นักรบจันทรา ตอนที่ 2 ดวงตาสีพระจันทร์
|
 |
การ์นั่งดูบรู๊คเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความที่ไม่มีอะไรทำ เรแมนโยนเสื้อคลุมมาให้เปลี่ยนกับตัวที่ขาดวิ่นและชุ่มเลือด หน้าอกของผู้รอดชีวิตมีอักขระคล้ายรอบสักเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ นี่เป็นคำสาปจากศัตรูชั่วชีวิตของข้า ต้องอาบไฟของนกเพลิงสีฟ้าเป็นเวลาสามวันจึงหลุดพ้นจากคำสาป ผู้กล้าแสงตะวันพูดลอยๆ
แล้วคำสาปนั่นเป็นอย่างไรหรือ การ์ถามเสียงใสแต่อีกฝ่ายคำรามในลำคอแทนคำตอบ ไม่ยอมเปิดปากพูดเรื่องที่เขาอยากรู้
แล้วที่ที่ท่านจะไปล่ะ จุดหมายตอนนี้คือที่ใดหรือ การ์ทำให้คู่สนทนาหยุดมุ่ยหน้า พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปทางตะวันออกเหนือ มีคนที่อยากเจอเจ้าอยู่
การ์ค้นสัมภาระเอาแผนที่มากางดู ทางตะวันออกเหนือที่ใกล้ที่สุดคือโทรส หนึ่งในสองเมืองใหญ่ที่ครองอำนาจส่วนตะวันออกและเหนือของทวีปใหญ่ เขากับพ่อบุญธรรมไม่เคยเข้าไปสักทีเพราะมีการป้องกันเข้มงวด มีครั้งหนึ่งที่การ์เห็นกองอัศวินมังกรกำลังบินผ่านป่าโปร่งอย่างหาญกล้าดุดัน ทั้งกองทัพมีมังกรเป็นพาหนะและอาวุธ มีเพียงไพน์ที่มีกองอัศวินวิหคเพลิงเท่านั้นที่เทียบเคียงได้
ใครกันที่อยากเจอข้า การ์พับแผนที่เก็บ แล้วท่านรู้เรื่องทั้งหมดได้อย่างไร รู้ว่าข้าจะไล่ตามนกโรคจิตนั่นมา รู้ว่าพ่อกับแม่ข้าอยู่ที่ใด
ไม่รู้ว่าเป็นไปได้อย่างไร แต่ข้าสามารถเปิดมิติเวลาดูอดีตและอนาคตได้บางส่วน บรู๊คทำให้เขานึกถึงผู้หยั่งรู้ที่อยู่ในเมืองแก้วผลึกทางใต้ จึงไปหาเจ้าที่ตัวหมู่บ้านแทนที่จะไปหาที่ชายป่าข้างหมู่บ้านไรละ คนเจ็บไอแก้เก้อ เรแมนคำรามเบาๆทำให้มั่นใจได้ว่าสองคนนี้กำลังปิดบังอะไรสักอย่างอยู่
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลา เมื่อใดฟันเฟืองแห่งกาลเวลาหมุนถึงจุดของมันเจ้าจะเข้าใจสิ่งต่างๆเอง เชื่อข้า ทุกสิ่งมีเหตุและผลเป็นของตัวเอง นับรวมเหตุผลที่เจ้ามานั่งอยู่ตรงนี้กับข้าด้วย ผู้กล้าปากหนักเขี่ยเศษผ้าเปื้อนเลือดแล้วโยนไปมุมกระท่อม ในยามราตรีที่มืดมิดจนไม่เห็นสิ่งใดก็ยังมีตัวแทนเทพแห่งทิวากาลช่วยปัดเป่าความมืดอยู่ไม่ใช่หรือ ที่เรียกกันว่าดวงจันทร์ การ์รู้สึกว่ายิ่งถามความจริงมากขึ้นเท่าไรยิ่งถูกปั่นหัวหนักข้อขึ้นเท่านั้น คงต้องรอให้ถึงเวลาอย่างที่พูด เหมือนกับที่พ่อบุญธรรมของเขาเคยพูดเอาไว้ว่า ต้องมีสักวันที่ลูกผู้ชายจะแสดงประโยชน์และความสามารถที่แท้จริงออกมา หากไม่รีรอบ้างวันนั้นอาจไม่มีวันมาถึง
ตอนบ่ายและเย็นสำหรับพวกเขาเสียไปกับการแนะนำตัวอีกครั้งและถกกันเรื่องกติการะหว่างการเดินทาง อยู่ในเมืองสามารถแตกกลุ่มได้แต่อยู่ในป่าห้ามแตกกลุ่มเด็ดขาด การ์เรียกร้องไม่อยากทำร้ายคนด้วยกันแต่โดนสวนกลับมาว่าพวกเขากำลังจะไปสู้กับปีศาจ ไม่ใช่มนุษย์
อย่างนี้จะไหวหรือไบรอัน เรแมนพูดกับบรู๊ค การ์รู้สึกเหมือนโดนดูถูก หากเขาไม่กลัวนิสัยนางคงอยากต่อล้อต่อเถียงด้วยให้รู้ดำรู้แดง
ที่ข้ามาอยู่ตรงนี้เพราะต้องทำที่ไม่ไหวให้ไหว บรู๊คถอนหายใจเฮือก เขาคิดว่าสักวันจะต้องจับเอาสิ่งที่หมอนี่อมพะนำไว้ออกมาจากปากแบบรวดเดียวหมด จะได้ไม่ปิดบังอะไรอีก...
การ์สะดุ้งตื่นเมื่อฟ้าสางเพราะเขาฝันเห็นพ่อบุญธรรมถูกดาบหั่นเป็นชิ้นๆจนเหลือแค่เศษเนื้อบนกองเลือด เขาต้องรีบปาดน้ำตาไม่ให้บรู๊คที่นั่งอยู่ข้างกองไฟเห็นว่าเขาร้องไห้ เจ้าคนปากหนักก็ไม่พูดอะไรแต่ยกมือแตะแก้วดีบุกที่มีควันลอยอยู่เหนือปากแก้วเหมือนกับรู้ว่าเขาตื่นขึ้นตอนนี้
กินสักหน่อยสิ ชาอุ่นๆสักถ้วยจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น บรู๊คพูดเสียงเอื่อย เขายังนั่งจ้องกองไฟนิ่ง อย่าปล่อยให้ความสูญเสียกัดกินจิตใจ หากมัวแต่ร่ำไห้พละกำลังจะค่อยๆถดถอยจนไม่อาจจับดาบได้อีก
เจ้าจะรู้อะไรเล่า การ์กระโดดลงไปนั่งบนพื้นกับว่าที่เพื่อนร่วมทาง ชาที่ชงให้ร้อนไปหน่อยแต่กลิ่นของมันทำให้รู้สึกดีขึ้นจริงๆ ไม่ได้มีแต่เจ้าหรอกที่ต้องพบกับการพลัดพรากและการสูญเสีย
คำพูดดังกล่าวเกือบทำให้การ์พ่นน้ำชาออกทางจมูก เขาหลงคิดว่าชายผู้นี้คงมีความเป็นผู้กล้าแบบฝังหัวจนห่วงความเศร้าหมองของคนอื่นมากกว่าความเศร้าหมองของตัวเอง บรู๊คถอนหายใจแล้วลุกไปปลุกเรแมนเพื่อกินอาหารเช้าก่อนออกเดินทาง การ์เห็นว่าได้ออกเดินทางเร่ร่อนอีกสักครั้งก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยอาจหลอกตัวเองได้ว่าพ่อบุญธรรมยังรอเขาอยู่ที่หมู่บ้านร้างแห่งนั้น รอวันที่เขาจะกลายเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวแล้วกลับไปหาอย่างภาคภูมิ คิดแล้วก็แอบยืนร้องไห้อีกครั้งให้กับพ่อบุญธรรมผู้ล่วงลับ
ถ้ามีอันตรายก็ป้องกันตัวเอง ถ้าปกป้องตัวเองไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางไปด้วยกัน ผู้กล้าแสงตะวันพูดเมื่อเขาเดินกลับไปเอาสัมภาระสะพายหลัง
ฝากหนังสือนี่ไปด้วยนะ สัมภาระของข้ามันหนักกว่าที่คิดเยอะเลย เรแมนเดินมาเปิดกระเป๋าการ์แล้วยัดหนังสือหนาเตอะสามเล่มเข้าไปไม่ฟังเสียง นางจ้องด้วยแววตามั่นคงบอกเจตนาแน่วแน่ว่าต้องการใช้งานเขาเยี่ยงลาบรรทุกของ สุดท้ายการ์ก็ไม่กล้าขัดยอมให้ยัดหนังสือเข้าไปในกระเป๋าสะพายหลังแต่โดยดี
การ์เดินตามทั้งสองคนไปอย่างไม่รีบร้อน ความรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าอกกลับมาอีกครั้ง ขาของเขาร้องยินดีที่ได้ออกเดินทางเร่ร่อนตามนิสัยเดิมของเจ้าของอีกครา การ์ไม่ลืมหักกิ่งไม้เตี้ยๆไว้ด้วยขณะเดินขึ้นไปอยู่ข้างบรู๊คปล่อยให้หญิงช่างออกคำสั่งเดินรั้งท้ายแทน เผื่อจะมีเสือออกมาช่วยเขาด้วยการเอานางไปกินเป็นของว่าง
คนที่อยากพบข้าเป็นคนอย่างไรหรือ ข้าจำได้ว่าไม่เคยไปโทรสเลยสักครั้ง การ์ร้องด้วยความรู้สึกแช่มชื่นแบบแปลกๆ
เจ้าไม่เคยพบนางแล้วนางก็ไม่เคยพบเจ้า จะให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับนางก็เหมือนต้นไม้กับนก พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน นางจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้า แล้วนางก็จะเดินทางไปกับเราด้วย
เราหรือ การ์ประท้วง ที่พูดมาเขาเป็นคนเสียผลประโยชน์ฝ่ายเดียว แล้วข้าจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้กัน
พูดมากน่ารำคาญ พูดให้น้อยลงแล้วเดินให้เร็วขึ้นอีกสิ บรู๊คทำเสียงขึ้นจมูกแล้วเดินเร็วขึ้นอีก ช้าหน่อยสิไบรอัน หญิงสาวร้องอุทธรณ์มาจากด้านหลัง การ์ส่งกระแสจิตกดดันได้บรู๊คเดินเร็วขึ้นอีกเท่าตัว...
การเดินทางของทั้งสามราบรื่นผิดสังเกตในความคิดของการ์ แม้รอบด้านจะเต็มไปด้วยเสียงร้องของสรรพสัตว์แต่ไม่มีสัตว์ป่าตัวใดเข้ามาขวางทางพวกเขาเลยสักตัว มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คนเดินนำหยุดดูเสือสองตัวสู้กัน ตอนแรกก็ดูสนุกอยู่แต่พอลมหวนเปลี่ยนทิศเสือทั้งสองตัวกลับพากันวิ่งเตลิดไปราวกับได้กลิ่นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอำนาจกว่า
ไปกันต่อเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันแม่นั่น ข้าไม่ค่อยถูกโรคกับพวกอัศวินมังกรคนอื่นสักเท่าไรนักหรอก บรู๊คยังคงความปากหนักเช่นเคยหลังจากการพักทานน้ำและอาหารกลางวันกันเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องห่วง พอพบนางแล้วก็จะได้ไปพักในเมืองกันละ
เมื่อเดินต่อไปได้สักพักก็พบกับกองทัพอัศวินมังกรกองย่อมๆ เหล่ามังกรทำหน้าที่เฝ้ายามมองพวกเขาด้วยความระแวง การ์คิดว่าทหารพวกนี้คงกำลังพักจากการลาดตระเวน มีทหารในชุดรัดกุมเดินเข้ามาขอเอกสารระบุตัวตนว่าเป็นคนเดินทางแต่ถูกขัดด้วยหญิงสาวผมดำนัยน์ตาสีอำพัน
ไม่ต้องห่วงสหายข้าเอง ไปลาดตระเวนต่อได้ ส่งรายงานด้วย รายงานของใครสั้นกว่าที่กำหนดจะถูกโบยก้น หญิงสาวรุ่นเดียวกับบรู๊คพูดกลั้วหัวเราะสั่งงานชายร่างใหญ่ด้วยความร่าเริง เอาละไบรอัน บรู๊ค ไหนล่ะคนที่ท่านอยากให้ข้าพบนักหนา ถ้าไม่ถูกใจระวังจะได้ไปนอนในตะรางแทนนะ
แทนคำตอบผู้กล้าตาสีมรกตก็ดึงตัวการ์ให้ออกมายืนด้านหน้า เขาประหม่าเมื่อหญิงสาวมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับเป็นของเล่นสนุก ดวงตาของเขาสีต่างออกไปจากคนอื่นๆทำให้ไม่รู้สึกสนุกเวลาถูกจ้องมอง แถมหญิงสาวยังจ้องมองดวงตาเป็นพิเศษราวกับกำลังเค้นหาความจริงบางสิ่ง นางอาจอยากเลี้ยงเขาเอาไว้เป็นของเล่น
ข้าอยากเห็นหน้าคริสตอนนี้จริง นางคงคลั่งจนต้องฉีกทึ้งผมตัวเองเมื่อรู้ว่ามีใครอยู่กับเรา หญิงผมดำพูดเสียงใสแล้วเดินกลับไปเร่งเหล่าอัศวินมังกรคนอื่นๆให้แยกย้ายกันลาดตระเวนต่อ อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนในป่าแล้ว บรู๊คพูดกับเรแมน การ์ถอนใจกับตัวเองว่าสักวันจะต้องอัดหน้าเจ้าหมอนี่ให้ได้
นั่งก่อนสิ คุยกันตรงนี้ละ
หญิงสาวนั่งแหมะลงบนพื้นดินชื้น เอนหลังพิงมังกรเกล็ดเขียวใสตัวหนึ่งราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง การ์ไม่ใคร่อยากไปอยู่ใกล้กับมังกรสามเขาตัวนี้เพราะลังเลว่ามังกรของเหล่าอัศวินมังกรจะเชื่องเหมือนมังกรเลี้ยงหรือไม่ ความจริงเคยมีกรณีมังกรฆ่าคนเลี้ยงอยู่ประปรายในหมู่ผู้เลี้ยงมังกรเพื่อการค้า
ขอแนะนำตัวก่อน นี่คือการ์ จัสติน คนที่ข้าบอกว่าช่วยเจ้าได้ บรู๊คทำให้การ์ย่นจมูก อย่างเขาหรือจะช่วยใครได้ ส่วนนี่สหายข้า หัวหน้ากองอัศวินหน่วยที่หก สังกัดกองทัพอัศวินมังกร ซาราห์ โฟรกุส
การแนะนำตัวของการ์ดูขัดๆเมื่อหญิงสาวยิ้มอย่างร่าเริงพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตไปทางเพื่อนชาย หวังว่าคงเป็นตัวจริงสายเลือดแท้ ข้าเคยจับหัวขโมยคนหนึ่งที่ใช้เวทมนตร์เปลี่ยนสีตาตัวเองให้เหมือนกับเชื้อพระวงศ์ของโทรส คนนี้คงไม่พบจุดจบแบบนั้นหรอกนะ อุจาดตาน่าดู
ถ้าอย่างนั้นการเจรจาของเราคงต้องยุติ เราเดินทางต่อได้โดยไม่มีเจ้า ส่วนเจ้าก็รอโอกาสจนแก่ตายก็แล้วกัน บรู๊คพูดตัดบททำให้หญิงสาวลังเล การ์ก็เริ่มลังเลเช่นกันว่าคนพวกนี้เห็นเขาเป็นสินค้าเท่านั้นหรือ ไม่ถามความสมัครใจจากเขาสักคำ
อย่าพูดแบบนั้นสิไบรอัน ข้าแค่ไม่อยากเหนื่อยเปล่าเท่านั้น หญิงสาวลูบหัวมังกรเขียวสามเขาเบาๆ ท่าน...ไม่สิ จัสติน ท่านให้สัตย์สัญญากับข้าได้หรือไม่ ว่าจะยอมให้ข้าทำในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ เมื่อมีการร้องขอจากข้า
การ์ไม่เข้าใจว่าบรู๊คกับหญิงสาวคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แต่สิ่งที่นางต้องการคืออะไร เหตุใดต้องยอมให้เมื่อมีการร้องขอจากนางเขาไม่ได้มียศใหญ่โตขนาดบงการชีวิตคนได้สักหน่อย ถ้าจะทำสัญญาทำไมไม่สัญญากับบรู๊คเสียเลย หมอนี่เป็นผู้กล้าแสงตะวันได้รับการยอมรับจากเมืองต่างๆ เขาอยากถามว่านางต้องการอะไรแต่ถูกเร่งแล้วเร่งให้ตอบตกลง
ตกลงท่านอัศวินมังกร ข้าขอสัญญาด้วยเกียรติที่ข้ามี อย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว สู้ลงเดิมพันให้หมดตัวไปเลยอย่างมากก็แค่ตายเท่านั้น ขอเทพรีอาทรงเป็นพยาน การ์พูดทิ้งท้ายให้ดูน่าเชื่อถือ หญิงสาวยืนขึ้นแล้วโน้มตัวน้อยๆด้วยความเคารพแล้วยื่นมือมาจับมือเพื่อทำการผูกสัญญา
เยี่ยมมาก ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะทำตามที่ท่านขอร้องไบรอัน จะเดินทางไปด้วยไม่ว่าจุดหมายของข้าจะบรรลุผลหรือไม่ หญิงสาวพูดเสียงใสเหมือนกับร้องเพลง แต่ขอเวลาเตรียมตัวสักสองสามวันนะ เจ้าบ้าแองกัสคงคลั่งแน่ถ้าไม่มีคู่ประดาบดีๆอย่างข้า
อัศวินมังกรสาวตบมือเบาๆ มังกรเขียวสาวเขาร่างใหญ่ค่อยๆพยุงตัวยืนขึ้นด้วยขาทรงพลังทั้งสี่ มันโน้มโคนปีกใหญ่มาเป็นที่ปีนขึ้นไปบนหลัง การ์ก้าวขึ้นไปนั่งบนหลังมังกรเขียวอย่างกล้าๆกลัวๆ ถึงเกล็ดมังกรจะดูมันวับแต่มันสากพอที่จะพยุงตัวพวกเขาไว้ไม่ให้หล่นสู่พื้นดิน
มังกรและวิหคเพลิงที่สองเมืองเรียกออกมาจะมีพลังวิเศษไม่ให้นายหรือคนที่ขี่หลังมันร่วงลงมาระหว่างการบินโดยไม่ตั้งใจ บรู๊คบอกการ์ที่กอดคอมังกรเขียวแน่นเพราะกลัวตก
ตอนนี้มีมาตรการพิเศษ นักเดินทางคนล่าสุดที่เข้าโทรสได้ถูกกักตัวไว้ตรวจเสียครึ่งเดือนกว่าจะยอมให้เข้าเมือง โชคดีที่พวกท่านมากับข้า
การ์คิดถึงการตรวจนักเดินทางแบบเข้มข้นพิเศษไม่ออก เมื่อเห็นสีหน้าของโฟรกุสก็คิดว่าโชคดีที่ไม่ต้องรู้ว่าเขาตรวจกันอย่างไร มังกรเขียวพาพวกเขาบินฝ่าลมเย็นยะเยือกของปลายฤดูใบไม้ร่วงผ่านป่าทึบและหุบเหวใหญ่น้อยราวกับถนนที่ไม่มีวันสิ้นสุด เขามัวแต่มองชะง่อนผาสูงชันที่เหมือนศีรษะของมังกรจนไม่ทันสังเกตว่าบินพ้นกำแพงเมืองมาแล้ว เขาเอี้ยวคอมองเหล่านักเดินทางที่ต้องต่อแถวยาวยืดเพื่อขอผ่านเข้ากำแพงเมือง เป็นครั้งแรกที่ได้เคยเห็นเมืองใหญ่จากทางอากาศ มันไม่เหมือนกับแผนที่ที่เคยเห็นในกระดาษหรือหนังสัตว์ บ้านเรือนและร้านค้าแยกกันอย่างเป็นระเบียบ เขามองเห็นแปลงผักและไร่ข้าวโพดข้างแม่น้ำสายหนึ่ง โฟรกุสและมังกรของนางเกือบทำการ์หัวใจวายเสียหลายหนเพราะต้องหลบมังกรและวิหคเพลิงที่แหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า ทั้งสามถูกส่งลงหน้าบ้านริมแม่น้ำ การ์มองเห็นปราสาทของเมืองจากจุดนี้ได้อย่างเด่นชัดผิดกับบ้านคนที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร
ในที่สุดก็ถึงสักที ผู้กล้าแสงตะวันหน้าซีดมากกว่าปกติ แถมยังทำท่าว่าอยากอาเจียนเสียอีก รู้อยู่ว่าข้าเมามังกรยังอุตส่าห์บินช้ายืดเวลาทรมานอีก
นี่กุญแจบ้าน โฟรกุสโยนกุญแจพวงหนึ่งให้บรู๊ค ข้าต้องไปรายงานก่อน เลือกห้องตามใจชอบได้เลย ส่วนห้องครัวรื้อหาของกินก็ตามสบาย
โฟรกุสแสดงความใจกว้างแล้วออกคำสั่งให้มังกรเขียวบินไปทางปราสาท การ์ละสายตาจากคอกม้าข้างบ้านเพื่อมองดูตัวบ้านให้ชัดๆ มันใหญ่พอจะให้พวกเขาสามคนสร้างครอบครัวที่นี่ได้เลย
เห็นแบบนี้ความจริงนางเป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ถ้าปู่ของนางไม่ได้มีชื่อสกุลว่าโฟรกุสครอบครัวนางคงถูกเนรเทศไปนานแล้ว บรู๊คไขประตูหน้าบ้านให้พวกเขาเข้าไปข้างในพร้อมกับบอกว่านางอัศวินมังกรอยู่แค่คนเดียวในบ้านหลังนี้
จริงสิ สามทหารเสือแห่งแผ่นดินใหญ่ เรแมนวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ในห้องรับรอง โฟรกุสอยู่กับโทรส ไอยเรสอยู่กับไพน์ ส่วนอีกหนึ่งตระกูลที่อยู่กับโอ๊คแลนด์ก็เกือบหายสาบสูญ ใช่ไหมไบรอัน
ข้าก็ไม่ได้อยากมีชื่อสกุลนี้เท่าไรนักหรอก บรู๊คทำเสียงขึ้นจมูก โยนกระเป๋าลงบนเก้าอี้แล้วชวนการ์ไปหาห้องดีๆในชั้นล่าง ในสามตระกูลมีแต่บรู๊คที่แย่ที่สุด เพราะไม่มีสังกัดแน่ชัดจึงไม่มีคนคุ้มหัว ไปที่ใดก็โดนตาแก่บ้าบอตามล่าหัวแถมยังถูกสาปเสียอีก ถ้านับตามชื่อสกุลข้าคือตระกูลบรู๊คคนสุดท้ายแล้ว ถ้าข้าฆ่าคนๆนั้นไม่ได้สามทหาร:-)็จะเปลี่ยนชื่อเป็นสองทหารเสือละ
การ์ยิ่งสงสัยหนักข้อขึ้นไปอีกว่าไบรอัน บรู๊ค คนนี้จะเป็นอะไรอีก ตอนแรกประกาศตนว่าเป็นผู้กล้า ต่อมาก็เป็นคนในตระกูลที่ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยอดเยี่ยมที่สุดบนทวีปใหญ่ หรือเพราะสามทหารเสือยุคนี้สองตระกูลเป็นผู้หญิง ตระกูลบรู๊คที่มีผู้ชายจึงต้องออกหน้าเป็นผู้กล้าเสียเอง
เพราะตอนนี้ตระกูลบรู๊คเป็นแค่ตระกูลเดียวที่มีทายาทเป็นผู้ชายใช่หรือไม่ ท่านจึงมาเป็นผู้กล้า การ์ลองถามเล่นๆด้วยความอยากรู้
ไม่ใช่ รองผู้บัญชาการกองทัพภาคพื้นดินของไพน์ มาร์คัส ไอยเรส เป็นผู้ชายเหมือนกัน เคยพบครั้งหนึ่ง เป็นคนที่ดื่มเก่งจนไม่อยากเชื่อเลยว่าอายุพอๆกับพวกเรา บรู๊คยกห้องติดสวนดอกไม้ให้เรแมนเพราะนางส่งสายตาเขียวปัดมาทางเขา ที่ข้ามาเป็นผู้กล้า เพราะถ้าร่วมเดินทางไปกับเจ้าสักวันหนึ่งข้าจะสามารถล้างแค้นให้พ่อของข้าได้
การ์มุ่ยหน้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายตอบไม่ตรงคำถาม เขาคิดว่าบรู๊คอาจเดินทางผิดเพราะการล้างแค้นไม่ใช่สิ่งดี อย่ามองแบบนั้นสิ ข้ากับเจ้านั่นอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ถ้าข้าไม่ฆ่าเขาเขาก็ฆ่าข้า บรู๊คขี้เกียจเดินหาห้องจึงเปิดใช้ห้องติดกันสามห้องให้เป็นที่พักนอน ใครหรือ การ์รับกุญแจห้องที่บรู๊คแกะออกจากพวงมาให้
ไบรอัน บรู๊คตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นไม่มีท่าทีกวนประสาทแม้แต่น้อย เขาจะท้วงถามอีกครั้งแต่อีกฝ่ายปิดประตูใส่หน้าดังปังอย่างไม่ปรานี เป็นครั้งแรกที่การ์ได้กลิ่นประหลาดจากตัวของอีกฝ่าย กลิ่นสัมผัสละม้ายคล้ายกลิ่นใบไม้ยามแรกผลิ บางทีกลิ่นนี้อาจไล่สัตว์ป่าทั้งหลายให้หนีห่างพวกเขา
จากคุณ |
:
Lazy return
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ส.ค. 54 10:24:58
|
|
|
|