Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใต้เงาพระจันทร์ บทที่ 11 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 11

หลังจากความวุ่นวายของการเตรียมอ่างน้ำอุ่นในห้องพักผ่านพ้นไป เลดี้เอลิซาเบ็ทก็ยืนยันให้ซาดิสท์ออกไปรอนอกห้องเพื่อที่หล่อนและสาวใช้คนอื่นๆ จะได้ช่วยกันทำความสะอาดเนื้อตัวของป๊อปปี้ หล่อนอ้างถึงความเหมาะสมตามแบบฉบับของชนชั้นสูงชาวมนุษย์อย่างสุภาพ แต่ซาดิสท์เกือบหักคอหล่อนแล้วถ้าป๊อปปี้ไม่แย้งขึ้น


“ซี ยัวเกรซพูดถูกนะ มันไม่เหมาะสมจริงๆ”


“แต่คุณยังอ่อนแรง และผมไม่ไว้ใจหล่อน” ซีถลึงตาใส่เลดี้เอลิซาเบ็ทซึ่งมีสีหน้าตกตะลึงปนประทับใจกับคำพูดของป๊อปปี้


“โอ ในที่สุดคุณก็เรียกฉันว่ายัวเกรซ”


ป๊อปปี้ยิ้มอ่อนระโหยให้หล่อน “ในเมื่อหลังจากนี้ฉันต้องอยู่ภายใต้ความเมตตาของคุณ ฉันคิดว่าเป็นการเอาตัวรอดที่ดีถ้าจะแสดงความนับถือไว้ก่อน”


“ถ้าคุณนึกถึงเหตุการณ์ที่ฉันลงโทษยายเด็กสาวไร้มารยาทสองคนนั้น ขอบอกไว้ก่อนค่ะว่าฉันโมโหที่สอนพวกหล่อนแล้วว่าคำเรียกของตำแหน่งดัชเชสคือ ยัวเกรซ แต่พวกหล่อนก็ยังเรียกฉันว่า มายเลดี้ อยู่ได้”


“อย่างไรก็ตาม” ซาดิสท์ตัดบทอย่างหงุดหงิด “ผมจะรออยู่หน้าประตูนี้เท่านั้น ถ้าเกิดเสียงผิดปกติแม้แต่นิดเดียว ผมจะบุกเข้ามาทันที” เขาถลึงตาเป็นเชิงเตือนใส่เลดี้เอลิซาเบ็ทอีกครั้งก่อนเดินออกจากห้องและปิดประตูตามหลัง ดัชเชสบาโทรี่ถอนหายใจ


“ท่านซาดิสท์เป็นห่วงคุณมากทีเดียว” แล้วหล่อนก็ถอยหลัง ให้สาวใช้ช่วยกันอาบน้ำป๊อปปี้ “ฉันอยากรู้ว่าคุณทำอะไรจึงทำให้ผู้ที่โหดเหี้ยมไร้ปรานีอย่างนั้นมีหัวใจที่สามารถรักใครสักคนได้”


“ฉันก็อยากรู้ค่ะ” ป๊อปปี้บอกแล้วมองเอลิซาเบ็ทอย่างพิศวง “คุณเองก็ด้วยใช่ไหมคะ ยัวเกรซ”


“โอ คุณเข้าใจผิด ส่วนใหญ่ที่ฉันไม่ชอบคุณเพราะคุณไร้มารยาท” ดัชเชสแก้ “ฉันไม่ชื่นชมท่านซาดิสท์มากไปกว่าที่ผู้ภักดีคนหนึ่งสมควรกระทำ หัวใจรักของฉันอยู่ที่ผู้ชายคนเดียวมาสี่ร้อยปีแล้ว”


ลอร์ดฟาริงตัน... ป๊อปปี้ผงกศีรษะให้หล่อนอย่างเคารพนับถือ “ฉันได้ยินมาว่าคุณเคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก”


“แน่นอน ฉันเกิดที่ฮังการี เป็นเคานท์เตสผู้สูงศักดิ์ แต่หลังจากที่สามีฉันตาย ฉันถูกใส่ร้ายโดยญาติของตัวเองจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาอยู่อังกฤษ” แล้วเลดี้เอลิซาเบ็ทก็ถอนหายใจ “ฉันได้พบกับลอร์ดฟาริงตันซึ่งตอนนั้นยังเป็นไวส์เคานท์อยู่เลย เขาไม่รังเกียจที่ฉันอายุมากกว่า และสำหรับฉัน เขามีอะไรบางอย่างคล้ายอดีตสามีโดยเฉพาะอย่างยิ่งนามสกุล แปลกใช่ไหมล่ะคะ แน่ละ ฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่อดีตสามีของฉันกลับชาติมาเกิดอะไรทำนองนั้นหรอก แต่ฉันก็รักเขามาก”


“ความรักของคุณน่าชื่นชมมากค่ะ ยัวเกรซ”


“ใช่ แต่ความโหดร้ายที่เกิดจากความรักอันเลื่องลือนั่นก็เป็นความจริงเหมือนกัน” เลดี้เอลิซาเบ็ทยักไหล่ “ทำยังไงได้ ฉันทนไม่ได้กับการสูญเสียเขาไป และเขาเองก็เช่นกัน”


“ฉันได้ยินว่าคุณมีลูกสาวคนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นกับเธอคะ” ป๊อปปี้ถาม


“เอลิซ่าตายแล้วเมื่อสามปีก่อน ด้วยโรคชรา” เลดี้เอลิซาเบ็ทโคลงศีรษะ “เด็กคนนั้นไม่ยอมเปลี่ยน เธอไม่ขายวิญญาณให้ปิศาจ ท่านดยุคกับฉันต้องฝังลูกสาวที่แท้จริงเพียงคนเดียวของตัวเอง น่าเศร้าใช่ไหม”


ป๊อปปี้พยักหน้า นัยน์ตาของหล่อนแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ เป็นเวลาเดียวกับที่สาวใช้ถูสบู่ให้จนเสร็จ ป๊อปปี้ถูกฉุดให้ลุกขึ้นยืนเพื่อล้างฟอง แต่ขาของหล่อนยังอ่อนแรงมากจึงล้มลงศีรษะชนขอบอ่าง เสียงดังตึงตังและกรีดร้องทำให้ซาดิสท์พรวดพราดเข้ามาทันที เมื่อเห็นกลุ่มสาวใช้และเลดี้เอลิซาเบ็ทหน้าซีดยืนรุมล้อมป๊อปปี้อยู่ เขาก็ถามเสียงเข้ม “เกิดอะไรขึ้น”


“มายเลดี้ล้มกระแทกอ่างอาบน้ำค่ะ มายลอร์ด” สาวใช้คนหนึ่งรายงาน “เป็นความผิดของ...”


“ออกไปให้หมดทุกคน!” เสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวของเขาทำให้ทุกคนรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ ซาดิสท์รีบถลาไปจับป๊อปปี้ซึ่งหน้าซีดนั่งพิงขอบอ่างโดยไม่รอให้พวกสาวๆ ออกจากห้องจนหมด เขาสอดมือข้างหนึ่งโอบหลังหล่อนและอีกข้างยึดตรงหัวเข่า จากนั้นเขายกตัวหล่อนขึ้นจากอ่างอาบน้ำตรงไปที่เตียงนอน วางหล่อนลงและเรียกผ้าขนหนูจากในห้องน้ำมาซับน้ำออกจากตัวหล่อนอย่างเบามือ


แม้ป๊อปปี้ยังมึนงงและเจ็บศีรษะ แต่หล่อนรู้ว่าตัวเองเปลือยจึงประท้วงเสียงแหบแห้ง “ซี... เสื้อคลุม”


ซีเรียกเสื้อคลุมให้ลอยออกจากห้องน้ำ เขาคว้ามันไว้พร้อมกับปีนขึ้นเตียงอ้อมไปทางด้านหลังของหล่อน ยกตัวหล่อนให้นั่งและสวมเสื้อคลุมให้ ป๊อปปี้พยายามยกแขนเพื่อผูกเชือกผูกเอว แต่ไม่มีอวัยวะส่วนใดของหล่อนขยับได้เลย


“ผมจัดการเอง” ซีบอกพลางขยับเสื้อและกระเถิบมาด้านหน้าเพื่อผูกเชือก เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็จับหล่อนลงนอน ดึงผ้าห่มมาห่มให้
“ขอบคุณมากนะ” ริมฝีปากซีดเซียวแห้งผากของหล่อนยิ้มให้เขา ซีเสยผมไปด้านหลังด้วยมือทั้งสองข้างอย่างหงุดหงิด


“ให้ตายเถอะคุณผู้หญิง ผมอยากจะฆ่าคุณเหลือเกิน คุณเกือบทำให้ผมหัวใจวายตายแล้วนะ” หล่อนยิ้มอีก ทำให้เขาหน้าบึ้งใส่ “คุณเล่นอะไรของคุณ”


“อย่าเสียงดัง... สิ ที่นี่อาจมี... หน่วยสอดแนม...”


“ไม่มี ผมตรวจดูแล้ว แต่ถึงมีผมก็แค่ฆ่าพวกมันให้หมดคฤหาสน์เท่านั้น” ซีพูด “ทีนี้ก็บอกมา ทำไมคุณถึงใช้คำสาปกับตัวเองแบบนั้น”


ป๊อปปี้ยิ้มกว้างขึ้น “ตาไว... เหมือนกันนี่”


“แน่นอน ผมรู้ว่าคุณสับเปลี่ยนเลือด แต่ทำไมคุณต้องทำร้ายตัวเองด้วย แค่เล่นละครสักครู่ก็พอแล้ว”


“ถ้าไม่สมจริง... ก็... ไม่มีใครเชื่อ... สิ”  


“ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ร่ายคำสาปใส่คริสต์แทนล่ะ คุณรู้ไหมว่าผมเกือบฆ่านางเด็กนั่นเพราะเรื่องนี้แล้ว”


“ไม่... ฉันไม่มีวันทำให้... ลูกของฉันต้อง... เจ็บปวด” หล่อนนิ่วหน้าใส่เขา “อย่า ซี... ฉันขอตายแทน”


ซาดิสท์แหงนเงยศีรษะไปเบื้องหลัง หลับตาแล้วถอนหายใจเสียงดัง “นรก!” เขาสบถ “ผมสาบานว่าผมจะไม่ฆ่าหล่อน แต่คุณห้ามทำแบบนี้อีกเด็ดขาด”


“ไม่แล้ว... ละน่า ฉันก็เจ็บ... เหมือน... กัน... นะ” หล่อนกระแอมเมื่อรู้สึกว่าเสียงสั่นจนเกินควร “แปลกจัง เมื่อครู่ฉัน... ยังดีกว่านี้...”


“คุณคงกระแทกขอบอ่างแรงเกินไป รู้ไหมว่าตอนนี้หัวคุณปูด เขียวช้ำเลยด้วย”


“จริงรึ”


“แน่นอน แต่โดยรวมแล้วผมคิดว่าคุณฝืนตัวเองมากเกินไป ดังนั้นหลับซะ ผมจะไปหายามาทารอยฟกช้ำให้”


หญิงสาวยิ้มซีดเซียวพลางพยักหน้าน้อยๆ และหลับตา ไม่ช้าหล่อนก็หลับลึก ซาดิสท์มองใต้ตาซึ่งดำคล้ำจนเห็นได้ชัดของหล่อนแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ไม่แปลกหรอกที่ป๊อปปี้หมดแรงอย่างรวดเร็ว หล่อนยังไม่ได้นอนเลยสักงีบ แถมยังใช้คำสาปจนทำให้ร่างกายของตัวเองเจ็บปวดราวกับถูกฉีกเนื้อทั้งเป็นอีก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของคริสต์ ดีแลน ซึ่งทำร้ายหล่อนมากที่สุด


“คุณผู้หญิงที่น่าสงสารของผม” ซาดิสท์กระซิบพลางหยิบปอยผมกระจุกหนึ่งที่ระข้างแก้มหล่อนไปเหน็บไว้ข้างหู แล้วโน้มใบหน้าลงจุมพิตหน้าผากของหล่อนอย่างแผ่วเบา “ฝันดีครับ”






ยายนี่ น่าโมโหจริงๆ


เด็กหญิงซาร่า กรีน คิดอย่างหงุดหงิดขณะมองเด็กหญิงผู้มีเรือนผมสีทองแปลกประหลาดที่สุดที่หล่อนเคยเห็น ซึ่งแอบอยู่หลังกระโปรงสีดำของซิสเตอร์เดซี่ ดีแลน แม่มดที่หล่อนชื่นชมบูชาด้วยท่าทางหวาดกลัว สำหรับซาร่าแล้ว ใครก็ตามที่ได้ใกล้ชิดกับแม่มดเดซี่ ต้องมีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์สักอย่างหนึ่งและต้องมีความกล้าหาญอย่างมากเป็นองค์ประกอบหลัก


เห็นได้ชัดว่าเด็กบ้าคนนี้ไม่มีอะไรสักอย่างที่หล่อนคาดหวัง  


“นี่คือลูกบุญธรรมของฉันจ้ะ เธออายุครบแปดขวบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้ฉันเลยพามาแนะนำให้รู้จักกับทุกคน” เดซี่พูดด้วยรอยยิ้มและรุนหลังเด็กหญิงให้ก้าวออกมาข้างหน้า “คริสต์ แนะนำตัวเองกับเพื่อนๆ สิจ๊ะ”


แต่เด็กคนนั้นไม่ทำตาม เธอมองหน้าทุกคนที่ยืนเรียงแถวเป็นหน้ากระดาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นพวกเด็กๆ อายุไล่เลี่ยกันที่ผู้ปกครองในหมู่บ้านฝากฝังให้มาเรียนหนังสือกับซิสเตอร์เดซี่ และเมื่อสบสายตากับซาร่า กรีน คริสต์ก็กลับไปหลบหลังแม่บุญธรรมของเธออีกครั้ง


น่าโมโหเหลือเกิน ทำไมเด็กแบบนี้ถึงได้โชคดีเป็นลูกบุญธรรมของซิสเตอร์เดซี่ แม่มดผู้เก่งกาจกันนะ ซาร่าคิดพลางทำหน้าบึ้ง แต่แล้วหล่อนก็สะดุ้งเมื่อเห็นแม่มดสาวมองมา หล่อนหน้าแดงก่ำ รีบก้าวมาข้างหน้า “คือ... เอ่อ...” หล่อนกระแอมและยิ้มกว้าง “ฉันซาร่า กรีนจ้ะ ยินดีที่รู้จักนะ”


เดซี่ยิ้มอ่อนโยนให้เด็กหญิงซาร่าพร้อมกับรุนหลังคริสต์ ดีแลนให้ออกมาจากที่หลบภัยของเธออีกครั้ง “เห็นไหม เพื่อนทักทายแล้ว อย่าให้เพื่อนต้องรอสิจ๊ะ”


คริสต์ก้าวออกมาอย่างกึ่งกล้ากึ่งกลัว เธอสบตาซิสเตอร์เดซี่ มองซาร่าแล้วก้มหน้า สองมือน้อยๆ บิดชายกระโปรงของตนไปมา “ฉะ – ฉะ - ฉัน คริสต์ ยะ – ยินดีที่ได้ ระ – รู้จัก”

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 11:41:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com