ถึงแม้ว่าเมธิกาจะนำขวดยาที่ธนภัทรให้กลับมาด้วย แต่จนแล้วจนรอดเธอก็รู้สึกกระดายใจจนไม่กล้านำมาใช้เสียที เพราะอยากให้ความผูกพันพิเศษนี้เกิดขึ้นมาจากความรู้สึกที่แท้จริงของเขามากกว่า ไม่ใช่การถูกบังคับด้วยกลวิธีเช่นนี้ อย่างน้อยตัวเธอเองก็ยังพอมีเสน่ห์อยู่บ้าง ก็ขอลองใช้มารยาหญิงที่มีให้เต็มที่ก่อนก็แล้วกัน..และวันนี้เป็นวันหยุด เขาจะอยู่บ้านทั้งวัน จะออกไปข้างนอกก็หลังอาหารเย็นไปแล้ว เธอจึงมีเวลาทั้งวันที่จะงัดสารพัดวิธีมาพิชิตเขาให้จงได้!
หญิงสาวเลือกกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อพิมพ์ลายเนื้อบางเบาสีหวานมาสวมก่อนบรรจงแต่งหน้าเพียงบางเบาด้วยโทนสีสว่างสดใส เดินลงเข้าห้องอาหาร ซึ่งอชิรนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะอาหารรอการรวมตัวของสมาชิก และเมื่อเขาละสายตาจากหน้ากระดาษหันมา เธอก็เอ่ยทักพร้อมรอยยิ้มหวาน
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ครับ เขารับคำเพียงเท่านั้นก็ก้มหน้าให้ความสนใจกับข่าวต่อ เมธิกาทำปากขมุบขมุบต่อว่าที่เขาไม่สนใจกวาดสายตามองความสวยงามของเธอเลย ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างตัวเขาลงนั่งและนึกหัวข้อชวนสนทนา แต่ศราก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
หวัดดีเฮีย หวัดดีซ้อ พร้อมเลื่อนเก้าอี้นั่งประจำที่ เอ๋ วันนี้ดูซ้อจะสวยเป็นพิเศษแฮะ
เมธิกาอมยิ้ม แล้วก็หันมาทางอชิร ซึ่งเขาก็หันมากวาดสายตาสำรวจเธอเพียงครู่ก็ส่งเสียงตอบรับดังแค่ภายในลำคอ อืม แล้วก็หันกลับไปให้ความสนใจกับน้องชายแทน วันนี้มีเรื่องอะไรดีๆล่ะ หน้าถึงได้ระรื่นนัก
ศรายิ้มกว้าง เมื่อคืนเจ้าพวกนั้นมันห้าวชวนผมเล่นไพ่น่ะ ผมก็เลยกินเรียบมันทั้งวงสนองความอยากของพวกมันซะพุงกางเลย เนี่ย ถ้าไม่หมดตัว พวกมันก็คงยังไม่เลิกกันหรอก
อชิรแค่นหัวเราะ นึกไปถึงบรรดาลูกน้องในบ้านที่ว่างเป็นไม่ได้มักจะชวนศราเล่นไพ่ประจำ แล้วก็แพ้ราบคาบทุกที ฮึ! เจ้าพวกนี้มันไม่รู้จักเข็ดจริงๆ
สนุกๆน่าเฮีย ศราหัวเราะอารมณ์ดี จากนั้นสองพี่น้องก็ผูกขาดพูดคุยกัน ทิ้งให้เมธิกานั่งเท้าคางหน้ามุ่ยที่สามีไม่ใส่ใจ จนกระทั่งพยาบาลสาวเข็นรถเข็นพาอารดาเข้ามา เวลาอาหารจึงเริ่มขึ้น พร้อมบทสนทนาเล็กๆน้อยๆระหว่างมื้ออาหาร
และเมื่อทานอาหารเสร็จ อชิรคิดจะออกไปเล่นบอลกับบรรดาสุนัขที่สนามหญ้า ซึ่งเมธิกาก็ขอตามติด แต่ระหว่างที่กำลังเดินไปหญิงสาววางแผนการว่าจะแกล้งเดินสะดุดขาตัวเองให้ล้มลงในอ้อมกอดของอชิรพอดีจะได้มีโอกาสส่งสายตาซึ้งชวนฝันใส่เขาเป็นการเรียกน้ำย่อย เมื่อคิดได้ดังนั้น สายตามุ่งมั่นเหลือบมองคนข้างกายพลางกะระยะก่อนจะเริ่มแผนการในทันใด
ว้าย!
เสียงอุทานดังออกไปเพื่อเขาจะได้มีเวลาหันมาก่อนที่เธอจะแสร้งขัดขาตัวเอง ทว่า..ในจังหวะนั้น อชิรหันไปตะโกนบอกศราที่อยู่กลางสนามกับบรรดาลูกน้องให้หยิบลูกบอลออกมาด้วย กว่าจะหันกลับมาตามเสียงอุทานที่ได้ยิน เมธิกาก็ร่วงตุ๊บไปอยู่กับพื้นแล้ว
เอ้า เดินสะดุดอะไรเรอะคุณ ชายหนุ่มช่วยฉุดมือหญิงสาวขึ้นมาพลางมองไปที่พื้นหาต้นตอที่ทำให้เธอล้ม ซึ่งก็ไม่เห็นมีอะไร นอกจากผืนหญ้าตัดเรียบเสมอกันเท่านั้น
เมธิกาปัดเข่าตัวเองแล้วก็ยิ้มแหย คือ..จู่ๆขามันก็อ่อนน่ะค่ะ
เหรอ คุณเป็นแบบนี้บ่อยหรือเปล่า จะไปหาหมอตรวจดูไหม
เมื่อเห็นเขาพูดจริงจัง หญิงสาวก็รีบบอกปัด อุ๊ย ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ..เมื่อกี้คงจะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ เลยไม่แน่ใจว่าสะดุดขาตัวเองด้วยรึเปล่า
อย่างนั้นหรอกเหรอ
ค่ะ
เมื่อเธอยืนยันเช่นนั้น อชิรจึงหันเดินต่อไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ต่างก็จูงสุนัขของแต่ละคนมาเตรียมพร้อมกับกิจกรรมกลางแจ้งครั้งนี้ ซึ่งไม่เคยได้เล่นกันนานหลายเดือนเลยทีเดียว และที่กลางสนาม เมธิกาเห็นการแบ่งเส้นเป็นสองฝ่ายชัดเจน มีประตูตาข่ายอันเล็กตั้งๆอยู่ทั้งสองฝั่ง ขนาดไม่ต่างอะไรจากสนามฟุตซอล
ที่บอกว่าเล่นบอลเนี่ย เล่นลูกบอลจริงๆเลยหรือคะ เพราะเธอคิดว่าเขาจะเล่นขว้างลูกบอลแล้วให้บรรดาสุนัขคาบมาให้ เหมือนอย่างที่เธอเคยเล่นกับสุนัขของบิดา
ครับ คุณจะลองเล่นด้วยกันหน่อยไหม สนุกนะ
อืม..แดดเริ่มร้อนแล้ว ฉันขอดูคุณเล่นดีกว่าค่ะ ขืนลงไปวิ่งแย่งบอลกันกลางสนามแบบนั้น ภาพพจน์คุณหนูแสนหวานที่เธออุตส่าห์วางไว้อ่อยเขาก็เสียหมดสิ สู้ทำท่าทางน่ารักๆเชียร์เขาอยู่ข้างสนามดีกว่า
และเมื่อลูกบอลถูกนำมาวางเส้นกลางสนาม ลูกน้องสองคนของอชิระเป็นกรรมการกำกับเส้น และอีกคนเป็นกรรมการคอยเป่านกหวีด ซึ่งผู้เล่นประกอบด้วย คนถือสายจูงสุนัขตัวเขื่องข้างละสาม มีเกินมาหนึ่งตัวจึงถูกพาออกมานั่งข้างสนามเป็นตัวสำรอง และอชิรกับศราก็อยู่คนละฝ่ายถือสายจูงสุนัขพันธุ์ร็อตไวเล่อร์เหมือนกัน กติกาไม่มีอะไรมากแค่ทำทุกวิถีทางให้สุนัขพาบอลเข้าประตูของอีกฝ่ายให้ได้ กฎมีเพียงข้อเดียวคือ ห้ามมนุษย์ถูกบอล
และทันทีที่สัญญาณนกหวีดดังขึ้น เจ้าสุนัขพวกนี้มันก็ช่างรู้งานเกินตัว ต่างฝ่ายต่างกระโจนใช้จมูกดุนลูกบอลบ้าง พยามงับบ้าง ส่วนบรรดาชายหนุ่มก็พุ่งใส่กันใช้สารพัดท่วงท่าสกัดกั้นไม่ให้อีกฝ่ายเข้าถึงบอล ในขณะที่ต้องคอยกำกับทิศทางให้สุนัขไปพลาง ต้องคอยแก้สายจูงที่พันกันอีรุงตุงนังไปพลาง และที่สำคัญต้องคอยควบคุมอารมณ์ของสุนัขไม่ให้มันหงุดหงิดยามแย่งชิงลูกบอล จึงเป็นภาพการเล่นบอลที่เมธิกาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในชาตินี้ ซึ่งเธอเรียกว่าเป็นความชุลมุลวุ่นวายระหว่างคนกับสุนัขเสียมากกว่าการเล่นฟุตบอล
ตัวเมธิกาในทีแรกที่ไม่คิดจะเล่น แต่พอมาเห็นแบบนี้ก็นึกอยากกระโจนไปร่วมด้วยใจแทบขาด และยิ่งเจ้าอเมริกันพิทบูลที่นั่งกระสับกระส่ายคอยส่งเสียงเห่าพรรคพวกในสนามก็ยิ่งกระตุ้นต่อมอยากจนทนไม่ไหว ต้องยกมือขอเปลี่ยนตัวผู้เล่นเสียเอง
กรรมการจึงเป่านกหวีดสั่งพักชั่วขณะ ก่อนหันมาถามหญิงสาวอีกครั้ง คุณเมย์จะเล่นด้วยหรือครับ
ใช่แล้วก็เลยไปตะโกนบอกอชิรที่หันมามองจากกลางสนาม ฉันจะเล่นด้วย ออกมาคนนึงเร็วๆ ข้างไหนก็ได้..เร้ว พร้อมกระโดดโบกไม้โบกมือหย็อยๆ
ศราหันไปพูดกลั้วหัวเราะกับพี่ชายที่ยืนอมยิ้มกับท่าทางของผู้มีฐานะเป็นถึงภรรยาเจ้าพ่อแถวหน้า เด็กอยากเล่นด้วยใจแทบขาดแล้วเฮีย
นั่นสิ เอาไงดีล่ะ
ผมขออาซ้อมาอยู่ด้วยก็แล้วกัน..งานนี้ท่าจะสนุก แล้วก็หันไปพยักพเยิดใบหน้ากับลูกน้องคนหนึ่งให้พาสุนัขก้าวออกไปจากสนาม
ชายหนุ่มที่ยืนข้างเมธิกาหันมายื่นสายจูงให้ พันกับมือไว้ให้แน่นๆนะครับ
รับรองเลย หญิงสาวรับมาพันรอบมือและกำปลายไว้แน่น พอผู้เล่นในสนามเดินออกมาเปลี่ยน เธอก็กระตุ้นสุนัขในมือ ลุยกันเลยเจ้าไฟโด้
เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น เกมจึงเริ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้ลูกน้องข้างอชิรจำต้องงัดกลยุทธ์ใหม่มาใช้ เพราะผู้ที่เข้ามาใหม่นั้นเป็นผู้หญิงของนาย การจะเข้าถึงเนื้อถึงตัวจึงต้องคอยระวังอย่างหนัก สองหนุ่มจึงพร้อมใจกันหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับหญิงสาว แต่ในทางปฏิบัติแล้วเขาทั้งคู่ไม่สามารถทำได้ดีนัก เพราะนอกจากต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงกรี๊ดแหลมทุกครั้งที่เข้ามาแย่งบอล ก็ยังต้องผจญกับมือไม้ของเธอที่คอยยื้อยุดฉุดกระชากเสื้อผ้าจนแทบหงายหลัง ในขณะที่นายใหญ่นั้น ถูกกอดรั้งทั้งตัวและหญิงสาวคงกระโดดขึ้นขี่หลังไปแล้วถ้าสามารถทำได้..จนในที่สุด ร่างสูงก็เสียหลักล้มลงตามแรงเหนี่ยวของคนร่างเล็กกว่าจนได้ เมธิกาหัวเราะคิก ก่อนปล่อยแขนที่โอบรอบไหล่กว้างและรีบผุดลุกขึ้น แต่ก็ยังช้ากว่าฝ่ามือใหญ่ที่ฟาดเผียะมาอย่างมันเขี้ยวบนเนินสะโพกให้แสบๆคันๆ
คุณนี่ ขี้โกงจริงๆ
หญิงสาวแลบลิ้นให้ก่อนยิ้มร่าวิ่งไปตีมือกับศราที่ฝ่ายตนสามารถทำแต้มได้สำเร็จ
และเมธิกาคงจะสนุกกว่านี้ ถ้าไม่ถูกเจ้าสุนัขคู่ใจที่ตั้งหน้าตั้งตาไล่กวดลูกบอลจนเธอวิ่งตามไม่ทันถึงกับเสียหลักล้มลงกับพื้น แต่เจ้าสุนัขจอมพลังก็ยังไม่ยอมหยุดควบ และหญิงสาวไม่สามารถสะบัดสายจูงออกจากมือได้มันจึงลากร่างของเธอติดไปด้วยอย่างทุลักทุเล
กรี๊ด! หยุดนะไอ้ไฟโด้
เดือดร้อนศรากับบรรดาลูกน้องต้องรีบตะครุบร่างหนาล่ำของเจ้าสุนัขบ้าพลังไว้แน่น อชิรเข้าไปช่วยพยุงหญิงสาวลุกขึ้นจากพื้นหญ้า และช่วยแกะเชือกที่พันแน่นให้หลุดออกจากฝ่ามือบางซึ่งแดงเป็นริ้วๆ
ฉันไม่เล่นแล้ว
เมธิกาสะบัดเสียงใส่ใบหน้าเกลื่อนด้วยรอยยิ้มขำของเขา ก่อนหันเดินตะบึงตะบอนเข้าบ้านบ่นงึมงำไปตลอดทาง..และเมื่อขึ้นมาอยู่ภายในห้องนอน เธอก็มาเท้าสะเอวมองสารรูปที่ดูไม่จืดของตนเองหน้ากระจกเงา
หมด หมดกัน อุตส่าห์วางมาดซะสวยเลิศ
แล้วก็ขยี้หัวที่ยุ่งเหยิงแถมยังมีเศษหญ้าติดมาด้วยอย่างหงุดหงิด ก่อนถอดเสื้อผ้าชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งหลาย จึงรู้สึกแสบๆคันๆตามริ้วรอยถลอก กล้ามเนื้อก็เริ่มสำแดงอาการปวดตึง โดยเฉพาะแขนข้างที่ถูกเจ้าไฟโด้ลาก
ฮึ่ม! ไอ้หมาบ้า มันน่าจับมาเสียบไม้ย่างจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นาน อชิรตามขึ้นมาบนห้องเพื่ออาบน้ำบ้าง จึงเห็นเมธิกานอนหนุนเจ้าบ็อบบี้หลับไปแล้ว ชายหนุ่มยอบตัวลงนั่งบนขอบเตียงแผ่วเบา ริมฝีปากบางหยัดโค้งยิ้มละไม ดวงตาเรียวคมทอดมองใบหน้าเนียนใสส่องประกายอ่อนโยน..ความจริง จากสายตาสุกใสยามที่สบเขานั้นมันเผยชัดถึงความรู้สึกภายในที่แปรเปลี่ยนจากความเกลียดชังเป็นความห่วงหาอาวรณ์มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และหลายวันที่ผ่านมา เธอก็ยิ่งแสดงอาการร้อนรนจนต้องเดินหน้ารุกเขาหนักทีเดียว ซึ่งในบางครั้ง ตัวเขาเองก็นึกอยากจะตอบสนองความรู้สึกของเธอให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป หากแต่จิตใต้สำนึกยังคอยเตือนถึงความรู้สึกที่ยังไม่แน่ชัดนัก ว่าพร้อมจะยอมให้มีใครก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตหรือยัง และเมื่อยังไม่แน่ใจ เขาถึงได้เมินเฉยต่อความรู้สึกของเธอและพยายามข่มกลั้นที่จะไม่ตอบสนองต่อการยั่วยวนอันแสนไร้เดียงสานั้น ทว่า ความอดทนอดกลั้นของเขามันก็ใกล้หมดลงเต็มที
ปลายนิ้วยื่นไปไล้เพียงแผ่วเบากับเรียวนิ้วบาง..แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาคงต้องเร่งหาคำตอบให้ได้ ก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
.................................
เมธิกาสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งจากเสียงเรียกของคนรับใช้ที่ขึ้นมาตาม ตามคำสั่งของอชิรเมื่อใกล้เวลาอาหารเย็น..หญิงสาวลูบเส้นผมที่ยุ่งเหยิงด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเอง ที่ดันเผลอหลับจนปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเสียเปล่าอีกจนได้ แล้วก็ทอดถอนหายใจ ยัยเมย์เอ้ย..ในชีวิตนี้แกจะทำอะไรสำเร็จกับเขาบ้างมั้ยเนี่ย ก่อนจะลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาและบรรจงแต่งหน้าอีกครั้ง
และอาหารมื้อนี้ไม่มีศรานั่งรวมอยู่ด้วย เพราะชายหนุ่มง่วงจัดเกินกว่าจะลุกขึ้นมาทานอาหารเย็น ซึ่งอชิรก็ไม่ว่าอะไร เพราะรู้ว่าเมื่อคืนน้องชายมัวแต่เล่นไพ่จนไม่ได้นอน แถมวันนี้ยังร่วมเล่นบอลกันอีกพักใหญ่ กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนวันแล้ว
และหลังมื้ออาหาร หญิงสาวก็เดินตามอชิรเข้าไปในห้องทำงานด้วยแสร้งอยากหาหนังสืออ่าน ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรให้เธอเลือกอ่านตามสบาย ส่วนเขาก็นั่งเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานของเขาไป
เมธิกานิ่วหน้ากับหนังสือของเขาซึ่งแต่ละเล่มค่อนข้างหนาแล้วยังห่างไกลจากรสนิยมของเธอลิบลับ และเมื่อหาที่ถูกใจไม่ได้จึงเลือกสุ่มๆเอาจากแถวบนสุดที่เอื้อมไม่ถึง ก่อนจะหันไปอ้อนเขา
คุณเล่ยคะ ช่วยหยิบเล่มนี้ให้เมย์หน่อยสิ
อชิรแทบสำลักลมหายใจกับสรรพนามที่ได้ยิน..แต่ก็ยอมลุกขึ้นเดินไปทำตามที่เธอร้องขอ เล่มนั้นค่ะ เธอขยับเข้าชิดร่างสูงที่กำลังเอื้อมหยิบให้ นั่นล่ะค่ะ
คุณอ่านปรัชญาการเมืองด้วยเรอะ
ขณะที่เขาส่งให้เธอก็ช้อนสายตาซึ้งพร้อมรอยยิ้มหวาน ก็อยากจะลองอ่านดูว่ามันเป็นยังไงน่ะค่ะ แล้วก็เดินมานั่งเปิดอ่านบนโซฟา..แต่ละหน้าที่พลิกอ่าน เรียวคิ้วก็ขยับย่นเข้าหากันกับเนื้อหาที่ชวนปวดหัว
โอ้ย..มึน
และลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นหนังสืออีกครั้งและหันมาทางเจ้าของห้อง คุณเล่ยคะ เมย์ขอเปลี่ยนเป็นเล่มนั้นหน่อยค่ะ
และอชิรก็ลุกขึ้นมาหยิบให้อีกครั้ง..แต่เขากลับไปทำงานได้ไม่เท่าไหร่ หญิงสาวก็ลุกขึ้นมาเรียกเขาอีกแล้ว คุณเล่ยคะ..เมย์อยากอ่านเล่มนั้น
ชายหนุ่มรับหนังสือเล่มเดิมที่หญิงสาวส่งให้พร้อมรอยยิ้มหวาน จนคนมองไม่อยากจะขัดใจเอาเสียเลย เพียงแต่เวลานี้เขาต้องการสมาธิในการทำงานที่ค้างให้เสร็จสิ้นก่อนจะออกไปข้างนอก จึงไม่อยากมาเสียเวลาเล่นกับเธอแล้ว
ห้องนี้ไม่มีนิยายหรือนิตยสารรายปักษ์ให้อ่านหรอกนะ เด็กน้อย แล้วก็ใช้หนังสือในมือเคาะเบาๆบนศีรษะเธอ ก่อนจะเก็บหนังสือเข้าที่และเดินกลับไปนั่งทำงานต่อ
เมธิกาลูบหัวตัวเองป้อยๆใบหน้างอง้ำกับสรรพนามที่ได้ยินแล้วก็หันเดินออกจากห้องทำงานตรงดิ่งขึ้นห้องนอน คว้ากระเป๋าสะพายมาเปิดควานหาเจ้ายาขวดเล็กหยิบขึ้นมามองอย่างมาดมั่น หมดสิ้นความลังเล เพราะในขณะนี้ความต้องการอยากเอาชนะเขามันมีท่วมท้นใจเกินกว่าสามัญสำนึกใดๆจะมายับยั้งได้
คอยดูเถอะ! ฉันจะทำให้เห็นว่าฉันไม่ใช่เด็กน้อยอย่างที่คุณสบประมาทหรอก
อชิรละใบหน้าจากแฟ้มเอกสารที่เขาเพิ่งจะหยิบมาเปิดดูควบคู่กับแผนงานในคอมพิวเตอร์ เมื่อเมธิกากลับมาอีกครั้งพร้อมกาแฟหอมกรุ่นนำมาวางบนโต๊ะทำงาน พักดื่มกาแฟหน่อยสิคะ จะได้หายเครียด
ผมนึกว่าคุณจะขึ้นไปบีบคอเจ้าบ็อบบี้แล้วเสียอีกนะ ไม่นึกว่ายังมีแก่ใจมาชงกาแฟให้ผมอีก เขาว่ายิ้มๆ คลางแคลงใจในพฤติกรรมของอีกฝ่าย ซึ่งเมธิกาก็ทำหน้าง้ำกับคำพูดจี้ใจ
แหม ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะจะได้ทำตัวไร้สาระแบบนั้นน่ะ ฉันแค่เป็นห่วงคุณน่ะค่ะ เห็นว่าทำงานที่บ้านแล้ว เดี๋ยวก็ต้องออกไปข้างนอกอีกกลัวจะเพลียแย่ ก็เลยชงกาแฟมาให้จะได้เรียกความกระชุ่มกระชวยให้คุณไงล่ะคะพลางเลื่อนถ้วยกาแฟเข้าใกล้เขาอีกหน่อย รีบดื่มสิคะ เดี๋ยวก็เย็นชืดกันพอดี รับรองไม่มีสลอดหรอกค่ะ
แล้วก็ยิ้มหวานทำตาใสซื่อ ให้อีกฝ่ายลอบถอนใจอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เมื่อรู้สึกว่ารอยยิ้มหวานๆของเจ้าตัวชักเริ่มมีอิทธิพลต่อจิตใจเขาขึ้นทุกขณะ และยื่นมือมาหยิบถ้วยกาแฟยกขึ้นจรดริมฝีปาก..เมธิกาแทบกลั้นใจรอ จนกระทั่งเห็นเขาจิบมันเข้าไปแล้วหัวใจก็เต้นรัวจนจับจังหวะไม่ถูก แต่เมื่อเขาวางถ้วยกาแฟคืนจานรอง เธอก็ถามออกไปอย่างหวาดระแวง เกรงว่าเขาจะล่วงรู้ว่าถึงสิ่งที่ซ่อนเร้น
ทำไมไม่ดื่มต่อล่ะคะ
มันร้อนน่ะ รอให้เย็นอีกหน่อยดีกว่า
คนฟังค่อยยิ้มออก ก่อนจะลุกขึ้น งั้นฉันไม่กวนเวลาทำงานของคุณแล้วค่ะ
จากนั้นก็พาตัวเองออกจากห้องทำงานของเขา แต่ก่อนจะขึ้นห้องนอนเธอก็คว้าขวดไวน์ติดมือขึ้นไปด้วยหวังดื่มเป็นการย้อมใจ และเพื่อย้ำถึงความมั่นใจว่าค่ำคืนนี้เธอจะสามารถเผด็จศึกสามีได้ จึงเลือกชุดนอนซีทรูสีดำมาสวมก่อนมานั่งรอเขาบนเตียงด้วยหัวใจเต้นระทึก พลางกระดกขวดไวน์ขึ้นจิบไปเรื่อยเพื่อเรียกความกล้าหาญให้กับตัวเองขณะรอเวลา ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลากี่นาที เพราะวันนั้นมัวแต่ตกใจจึงไม่ได้ถามรายละเอียดส่วนนี้กับเพื่อน แต่ก็คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานเกินรอหรอกน่า..
อชิรยังคงง่วนกับงาน และด้วยที่ว่าวันนี้เขาดื่มกาแฟไปหลายถ้วยแล้ว เจ้ากาแฟถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะนี้จึงถูกลืมไปชั่วขณะ จนกระทั่งศราเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางคล้ายคนเมาที่ยังไม่สร่าง ยังไม่หายง่วงอีกรึไง
นิดหน่อยเฮีย ตอบพร้อมทิ้งร่างนอนยาวเหยียดบนโซฟา รอคอยเวลาออกไปทำงานกับพี่ชาย
อชิรจึงหันมาสนใจงานต่อ แต่สายตาเหลือบเห็นถ้วยกาแฟเสียก่อน กาแฟไหมล่ะ..อั๊วเพิ่งจิบไปได้หน่อยเดียวเอง
ศราขยับตัวลุกขึ้นเดินมา ก็ดีเหมือนกันครับ และคว้ากาแฟถ้วยนั้นกลับไปนั่งที่โซฟาก่อนดื่มกาแฟดำหอมกรุ่นที่เริ่มอุ่นแล้วจนหมดถ้วย และนั่งรอไม่นาน พี่ชายก็ปิดคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทสีดำที่พาดแขวนบนพนักพิงมาสวมทับเสื้อเชิ้ตสีเดียวกันก่อนออกไปที่ไนต์คลับตามปกติ
ต่อค่ะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ส.ค. 54 13:07:10
|
|
|
|