหิวในวันนี้ก็ทำให้เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่เรียกว่า ขโมย แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อมันคือความอยู่รอด

“แล้วทำไมตอนนั้นเราถึงหนีออกจากบ้าน” ภาพฝันสอบถามอีกครั้ง

“ก็บ้านมันไม่น่าอยู่ ถ้าพี่เป็นผม พี่จะทนได้เหรอพ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวัน ผมไม่อยากฟังพวกเขาพูด ผมไม่อยากเห็นพ่อโวยวาย ผมไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ พวกเขาพูดกันว่าผมมันตัวซวย ถ้าผมออกจากบ้านอาจจะทำให้พ่อกับแม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้ ”

แม้ภายนอกดูหยาบกร้าน แต่ภายในกลับอ่อนแอ ภาพฝันมองภาพเด็กชายเล่าทั้งน้ำตา

เด็กหนอเด็ก สิ่งที่เปราะบางที่สุดคือจิตใจดวงน้อยๆ มาบัดนี้เขาคงรับรู้ได้บ้างแล้วว่าไม่มีที่ไหน สุขใจได้เท่ากับบ้านอีกแล้ว ภาพฝันยื่นมือไปลูบหัวเพื่อปลอบโยน เริ่มต้นใหม่เถอะนะ กลับบ้านเถอะ

หญิงสาวหันไปอธิบายนักท่องเที่ยวทั้งสองคน ตอนแรกพวกเขามีทีท่าลังเล หากแต่เมื่อมองไปยังเด็กชายผู้น่าสงสารคนนั้น ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจไม่เอาความ

ภาพฝันกล่าวขอบคุณ ก่อนจะปลดภาพออกจากกระดานรองเขียน แล้วยื่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งสอง “ขอบคุณนะคะ ที่คุณไม่จับเด็กคนนี้ส่งตำรวจ ภาพนี้อาจจะไม่สวยงามอะไร แต่ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ก็แล้วกันนะคะ”

ชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก้มลงมองภาพนั้น แล้วก็เผยยิ้มออกมา “ผมว่ามันสวยงามมากเลยนะครับ แต่ผมคงรับไว้ไม่ได้ คุณทำไปเพราะคุณอยากช่วยเขา แต่ต้องเสียภาพนี้ คุ้มกันไหมครับ”

ไม่ว่าจะคุ้มกันหรือไม่กับข้อแลกเปลี่ยน แต่ภาพฝันก็รู้สึกดีที่ได้ทำเช่นนั้น หญิงสาวคิดพลางทอดมองไปนอกหน้าต่าง แสงของวันเริ่มจางหาย แถบริ้วสีม่วงแดงทาบผ่านท้องฟ้า นกฝูงใหญ่เริ่มบินกลับรังเช่นเดียวกับรถไฟขบวนนี้ที่กำลังพาเธอกลับบ้าน

ไม่ว่าสิ่งที่เด็กชายคนนั้นพูด จะเป็นความจริงหรือไม่ แต่เธอก็ไม่เสียใจที่ได้ทำเช่นนั้น หากเป็นจริง เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาคงจะตัดสินใจกลับบ้านเหมือนเช่นนกฝูงนี้

ภาพฝันมองนามบัตรที่อยู่ในมือ ก่อนหยิบธนบัตรสีม่วงออกมาจากกระเป๋า ภาพของเธอในวันนี้ถูกแลกด้วยธนบัตรสีม่วงสองใบ ทีแรกเธอจะยกให้เด็กชายคนนั้นทั้งหมด เพื่อใช้ในการเดินทางกลับบ้าน แต่เจ้าของนามบัตรนั้นโบกมือห้ามไว้ แล้วบอกกับเธอว่า ถ้าเธอไม่รับ เขาก็จะไม่รับภาพนั้นเช่นกัน

หากสิ่งหนึ่งที่ได้มา กลับมีค่ามากกว่าธนบัตรที่อยู่ในมือหลายเท่านัก นั่นคือสิ่งที่เงินหาซื้อไม่ได้ แต่คำว่า ‘มิตรภาพ’ หาได้ทั่วไป เพียงแค่เราเต็มใจมอบให้คนอื่น มันก็จะคืนกลับมาทันที

จากคุณ : pormare
เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 08:31:46




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com